วันครอบครัวของเรากับ พ่อมาก พระโขนง...


"อยากจะร้องไห้...อยากให้เวลาเดินช้า ช้า ขอเวลา...สักหน่อย อยากมองหน้ากัน อยากหยุดเวลานี้ไว้... นานเท่านาน..ก่อนจะต้องไป"

   วันหยุดปีใหม่ไทย มหาสงกรานต์ 4 วัน ช่างผ่านไปเร็วนัก ผู้เขียนรู้สึกเหมือนเพิ่งจะฟื้นจากอาการข้างเคียงของยา ตลอดคืนวันศุกร์และเส่าร์อีกทั้งวัน มันปวดหัวจนมึนหัวไปหมด เบลอ และนอนหลับยากมาก

   วันที่ 14 เมษาฯผูเขียนฟื้นเป็นวันแรก ลูกสาว(น้องโอปอ) มาทวงสัญญาที่จะไปดูหนัง "พ่อมาก พระโขนง" น้องปอชวนคุณแม่ด้วย แต่คุณแม่บอกว่า

   "ไปดูกันทั้งสองเถอะ แม่ไม่ชอบดูหนัง"

   "งั้นพ่อไปดูกับหนูสองคน นะ นะ นะ"น้องปอเริ่มอ้อน

   ไปถึงห้างเมกะฯข้างบ้าน หลังแม่บ้านจะไปจ่ายค่าบ้าน จับจ่ายข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

    แต่ธนาคารปิดเลยชวนกันมากินข้าว ระหว่างนั้นน้องปอ ชวนไปเช็ครอบเวลาหนังก่อน

   "เดี๋ยวก่อนก็ได้ลูก จุดประสงค์หลักที่มาวันนี้ไม่ได้ดูหนังนะ มาทำธุระซื้อของใช้ หนังเป็นเรื่องรอง" ผู้เขียนพูดโดยไม่ทันยั้งคิดว่า นั่นทำให้อารมณ์น้องปอเปลี่ยนไปในทันที

   "กินข้าวก่อนลูก เดี่ยวค่อยไปดูกัน" ผู้เขียนพยายามปลอบ เหมือนคนสำนึกผิด

   "พูดแบบนี้ คงมีอารมณ์ดูหรอกพ่อ" น้องปอหน้างอ ปากกับจมูกใกล้จะติดกัน

   "ก็ไปดูสิ สองคน... ก็แม่บอกแล้วไงว่าไม่ชอบดูหนัง"

   "แม่มึงก็พูดอย่างนี้ วันครอบครัวทั้งทีก็ดูเป็นเพื่อนลูกบ้างสิ" ผู้เขียนต่อว่านิดๆ

   "โฮ้ย..ฉันไม่เห่อตามกระแสหรอกพ่อมาก..แม่นาค"

   "ไม่ใช่กระแส แต่นานๆทีก็ดูเป็นเพื่อนลูกบ้าง"

   "พอ พอ พอ ไม่ดงไม่ดู แล้วพ่อ เดี๋ยววันหลัง หนูมาดูคนเดียวเองก็ได้"

..............................

   เช้าวันนี้ผู้เขียนตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย คงเพราะผลของยาคลายเครียดยังคงออกฤทธิ์อยู่ หลังอาหารเช้าซึ่งก็สายมากแล้วล่ะ สักพักก็เผลอหลับไป

    หลังเที่ยงน้องปอและคุณแม่ปลุกให้ตื่น จะไปดูหนังกัน ทุกคนพร้อมแล้ว แม้จะรู้สึกเพลียๆแต่นึกถึงหน้าลูกสาวที่งอเมื่อวันก่อนก็จำต้องลุกขึ้นอาบน้ำโดยเร็ว

   อืม..นี่ก็นานเกือบสามปีแล้วสิที่เราสามคนพ่อแม่ลูกไม่ได้ดูหนังด้วยกัน

    หน้าตาน้องปอดูยิ้มแย้ม เย้าแหย่กับเจ้าทอฟฟี่อย่างสนุกสนาน

   "อยู่เฝ้าบ้านนะค้า เจ้าตัวเล็ก ต้องทำหน้าที่เป็นหมาเฝ้าบ้านบ้างแล้วนะ ไม่ใช่ทำตัวหน้ารักเพียงอย่างเดียว"

   ระหว่างจะออกจากบ้าน

   "อ้าวแม่ เอาหนังสือไปด้วยทำไม"น้องปอหมายถึงหนังสือนวนิยายเช่าเล่มหนาที่คุณแม่ชอบอ่าน

   "เออ..ก็แม่จะเอาไปคืนวันนี้ เดี๋ยวโดนปรับ" คุณแม่พูด น้องปอกับผู้เขียนอึ้ง

   "ก็ดูกันสองคนแล่ะ แม่บอกแล้วไงว่าไม่ชอบดูหนัง"คุณแม่ย้ำ

   ระหว่างเดินทางทุกอย่างจึงเงียบ น้องปอเปิดวิทยุฟัง ช่วยคลายความอึดอัดนั้นได้บ้าง ไม่กี่อึดใจก็ถึงห้างฯ 

   "จะให้ส่งตรงไหน" ผูเขียนถามคุณแม่

   "ตรงป้ายรถเมล์หน้าห้าง"

...................................

   ระหว่างหาที่จอดรถที่กว่าจะได้นั้นทำให้อารมณ์ผูเขียนเกิดขึ้นหลายๆอารมณ์ นึกคิดถึงแต่คำพูดอันเฉยชาของแม่บ้าน 

   แว้บหนึ่งผู้เขียนอยากจะบอกให้น้องปอดูคนเดียว

   เพราะคงจะเหมือนอารมณ์ที่เกิดกับลูกขึ้นเมื่อวันก่อน มันคงจะหาความสนุกได้อย่างไรที่จะดูหนังรอบนี้

   "แล้วน้องปอล่ะจะคิดอย่างไร ถ้าจะพูดบอกไปโง่ๆแบบนั้น"ผู้เขียนคิดตอบโต้ตัวเอง

   ยิ่งเห็นกลุ่มคนมากมายเดินตามห้าง พ่อแม่ลูกจูงกัน โน้นคุณตาแก่ๆถูกเข็นมาเที่ยวพักผ่อน นั่นคุณยายถูกหลานแย่งกันจุงแขนอย่างสนุกสนาน

   "หนูไม่เข้าใจแม่จริงๆ อยู่ๆก็ไม่ดูเสียเฉย" น้องปอบ่นหลังเงียบกันอยู่นาน

   "แต่แม่ก็ไม่เคยตอบตกลงว่าจะมาดูกับเรานะลูก" ผู้เขียนเสริม

   "แต่ดูจากการเตรียมตัว ใครๆก็เข้าใจว่าจะมาดูด้วยกัน ไม่ดู...ก็ไม่บอกกันตรงๆ" น้องปอบ่นต่อร  ะหว่างเข้าแถวซื้อตั๋ว

    ผู้เขียนเงียบและความคิดเดิมๆ ที่จะไม่ดูหนังรอบบี้ก็แว้บเข้ามาอีกครั้ง

    "จะบอกน้องปอยังไงนี้นะ ...จะบอกว่าพ่อไม่มีอารมณ์แล้ว...อืม..หรือจะบอกว่าพ่อจะนั่งรออยู่ข้างนอกแค่สองชั่วโมงเอง..ประหยัดเงิน..ไม่ต้องบิ้วอารมณ์...และ....และ...." ผูเขียนคิดๆๆ จนหัวหมุนเคว้งคว้าง

........................

    อีกคนเดียวก็จะถึงคิวแล้ว 

   "เชิญครับ" พนักงานขายตั๋วเรียก

   ผู้เขียนยื่นมือไปแตะที่ไหล่น้องปอ พร้อมพูดออกไปว่า

   "เออ...ปอ พ่อ เออ ..."ผู้เขียนสะกิดลูกและพูดว่า

   "ถึงคิวเราแล้ว ไปเลือกที่นั่งกันเถอะ"

   "เอาเถอะ ไหนๆก็มาแล้วสร้างอารมณ์ไม่ได้ก็ช่างมัน ไปนั่งเป็นเพื่อนลูกก็ดีแล้ว" ผู้เขียนคิด ในวินาทีสุดท้ายนั้น 

....................................

 

   หนัง พ่อมาก- พระโขนง ในวันนี้ดูสนุกคละเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะและอารมณ์ความรักของพ่อมากและแม่นาค พร้อมทั้ง 4 เกลอจอมทะเล้น จนผู้เขียนลืมอารมณ์ที่คั่งค้างก่อนดูหนัง

   มันก็คงเหมือนชีวิตคนเรานี่ล่ะนะที่คลุกเคล้าไปด้วยฝุ่นผงแห่งอารมณ์ ความรัก ที่หาคำมาอธิบายได้ยากยิ่ง

   มันเป็นของมันแบบนั้น โดยไม่ต้องไปสร้างหรือบังคับมัน

   เพียงดูมันเปลี่ยนแปรไปตามสิ่งรอบข้างและเวลาที่เดินผ่านไป...และผ่านไป

   ดังบทเพลงที่ว่า

   "อยากจะร้องไห้...อยากให้เวลาเดินช้า ช้า ขอเวลา...สักหน่อย

   อยากมองหน้ากัน อยากหยุดเวลานี้ไว้...

    นานเท่านาน..ก่อนจะต้องไป"

.....................

   ราตรีสวัสด์ ฝันดีทุกท่านครับ

            พ.แจ่มจำรัส

          16 เมษายน 2556

หมายเลขบันทึก: 533126เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2013 22:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน 2013 17:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

     ลูกชวนไปดู  เหมือนกันค่ะ  แต่ก็ไม่ไป  นึกสงสารลูกเหมือนกัน  คงต้องหาเวลาไปดูหน่อยแล้วค่ะ

..... ความสุขในวันสงกรานต์ ความสุขเล็กๆ ของครอบ ที่ประเมินต่ค่าไม่ได และที่บางครอบครัวไม่มีนะคะ ขอบคุณเรื่องเล่าดีดีนี้นะคะ

ดีจังไปดูหนังกับครอบครัว 

อ่านแล้วอบอุ่นดีครับ

ขอบคุณครับครู ครูทิพย์

แววตาของเด็กๆ เขารู้สึกดีใจ และภมูิใจที่พ่อแม่ไปด้วยครับ...

ขอบคุณครับพี่เปิ้น Dr. Ple

ใช่ครับเป็นความสุขเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน สำหรับเด็กๆ....

ขอบคุณครับท่านอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง

เป้นความอบอุ่นที่ยังขาดอีกคน(แม่น้องปอ)...แต่ก็ยังอุ่น ครับ

แถว ๆ บ้านคุณมะเดื่อไม่มีโรงหนังนานนับสิบปีแล้ว    จึงไม่ได้ดูหนังโรงมานับสิบปีแล้วเหมือนกัน ลืมบรรยากาศหนังโรงไปแล้ว........  จะมีก็แต่หนังกลางแปลงงานวัดจ้ะ  

ขอบคุณครับคุณมะเดื่อ

หนังกลางแปลงก็ได้บรรยากาศอีกแบบ ครับ...

ขอให้ความสุขนะครับ...

ครอบครัวแสนอบอุ่นและหนังแสนสนุก ยินดีด้วยนะคะ

อยากไปดูหนังเหมือนตะก่อนนะคะ  หาเวลาและรายการหนังฉายก็ไม่มี เพราะไปยากจริงๆ  อิอิ

ไปดูมาแล้สปรากฏว่า ....หักมุมดีครับ ....ทุกเรื่องในหนังจบด้วย คนกับผีคนละโลก  แต่ที่นี่เป็นการผีกับคนอยู่ร่วมกันในหนังเรื่องนี้.... ขอบคุณมากครับพี่...ที่เอามาเล่าและแบ่งปันผมเองก็ดูตอนคนซานวันที่ 12 เมษายน 56 นี้แหละครับ 

ขอบคุณครับ tuknarak

นานๆทีปีหน ก็สร้างความอบอุ่นนอกบ้านบ้างครับ...

ขอบคุณครับครูkrutoom

มีโอกาสก็อยากให้ดูบ้างครับ ผม 2 ปีกว่าได้ พอเข้าไปดูก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ ระบบแสง สี เสียง ที่เร้า อารมณ์ ให้อิน กับหนังได้..

เพื่อความอบอุ่น..ต้องหาเวลาเหมาะๆครับ

ขอบคุณครับลูกหมูเต้นระบำ

ต้องยกนิ้วให้คนทำหนังครับ มุมมองที่แตกต่าง ความกล้าหาญที่จะฉีก...

นั่นคือความสำเร็จของหนังเรื่องนี้..

เข้าใจความรู้สึกของลูกค่ะ...ในวัยอย่างนี้มีความสุขที่ได้ดูหนังกับพ่อ-แม่...โตเป็นสาวจะเปลี่ยนไปอยากดูหนังกับเพื่อนๆ...

ขอบคุณครับพี่ใหญ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

อืม...ใช่เลยล่ะ อีกหน่อยพ่อแม่คงต้องไปอ้อนลูกแทนแล้ว...

การเข้าอยู่หอพัก  ต้องทำการจองครับ ตอนใกล้เปิดเทอม มหาวิทยาลัยจะแจ้งให้ทราบ

ปกติจะกันให้น้องปี 1 อยู่หอในครับ...

ขอบคุณครับอาจารย์..สำหรับข้อมูลนี้

วันมอบตัวน้องปอ คงได้เจออาจารย์ขจิต ตัวเป็นๆ ซะที...อิอิอิ

มามอบตัววันไหนครับ พี่หนุ่มร้อยเกาะมาวันที่ 19 

วันที่ 4 มิถุนายน 2556 ครับอาจารย์

ได้ครับ...วันนี้เจอพี่หนุ่มร้อยเกาะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท