เราต่างมี (ไม่ใช่ของ) ขวัญติดตัวมา


ปีใหม่นี้ข้าพเจ้า จึงใช้เป็นโอกาสค้นหาสิ่งที่ไม่ใช่ของ แต่เป็นขวัญให้ตัวเอง
คำว่า "ขวัญ" ในภาษาอังกฤษ  มีความหมายพ้องกับ จิตวิญญาณ-spirits, ฉันทะ-morale/enthuism
...

ข้าพเจ้าพยายาม แก้ไขสิ่งที่ไม่ถนัด ด้วยการอ่านหนังสือ, เข้า workshop , ประสบการณ์ชีวิต  เหล่านี้ช่วยยกระดับ จากแย่มาก มาเป็น พอรับได้..อย่างไรก็ตาม 

- ข้าพเจ้าเป็นโรคกระเพาะ เมือต้องทำงานลงรายละเอียด เช่น งานบัญชี งานลงคะแนนนักศึกษา 
- ข้าพเจ้าเป็นไมเกรน เมื่อต้องออกงานสังคม หรือพูดคุยกับคนจำนวนมาก 

..หากเป็นไปได้ เราอยากเป็นคนมีความสามารถรอบด้าน ทำได้ดีทุกอย่าง..ยิ่งกว่านั้น เรายังคาดหวังให้คนรอบข้างเรา เป็นเช่นนั้นด้วย..ข้าพเจ้าก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น

จริงหรือ?
..ในแง่รูปธรรม- สมองมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกันมาแต่กำเนิด
แม้ดูรูปทรงภายนอก รอยหยัก รอยนูน ไม่แตกต่าง
ทว่าระดับจุลทรรศน์ ปริมาณการเชื่อมโยงเส้นประสาท (synaps) เพื่อทำหน้าที่แต่ละอย่าง มากน้อยแตกต่างกัน..
นั่นหมายความว่า หากเราจะเปลี่ยนตัวเอง ทำได้
แต่ต้องใช้เวลา ความพยายาม มหาศาลเพื่อสร้างการเชื่อมโยงใหม่ 
..ในแง่นามธรรม จิตวิญญาณ แรงผลักดันให้แต่ละคน เห็นคุณค่า ความหมาย
ในแต่ละสิ่งแตกต่างกันไป
.
เราควรละทิ้ง "ขวัญ" ที่ธรรมชาติให้มาเช่นนั้นหรือ


###

ปีใหม่นี้ข้าพเจ้าลงทุนซื้อหนังสือและทำแบบสอบถามชืื่อ Strengths finder 2.0
โดยย่อ..หนังสือและแบบสอบถามนี้ เป็นผลจากการวิจัยกว่า 40 ปี ของทีม gallup
สรุป 34 องค์ประกอบย่อย (element) ที่เป็นพรสวรรค์ ( Talent) 
เป็นการสร้าง "ภาษา" ใหม่  ของการอธิบายจุดแข็ง จุดอ่อน 
โดยมีแต่ละ element เหมือนตัวอักษร
ที่ผสมผสาน เป็นประโยค ได้หลากหลาย
ประโยคใหม่ ในที่นี้ก็คือ อัตลักษณ์ของเราแต่ละคน
ซึ่งมีความเหมาะสม กับลักษณะงาน ลักษณะการดำเนินชีวิต ที่แตกต่างกัน 

แม้แบบสอบถาม ใช้คำว่า "ค้นหาจุดแข็ง - Strength finder" 
และในหนังสือเรียกว่า "พรสวรรค์"
ข้าพเจ้ามองว่าเป็น "ขวัญ" คือ โครงสร้างสมองแต่กำเนิด และจิตวิญญาณ 
เป็นจุดแข็ง หรือ จุดอ่อน ขึ้นกับศิลปะผสมผสานแต่ละจุดเข้าด้วยกัน
และที่สำคัญ.."บริบท" เอื้ออำนวยเพียงไร
.
ผลของการทำแบบทดสอบ สร้างความประหลาดใจ
เมื่อไม่พบว่าคุณสมบัติ ที่ "เข้าข้างตนเอง" คิดว่าเป็นเช่นนั้น
แล้วก็ได้พบ "แมงอัตตา" ที่ยังสลัดไม่ออก :-)

ภาพจาก www.prachasan.com :
คำอธิบาย 34 พรสวรรค์ อ่านได้ที่นี่คะ ภาษาอังกฤษ , ภาษาไทย 

..
หากถามข้าพเจ้าว่า เราจำเป็นต้องค้นหาตัวเอง ด้วยการซื้อหนังสือเพื่อทำแบบสอบถามนี้ไหม ?
ผลการวิจัยทั้งหลาย ย่อมมีความคลาดเคลื่อน..โดยเฉพาะสิ่งที่ซับซ้อน อย่างจิตใจ
ผลจากแบบสอบถาม ช่วยให้เรามี "ภาษา"อธิบาย
แต่คงไม่ทดแทน ความรู้ตัวตน- insight  

###

 จะเป็นเช่นไร หากเรารู้จักขวัญของตนเอง พัฒนาเป็นจุดแข็ง
เพื่อให้สิ่งดีที่สุดแก่สังคม ด้วยสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเรา..
 จะเป็นเช่นไร หากเราให้้ขวัญแก่คนรอบตัว
ยอมรับเขา ได้นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่สังคม 
..เหตุใด เราต้อง อิจฉา กลัวใครมาแทนที่ ในเมื่อเรามีจุดยืนเล็กๆ ทว่า 
ชัดเจนและมั่นคง

 

หมายเลขบันทึก: 471287เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2011 05:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มีนาคม 2014 18:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (48)
  • ชื่นชมคุณหมอป.มากก็ตรงที่เป็นคนช่างสืบค้น (Searcher) แล้วนำมาคิดใคร่ครวญ (Reflect) เกี่ยวกับตนเองนี่แหละค่ะ ท่านพุทธทาสได้ให้ความสำคัญกับ "การรู้จักตนเอง" มาก ดังที่ท่านได้สอนว่า
  • 
          (จง) การรู้จักตนเองคำนี้หมาย   ว่าค้นพบแก้วได้ในตัท่าน
    หานอกตัวทำไมให้ป่วยการ              ดอกบัวบานอยู่ในเราอย่าเขลาไป
         ในดอกบัวมีมณีที่เอกอุตม์           เพื่อมนุษย์ค้นหามาให้ได้
    ตรัสรู้หรือรู้สิ่งใดใด                          ล้วนมาจากความรู้ตัวสูเอง
                 แบบวัดที่อาจารย์หมอป.นำมาแลกเปลี่ยนจะเน้นการวัด "Strengths" ของความเป็นผู้นำ ซึ่งก็น่าสนใจมาก และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนักศึกษาที่เรียนวิชาพฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตนได้อีกแล้วค่ะ เพราะในขอบข่ายเนื้อหาจะมีเรื่องผู้นำแทรกอยู่ในเรื่องการทำงานเป็นทีม ขอบคุณมากนะคะที่นำมาแบ่งปัน
                แบบวัด "The Big Five Personality Test" ซึ่งใช้วัด "The OCEAN MODEL of Personality" บุคลิกภาพพื้นฐาน 5 ด้านของคนทั่วไปก็น่าสนใจ เคยให้นักศึกษาระดับปริญญาโททำแบบวัดนี้ (ทาง Internet) ผลการวัดจะบอกให้ทราบว่าในแต่ละด้านเราอยู่ในระดับไหน จากระดับ 1-5 ตัวอย่างเช่น
    ด้านที่ 1 Openness to Experience/Intellect ด้านการเปิดรับประสบการณ์และความเฉลียวฉลาด
       ระดับ 1 You prefer traditional and familiar experience.
      คุณชอบประสบการณ์ดั้งเดิมที่เคยคุ้นมากกว่าประสบการณ์ใหม่ๆ  
      ระดับ 5 You enjoy having novel experience and seeing things in new way.
      คุณสนุกไปกับการมีประสบการณ์ใหม่และการได้เห็นสิ่งต่างๆในมุมมองใหม่ๆ
     
     

 

  • ช่วงนี้พิมพ์ตกหล่น/ผิด บ่อยมากค่ะ

         ว่าค้นพบแก้วได้ในตั (ตัว) ท่าน

สวัสดีค่ะ

โรคกระเพาะ กับไมเกรน หายหรือยังค่ะ หากยังไม่หายรักษาแบบไหนค่ะ สมุนไพรหรือยาแผนปัจจุบัน  คิดถึงเสมอค่ะ

 

สวัสดีครับ...วันพฤหัส ฯ

ผมให้ดอกไม้ก่แนนะครับ

แล้วจะมาอ่านแบบละเอียดนะครับ

น่าสนใจมากครับ

ใช่ค่ะ ต้องชัดเจนและมั่นคงให้มาก

ชีวิตถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้

ดูแลตัวเองและรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ,

เชื่ออยู่เสมอว่า...

รู้จักจุดแข็งของตัวเอง เพื่อที่เราจะสามารถนำมันออกมาใช้ในคราวที่ต้องการได้ อย่างเหมาะสม พอดี และรู้เพื่อที่จะใช้เตือนตนเสมอว่าอย่าให้มีมากจนเกินไป เพราะแข็งนัก...หักง่าย

รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง เพื่อปรับปรุงให้อยู่ในระดับที่ตัวเอง "รับได้" และจะเกิดความมั่นใจ เพื่อร่วมทำในสิ่งสร้างสรรค์ได้ และบ่อยครั้งความพยายามที่จะแก้ไขจุดอ่อนนั้น บางทีอาจช่วยให้เราค้นพบ Hidden talent ในตัวเองได้ และจุดอ่อนนั้นก็จะกลายเป็นพรสวรรค์ขึ้นมาทันที

ต้องซื้อหนังสือมาเพื่อค้นหาตัวเองหรือเปล่า หากค้นหาเจอก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ

"It's not what you will get out of the books that is so enriching — it is what the books will get out of you that will ultimately change your life"

Robin Sharma - The Monk Who Sold His Ferrari

ขอบคุณอาจารย์ที่แนะนำแบบทดสอบ ไม่แน่ใจว่าใช่แบบสอบถามนี้หรือเปล่าค่ะ  
ลองทำแวบๆ ผลออกมา อายไม่กล้าโชว์ :-) แต่ก็สะท้อนได้ตรงกับตัวเอง "นางอาย" ค่ะ

...

ภาพที่นำมาจากเวบ ของ ดร.ประชาสรรค์ ซึ่งท่านทำ mind map ให้ดูง่ายขึ้น จากหนังสือ Strengths based leadership ซึ่งเป็นเล่มหนึ่ง ที่เขาประยุกต์แนวคิด "เพ่งเล็งจุดแข็ง ดีกว่าเพ่งเล็งจุดอ่อน" (ดูๆ ไปก็คล้าย AI ของท่าน อ.ภิญโญนะคะ)

สวัสดีครับคุณหมอ

ตอนนี้หนังสือนี้มีแปลเป็นไทยด้วยครับ..ซื้อได้ที่ SE-ED ครับ..

เพื่อนผมดร.อัจริยะ อุปการะกุล ผู้สนใจ AI ได้พัฒนาแบบสอบถามเพื่อวัด Appreciative Leadership ครับ..

น่าสนใจมากๆครับ..

สวัสดีครับอาจารย์หมอปัทมา

Streghth-finder คล้ายๆ กับ AI ครับ..เพียงแต่เหมือนเขาทำวิจัยมาดีแล้ว..แล้วกำหนดเป็น "รูปแบบ" ขึ้นมา..

ใน AI เราสามารถทำคล้ายๆกัน..ด้วยคำถามว่า..."ภูมิใจอะไรที่สุดในชีวิต"..คนงานคนหนึ่งบอกว่า..เขามาทำงานใหม่ เครียดกลัวไม่ผ่านงาน..แต่ได้ป้าคนหนึ่งในสายการผลิต สอนให้..เลยเป็นงานเร็วขึ้น..นี่แหละที่เขาภูมิใจ.." AI จะประมาณนี้ครับ..ที่สุดเราได้ Stregnth ของโรงงานก็คือ "ป้าคนนี้" ครับ..เราก็ขยายผลด้วยการสร้างระบบ "ปราชญ์โรงงาน" ครับ..

...

ส่วน Strenght Finder เอง เพื่อนผมดร.อัจริยะ เอามาต่อยอดผสมผสาน กับทฤษฎีอื่นและ AI เอง..ตอนนี้พัฒนามาเป็นแบบประเมินภาวะผู้นำเชิงบวก (Appreciative Leadrship) ครับ..เป็นอะไรที่พัฒนาโดยคนไทยเอง..

...

ขอบคุณที่ถามไถ่เรื่องสุขภาพค่ะ..พร้อมภาพบอนไซเฟื่องฟ้า (โห ต้นที่บ้านสูงเลยศรีษะ ยังออกดอกน้อยกว่านี้เลยค่ะ)
มีสามสิ่งวนเวียนทักทาย เป็นระยะๆ คือ กระเพาะ, ปวดหัว และ ผื่น..ก็เลยพกยาประจำตัว คือ ยากลดกรด, พารา และยาแก้แพ้ เสมอค่ะ ..เพราะภูมิคุ้มกันทางใจยังไม่แข็งแรงพอ :-)

*** ... เป็นสิ่งยากยิ่งที่จะค้นพบตัวตน(ของตน...)  จึงไม่พยายามหาคำตอบ ...แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ...ขอบคุณ...สำหรับบันทึกนะคะ ***
 

                                     
            

ขอบคุณมากค่ะ
จะรอ คุณหมออดิเรก มีเรื่องราวเรียบๆ แต่จุดประกาย มาแบ่งปัน

สวัสดีคุณหมอป. ตอนเที่ยงเลี้ยงอาหารกระเพาะอิ่มแล้ว ก็มาเลี้ยงอาหารสมอง

อ่าน คิด ติด ตาม ตามหาขวัญ

เรื่องของขวัญ กำลังใจ คนทำงานหากันจัง

ขวัญ ทุกคนมีขวัญ จะเป็นขวัญเดีนวหรือสองขวัญ

ตอนเด็กเคยล้อคนมีขวัญว่า..

คนขวัญเดียว ตาเขียวขี้ลัก (ขโมย)

คนสองสองขวัญ ตาจันหมูกด้วน...

คนหัวล้านย่อมไม่ขวัญ .....

ขวัญและลายนิ้วมือ คือสิ่งที่คนเฒ่าชอบทายทัก

ลายนิ้วมือ มีลาย ก้นหอย ลายพับหวาย

ก่อนเป็นเพื่อนกับใครตอนเด็กๆมักจับกัน แล้วต่างก็ดูลายนิ้วมือกัน ว่ามีความเหมือนความต่างตรงใหน .....

เรื่องอย่างนี้เด็กเลี้ยงควายเขามีประสบการณ์ตรง

ขอให้คุณหมอมีขวัญและกำลังใจในทุกๆวันครับ

ขอบคุณค่ะคุณครู..

เริ่มจากจุดยืนที่ชัดเจนไปสู่ก้าวที่มั่นคงกันนะคะ
..
มีผู้กล่าวว่า
ยิ่งเราเห็นอัตลักษณ์ของตัวเองมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งยอมรับความเป็นอัตลักษณ์ของผู้อื่นได้เท่านั้น
ยิ่งเราเห็นคุณค่าจุดแข็งตัวเราเองเท่าไหร่
เรายิ่งสามารถรักตัวเอง ไปพร้อมๆ กับคนอื่น ค่ะ 

  • สมัยก่อนเป็นแบบนี้เหมือนกัน
  •  ข้าพเจ้าเป็นโรคกระเพาะ เมื่อต้องทำงานลงรายละเอียด เช่น งานบัญชี งานลงคะแนนนักศึกษา 
  • แต่ตอนนี้ปรับตัวได้ ชอบการให้คะแนนเด็ก แต่ยังเบื่องานบัญชี การออกงานสังคมผมจะเลือกพูดกับคนที่สนิทครับ แต่ถ้าทำได้ชอบอยู่คนเดียวอ่านหนังสือ นั่งทบทวนตัวเองดูเหมือนจะมีความสุขกว่า
  • ขอบคุณมากครับ

ชอบประโยคนี้ "..เพราะแข็งนัก...หักง่าย" ขอนำไปใช้เตือนตนเองบ้างนะคะ

สำหรับการรู้จักจุดอ่อน จนค้นพบ  Hidden talent ..
น่าสนใจมากค่ะ ลักษณะบางประการ ในบริบทหนึ่ง เป็น "จุดอ่อน" เช่น เอดิสัน สมัยเป็นเด็กเรียนหนังสือ ไม่สนใจเนื้อหาในตำรา ไปสนใจสงสัยสิ่งรอบตัวนอกตำรา จนถูกเรียกว่า "เด็กหัวขี้เลื่อย"..หากเอดิสัน มาเรียนในยุคนี้ ลักษณะเดียวกันนี้ถูกชื่นชมว่า "เด็กช่างสังเกต" :-) 

.. เป็นอีกคนที่สนับสนุนค่ะ ว่า หนังสือ + gotoknow เปลี่ยนแปลงคนได้ (ทีละนิด)

 

สวัสดีครับท่านอาจารย์ ป.

สิ่งที่ยิ่งค้น ยิ่งพบ ยิ่งพบ ก็ยิ่งรับรู้และยิ่งสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับเรา ก็คือสิ่งที่ท่านอาจารย์เรียกว่า "ขวัญ" (จิตวิญญาณ)ของตัวเรานี่เอง

"ผลจากแบบสอบถาม ช่วยให้เรามี "ภาษา"อธิบาย แต่คงไม่ทดแทน ความรู้ตัวตน-insight" นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าท่านอาจารย์จำแนกแยกแยะได้ชัดเจนมากครับผม

"จะเป็นเช่นไร หากเรารู้จักขวัญของตนเอง พัฒนาเป็นจุดแข็งเพื่อให้สิ่งดีที่สุดแก่สังคม ด้วยสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเรา..จะเป็นเช่นไร หากเราให้้ขวัญแก่คนรอบตัว ยอมรับเขา ได้นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่สังคม ..เหตุใด เราต้อง อิจฉา กลัวใครมาแทนที่ ในเมื่อเรามีจุดยืนเล็กๆ ทว่า ชัดเจนและมั่นคง" และสิ่งนี้คือตัวตนที่แท้จริงของท่านอาจารย์

เป็นบันทึกอันทรงคุณค่าที่งดงามในใจผมอย่างยิ่ง ทำให้ผมทราบแล้วว่าปีใหม่นี้ ผมจะมอบสิ่งใดเป็น(ไม่ใช่ของ)ขวัญเพื่อให้แก่สังคม ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ป.ครับผม

ตอนนี้อากาศเย็นมากและเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะครับ และเนื่องในโอกาสปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ผมขออวยพรให้ท่านอาจารย์ได้พบ "ขวัญ" ของตนเองอย่างรวดเร็วที่สุด และเป็นกำลังหลักที่สำคัญในสังคมแห่งการเรียนรู้ (gotoknow)ตราบนานเท่านานครับ สวัสดีปีใหม่ครับ ^_^

*การคิดเชิงบวกเป็นจุดแข็งที่ควรสร้างในตน เพื่อยังกิจทั้งปวงให้สำเร็จด้วยความสุขของทุกฝ่ายค่ะ..

*ขอให้โรคภัยไข้เจ็บของน้องหมอป. มลายหายไปด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่งนะคะ..ให้กำลังใจค่ะ

*พี่ใหญ่กำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างมีความสุข

ก่อนอื่น ขอชมว่ารูปใหม่อาจารย์ในเดือนวันพ่อ น่ารักจังค่ะ :-)
...

ขอบคุณอาจารย์ ยกตัวอย่าง การมองหา "Strength" ไม่เพียงมอบหมายหน้าที่ให้ตรงกับความสามารถของแต่ละบุคคล แต่ยังขยายผลให้ฝังในระบบด้วย..
รู้สึก AI เป็นหลักการที่มีข้อพิสูจน์เป็น การเปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน เพื่อแก้ปัญหา.. ขณะที่ Strenght Finder เห็นเหมือนที่อาจารย์ค่ะ ว่า วิธีศึกษาเพื่อให้ได้มาดู "ขลัง" คนจึงให้ความเชื่อถือ
ขอส่งกำลังใจให้ แบบสอบถาม AI ฝีมือคนไทย ของ ดร.อัจริยะ ด้วยค่ะ  น่าเสียดายที่ปี 55 ที่จะถึงนี้การประชุมภาควิชาถูกกำหนดหัวข้อไว้แล้ว แต่สักวันต้องหาโอกาสเชิญอาจารย์มาเป็นวิทยากรแน่นอนค่ะ :-)

การค้นหาตัวตนที่แท้จริง  นั้นแสนยาก 

โดยเฉพาะเมื่อเป็นผู้ใหญ่  เสียงวิพากษ์จากสังคมก็กลบเสียงภายในตัวเราเอง

แต่เมื่อมีเวลาช่วงเช้า จิบกาแฟร้อนๆ นั่งเงียบๆ คนเดียว ก็ช่วย ให้ได้ยินเสียงภายในชัดขึ้นค่ะ

 

ขอบคุณบังวอญ่าค่ะ ที่เตือนให้เราคิดถึงอีกความหมายหนึ่งของ คำว่า "ขวัญ"

   พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายไว้ว่า "ขวัญ"  น.

 
เป็นสิ่งไม่มีตัวตน แต่มีอยู่ประจำชีวิตของคนเราตั้งแต่เกิดมา ในขณะที่อีกความหมายคือ ผม หรือ ขน ที่ขึ้นเวียนเป็นก้นหอยบนศีรษะ

น่าสนใจว่า ความเชื่อพื้นบ้าน ว่าลักษณะขวัญ (เวียนซ้าย เวียนขวา มีหนึ่ง หรือมากกว่า) บอกลักษระคนนั้น ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์พบว่า ลักษณะพันธุกรรมมีผลต่อลักษณะการเรียงของเส้นผม ซึ่งหมายถึง อาจมีผลต่อสมองและนิสัยด้วยค่ะ

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหมอ!...จิบกาแฟพร้อมเสียงไก่

...ในผู้อื่น...ก็มีเราอยู่ด้วยในนั้น(คำพูดจากแฟนที่มอบให้ยามเหนื่อยล้าทดท้อ ในยามที่ทำเพื่อคนอื่นๆโดยเฉพาะ เพื่อพ่อแม่ ผู้ที่ดีมีพระคุณกับเราทุกๆคนค่ะ)...

...โรคกระเพาะ!คุณหมอดื่มน้ำเยอะๆนะคะวันนึงได้3-5ลิตรยิ่งดี(น้ำเย็นไม่ค่อยดีเลยกับโรคกระเพาะ)...

...ช่วงแรกของการทานข้าววันละ2มื้อ ข้าพเจ้าเองก็เป็นค่ะโรคกระเพาะเคยเป็นหนักถึงขั้นนอนไม่ได้นั่งยืดหลังตรงๆก็ไม่ได้โอดโยทั้งคืน.ถึงขนาดเข้าใจโรคผิดเถียงพยาบาลไม่ยอมให้รักษาเดือดร้อนหมอใหญ่ในรพ.มายืนยันฟันธงว่านี่แหละเรียกว่าโรคกระเพาะ.นึกทีไรขำตัวเองทุกทีไม่ใช่กระเพาะเส้นเอ็นพลิก(เถียงหมอ)555

...แต่ตอนนี้หายดี90%เพราะฝึกตัวเองให้ดื่มน้ำเยอะค่ะ

...แปลกเหมือนกันนะคะที่ไมเกรนกับโรคกระเพาะข้าพเจ้าเองก็เคยเป็นเช่นเดียวกันกับคุณหมอ.ในศาสตร์ทางการแพทย์ที่ได้มาคือยาสารพัดเม็ดเต็มบ้าน(เปลี่ยนขนมแทนคงจะดีไม่น้อย).

...แต่ในทางรักษาตนเองในแบบต้นค้นหาตน(ไม่มีใครรู้กาย-ใจของเราได้ดีเท่าตัวเรา)จับจุดสังเกตุเรียนรู้ธรรมชาติกายและใจ ผ่อนคลายกับอาหารสมองเบาๆฟังเพลงแนวผล่อนคลาย อ่านหนังสือเบาๆธรรมชาติ-ธรรมะ(ประวัติพระอรหันต์)ฝึกสมาธิผ่อนคลายจิตใจให้ใจอยู่นิ่งได้นานๆกับอะไรก็ได้ที่หัวใจบอกว่าชอบ(เริ่มจากใจชอบจะเรียกใจมาได้ง่าย ยิ่งบังคับยิ่งดื้อดึง"กล่อมใจตัวเอง")สีเขียวๆของต้นไม้ช่วยได้เยอะกับไมเกรน...

...คือแนวทางที่ข้าพเจ้าใช้บำบัดรักษาตัวเองซึ่งเห็นผลประจักษ์กับตนเอง ว่าดีกว่าพกยาค่ะคุณหมอ...

...คนธรรมดาป่วยต้องให้หมอช่วยรักษา แต่เวลาหมอป่วยบ้างใครดูแล ที่นี่ไงคะคุณหมอgotoknowกำลังใจเพียบเลยค่ะ(ทำอาหารให้ทานได้แต่คงทานให้อิ่มแทนไม่ได้)

...สู้ๆนะคุณหมอ!ไม่ต้องปีใหม่ปีไหน นับจากวันนี้ไปขอรวมกำลังใจจากใจทุกๆดวงที่มีให้คุณหมอรวมเป็นหนึ่งส่งพลังมอบ"ขวัญ"ให้คุณหมอแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งกายและใจนะคะ

...เพื่อช่วยเติมเสริมสร้างช่วยคุณหมอได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ.เลิกพกยามาพกขนมแทนจะได้ขอขนมทานกะกาแฟบ้างนะคะ.ฮา

*****"ในผู้อื่นนั้นมีเรารวมอยู่ด้วย***** ขอบคุณค่ะ.

...น้ำทีละหยดยังมีวันเต็มโอ่งได้ฉันใด เที่ยวในกายนครยิ่งพบสุขแท้ฉันนั้น...

ข้าพเจ้าขอมอบสิ่งสูงสุดนี้เป็นของวัญจากใจมอบให้คุณหมอตลอดไปนะคะ...

อ่านด้วยความชื่นชมค่ะ

ข้าพเจ้าพยายาม แก้ไขสิ่งที่ไม่ถนัด ด้วยการอ่านหนังสือ, เข้า workshop , ประสบการณ์ชีวิต  เหล่านี้ช่วยยกระดับ จากแย่มาก มาเป็น พอรับได้..

 

น้องปัทมาเป็นคนกล้าหาญที่จะค้นหาจุดอ่อนตน ปรับ แก้ไขหรือเติม(ยกระดับ)ตนให้ ดีขึ้น

พี่เอง กล้ายอมรับตัวตนในเรื่องที่เป็น จุดอ่อน อย่างเห็นได้ชัดแต่ไม่กล้าที่จะเรียนรู้แก้ไขอยู่นาน

อาทิเช่น

place memory แย่มาก เคยสงสัยว่าตัวเองมีอาการคล้าย dementia เรื่องสถานที่ ทิศทาง ความจำเสื่อมอ่อน ๆ ค่อนไปมาก

ความรู้เรื่องการใช้ IT(คอมพ์ ระดับ user, ไอแพด รวมถึงโทรศัพท์รุ่นทันสมัย) เกือบเป็นศูนย์

เรื่องง่าย ๆ กว่านี้ เช่นปิดเปิดอุปกรณ์อิเล็คโทรนิค(วิทยุ, เครื่องเล่นซีดี จนกระทั่ง ปากกาแสงเลเซอร์)บางทีทำไม่เป็น อย่าหัวเราะนะคะ

การฟังภาษาอังกฤษแทบเหมือนคนหูหนวก ฟังไม่ทัน ฟังเพี้ยน(การพูด จะดีกว่าเล็กน้อย)

พี่ยอมรับว่า มันเป็น ขวัญ ของเรา

รับมันและมีอาการคอยปกปิดไม่ให้คนอื่นรู้ ยกเว้นที่ปิดไม่มิดก็คือ เรื่อง place memmory หลงทางเป็นประจำแม้กระทั่งตึก ห้องที่ทำงานประจำ ต้องเดินซ้ำ ๆ มาก ๆ เที่ยว(ยี่สิบเที่ยวขึ้นไป) จึงจะจำได้เอง

นอกจากปกปิด มีอาการโกรธตัวเองเวลาหลงทางจนผิดเวลานัดหมาย

จนวันหนึ่ง คิดได้ว่า ไม่เป็นไรน่ะ ต้องขอตัวช่วยแล้วล่ะ จึงปรึกษาเพื่อนสนิทถึงวิธีที่คนอื่น ๆ เขาใช้จำกัน โชคดีที่ถามถูกคน ได้คำตอบแถมท้ายได้กำลังใจว่า

คนเราเกิดมา มีขวัญ(ชอบคำนี้ค่ะ ขอใช้ด้วยคน)ไม่เหมือนกัน

เพื่อนที่รักกันเขาบอกว่า ในขณะที่พี่มัวโกรธตัวเองกับข้อด้อย พี่จึงลืมคิดถึงส่วนดีหรือจุดแข็งของตนเอง

เขาบอกว่า พี่เป็นคนจำ บุคคล ได้ดีมาก ๆ จำได้ทั้งชื่อ นามสกุล บุคลิก ผลงาน ข้อเด่น เหตุการณ์ขำ ๆ เรื่องเก่าเก็บที่เจ้าตัวยังลืมไปแล้ว และอ่านหรือทำนายบุคลิกคนกระทั่งลูกศิษย์ได้เร็วและถูกต้อง

จริงด้วย พี่จึงเกิดความภูมิใจ เมื่อเรารัก ตัวเรา หรือขวัญของเรา เราจึงเกิดกำลังใจ ไม่โมโหง่าย ไม่โกรธตัวเอง

เรื่องโกรธตัวเอง ไม่อภัยตนเป็นเรื่องริดรอน พลัง ของเราอย่างมาก ใครเป็นต้องรีบหายนะคะ

หลังจากนั้น เมื่อเพื่อนรักบอกเทคนิคแก่เราในบางเรื่องเช่นทิศทาง ให้จำแลนด์มาร์คใหญ่ ๆ อ่านทิศและแผนที่พอเป็น มันดีขึ้นมาก

 

ยังมีหลงอยู่ค่ะ เราก็มองบวกว่า ผิดเป็นครู คือรู้เส้นทางที่ผิดไปแล้ว วันหลังจะไม่ผิดอีก

เขียนมายาว ดูดีเชียวนะคะ

อิ อิ เพิ่งเดินหลง วนขวาเป็นวนซ้ายมาหยก ๆ ค่ะ

แค่วนผิดกลับเข้าตึกไม่ถูกอีกแล้ว ตลกจริง ๆ

 

ถ้าเลือกได้ อยากอยู่คนเดียวอ่านหนังสือมากกว่า..

ใจตรงกันเลยค่ะ
ยามเช้า นั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือสักเล่ม 
แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 

สวัสดีปีใหม่ และขอส่งกำลังใจให้อาจารย์เช่นกันค่ะ ^_^

  ขอบคุณสำหรับ "ขวัญกำลังใจ" อันมีค่า จากอาจารย์ค่ะ 
สำหรับผู้ที่ปัจจัยสี่ไม่ขาดแคลน สิิ่งของ ที่มอบให้ในวันปีใหม่ ก็เป็นสื่อหนึ่ง ในการบำรุงจิตวิญญาณ​ คือ ความรู้สึกอบอุ่นใจ มีคุณค่าต่อผู้อื่น  ความภาคภูมิใจ ฯลฯ
  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยสิ่งของในวันปีใหม่แล้วจบไป..เพียงเปิดทัศนคติใหม่ ให้โอกาสคนที่เรารักได้เป็นตัวของตัวเอง ก็เป็นของขวัญหายากที่ใครๆ ต่างใฝ่หาได้นะคะ

 

สวัสดีครับอาจารย์...

ผมก็ชอบบันทึกทุกบันทึก

เหมือนตัวอักษรที่เป็นตัวโน๊ต

ไม่น่าเบื่อ...และทำให้ผมคิดต่อไป ๆ

อาจารย์น่าจะถึงเวลากลับเมืองไทยแล้วนะครับ

เอาขวัญกลับมาด้วยนะครับ

และเก็บความรู้สึกนี้ไว้นะครับ

เพราะคือความทรงจำที่งดงามมากครับ

ขอบคุณสำหรับความห่วงใยค่ะพี่ใหญ่

เรื่องของครูเรฟ ได้อ่านตัวอย่างจากที่นี่

"...I actually thought, if I could care so much I didn't even know my hair was on fire, I was moving in the right direction as a teacher — when I realized that you have to ignore all the crap, and the children are the only thing that matter."

แสดงถึงการค้นพบตนเอง ทำงานด้วยความหลงใหล จนเป็นครูประถมที่เขียนหนังสือให้อาจารย์มหาวิทยาลัยอยากอ่าน (ด้วยคนค่ะ)

"คะ"หล่นหายตามมามอบไว้ในภายหลัง.ข้าผู้น้อยกราบขออภัย!

...สู้ๆนะคะคุณหมอ...

นึกถึงภาพ กาแฟ พร้อมไก่ขันยามเช้า ช่างสุขสงบใจจังค่ะ

".ในผู้อื่น...ก็มีเราอยู่ด้วยในนั้น"
เข้าใจว่า ตัวตนของเราที่ยืน ณ ที่นี้ มีที่มาและเดินได้ด้วยมือที่ประคับประคองจากหลายบุคคล ตั้งแต่ พ่อแม่ที่่ให้กำเนิด ครู เพื่อน ฯลฯ...เช่นนั้นหรือเปล่าคะ 

ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับการดูแลตัวเองค่ะ
เรื่องดื่มน้ำ..คิดว่าตัวเองน่าจะลองลดกาแฟ แล้วมาดื่มน้ำอุ่นบ้างค่ะ

ได้รับ "ขวัญ" วันปีใหม่ จากใจที่อ่อนโยนของคุณน้อยแล้วนะคะ :-)

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ ป.

ตื่นเช้ามากๆนะคะหรือไม่ก็นอนดึกมากๆแน่เลย

พักผ่อนอย่างผ่อนคลาย...รักษาสุขภาพนะคะ....เป็นห่วงค่ะ ^^

 

ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนเรื่องราวค่ะ

พูดถึง place memory แล้วมีอาการใกล้เคียงกันค่ะ  กว่าจะจำทางเข้าลิฟท์ ต้องเดินหลงอย่างน้อย 2-3 รอบ วิธีจำซ้าย ขวา ไม่ได้ผลค่ะ ต้องจำแลนด์มาร์คที่เห็นแต่ไกล ที่ใหญ่ๆ แล้วหาทางยึกยักไปหาเอง 
และ อุปกรณ์ IT ทีี่เพิ่งตกหลุมรัก ทั้งทีี่เขาใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ก็คือ GPS ติดรถยนต์ค่ะ หลังจากใช้แล้วแทบน้ำตาไหล..โห รู้อย่างนี้น่าจะซื้อมาใช้นานนนน..แล้ว :-)

เห็นด้วยกับเพื่อนพี่หมอเล็กค่ะ ( คนดีมักได้เพื่อนดีนะคะ :-) 
คุณสมบัติที่พี่หมอเล็กมีนั้น หาได้ยากในสังคม - ตัวเองก็ยังขาดคุณสมบัตินี้ค่ะ..คือ การจำรายละเอียดบุคคลอื่นได้อย่างแม่นยำ สะท้อนถึงจิตที่ละเอียด เป็นปัญญาญาณ จนสามารถอ่านจนเข้าถึงจิตใจผู้อื่นได้

ชอบประโยคนี้จังค่ะ...
เกิดความภูมิใจ เมื่อเรารัก ตัวเรา หรือขวัญของเรา เราจึงเกิดกำลังใจ ไม่โมโหง่าย ไม่โกรธตัวเอง

 

 

 

สวัสดีและ ขอบคุณที่ห่วงใยค่ะคุณแจ๋ว

ยังติดนิสัยนอนดึก คงต้องพยายามพักผ่อนให้มากขึ้นค่ะ :-) 

 

สิ่งที่เลือกทำ....อันนี้มีความสุข  เพราะเราชอบเองอยู่ก่อนแล้ว

หรือถูกมอบให้ทำ...เพราะเลือกไม่ได้  ก็ทำใจว่าง ๆ  ทำไปก่อน

แสดงว่าต้องมีคนเห็นจุดแข็งจุดใดจุดหนึ่ง  หรือผสานหลาย ๆ จุดดี  เขาจึงให้เราทำ

พัฒาตนเองไปจนถึงจุดที่รู้สึกว่าไม่ถูกพันธนาการมากนัก   พอเลือกทำได้ในสิ่งที่ตรงกับ...ขวัญ (แบบอาจารย์หมอ ป. ว่า)  จริต...ตัวตนของเรา   ความสุขสบายใจก็เพิ่มขึ้น

อิสรภาพของใจเรานั่นเอง  เป็นสิ่งบ่งบอกถึง "ขวัญ"  จริตหรือตัวตนของเรา

ขออวยพรให้สุขสันต์วันปีใหม่

ค้นพบขวัญ  พัฒนาด้านที่คู่ควรต่อ ๆ ไป

ชื่นชมสุขสมใจ...มอบคืนผืนดินไทย

ขอบคุณข้อเขียนดี ๆ นะคะอาจารย์หมอ ป.

 

ขอบคุณสำหรับข้อคิด อบอุ่นจริงใจดั่งพี่สอนน้องค่ะ

ก่อนที่จะได้เลือก..เลือกได้

คงต้องผ่านบททดสอบให้เห็นทุกแง่มุม เสียก่อนปักใจว่าจุดแข็งที่แท้จริงเราคือสิ่งใด..สิ่งที่ทำแล้วใจเป็นอิสระ 

มาแวะขออนุญาต นำความคิดเห็นส่วนหนึ่งไปเก็บไว้ที่ บล็อกนี้ ค่ะ

ความสุขที่ยิ่งใหญ่จริงๆที่พบกับตัวเองคือ

การที่เราได้ทำให้คนรู้ว่าตัวเองมีคุณค่าและใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ พี่โอ๋รู้สึกว่า การที่เรามีความสุขกับตัวเราเอง (ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร น่าจะตรงกับคำว่า self esteem) จะช่วยให้เราอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของตัวเองนะคะ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อมั่นจริงๆว่า คนทุกคนมีสิ่งดีๆในตัว และเสียดายทุกครั้งที่เห็นใคร ไม่เชื่อและไม่รู้สึกอย่างนั้น เพราะเราจะสามารถหาสิ่งดีๆในคนที่เราได้พบเสมอ ตรงกับที่น้องหมอ ป.บอกไว้ว่า

เราให้ขวัญแก่คนรอบตัว 
ยอมรับเขา ได้นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่สังคม

นะคะ ทุกครั้งที่เราได้ทำ ได้เห็นผล เราจะมีความสุขมากมายเลยค่ะ ไม่ต้องให้ใครมารับรู้กับเราด้วยว่าเราทำอะไร แต่ผลที่เราได้เห็นเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่มาก 

ยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะ :-)

เจ๋งอีกบันทึก ได้คิดเสมอ ค่ะคุณหมอป.

ได้ทำให้คนรู้ว่าตัวเองมีคุณค่าและใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่

..
สิ่งนี้ สร้างความสุขด้วยตนเอง /self esteem  ให้คนทำงานอย่างเหลือล้นค่ะ..เป็นการบำรุงขวัญ โดยไม่ต้องมีคำอวยพรสวยหรู ไม่ต้องมีของราคาแพง
..

เพียงแต่สื่อสารให้คนรอบข้าง เชื่อและรู้สึกว่า
เขามีสิ่งดีในตัว ที่เรายอมรับเห็นคุณค่า 

ขอบคุณค่ะคุณ Poo ลมหนาวมา ดอกไม้บาน กันอีกปีนะคะ :-)

ขวัญเอ๊ย...ขวัญมา พี่จำได้เวลาเด็กๆหกล้ม หรือตกใจอะไรผู้ใหญ่จะปลอบใจด้วยคำๆนี้

ทำให้พอพูดถึงคำว่า ขวัญ พี่มักนึกถึง สติ หรือ ภาวะปกติ

การทำงานสมัยนี้มีความเครียดมากจากทัศนคติแบบแข่งขัน เพราะฉะนั้นอย่าไปเคร่งกับตนเองมากนักเลยค่ะเป็นการเพิ่มความเครียดให้ตนเองให้ไมเกรนและโรคกระเพาะกำเริบ เมื่อใดที่เราลองพินิจอะไรแบบตั้งใจ เอาแค่เบาๆ ไม่คาดคั้น ไม่เล็งผล เราจะเห็นอะไรมากขึ้นรวมทั้งตัวเองชัดขึ้น

ใครกันนะที่เก่งไปหมด ดีทุกเรื่อง คนเราก็มี ขวัญ (ในความหมายของคุณหมอ)กันทุกคน แต่แตกต่างกันไป พี่เองภูมิใจ มั่นใจในจุดเด่นของตนเอง ที่เราตระหนักว่าเราสามารถไม่ต้องรอให้ใครมารับรองมาตรฐาน ยอมรับจุดด้อยอย่างเบิกบาน ขำๆ เช่นพี่เป็นคนหลงทิศ ก็เคยเปิ่นๆหลงทางหลายหน เมื่อมาเข้าใจเรื่องสติ ก็ทำให้ระลึกรู้จุดอ่อน ระมัดระวังเวลาไปไหนพยายามตั้งใจจดจำจุดสำคัญ

การอยากพัฒนาจุดด้อยของตนเองที่จริงก็เป็นเรื่องดี หากทำด้วยทัศนคติที่เบิกบาน โปร่งเบา ไม่คาดคั้นตัวเองว่าจะเป็นคนสมบูรณ์แบบให้ได้

พี่จำข้อความนี้ได้ตั้งแต่ตอนทำงาน เมื่อมองย้อนกลับไปรู้สึกว่าชีวิตได้ถูกต้อนให้เหน็ดเหนื่อยเหลือเกินค่ะ

Good, Better, Best

Never let us rest

Until  your good is better, and better best.

.....เช่นนั้นรึเปล่า!...

...หาคำตอบหรือไม่ต้องการคำตอบ(ก็ได้)มองได้หลายนัย (ในมุมมองของหัวใจ)

...แต่หัวใจของข้าพเจ้ากับประโยคดังกล่าว"คุณหมอได้ปลุกวงธรรมจักรในหัวใจให้หมุนลิ่ว" เป็นหัวข้อที่ถูกนำขึ้นกระดานหัวใจตัวเองต้องพิจารณาต้องวางให้ลง(ในใจ)

...ในผู้อื่น ก็มีเราอยู่ด้วยในนั้น...

..."ผู้อื่น"ในมุมที่ข้าพเจ้าสื่อสะท้อน เป็นมุมของการให้ การแบ่งปัน การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ของสังคมมนุษย์ พืชและสัตว์..

...ในมุมมองความคิดที่คุณโอ๋ อโณ ได้สะท้อนไว้(ใช้สิ่งที่ตัวเองมีในการช่วยเหลือผู้อื่นสิ่งที่ได้รับตอบกลับคือหัวใจที่เปี่ยมสุข-พรหมวิหารธรรม)"ในผู้อื่นก็มีเรา"

...GOTOKNOW(ท่านอาจารย์จัน,พี่มะปรางเปรี้ยวและทีมงานทุกๆท่าน)จากอุดมกาณ์ด้านพัฒนาเพื่อสังคมนำโอกาสและความรู้มอบให้สังคม(ผู้อื่น-หมู่มวลสมาชิก)

...ในแนวทางผู้ให้จากใจไม่กี่ดวงก่อเกิดการไหลมารวมกันของใจ(ผลงาน)หลายร้อยดวงหลายพันดวง(หลากหลายผลงานองค์ความรู้และประสบการณ์)

...เปรียบเหมือนดีหลายๆดี(หลายๆสาขา)มารวมกัน มีความสำคัญเท่าเทียมกันเพราะต้องเดินไปด้วยกัน(ไม่มีgotoknowไม่ม่เรา)เช่นนี้ความน่าเชื่อถือความมั่นคงเกิดขึ้นได้เองในตัวโดยที่ไม่ต้องมีใครประกาศยกย่อง(ใจที่ให้และยอมรับซึ่งกันและกัน)

...ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครที่สามารถจะดีหมดในรอบด้านด้วยคนเพียงคนเดียว แค่ดีเดียวที่เด่นชัดในตัวเองก็เกินพอ(เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกใบนี้ เพราะต้องเกื้อกูลกัน องค์กรที่ดีเกิดด้วยดีหลายดีมารวมกัน มั่นคงน่าเชื่อถือด้วยความดี)

...ความดีทำให้ก่อเกิดผลงานที่ดีเพ่อส่วนรวม...

...ในมุมที่ข้าพเจ้าสัมผัสคุณหมอ"จากสื่อหัวใจ"ทำให้มองเห็นคุณหมอในหัวใจตัวเอง กับอาจารย์หมอที่เปิดใจและยอมรับ!พร้อมจิตวิญญาณของอาจารย์ ที่ถ่ายทอดความรู้และมุ่งมั่นพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานเพื่อส่วนรวม(ผู้อื่น)...

...อาจารย์หมอย่อมเป็นที่รักจากใจผู้รับ(ประโยชน์นั้นได้เกิดต่อออกไปผลงานนั้นมีที่มาจากคุณหมอ.(ในลูกศิษย์จึงมีอาจารย์ในอาจารย์ย่อมมีผู้รับการถ่ายทอด ความรู้)

...ไม่มีใครสามารถแทนที่ใครได้!ผู้ให้ก่อนย่อมได้รับก่อน ผู้ทำก่อนย่อมรู้ก่อน

...ความรู้ที่อยู่ภายในใจตน ย่อมวกวนอยู่เท่าเดิมหาก(หวง)เก็บไว้.

...ความรู้ที่มีอยู่ภายในตน(ดีแล้ว ณ วันนี้)สิ่งที่ดีกว่าจะไหลเข้ามาแทนที่หากวันนี้เราสามารถวาง(มอบ-ถ่ายทอดออกไป)

...ดั่งคำสอนหลวง"ปู่มั่น ภูริทัตโต"ในประโยคที่ว่า "ยิ่งให้ยิ่งเยอะ"

...ข้าพเจ้าขอกราบอนุญาตคุณหมอด้วยนะคะ สำหรับการนำสิ่งที่กำลังหมุนอยู่ภายในใจของตัเองตรงนี้ วางไว้ในพื้นที่แห่งนี้.

...สนธนาธรรม(ทำ)นำปัญญา...ขอบพระคุณค่ะ!

ปล.ธรรมจักรหัวใจของคุณหมอกำลังหมุนวนในเหตุและผลกับบางสิ่ง ผ่านพ้นข้ามปีนี้ไปข้าพเจ้าเชื่อว่าคุณหมอจะได้รับคำตอบนั้นที่เป็นหนึ่งเดียวเกิดขึ้นเองภายในใจของคุณหมอ.(พิจารณาหาเเหตุและผล-แล้วดับความสงสัยนั้นๆให้ได้ภายในใจตัวเราเอง)ย่อมนำมาซึ่งพลังความเชื่อมั่นในดีขงตัวเองนำพาสู่ความน่าเชื่อถือ"ซึ่งก็คือผลงาน ที่ก่อเกิดประโยชน์โดยมากกับส่วนรวม" สู้ๆนะคะคุณหมอคนเก่ง...

เมื่ออ่านบันทึกหรือความเห็นของอาจารย์รับรู้ได้ค่ะ
ว่าภาวะเป็นมีขวัญอยู่กับตัว ตั้งใจแต่ไม่คาดคั้นนั้นเป็นเช่นไร
...

สังเกต ผู้ที่เบิกบาน "เต็ม" ด้วยความภาคภูมิตน จะแสดงออกต่อผู้อื่นด้วยความเยือกเย็นมีเมตตา 
ผู้ที่พร่อง (ที่กล่าวได้เพราะเคยเป็นรู้สึกพร่องมาก่อน) กลับพยายามข่ม แข่งขัน

ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อคิด :-) 

ขอบคุณที่ชอบค่ะ :-)

ปีใหม่นี้ขอเป็นกำลังใจทีม R2R  ทุกท่านนะคะ

ขอบคุณ คุณน้อย ที่มาเฉลย

"ในผู้อื่นก็มีเรา"

หมายถึงการพึ่งพาอาศัยกัน เป็นส่วนประกอบของกันและกัน

เหตุใด คนจึงยกมือไหว้ พระภิกษุบวชใหม่ แม้ไม่เคยได้พบมาก่อนเลย ก็ด้วย "พุทธบริษัท" ที่บรรพชนสั่งสมชื่อเสียงดีงาม จนสมาชิกพุทธบริษัททั้งปวง เป็นที่ไว้วางใจศรัทธา..  ดั่งที่คุณน้อยว่าคะ..  องค์กรที่ดีเกิดด้วยดีหลายดีมารวมกัน มั่นคงน่าเชื่อถือด้วยความดี

 

ขอบคุณนะคะ

ที่เอาสิ่งดีๆมาเป็น(ของ)ขวัญให้กับผู้อ่าน

ยินดีค่ะพี่มนัญญา..

พูดถึง รพ.นครพิงค์ มีเพื่อนและรุ่นพี่อยู่ที่นั่นหลายท่าน ค่ะ :-)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท