เลิกผลิตบุหรี่..กล้าไหม ?


 

  Large_tobacco8-horz 

 

 

    บุหรี่เป็นสิ่งเสพติดที่มีอันตรายต่อชีวิตของผู้สูบและผู้อยู่รอบข้าง..เป็นการตายผ่อนส่งที่ประจักษ์ชัดและน่าห่วงใย จนต้องมีการรณรงค์การเลิกสูบบุหรี่ทั้งในระดับชุมชน สังคม และโลกมาอย่างต่อเนื่อง

 

                  

    การสูบบุหรี่จึงเป็นสิ่งเสพติดที่มีต้นทุนสูง ทั้งในเชิงปัจเจก และองค์รวมทางสังคม ซึ่งนำความสูญเสียสภาพแวดล้อม..สิ้นเปลืองทรัพยากร ทำลายสุขภาพของผู้สูบเกินกว่าการเยียวยาได้..

 

Large_tobacco10 


     อันความทุกข์ทั้งหลายในโลก ล้วนเกิดแต่เหตุ บุหรี่หนีไม่พ้นความจริงนี้ ตราบใดที่ยังมีการทำไร่ยาสูบ >>> มีโรงงานยาสูบ >> มีผู้่ผลิตบุหรี่ >>> มีร้านค้าบุหรี่ >>> มีผู้ติดบุหรี่...หากวงจรนี้ไม่ได้รับการขจัดที่ต้นเหตุ ย่อมป่วยการที่จะมาตั้งความหวังลมๆแล้งๆในการแก้ผลเลวร้ายของการสูบบุหรี่..เข้าทำนองคำโบราณท่านเปรียบไว้.." ขี่ม้ารอบค่าย".. "ลูบหน้า ปะจมูก"... "ปากว่า ตาขยิบ"..." เกาไม่ถูกที่คัน "..." ไม่ตัดไฟแต่ต้นลม "...ฯลฯ


 

   โจทย์ง่ายๆอย่างนี้ แก้ได้ไม่ยาก หากกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ..แห่งโลก..อย่างจริงใจและจริงจัง...เหมือนอย่างที่ทำไปมากแล้วในเรื่องของฝิ่นและยาเสพติดอื่นๆ.. 

 

    เมื่อพิจารณาข้อมูลจาก website ของศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ มีสาระบางประการที่สะท้อนแผนดำเนินการควบคุมยาสูบ ระดับโลกและประเทศ สรุปดังนี้ :

 

http://2009.trc.or.th/th/library/Con/con10.php  

    

    ในปี พ.ศ. 2554 องค์การอนามัยโลกได้ให้คำขวัญ “The WHO Framework Convention on Tobacco Control - FCTC” แก่ประเทศสมาชิกและประชาคมโลก  เพื่อให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามกรอบ อนุสัญญาควบคุมการบริโภคยาสูบ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 (พ.ศ.2548) ที่นานาชาติได้ให้การต้อนรับกับกฎหมายควบคุมยาสูบโลกฉบับนี้ โดยมีสมาชิกในประเทศต่าง ๆ ลงนามในสนธิสัญญานี้ มากกว่า 170 ประเทศ ซึ่งเป็นสนธิสัญญาเดียวของโลกที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ สนธิสัญญานี้เป็นการยืนยันถึงสิทธิของประชาชน ในมาตรการด้านสุขภาพที่เข้มแข็งที่สุด และก่อให้เกิดความร่วมมือด้านกฎหมายควบคุมยาสูบระหว่างประเทศทั่วโลก

 

     ประเทศไทยได้ขานรับแนวทางดังกล่าวและได้ให้ความหมายเพื่อเป็นทิศทางในการขับเคลื่อนในสังคมไทย ด้วยคำขวัญว่า “พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่” ซึ่งคำขวัญของสังคมไทยแสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ในการทำงานควบคุมยาสูบ  โดยในส่วนของประเทศไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการในการควบคุมการบริโภคยาสูบตามข้อกำหนดของอนุสัญญา ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

 

    กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงมีคำสั่ง 218/2552 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2552 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานจัดทำแผนควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ โดยได้ดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์ควบคุมยาสูบแห่งชาติ พ.ศ.2553-2557 ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ (คบยช.) แล้วเมื่อ 22 เมษายน 2553 โดยได้พัฒนาการดำเนินการควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศใน 8 ยุทธศาสตร์ คือ :

 

.. ยุทธศาสตร์ที่ 1 การป้องกันมิให้เกิดผู้บริโภคยาสูบรายใหม่

.. ยุทธศาสตร์ที่ 2 การส่งเสริมให้ผู้บริโภคลด และเลิกใช้ยาสูบ

.. ยุทธศาสตร์ที่ 3 การลดพิษภัยของผลิตภัณฑ์ยาสูบ

.. ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่

.. ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างเสริมความเข้มแข็งและพัฒนาขีดความสามารถในการดำเนินงานควบคุมยาสูบของประเทศ

.. ยุทธศาสตร์ที่ 6 การควบคุมการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ผิดกฎหมาย

.. ยุทธศาสตร์ที่ 7 การแก้ปัญหาการควบคุมยาสูบโดยใช้มาตรการทางภาษี

.. ยุทธศาสตร์ที่ 8 การเฝ้าระวังและควบคุมอุตสาหกรรมยาสูบ

 

 

Large_tobacco2-horz 


    อย่างไรก็ตาม ยุทธศาตร์เลิศหรูดูดี ที่ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ทั้ง 8 ข้อ ยังไม่ก้าวไปสู่ระดับสูงสุดของการเลิกบุหรี่ .. ที่หมายถึง เลิกผลิตบุหรี่ และห้ามนำเข้าบุหรี่...รัฐต้องเพิ่มเป็นยุทธศาสตร์ที่ 9...และเลื่อนความเร่งด่วนการขับเคลื่อนไว้เป็นลำดับต้นๆ...เริ่มช้าดีกว่าไม่เริ่มเลย...


     เชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนแนวคิด"เชิงรุก"... ตรงข้ามกับการ "ตั้งรับ" อย่างที่เห็นๆกันอยู่...ข้าพเจ้าขอฟันธง เช่นนี้...รัฐบาลกล้าเลิกผลิตและห้ามนำเข้าบุหรี่ไหม??

      

 

                          


 

      ขอขอบคุณ EGA และน้องดร.จันทวรรณ ที่ตั้งประเด็นบทบาทของภาครัฐในเรื่องนี้ด้วย..

 

.................................................................................................

ภาพจาก Google



        

 

หมายเลขบันทึก: 490030เขียนเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2013 15:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (39)

เลิกผลิตก็เลิกสูบเนาะพี่ใหญ่....

แก้ปัญหาที่ต้นเหตุเลยค่ะพี่ใหญ่ ขอบคุณค่ะ :)

ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่ที่พูดถึงประเด็นนี้ คำถามนี้เป็นคำถามที่บุคลากรทางการแพทย์ ถามมาตลอดเพราะเราเบื่อกับการวิงแก้ปัญหามาก แต่คำตอบที่ได้ก็ไม่ต่างจากเรื่องเหล้า เรื่องของผลประโยชน์นั่่นเองเมื่อทั่วโลกยังมีการผลิตเราก็กลัวเสียดุลเขา เราก็เอาบ้าง ถ้าชลัญจำไม่ผิดมียุคหนึ่งส่งเสริมให้มีการปลูกใบยาสูบ เป็นพืชเศรษฐกิจด้วยซ้ำ เรามีรายได้มหารศาลจาก ของที่เป็นอบายมุขพวกนี้ การจะทำให้สำเร็จมันต้องมาจากประชาคมโลก เพราะลำพักประเทศเราห้าม แต่ทั่วโลกยังมี มันก็จะเกิดการทะลักของบุหรี่นอก เข้าอีรอบเดิม การไม่บริโภคจึงจะเป็นหนทางที่พอจะแก้ปัญหาได้ แต่เราก็ไม่สามารถควบคุมได้นั่นเอง จึงทำให้เกิดปัญหาในวงกว้าง น่าเศร้าใจค่ะพี่ใหญ่

แวะมาสนับสนุนค่ะ  

เลิกผลิตบุหรี่เสียทีเถิด

สวัสดีป้าใหญ่ค่ะ หากเลิกผลิตบุหรี่ได้ถือว่าเป็นการทำกุศลครั้งยิ่งใหญ่เลยค่ะ

เห็นด้วยที่สุดค่ะ

มัวแต่ไปหาวิธีแก้ทุกข์นอกตัว  แก้เสียที่ "ต้นเหตุ" ก็หมดเรื่องแล้ว

ให้ดอกไม้ไว้ 10 ดอกเลยค่ะ  :)

รัฐเป็นเจ้าภาพเอง
ทั้งผลิตยาสูบ(โรคภัย)
และยาฉีดยากิน(รักษาโรค)

น่าจะลองให้รัฐเลิกผลิตก่อน
เพื่อเป็นตัวอย่างแก่บริษัทเอกชน

ได้ยินมาว่าผู้ผลิตรายใหญ่ๆมี
กลยุทธ์จูงใจให้เยาวชนสูบบุหรี่หลากหลายวิธี
เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ ยังมีเวลาเป็นลูกค้าได้อีกนาน
เรียกว่ายังมีแรงสูบอีกหลายสิบปีมากว่างั้น

ลูกชายดาบอกว่า ต้องไม่มีการวางขาย ค่ะ แต่ก็ยังมีปลูกต้นยาสูบ ไร่ยาสูบ หั่นฝอยเป็นบุหรี่ขี้โยได้อีก ม้วนใบตอง ดาว่ายากมากๆค่ะที่จะไม่มีบุหรี่ ดานำอาหารสมุนไพรมาฝาก น้ำพริดอ่อง ดาคิดสูตรเองไม่มีเนื้อสัตว์ค่ะ

อาจารย์ท่านหนึ่ง เล่าว่าเมื่อ 60 ปีก่อน ยังมี spot บุหรี่ยี่ห้อหนึ่ง ที่ใช้แพทย์เป็น presenter "What is the cigarette you smoke, doctor?" คนยุคนั้นทั้งชาย หญิง เด็ก สูบด้วยความไม่รู้

จนวันนี้ เป็นที่รู้แน่ว่าบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กระทั่งซองยังมีภาพน่ากลัว คนเกือบทั้งหมดมีความรู้ ว่าบุหรี่ก่อมะเร็งปอด อะไรหนอ ทำให้คนยังคงสูบอยู่

ตรงประเด็นที่สุด..

กล้าคิด - กล้าพูดให้หยุดผลิต จะได้เลิกสูบ สุดยอดเลยค่ะ

แต่.. คงอีกนานแสนนาน น น น น

 

เห็นด้วยครับ ผมคิดว่าเริ่มจากขั้นแรกก่อนคือ "ยกเลิกการนำเข้าบุหรี่" ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้นั้นประเทศไทยไม่อนุญาตให้นำเข้าบุหรี่ และผู้ผลิตบุหรี่ได้คือโรงงานยาสูบ (รัฐวิสาหกิจ) แห่งเดียวเท่านั้น ผมคิดว่าเป็นนโยบายที่ดีมาก แต่ด้วยแรงกดดันจากต่างชาติทำให้ประเทศไทยต้องเปิดนำเข้าบุหรี่ แล้วจนมาถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงเรื่องให้กลับเป็นเหมือนเดิมครับ

จะยอมไหมคะ แล้วลงมือจัดการกันเลยสินะ เลิกผลิต เลิกนำเข้า คนหาซื้อไม่ได้ก็จะเลิกสูบ

เลิกผลิต ดีที่สุดค่ะ

ถูกต้องที่สุดครับพี่ใหญ่...

 

This may be one of the greatest achievement in life - to quit smoking.

To win over fags, have a whole life back abd enjoy every second of life without smoko breaks.

ท่านพระมหาแล อาสโย ขำสุข

น้องKrugui../น้องปริม../น้องชลัญธร../หลาน noktalay

น้องรัชดาวัลย์(อิงจันทร์)../น้องหยั่งราก ฝากใบ../น้องกานดา

น้องหมอป. ../น้องkunrapee../น้องดร.ธวัชชัย../น้อง Rinda

น้อง NU11.. /น้องอ.นุ../น้อง sr../น้องเกษเกล้า.. /น้องหมอทิมดาบ

น้องแสงแห่งความดี.. /น้องดอกหญ้าน้ำ../น้อง Kwancha

น้อง Quantumphysics../น้องหนุ่มกร ../และ..ผู้อ่านทุกท่าน

 

* กราบนมัสการ และ สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่บันทึกนี้ค่ะ

*  การแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง จะสำเร็จได้ยาก หากทำกันแบบ "พายเรือ คนละที "..

*  รายได้จากกระบวนการผลิตและขายบุหรี่..ไม่อาจเทียบได้กับความสูญเสียทั้งปวงที่เกิดตามมา..

* พี่ใหญ่เติบโตมาจากภาครัฐ ตระหนักดีในการป้องกันปัญหาแบบองค์รวม..

* ยิ่งปล่อยให้เป็นไปตามสภาพนี้ไปเรื่อยๆ..การแก้ไขยิ่งยากมากขึ้น เหมือนปัญหาอื่นๆของบ้านเมือง ที่ขาดการเอาจริงเอาจัง..

http://smokeforwhat.com/ways-for-governments-to-help-their-citizens-to-quit-smoking.php

รัฐบาลสามารถทำได้ในหลายๆ ทางค่ะ แต่การเลิกโรงงานยาสูบของไทยคงยากค่ะ แถมการเปิดให้นำเข้ายาสูบนอกได้อีกก็คงเลิกยากเช่นกันค่ะ ทำไมทำได้แค่การรณรงค์เลิกสูบนั้นก็ไม่ทราบค่ะน่าจะเป็นเรื่องของรายได้ประเทศหรือเปล่า แต่ก็น่าจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการรักษาและการตายของคนสูบบุหรี่นะคะ

 

 

ถ้าเป็นไปได้จะดีที่สุด ที่ทำไม่ได้เพราะมันกระทบผู้ผลิต ไปผลิตอย่างอื่นดีกว่านะคะพี่ใหญ่

น้องดร.จันทวรรณ

* สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่บันทึกนี้

* สำหรับ weblink ของภาครัฐที่นำมาฝากกัน..อ่านแล้ว เห็นว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุทั้งสิ้นค่ะ..

* พี่ใหญ่ได้แรงบันดาลใจในการเขียนจากป้ายนี้ที่ copy จากบันทึกของ น้องดร.จันทวรรณ :

 

                     

น้องมณีวรรณ

* สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่บันทึกนี้ค่ะ

* หากรัฐตั้งใจจริง ไม่มีอะไรยากเกิน..

* เห็นตัวอย่างมาแล้วจาก กรณีเลิกปลูกฝิ่น ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้รณรงค์ให้ชาวเขาหันมาปลูกพืชไร่ที่มีมูลค่าสูงแทน เช่น ต้นท้อ สตรอเบอรี่ มัคคาเดเมียนัท เป็นต้น 

  • เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุเลยนะคะ หน่วยงานที่กำกับดูแลหรือผู้เกี่ยวข้องโดยตรงคงคิดหนักเลยค่ะ 
  • เรากล้าคิด และจะรอให้เขากล้าทำค่ะ 
  • ขอบคุณมากค่ะสำหรับบันทึกดี ๆ ที่กระตุกหนวดเสือ แรงเชียร์มากมายค่ะ 

เอางั้นเลยนะคะท่าน เค้าคงไม่กล้าเลิกผลิตหรอกค่ะ กลัวรายได้รั่วไปต่างประเทศ

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

แต่คงไม่เลิกผลิตแน่นอนค่ะ

เพราะรายได้ดี

เรียน...พี่ใหญ่ที่เคารพ...ผู้บริหารชอบบอกว่า...รายได้ของชาติส่วนใหญ่มาใหญ่สิ่งที่เบี่ยงเบนทั้งทางตรงและซ่อนเร้น...ในประเด็นศีลห้า....ซึ่งผลดี คือ สามารถนับรวมเป็นตัวเลขในภาครวมของประเทศได้ชัดเจน....แต่ผลเสีย หรือผลกระทบ มักเกิดกับบุคคลและครอบครัว ซึ่งไม่สามารถวัดเป็นตัวเลขได้....สนับสนุนความคิดพี่ใหญ่...ถึงแม้รู้สึกว่า....มองไปทางไหนเจอแต่ทางตัน...แต่ทุกคนต้องสู้เพื่อฝันใช่ไหมครับพี่ใหญ่ ?

สวัสดีครับ พี่ใหญ่

ล่าสุด ผมไปจัดกระบวนการให้กับเด็กและเยาวชนมา  ปัญหาเรื่องยาเสพติดเป็นอีกเรื่องที่เด็กๆ สะท้อนออกมาจากชุมชนของพวกเขา  หากแต่บางเรื่องเขาสะท้อนด้วยความซื่อใสว่า "ผู้ปกครองชอบให้ลูกไปซื้อบุหรี่ให้"

เด็กๆ เสนอแนวทางด้วยมุมใสๆ ของเขาว่า "ไม่ไป..."  แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะปฏิเสธได้นานแค่ไหน

..

ขอบคุณครับ

  • สวัสดีครับผู้ใหญ่ใจดี 
  • หลานชายเข้ามาเยี่ยมครับ
  • ผู้ถึงบุหรี่มีแต่โทษไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว
  • แต่ผู้คนก็ยังสูบอีกนะครับ
  • คงมีหนทางเดียวล่ะครับที่หยุดได้ เลิกผลิต! อิ อิ

น้องSila

น้องNopparat

น้องBonnie

น้องทิมดาบ

น้องแผ่นดิน

น้องหนูรี

หลานวศิน

* สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่บันทึกนี้ค่ะ

* อยากเห็นรูปธรรมของ "รัฐบาลไทยเพื่อประชาชน" ตัวจริง..เสียงจริง..จากบทบาทการเป็นผู้นำโลกการเลิกผลิตบุหรี่..

* ฝันนี้จะเป็นจริงในช่วงชีวิตนี้ไหมหนอ??

เห็นด้วยกับพี่ใหญ่ นงนาท คะ

คือเลิกผลิตก็เลิกสูบได้เอง!! แต่คงจะทำได้ยากหน่อย

เพราะ" บุหรี่ยังคงทำรายได้ดีอยู่อย่างนี้ "

แต่ถ้าหากรัฐหันมา ออกกฏหรือข้อบังคับในการควบคุมการนำเข้าและการผลิต

อย่างจริงจังน่าจะทำได้ง่ายกว่านะคะ....

เพราะจะหวังให้รัฐแก้ที่เหตุ(เลิกผลิต)เลยทีเดียวก็ยาก อาศัยค่อยๆคิดค่อยๆแก้กันไป

แต่ทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง น่าจะเป็นทางออกที่ดีสุดสำหรับกรณีนี้

 

 

น้อง Kitty_b

  • สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่บันทึกนี้ค่ะ

  • อยากเห็นเมืองไทยเป็นต้นแบบของการเลิกยาสูบ เหมือนที่เคยเอาจริงในการปราบฝิ่นและยาเสพติดค่ะ

  • อ่านบันทึกเกี่ยวกับการเลิกบุหรี่มาหลายบันทึก ที่แต่ละบันทึกก็น่าสนใจ แต่ยังอ่านไม่พบบันทึกที่เขียนเกี่ยวกับบทบาทของรัฐเหมือนบันทึกของพี่ใหญ่ค่ะ
  • ชอบมากค่ะ กับข้อความในบันทัดนี้ "อันความทุกข์ทั้งหลายในโลก ล้วนเกิดแต่เหตุ บุหรี่หนีไม่พ้นความจริงนี้ ตราบใดที่ยังมีการทำไร่ยาสูบ >>> มีโรงงานยาสูบ >> มีผู้ผลิตบุหรี่ >>> มีร้านค้าบุหรี่ >>> มีผู้ติดบุหรี่...หากวงจรนี้ไม่ได้รับการขจัดที่ต้นเหตุ ย่อมป่วยการที่จะมาตั้งความหวังลมๆแล้งๆในการแก้ผลเลวร้ายของการสูบบุหรี่..เข้าทำนองคำโบราณท่านเปรียบไว้.." ขี่ม้ารอบค่าย".. "ลูบหน้า ปะจมูก"... "ปากว่า ตาขยิบ"..." เกาไม่ถูกที่คัน "..." ไม่ตัดไฟแต่ต้นลม "...ฯลฯ
  • และขอยกสองมือสนับสนุนที่พีใหญ่บอก "เชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนแนวคิด"เชิงรุก"... ตรงข้ามกับการ "ตั้งรับ" อย่างที่เห็นๆกันอยู่...ข้าพเจ้าขอฟันธง เช่นนี้...รัฐบาลกล้าเลิกผลิตบุหรี่ไหม??"
  • น้องเคยถกประเด็นนี้ ว่า รู้ก็รูว่าบุหรี่มันมีพิษภัยร้ายแรงทั้งต่อสุขภาพของคนสูบเองและต่อคนใกล้ชิด แล้วทำไมรัฐถึงยังให้มีการผลิต ก็ได้รับคำตอบว่า ก็เพราะถึงแม้ประเทศเราจะไม่ผลิต คนก็ยังจะไปซื้อบุหรี่ที่ผลิตจากประเทศอื่นมาสูบ เพราะห้ามคนสูบไม่ได้ ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ การผลิตเองยังจะทำให้รัฐมีรายได้จากภาษี จึงดีกว่าที่ไม่ผลิตเอง ก็ไม่รู้จะว่ายังไงนะคะถ้าเอาเงินเป็นตัวตั้ง ก็ทำนองเดียวกับประเด็นหวยใต้ดินหวยบนดินนั่นแหละนะคะพี่ใหญ่

คิดว่าคงไม่กล้าเลิกผลิตแน่คะ เพราะรายได้มันดีมาก ดูๆ แล้ว มนุษย์โลกมีความโลภมากมาย วิ่งไล่ความเจริญ วิ่งไล่ความสุขสบาย ใครมีโอกาสคว้าก็ได้ก่อนโดยไม่ค่อยคิดเผื่อไว้ให้คนข้างหลัง บุหรี่ ใครๆก็รู้ว่าไม่ดี รณรงค์อย่างไรก็ไม่สำเร็จ นักสูบก็อายุน้อยลงทุกวันจนน่าตกใจ ทั้งๆที่รู้ก็เลิกผลิตไม่ได้ น่าเศร้า

เกาไม่ถูกที่ ตัดรากถอนโคนไปเลย รับรองหมดแน่ครับ

น้องผศ.วิไล

น้องรสสุคนธ์

น้องแว่นธรรมทอง

 

  • สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่บันทึกนี้

  • การที่รัฐหยิบยื่นสิ่งเสพติดที่มีพิษภัยต่อประชาชนเสียเอง เพียงเห็นแก่รายได้เป็นกอบเป็นกำไม่ยอมปล่อยเช่นนี้ สะท้อนอะไรบ้าง??

  • ข้อเท็จจริงทุกวันนี้ บ่งชี้ชัดเจนว่าปัญหาของผู้เสพบุหรี่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องพร้อมๆไปกับการขยายฐานการผลิตและรูปแบบบุหรี่ที่จูงใจหลากหลาย..

  • นี่เป็นบันทึกแรกที่พี่ใหญ่ออกอาการ "แรง"..แบบไม่ปรองดอง หรืออ้อมค้อมถนอมน้ำใจกัน..ขอผ่าทางตัน..ไม่มีถอยค่ะ..

 สวัสดีค่ะคุณใหญ่...

...สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันยิ่งทำใจหดหู่และสับสน.

...ไม่ว่ากี่ยุคกี่รัฐบาล(นักการเมือง) นับวันยิ่งนำพาประเทศดิ่งลงเหว(การกระทำเพื่อตัวเองแต่อ้างประชาชน)ก็ไม่รู้ว่าจะมีไปเพื่ออะไร.

...ทำบาปแลกบุญขาดทุนร่ำไป การนำเงินที่ได้จากการขายยาสูบมาเป็นภาษีพัฒนาประเทศ(ไม่มีวันเจริญได้)เพราะเงิน(ปัจจัย)ได้มาจากการส่งเสริมการมัวเมา การผิดหลักศีลธรรม.

...หากให้ปลูกเพื่อสูบเองเช่นอดีตบุหรี่ก็ไม่ได้มีเกลื่อนกลาดเช่นทุกวันนี้เพราะกระบวนการแบบชาวบ้านยุ่งยากหลายขั้นตอนกว่าจะเป็นยาเส้น(คนรอสูบหายอยาก) แต่เมื่อมีโรงงานยาสูบ(ยักษ์ที่ไม่เคยหลับไหล)เพราะความง่ายสะดวกจึงทำเด็กประถมสูบบุหรี่ได้

...ข้าพเจ้าได้แต่เพ้อฝันค่ะว่าโรงงานยาสูบและโรงเหล้าจะมีใครกล้าสั่งปิดยกเลิกการผลิต ห้ามนำเข้า.

...ประเทศไทยเรามีทรัพยากรอาหารมากมาย เพียงนำรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียงปรับใช้และพัฒนาพัฒนาประเทศ จะทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งความสุข ไม่ใช่เมืองแห่งความทุกข์เช่นทุกวันนี้ค่ะ

...ขอบพระคุณค่ะ...

น้องน้อย

น้องสเร็นเหลา

น้อง dr-ammy 

น้องครูสุภาภรณ์

 

สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่บันทึกนี้

  • อีกสองความเห็นแบบตรงประเด็นจริงๆ...

  • ทุ่มทุนผลิต..ขยายรายได้..ใครจะป่วย..ใครจะตาย..ไม่ใช่เรื่องของฉัน..

  • ห่วงแต่่อุตสาหกรรมบุหรี่..มากกว่าประชาชนผู้หลงผิด..

เห็นด้วย 100% ครับ พยายามเลิกมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สำเร็จ วิธีนี้ผมเคยคิดมานานแล้วว่าทำไมไม่ทำกันซักที รับรองเลิกได้แน่ ฝากช่วยรณรงค์ต่อไปเรื่อยๆนะครับ

น้องผู้ติดบุหรี่

ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)

* สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่การรณรงค์ในเรื่องนี้ค่ะ

* น้องผู้ติดบุหรี่...ยินดีมากค่ะที่เห็นด้วยกับข้อเสนอเชิงรุกนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ในเรื่องเลิกสูบบุหรี่นะคะ

* น้องศูนย์วิจัยฯ...ดีใจจังค่ะที่เห็นประโยชน์จากการรณรงค์เรื่องนี้...เรามาร่วมด้วยช่วยกันเพื่อสุขภาพของเพื่อนมนุษย์ค่ะ


..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท