เมืองสุพรรณ ตามไปอ่านบันทึกแฝงสาระของ ผอ.ประจักษ์ แห่งชาวหน้าตาดี และ ศน. Add ไปแล้ว สิริพรยังอยากที่จะบอกเล่าถึงเรื่องราวที่สุพรรณอีกสักที และยังมีอีกหลายที่ที่อยากไปเช่น หมู่บ้านชาวนาไทย วัดต่างๆ มากมาย... และอัธยาศัยที่ดีของชาวสุพรรณ (อาทิ อ.ขจิต...ดังปรากฏในบันทึกของใครหลายคน...มีแซว) ทำให้เกิดอาการหลงรักเมืองสุพรรณเข้าแล้วสิ
สืบเนื่องจากการไปศึกษาดูงาน...เราได้แวะไปสุพรรณบุรี เพื่อศึกษาการจัดการแหล่งเรียนรู้ เน้นที่บึงฉวาก...แต่เราก็ได้ของแถมอื่นๆ มาด้วย เช่น โปรแกรมที่น่าสนใจใน 1 วัน สำหรับชาว กทม. ที่ขับรถไม่ไกลเลย ประมาณ 1 ชม. ก้อถึงแล้ว..เช้ากราบพระขอพรที่วัดป่าเลไลย์ ต่อจากนั้น10 โมงไปขอคิวแรกในการชมพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร กินข้าวเที่ยงที่ตลาดสามชุก และหลังจากนั้นไปบึงฉวาก
บึงฉวาก คงเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง ควรพาลูกๆ หลานๆ มาเรียนรู้ในวันพักผ่อนของครอบครัว...รับรองลูกๆเก่งชีววิทยาแน่นอน มีตู้แสดงสัตว์น้ำพันธุ์ต่างๆ ทั้งน้ำจืดน้ำเค็ม รวมทั้งอุโมงค์ปลาด้วย มีรอบการแสดงคนกับปลาในตู้ปลาใหญ่วันละ 4 รอบ ส่วนแสดงจระเข้ก็น่าสนใจ มีรอบการแสดง 4 รอบต่อวัน (11.00, 12.30, 14.00, 15.30 น.)ถ้าจะให้ดีควรใช้เวลาที่นี่สักครึ่งวัน เราสนใจที่นี้คือการให้บริการข้อมูล สำหรับหน่วยงานที่เข้าชมเป็นหมู่คณะ ทำเรื่องถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อขอลดหย่อนค่าเข้าชมได้
ตลาดสามชุก มีอายุยาวนานมากว่า 100 ปี ที่ยังมีลมหายใจและเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยมาถึงยุคปัจจุบัน อาหารคาว หวาน มีให้เลือกกินเลือกซื้อมากมาย ของเล่น-ของกินบางอย่างหายไปจากปัจจุบันแล้ว ยังหาซื้อได้ที่ตลาดนี้ เช่น จั๊กจั่น(รู้จักป่าว...ทำมาจากไม้ไผ่ เวลาแกว่งจะมีเสียงดัง คล้ายเสียงจั๊กจั่น) หมากฝรั่งรูปบุหรี่ตราแมว...หมากฝรั่งตรานกแก้ว ที่ยังไม่ได้เคี้ยวก็เกือบละลายในปาก ใครเกิดก่อน พ.ศ. 2516 หน่ะ รับรองรู้จัก สิ่งที่เราได้จากแหล่งเรียนรู้แห่งนี้คือ การฉุกคิดว่า “หน่วยงานราชการที่มีศักยภาพด้านข้อมูล เช่น ห้องสมุด ควรจะมองเห็นมูลค่าเพิ่มของข้อมูลความเป็นมาของสถานที่สำคัญในท้องถิ่น และช่วยกันรักษาคุณค่านั้นไว้ได้อย่างไร” อาจเป็นโปรเจกท์ดีๆ ในการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อบริการวิชาการแก่ชุมชนต่อไป
วัดป่าเลไลย์ นอกจากได้ทำบุญและกราบหลวงพ่อโตเพื่อความเป็นศิริมงคลแล้ว เรื่องราวของขุนช้าง-ขุนแผน-นางพิมพิลาไล ก็นับเป็นเรื่องราวที่ทำให้ได้ความรู้เชิงประวัติศาสตร์ วรรณคดี และภาพจิตรกรรมฝาผนัง...”ป้า” เองยังนำไปโยงกับเรื่องพระนเรศวร...โดยคิดเองว่า สมัยก่อนก่อนไปรบกับพม่า อุโบสถหลังนี้มีความสำคัญอย่างไร....มาเที่ยววัดแห่งนี้ คนช่างอ่าน...ช่างเล่า จะทำให้ได้อรรถรสในการเที่ยวชมมากขึ้น ด้านในมีวังมัจฉา และบ้านขุนช้าง...เสียดายที่เราไม่มีเวลากับที่แห่งนี้มากนัก...ว่าแต่ว่า เด็กๆ สมัยนี้เค้ารู้จักขุนช้างขุนแผนกันไหมอ่ะ
หอคอยบรรหาร-แจ่มใส งานนี้ทีมงานเราพลาดคร้าบ ด้วยว่าไปวันราชการเลยพลาดคิวเรื่องเวลาเข้าชม…ด้วยตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสวนเฉลิมภัทรราชินี ที่เปิดทำการเวลา 10.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ปิด 20.30 น. วันราชการปิด 19.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ หากต้องการชมวิวเมืองสุพรรณที่จัดกล้องส่องทางไกลไว้ให้ ต้องเช็คเวลาให้ดี มีค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ตั้งอยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและแสดงสิ่งของเกี่ยวกับอารยธรรมจีน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2539 ด้านในตัวมังกรจัดแบ่งเป็นห้องแสดงนิทรรศการ กำหนดให้ชมเป็นรอบๆละ ประมาณ 1.30 ชม. รอบแรกเวลา 10.00 น. รอบสุดท้ายเวลา 16.00 น. แต่ละรอบกำหนดจำนวนคนเข้าชมด้วย ดังนั้นหากสนใจไปชมสอบถามรายละเอียด โทร. 0 3552 6211 หยุดทุกวันจันทร์และวันอังคาร เสียดายที่เราไม่ได้ชมข้างในพิพิธภัณฑ์เพราะเราไปถึงเวลา 17.00 น. จึงได้แต่ไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น ที่นี่มีค่าธรรมเนียมเข้าชมด้วยนะ ผู้ใหญ่ 299 บาท และเด็ก 149 คน
ปิด Summer นี้อยากให้ลูกๆ หลานๆ ไปเที่ยวจัง อ๊ะ...แล้วเผื่อมีผู้ใหญ่อยากไปด้วย...ไม่เบื่อแย่เหรอ...
จัดทริปแหล่งเรียนรู้ตั้งแต่ขอนแก่นเลยดีป่าว 3 วัน 2 คืน (กลุ่มเป้าหมาย...ครอบครัวที่มีหลายช่วงวัย)
วันที่ 1 ออกเดินทางตี 3 ไหวมั๊ยพวกเรา...เย้ เย้...
8.00 น. รวมพลที่สวนเมืองพร (โคราช) กินอาหารเช้าในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ
12.00 น. ชมพระที่นั่งวิมานเมฆ พระที่นั่งไม้สักทั้งองค์...ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5
15.00 น. ชมวัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวัง มรดกล้ำค่าของคนไทย...สถานที่ที่คนไทยควรไปอย่างยิ่ง
17.00 น. เดินทางเข้าที่พัก จ. นครปฐม
วันที่ 2 เน้นนครปฐม...หากชอบอาหารทะเล เปลี่ยนแผนไปกินอาหารทะเลสดๆ ที่ดอนหอยหลอดก็ยังไหว
เช้า ไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ ชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
บ่าย กินข้าวเที่ยงที่ตลาดน้ำดอนหวาย และเดินทางมาทำบุญเสริมศิริมงคลที่วัดกาญจนาภิเษกที่บางบัวทอง พักใน กทม.
เย็น กินข้าวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชมบรรยากาศสะพานพระราม 8 ในยามค่ำคืนพร้อมฟังเพลงโฟล์คสบายๆ
วันที่ 3 เดินทางไป จ. สุพรรณบุรี
เช้า พาเด็กๆ ชมบึงฉวาก
เที่ยง หาของกินที่ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี ซื้อของฝากของที่ระลึก
บ่าย 2 เดินทางกลับ กินข้าวเย็นที่โคราช ถึงบ้านก้อดึกหน่อย
หากมีเวลาว่าง ก็ค้างแถวๆ เขาใหญ่อีกสักคืน จะได้มีเวลาเลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาจากด่านเกวียนกลับบ้านด้วย...
แล้วหากอยากไปทะเลหล่ะ ก็เพิ่มอีกวันเป็น 4 วัน 3 คืน ต่อจากนครปฐมไปประจวบเล้ย
ไอ้หม่า ไปด้วยคน อิอิๆๆ มาตอนไหนนั่น อดเจอเลย วัยรุ่นเซ็ง อิอิๆๆๆๆ
สุพรรณสวยงามและน่าอยู่นะคะ..ชอบชอบ.. คราวที่ศน.แอ้ดไป..มีหนุ่มไปรอรับด้วยนะคะ..อิอิคนที่เมนท์คนที่ 1 นะคะ ซึ้งน้ำใจจนลืมไม่ได้...อวดภาพที่สุพรรณอิอิ...
อวดภาพหนุ่มที่ไปรอรับ
พี่ตุ่นจ๋า..กาลังจาบอกว่าไปด้วย..ป้าก็ไปซะแล้วนี่..โกรธธธธธ!!!
อิอิ..
คิดถึงนะจ๊ะ..(น้องมอมแมม...ฝากบอกมาจ้า.).^^
สวัสดีครับ
เคยไป แต่ไม่ได้แวะเที่ยวสักที
ไว้คราวหน้าเอาใหม่ครับ
คุณครูแอ๊ว
ว่างๆ หาเวลาแวะสักครั้งสิคะ
คุณธ.วั ช ชั ย
ยังคิดอยาก Backpack ไปสักทริป...
เผื่อสุพรรณจะเป็นมุมหนึ่งในความทรงจำ
บึงฉวาก ไปคราวนั้น..ป้าหมู ดูแลอย่างดียิ่งเลยทีเดียว
สุพรรณบุรี..นึกถึงทีไร ก็ขุนช้างขุนแผน เด็กๆ ที่บ้านรบเร้าให้เล่าให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง..ก็ดีครับ..วรรณคดีเรื่องนี้ มีความเป็น "ไทย" ที่ชัดเจนมาก
คุณแผ่นดิน
แวะมาบอกเล่าถึงอัธยาศัยของ ป้าหมู คนสุพรรณใจดีอีกคนแล้วค่ะ
สบายดีนะคะ
แล้วเมื่อไหร่จะมาแถวอยุธยาบ้างน้อ
พี่ไปสุพรรณบุรีทีไรเป็นแต่เรื่องธุระค่ะ มักได้มุ่งไปมูลนิธิข้าวขวัญ แต่ไปทีไรก็เบิกบานใจกลับมาได้เห็นความมุ่งมั่นของคนที่ตั้งใจทำดีให้แผ่นดินค่ะ
ถ้ามีโอกาสไปอยุธยา คงได้ติดต่อไปยังพี่นุช แบบไม่เกรงใจเลยหล่ะค่ะ
ด้วยว่าอยากจะได้พบสักครั้ง
แต่อุปสรรคของตุ่นไปไหนมาไหนที...มักไปเป็นหมู่คณะ...ปลีกวิเวกไม่ค่อยได้
ฉะนั้นหลายครั้งจึงแอบมีทริป backpack ที่สามารถไปตามประสาอยู่บ่อยครั้ง
อยากไปสามชุกจังเลยครับ อยากพาแม่ไปเที่ยวแม่ชอบตลาด เก่าๆมากเลย
เอาไว้คราต่อไปนะ....จะจัดให้