สศก.: Follow up
สวัสดีครับลูกศิษย์ชาว สศก. ทุกท่าน
ผมเปิด Blog นี้ขึ้นเพื่อติดตามผลการเรียนรู้หลังจบโครงการสำหรับทุกคน คือ บุคลากรที่เข้าร่วมโครงการเรียนรู้กับผมทั้ง108 คน โดยขอให้ทุกคนใช้ Blog นี้เป็นช่องทางในการตอบคำถาม สำหรับโจทย์แรกที่ผมมอบหมายให้ดังนี้
แบบทดสอบ
ใช้ทฤษฎีเพื่อการพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K’s และ 5 K’s (ใหม่) วิเคราะห์ผู้นำ 3 คู่ และเชื่อมโยงไปถึงตัวท่านเองและการสร้างผู้นำในองค์กรของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรแบบ Ram Charan ว่าจะช่วยได้อย่างไร
· อภิสิทธิ์ / อภิรักษ์
· Gordon Brown / Tony Blair
· Obama / McCain
โปรดตอบโจทย์นี้ภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ เพื่อประโยชน์ต่อตัวท่าน โดยตอบผ่าน Blog นี้ และทางอีเมล์ [email protected] (ทั้ง 2 ช่องทาง)
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะให้ร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะกิจกรรมนี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตัวท่านเอง องค์กร และการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรของเราต่อไป
จีระ หงส์ลดารมภ์
ความเห็น (21)
ทนงศักดิ์ ประชาศิลป์
เรียน เลขาธิการ มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
ตามที่มีหนังสือให้ตอบแบบทดสอบ เรื่องการติดตามและมอบหมายงานหลังจากอบรมฯ กระผมนายทนงศักดิ์ ประชาศิลป์ จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 4 ขอนแก่น ในฐานะผู้นำผ่านการฝึกอบรมขอตอบดังนี้
กรณีที่ 1 อภิสิทธิ์/อภิรักษ์
ผู้นำ 2 ท่านนี้มีบุคลิกภาพคล้ายคลึงกันคือ รูปหล่อ อ่อนโยน และนอบน้อมถ่อมตน มีคุณสมบัติเป็นผู้นำที่ประนีประนอม สามารถบริหารงานน้อยใหญ่ได้ราบรื่น ทั้ง 2 ท่านนี้มีทุนทรัพยากรมนุษย์ทั้ง 8 ประการ และทุนแห่งทรัพยากรมนุษย์ยุคโลกาภิวัฒน์ค่อนข้างสูงและครบถ้วนท้าทายต่อการให้โอกาสในการบริหาร
กรณีที่ 2 Gordon Brown / Tony Blair
ผู้นำทั้ง 2 มีทุนแห่งทรัพยากรมนุษย์ค่อนข้างสูง คล้ายคลึงกันแต่ Tony Blair มีความฉับไวและกล้าตัดสินใจมากกว่า เช่น กรณีเข้าร่วมรบในอิรักเป็นการตัดสินใจภายใต้พื้นฐานทุนทรัพยากรมนุษย์ยุคโลกาภิวัตน์ ส่วน Gordon Brown ทุนทางนวัตกรรมและทุนทางอารมณ์จะต่ำกว่า Tony Blair
กรณีที่ 3 Obama / Mc Cain จะมีทุนทางนวัตกรรมและทุนทางอารมณ์สูงกว่า Mc Cain เนื่องจาก Obama เป็นคนรุ่นใหม่ร่วมสมัยโลกาภิวัตน์และน่าจะผ่านการอบรมหลักสูตรทรัพยากรมนุษย์มีความสามารถพิเศษแล้ว จึงสามารถโน้มน้าวความนิยมชมชอบของคนอเมริกันที่มีสิทธิออกเสียงได้มากกว่าร้อยละ 50 ในปัจจุบัน 24 ต.ค 51 (จากการหยั่งเสียง)
ผู้นำในองค์การของ สศก. ในความคิดเห็นของกระผม จึงควรมีคุณสมบัติผสมระหว่าง อภิรักษ์ Tony Blair และ Obama มาประยุกต์ใช้ในการบริหาร
Thonnisorn
ทฤษฎีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์
ทฤษฎีทุน 8 ประเภท(8K‘S)
1. ทุนมนุษย์
2. ทุนทางปัญญา
3. ทุนทางจริยธรรม
4. ทุนแห่งความสุข
5. ทุนทางสังคม
6. ทุนแห่งความยั่งยืน
7. ทุนทาง IT
8. ทุนทาง Knowledge Skill
ทฤษฎี 5 K‘S
1. ทุนแห่งการสร้างสรรค์
2. ทุนทางความรู้
3. ทุนทางนวัตกรรม
4. ทุนทางวัฒนธรรม
5. ทุนทางอารมณ์
วิเคราะห์ผู้นำ
อภิสิทธิ์/อภิรักษ์ เป็นผู้นำยุคใหม่ มีพื้นฐานการศึกษาและการงานที่ดี มีความพร้อมในเรื่องทุนมนุษย์ ครบเกือบทุกด้าน
Gordon Brown/Tony Blair ซึ่งเป็นผู้นำรุ่นใหม่ ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเจริญในเกือบทุกด้านทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการศึกษา ทรัพยากรมนุษย์มีความพร้อม ทำให้การพัฒนาประเทศทำได้ง่ายกว่าประเทศไทย
Obama/McCain เป็นผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐ มีต้นทุนมนุษย์ที่พร้อมทุกด้าน เป็นผู้นำที่มีความแตกต่างในเรื่องวัย คือ วัยหนุ่มกับวัยสูงอายุ มีแนวคิดที่แตกต่างกันในนโยบาย ประกอบกับผู้คนในประเทศเริ่มเบื่อหน่ายพรรคเก่า
ในตัวผู้วิเคราะห์เอง เป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดในเรื่องพัฒนามนุษย์ โดยเน้นทุนทางจริยธรรม และทุนทางอารมณ์ ส่วนต้นทุนด้านอื่นๆสามารถที่พัฒนาได้
การสร้างผู้นำในองค์กรของ สศก.
เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีคุณธรรม โดยมีคนรุ่นเก่าเป็นที่ปรึกษาในฐานะผู้มีประสบการณ์ มีแนวคิดและวิสัยทัศน์ ที่สามารถดำเนินการเป็นรูปธรรม มีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ไม่ยึดติดการเมือง
การสร้างผู้นำในองค์กรของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แบบRam Charan
Ram Charan .ให้ความสำคัญกับ Execution การทำให้เกิดขึ้นจริง หัวใจสำคัญที่สุดของนักบริหาร คือ ความสามารถที่จะผลักดันให้ผลสำเร็จที่ต้องการนั้นเกิดขึ้นได้จริง โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้ความสำคัญกับบุคคลากรระดับปฏิบัติการ และเน้นความสำคัญของกลุ่มคนระดับหัวกระทิ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ต้องให้ความสำคัญและโอกาสกับคนรุ่นใหม่ โดยไม่ลืมที่จะพัฒนาบุคคลากรระดับปฏิบัติการควบคู่กันไป เน้นพัฒนาจริยธรรม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานการทำงานที่มีความสุข มีความเสมอภาค ทำให้ทุกคนในองค์กรอยากมีส่วนร่วมกับผู้นำแบบนี้ ทำให้งานประสบผลสำเร็จตามที่วางไว้
นายวิชัย โตพ่วง
เรียน ท่านอาจารย์จิระ
จากโจทย์ที่ให้ผมมีความเห็นว่าผู้นำทั้ง 3 คู่จะประกอบไปด้วยทุนตามทฤษฎี 8kคือ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางจริยธรรม ทุนแห่งความสุข และทุนทางสังคม และมีทุนตามทฤษฎี 5 k คือ ทุนแห่งการสร้างสรรค์ ทุนทางความรู้ และทุนทาอารมณ์
แต่ในผู้นำทั้ง 3 คู่ มีจุดเด่นที่แตกต่างกัคือ
1.อภิสิทธิ์/อภิรักษ์ อภิสิทธิ์จะเด่นในเรื่องทุนมนุษย์และทุนทางปัญญา เนื่องจากเป็นคนมีการศึกษาดี มีความเฉลียวฉลาด แต่ยังมีประสบการณ์ในการบริหารงานน้อย ส่วนอภิรักษ์จะมีทุนทางสังคมและทุนสร้างสรรค์ดีกว่าเพราะเคยเป็นผู้บริหาร กทม.และทำธุรกิจมาก่อน
2.Brown/Blair
Blair จะเด่นในด้านทุนทางปัญญา ทุนสร้างสรรค์และทุนความรู้ เนื่องจากเคยเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษมาหลายปี แต่Brown ในฐานะรัฐมนตรีคลังร่วมรัฐบาลทำให้เด่นทางด้านทุนทางปัญญาและทุนจริยธรรม เนื่องจากเน้นความโปร่งใสในการบริหารงาน
3.Obama/Mccain
Obama จะเด่นในเรื่องทุนทางวัฒนธรรม ทุนสร้างสรรค์และทุนทางสังคม เนื่องจากเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง สามารถสร้างแรงดึงดูดใจต่อสาธาณชน ส่วนMacain จะเด่นในเรื่องทุนทางจริยธรรมเพราะตั้งใจทำงานแก้ไขปัญหาผลประโยชน์และปฏิรูปการเงิน
เมื่อเปรียบเทียบกับผมแล้วคิดว่ายังต้องมีการพัฒนาในอีหลายๆด้าน เช่น ทุนทางปัญญาหรือทุนทางความรู้ เพราะต้องการการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้ทันการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้น ผมจึงเห็นด้วยกับการพัฒนาแบบ Ram Charan เพราะควรกำหนดคุณสมบัติของผู้นำที่ สศก.ต้องการ แล้วพัฒนาตามความถนัดของแต่ละคนอย่างต่อเนื่อง และควรมอบหมายงานที่เหมาะสมให้ทำอย่างสมำเสมอ เพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ ทเทียบ
จิรจิตต์ ตั้งภากรณ์
บาราก โอบามา & จอห์น แมคเคน
8 K’s โอบามา มีทุนมนุษย์จากการจบรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากโคลัมเบีย และจบปริญญาเอกกฎหมายจากฮาร์เวิร์ดมีทุนทางปัญญา จากการเรียกร้องให้มีการใช้อาวุธ เรียกร้องให้ดูแลสภาวะอากาศ การเปลี่ยนแปลงโลกร้อน การก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ การสนับสนุนกฎหมายเรื่องการเพิ่มเครดิตภาษีให้กับแรงงานผู้มีรายได้ต่ำ เจรจาปฏิรูปสังคมสงเคราะห์ บริจาคเงินเพื่อกองทุนเลี้ยงดูเด็กเล็ก ทุนทางจริยธรรมโอบามาได้เรียกร้องให้มีการควบคุมการใช้อาวุธ การก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ริเริ่มให้มีการปฏิรูปกฎหมายการประหารชีวิต เรียกร้องให้ยุติ สงครามอิรักทุนทางความสุข เนื่องจากโอบามาเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง มีความรู้ มีความสุขุมน่าเชื่อถือ มีวาทศิลป์อันยอดเยี่ยม มีทีมกุมซือที่มีประสบการณ์โชกโชนคอยหนุนหลังอยู่ ทุนทางสังคม โอบามา เนื่องจากเป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีให้ความเสมอภาคกับทุกๆคน ทำให้มีกลุ่มเพื่อนมากมาย โดยเฉพาะช่วงที่เป็นสมาชิกวุฒิสภารัฐอิลลินอยส์ มีกลุ่มทีมที่ปรึกษาในการทำงานที่มีความสามารถสูง ทุนทางเทคโนโลยีข่าวสาร เนื่องจากโอบามาเป็นคนรุ่นใหม่ อายุเพียง 47 ปี เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมองการณ์ไกล สังเกตจากการที่มีการเรียกร้องให้ดูแลอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ในการประชุมสภาคองเกรสที่ 110 ทุนทางความรู้,ทักษะ,ทัศนคติ ทักษะและทัศนคติของโอบามา ยกย่องให้เกียรติกับประเทศอื่นๆพร้อมเป็นพันธมิตรแนวร่วม มีความนิ่มนวลมากกว่า Bush เน้นความศรัทรา ประชาธิปไตย ความเสมอภาค โดยกล่าวว่า “ประเทศนี้ไม่มีอเมริกาเสรีนิยม กับอเมริกาอนุรักษ์นิยมแค่นั้น แต่ที่นี่เป็นประเทศสหรัฐอเมริกา”
ส่วนแมคเคน จบโรงเรียนนาวิกโยธินอเมริกา เรียนไม่เก่ง ทุนทางปัญญาแมคเคนไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลง แต่มีการรณรงค์ให้มีการปฏิรูปการเงิน พลังงาน ทุนทางปัญญาของแมคเคน มาจากการเป็นทหารนาวิกโยธิน ผ่านสงครามเวียดนาม จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และตกเป็นเชลยศึกมานานกว่า 5ปีครึ่ง เป็นความทรงจำอันเลวร้ายในชีวิต ทุนทางสังคมของแมคเคน เป็นผู้มีประสบการณ์การเมืองมานานกว่า 20 ปี แต่ถูกสังคมกังขาว่าแก่เกินไป สำหรับการบริหารประเทศ การเป็นคนปากร้ายและอารมณ์ร้อน “Senator Hothead” (วุฒิสภาเลือดร้อน) พร้อมจะเล่นงานทุกคน แมคเคนเป็นคนรุ่นเก่า อายุ 72 ปี ที่เป็นนักอนุรักษ์นิยม ไม่สนใจในเรื่องเทคโนโลยีข่าวสารเท่าใดนัก และนิสัยส่วนตัวค่อนข้างแข็ง
5 K’s (ใหม่) ทุนด้านการคิดสร้างสรรค์ และทางนวัตกรรม โอบามามีแนวคิดที่ให้ความเสมอภาคกับทุกคน เน้นสันติ เป็นมิตรกับทุกประเทศ ไม่คิดว่าประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องสูงกว่าประเทศอื่น มีความศรัทธา เสมอภาค ทุนทางความรู้ จากการเป็นทนายความ จบรัฐศาสตร์ และกฎหมาย ประกอบกันมีทีมงานที่มีประสบการณ์ ทำให้ประเด็นการเรียกร้องความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศและการปกป้องเงินของประชาชนชาวอเมริกา มีความเชื่อมั่นว่าโอบามา มีแผนที่เหมาะสมในการรับมือวิกฤตการเงินได้ดีกว่า ขณะที่แมคเคนจบนาวิกโยธินแห่งสหรัฐอเมริกา ไม่มีประสบการณ์และทีมงานที่แข็งแรง โดยเฉพาะวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจที่เป็นจุดด้อยของเขา ทุนทางอารมณ์ โอบามา เป็นบุคคลที่มีอายุน้อยกว่าแต่มีความสุขุม นุ่มลึกน่าเชื่อถือว่า รวมทั้งมีวาทศิลป์ในการพูด ขณะที่แมคเคนเป็นคนปากร้าย อารมณ์ร้อน ไม่มีความสามารถในการโน้มน้าวคนได้ดีเหมือนโอบามา ทุนทางด้านวัฒนธรรม เนื่องจากโอบามา เป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ได้รับความนิยมในวัยรุ่นที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงและกลุ่มชาวอเมริกันผิวดำ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของ
โอบามา
อภิสิทธิ์ & อภิรักษ์
8 K’s ทุนมนุษย์ อภิสิทธิ์ ปรัชญาทางการเมือง และเศรษฐศาสตร์ออกซ์ฟอร์ด(เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) จบนิติศาสตร์ รามคำแหง และจบป.โท เศรษฐศาสตร์จาก ออกซ์ฟอร์ด มีทุนทางจริยธรรมและทุนทางความสุข มีทีมงานที่พร้อมทำงาน ทุนทางสังคม เป็นคนรุ่นใหม่อายุ 44 ปี เป็นบุคคลที่มีชาติตระกูลดี เป็นนามสกุลพระราชทาน รู้จักการเข้าสังคม การวางตัว ทำหน้าที่เป็นที่ยอมรับในสังคม เป็นหัวหน้าพรรค มีทุนทางเทคโนโลยี จากการที่มี websit เป็นของตัวเอง
อภิรักษ์จบ จบวิทยาศาสตร์ เชียงใหม่ ป.โท พัฒนบริหารทางบริหารธุรกิจ(การตลาด) นิด้า และจบหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับนักบริหาร ฮาวาร์ด สาขาการจัดการขั้นสูง ทุนทางปัญญา อภิรักษ์มีความสามารถในการคิด คิดนอกกรอบ วิเคราะห์สร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถนำทุนมนุษย์ที่มีมีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นที่ประจักษ์ได้รับการยอมรับมากกว่าอภิสิทธิ์ มีทุนทางจริยธรรมและความสุข สามารถนำความรู้ มาใช้ในทางที่ถูกที่ควร ทุนทางสังคม เป็นคนรุ่นใหม่อายุ 47 ปี เป็นบุคคลที่มีชาติตระกูลดี เป็นนามสกุลพระราชทาน รู้จักการเข้าสังคม การวางตัว เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพอีกสมัย โดยเฉพาะมีสปิริตยุติการทำหน้าที่เป็นผู้ว่ากรุงเทพ เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหากรณีซื้อรถดับเพลิง และเรือดับเพลิง ทุนทางเทคโนโลยีข่าวสาร เป็นผู้นำรุ่นใหม่ สังเกตจากการมี website เป็นของตัวเองสามารถติดต่อประชาชนทั่วไปได้โดยตรง
5 K’s (ใหม่) อภิรักษ์เป็นคนรุ่นใหม่มี ทุนด้านการคิดสร้างสรรค์ มีแนวคิดในการบริหารประเทศแนวใหม่ อาศัยประสบการณ์ในการบริหารหลายบริษัท จึงกล้าที่จะฉีดแนวทางการบริหารออกจากผู้ว่ารุ่นเก่า เป็นนวัตกรรม ใหม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ต่างจากอภิสิทธิ์ค่อนข้างเป็นแนววิชาการที่มีแนวคิดการบริหารแบบเดิมๆ จากวัฒนธรรมของนายอภิสิทธิ์ที่เติบโตมาจากประเทศอังกฤษ ค่อนข้างเป็นประชาธิปไตยสูง และผ่านการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีความสุขุม ลุ่มลึกกว่า ขณะที่อภิสิทธิ์ผ่านการทำงานเป็นอาจารย์ และทำงานในบริษัทเอกชนมามากมาย ทำให้มีการใช้วัฒนธรรมการบริหารงานองค์กรแบบนักธุรกิจ คิดเร็วทำเร็ว แต่ทั้งสองคนก็มีทุนอารมณ์ในการจัดการที่สุขุม พูดจา น่าเชื่อถือ และทุนทางความรู้
โทนี่ แบล์ & กอร์ดอน บราวน์
8 K’s ทุนมนุษย์ โทนี่ แบล์ จบออกซ์ฟอร์ด ทุนทางปัญญา ทั้งสองคนรู้จักคิด สังเกตได้จากผลงานของโทนี่ แบล์ เกี่ยวกับกฎหมายสิทธิมนุษย์ชน สนธิสัญญาเบลฟัสต์เป็นข้อตกลงสนติภาพระหว่างอังกฤษกับกลุ่มประเทศไอร์แลนด์ การร่วมกับองค์การนาโดในสงครามโคโซโว ทุนทางจริยธรรม ส่งเสริมการรุกรานอิรัก ร่วมกับอเมริกา ทุนทางความสุข นายโทนี่ แบลร์ เป็นนายกรัฐมนตรี อายุน้อยที่สุด (ชนะเลือกตั้ง 3 สมัย) มีไหวพริบและความฉลาด มองการเมืองเป็นเรื่องแปลกใหม่ ทำงานด้านการเมืองอย่างมีความสุข ทุนทางสังคม อยู่บนถนนการเมือง สร้างการเปลี่ยนสิ่งใหม่ ๆ สร้างความยอมรับจากประชาชนด้วยการปกครองที่เป็นเอกลักษณ์
ทุนมนุษย์ กอร์ดอน บราวน์ จบศิลปศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากเอดินบะระ และป.เอก จากหัวข้อ พรรคแรงงานและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสก็อตแลนด์ มีทุนปัญญาสังเกตจากการนำเสนอข้อตกลงด้านความอดอยากและภาวะฤดูกาลแปรปรวน ณ การประชุมสุดยอด G8 (2548) ทุนทางสังคมนายบราวน์มีคุณสมบัติที่ความน่าเชื่อถือ ประสบความสำเร็จ มีบุคลิกภาพส่วนตัว เช่น การตัดสินใจที่เด็ดขาด ทำตัวติดดิน และซื่อสัตย์กว่า และ สามารถดึงคนให้มาสนับสนุนตัวเองได้ ทุนทางความรู้,ทักษะ,ทัศนคติ นายกอร์ดอน บราวน์มีความเข้าใจปัญหาของอังกฤษ และซื่อสัตย์กว่า นายโทนี่ แบลร์
5 K’s (ใหม่) ทุนด้านการคิดสร้างสรรค์ นายโทนี่ แบลร์ มีไหวพริบและความฉลาด แต่นายกอร์ดอน บราวน์ สามารถความเข้าใจปัญหาของอังกฤษ นำพาเศรษฐกิจเติบโตยาวนานเป็นประวัติการณ์ ทุนนวัตกรรม ทั้งคู่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากแนวคิดที่มีอยู่ได้ ทุนวัฒนธรรม นายโทนี่ แบลร์ มีแนวคิดไม่ต่างจาก บุช ที่เห็นว่า ประเทศอังกฤษ ป็นแนวหน้าที่ใหญ่ รองจากอเมริกา ให้ความสำคัญกับประเทศอื่นน้อยกว่า นายบราวน์ ทุนอารมณ์ นายโทนี่ แบลร์ เป็นคนที่แข็ง กว่า นายบราวน์ มีความน่าเชื่อน้อยกว่า ทุนทางความรู้ ทั้งคู่มีทุนความรู้นายแบลร์มีประสบการณ์เป็นทนายความ ขณะที่นายกอร์ดอน บราวน์ อาศัยประสบการณ์การเป็นรัฐมนตรีการทรวงการคลัง จึงเข้าใจปัญญาด้านเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างดี
สำหรับตัวเอง
เรื่อง 8 K’s มีทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา มีความสามารถในการคิด คิดนอกกรอบ วิเคราะห์สร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถนำทุนมนุษย์ที่มีมีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ทุนทางจริยธรรม เป็นผู้มีจริยธรรม รู้สิ่งใดถูกที่สิ่งใดควร ทุนทางความสุข มีความสุขกับการทำงาน ทุนทางสังคม รู้จักการเข้าสังคม การวางตัว ทุนทางเทคโนโลยีข่าวสาร อายุยังน้อย มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ ทุนทางความรู้,ทักษะ,ทัศนคติ ทั้งสองมีทัศนคติในการทำงาน 5 K’s (ใหม่) เป็นคนรุ่นใหม่ มีทุนด้านการคิดสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม มีวัฒนธรรมการทำงานแนวใหม่ คิดเร็วพูดเร็วทำเร็ว ทุนอารมณ์ ยังขาดความสุขุม น่าเชื่อถือ มีทุนทางความรู้
ส่วนการพัฒนาองค์กรของสำนักงานเศรษฐกิจกิจแบบ Ram Charan เราควรสร้างและสนับสนุนให้เกิดผู้นำในทุกระดับ โดยเฉพาะผู้นำที่อายุยังน้อย ทั้งระดับผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน เพราะแต่ละฝ่ายงานย่อมมีหน้าที่งานและความชำนาญงานที่แตกต่างกัน ผู้นำในแต่ละส่วนจะได้เป็นตัวแทนการทำงาน กล้านำเสนอสิ่งใหม่ๆ เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ หลายมุม จึงจะสามารถพัฒนาองค์กรให้ทันกับยุคสมัย โดยจะต้องมองจุดเด่นและให้โอกาสในการพัฒนาส่วนนั้นของผู้นำแต่ละบุคคลอย่างต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ผู้นำมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้ว การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ควรจะต้องยกระดับทั้งองค์กร ยกทั้งฐาน ไม่ควรสร้างผู้นำที่โดดเด่นแต่เพียงอย่างเดียว
นายโฆสิต วิโรจน์เพ็ชร์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
วิเคราะห์ตามหลักทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K’sและทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 5 K’s (ใหม่)
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท ด้านเศรษฐศาสตร์ และจบนิติศาสตร์ เป็นผู้มีประวัติตระกูลและบุคคลในวงค์ตระกูลที่เป็นแบบอย่างที่ดี คุณปู่และคุณพ่อเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พี่สาวเป็นแพทย์หญิง ภรรยาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย มีความรักและความอบอุ่นในครอบครัวจึงเป็นสิ่งน่าภาคภูมิใจจึงมีแรงบันดาลใจดำรงตนเป็นคนดีของสังคม ทางสังคม สมาชิสภาผู้แทนราษฏ์ร เคยเป็นอาจารย์สอนในสถาบันการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศและปัจจุบันผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร์ เป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ให้กับสังคมผลงานเช่น การจัดทำพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 จัดทำก.ม.การกระจายอำนาจแก่ท้องถิ่น การเสนอกม.ฮั้วประมูลเป็นความผิดทางอาญา ก.ม.ศาลปกครอง กกต.เป็นต้น ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีสืบทอดต่อเนื่องจากครอบครัว ญาติพี่น้องที่ประพฤติปฏิบัติสืบทอดกันมา ใฝ่ศึกษาหาความรู้ต่างๆ เช่นรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสังคมเช่นเข้าร่วมเป็นผู้ยกร่างมีพรบ.การศึกษา มีความสามารถในการนำเสนอปลุกเร้าอารมณ์ผู้ฟังให้มีความคิดเห็นคล้อยตามและการทำงานอย่างมีหลักการใช้เหตุผล ให้ความเคารพในการตัดสินใจของผู้ทำงานร่วมกัน เข้าใจในบหบาทหน้าที่ของตนและผู้อื่น
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน
วิเคราะห์ตามหลักทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K’sและทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 5 K’s (ใหม่)
นายอภิรักษ์ โกษะโยธินเรียนจบปริญญาตรีด้าน ว.ท.บ.และปริญญาโทด้านบริหารการตลาด เข้าศึกษาอบรมในหลักสูตรอบรมนักบริหารสาขาจัดการระดับสูงของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ตระกูลและบุคคลในวงค์ตระกูลที่เป็นแบบอย่างที่ดีคุณปู่รับราชการทหารยศพันโท บิดาเรียนจบวิศวะและรับราชการ จึงเป็นที่น่าภาคภูมิใจจึงมีแรงบันดาลใจดำรงตนเป็นคนดีของสังคม ด้านสังคมเป็นอาจารย์พิเศษสอนในมหาวิทยาลัยทั้งในภาครัฐและเอกชนหลายสถาบันเช่น ม.จุฬาฯ , ม.ธ. , ม.ช., ม.ก. เป็นต้น การทำงานเคยดำรงด้านการบริหารงานในภาคเอกชนถึงระดับCEOเช่น ผจก.ฝ่ายการตลาดบริษัทเป๊ปซี่ – โคล่า , ผ.อ.การขายและการตลาดของเป๊ปซี่ ภาคพื้นเอเชีย CEO บริษัททีเอออเร้นท์จำกัด ด้านการเมืองเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครปี2547 และปีปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
การทำงานอย่างมีหลักการใช้เหตุผลตัดสินใจในการทำงาน มีความอ่อนน้อมอารมณืนิ่มนวลและสามารถทำงานประสานความร่วมมือกับบุคคลต่างได้ดี
นายโทนี แบลร์
วิเคราะห์ตามหลักทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K’sและทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 5 K’s (ใหม่)
นายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษและหัวหน้าพรรคแรงงาน จบการศึกษาจบระดับปริญญาตรี บิดาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย สถานะทางสังคมโทนี แบลร์ เป็นหัวหน้าพรรคแรงงานและเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานคนเดียวที่สามารถชนะการเลือกตั้งได้ถึง 3 สมัยติดต่อกันเนื่องจากประชาชนอังกฤษมีความเชื่อมั่นและชื่นชอบในการทำงานของเขา ในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ผ่านเหตุการณ์ณ์สำคัญๆเช่น เข้าร่วมกับองค์การนาโต้ในสงครามโคโซโว ออกกฎหมายสิทธิมนุษยชน เข้าร่วมทำสงครามกับสหรัฐอเมริกาเป็นกำลังหลักในสงครามอิรัค ต่อมาความนิยมในตัวเขาลดลงจนเขาต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษเนื่องจากการเข้าร่วมทำสงครามอิรัคกับสหรัฐอเมริกาโดยไม่มีหลักฐานชัดเจนตามที่กล่าวหาก่อนการเข้าสงคราม
นายกอร์ดอน บราวน์
วิเคราะห์ตามหลักทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K’sและทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 5 K’s (ใหม่)
นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบันหลังจากที่นายโทนี แบลร์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อดีตเคยดำรงตำแหน่งรมต.กระทรวงการคลัง รมต.สวัสดิการสังคม บิดาเป็นผู้นำศาสนาคริสซึ่งมีอิทธิพลต่อทุนด้านจริยธรรม บราวน์จบการศึกษาสูงสุดปริญญาเอก ขณะดำรงตำแหน่งรมต.กระทรวงการคลัง 10 ปี ได้รับการยกย่องความสำเร็จในการนำพาเศรษฐกิจอังกฤษเติบโตยาวนานเป็นประวัติการณ์ นายกอร์ดอน บราวน์ ได้เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อนายโทนี แบลร์ ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี แสดงถึงการยอมรับของคนในพรรคและสังคม
นายบาราก ฮุนเซน โอบามา
วิเคราะห์ตามหลักทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K’sและทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 5 K’s (ใหม่)
นายบาราก ฮุนเซน โอบามา จบการศึกษาด้านกฎหมาย และด้านรัฐศาสตร์มีประสบทำงานกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ธุรกิจระหว่างประเทศ จากหนังสือที่เขาเขียนเล่าถึงตัวเขาเองในอดีตเป็นเด็กมีปัญหาทางด้านสังคมเนื่องจากเป็นสีผิว ขาดหลักการของศาสนาชี้นำชีวิตทำให้เขาเคยใช้ยาเสพติด แต่สุดท้ายเขาสามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้กลับมาประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี กลับมาศึกษาเล่าเรียน ด้านสังคมเป็นอาจารย์สอนด้านกฎหมายในมหาวิทยาลัย เขาเป็นคนคนผิวดำแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานของ Harvard Law Reveiew ในรอบศตวรรษ ต่อมาได้รับเลือกเป็นตัวแทนวุฒิสมาชิกสภาสูงของรัฐ นายโอบามาแต่งงานแล้วมีครอบครัวที่มีความสุขเขามีลูก2 คน นวตกรรมที่เขาสร้างขึ้นคือการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของเขาผ่านหนังสือที่เขาเขียนขึ้นเกี่ยวข้องกับตัวเขาในช่วงของการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกัน เพื่อให้ประชาชนอเมริกันได้คิดละพิจารณ์ถึงเหตุผลการเลือกเขามาเป็นประธานาธิบดี อกจากนี้เขายังมีวาทศิลป์ที่ปลุกเร้าอารมณ์ผู้ฟังให้ประทับใจ ท่าทางที่สุขุมนิ่มนวล พฤติกรรมเข้ากับคนได้ทุกระดับชั้น และจากการแสดงว่าเขาเข้าใจในปัญหาปัจจุบันของประเทศอเมริกา จากการกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุมพรรคเดโมแครตประจำปี2004ทำให้ชาวเดโมแครตรวมทั้งสื่อมวลชนและประชาชนมีความประทับใจสร้างแรงบันดาลใจสนับสนุนเขาให้เข้ารับเลือกการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน ตลอดจนมีวิธีการนำเสนอตนเองต่อชาวอเมริกันว่าถ้าต้องการจัดการกับปัญหาของอเมริกาโดยแนวทางใหม่สามรถจัดการกับปัญหาได้ ให้เลือกเขาเพื่อเขาจะได้นำวิสัยทัศน์ของเขาไปกำหนดเป็นวาระของชาติ กำหนดนโยบายการบริหารงานนำพาอเมริกาไปสู่ความรุ่งเรืองและมั่นคง สามารถอยู่ร่วมกับประเทศอื่นๆได้อย่างมิตร
นายโฆสิต วิโรจน์เพ็ชร์
วิเคราะห์ตามหลักทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K’s
ทุนมนุษย์นายนายโฆสิต วิโรจน์เพ็ชร์ ด้านจบการศึกษาระดับปริญญาตรีว.ท.บ.(เกษตรศาสตร์) ผ่านการอบรมด้านสถิติเบื้องต้น ด้านงานวิจัย ด้านติดตามประเมินผล การจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับจังหวัด การนำเสนอ ผ่านหลักสูตรการอบรมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลักสูตร “ ทรัพยากรมนุษย์มีความสามารถพิเศษสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรก้าวไกล ”
ทุนจริยธรรมเป็นผู้มีประวัติตระกูลและบุคคลในวงค์ตระกูลที่เป็นแบบอย่างที่ดี คุณปู่รับราชการทหารเป็นเจ้ากรมแผนที่ทหารกองทัพบกในสมัยนั้นและบิดารับราชการเป็นนายทหารเรือ ตลอดจนญาติผู้ใหญ่รับราชการทั้งสายทหาร สายพลเรือนและอาจารย์มหาวิทยาลัยและทุกท่านรับราชการด้วยความซื่อสัตย์ เสียสละ มารดาก็เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการเป็นภรรยาผู้สนับสนุนสามีในการทำงาน ดูแลครอบครัวและดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุตร จึงเป็นแรงบันดาลใจและภาคภูมิใจให้ดำรงตนเป็นคนดีของสังคม ตามต้นแบบที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา
ทุนทางสังคมการปฏิบัติงานในสังคมกับผู้อื่นมุ่งหวังะการทำงานให้สำเร็จทั้งในด้านคุณภาพ ด้านปริมาณและด้านเวลา การทำงานสร้างความประทับใจให้กับผู้รับบริการ ผู้ที่ปฏิบัติงานร่วมกันในสังคมต่างหน่วยงานให้ความสนับสนุนการปฏิบัติงานด้วยดีเมื่อมีการขอร้องให้สนับสนุน ตลอดจนการให้บริการกับผู้มาเยือนติดต่อราชการก็สนับสนุนให้ความสะดวกในการขอรับบริการได้สร้างความประทับใจกับผู้มาขอรับบริการไม่ว่าจะเป็นการให้บริการสายตรงกับงานที่รับผิดชอบหรืองานที่ไม่ตรงกับสายรับผิดชอบ ตลอดจนสังคมการทำงานในหน่วยงาน งานทั้งในด้านราชการและนอกราชการ เมื่อมีการขอให้ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติก็จะทำการให้ความสนับสนุนตามกำลังความสามารถ
ทุนทางIT สามรถใช้ระบบโปรแกรมขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ได้ ตลอดจนโปรแกรมที่ใช้งานภายในกลุ่มงานสามารถควบคุมและสอนให้กับผู้อื่นนำไปปฏิบัติต่อให้เกิดผลดีกับงานที่รับผิดชอบ ตลอดจนเข้าใจในแนวคิด หลักการของเนื้องานที่รับผิดชอบ
ทุนแห่งความยั่งยืน วิธีการปฏิบัติงานยังคงยึดถือแนวทางการปฏิบัติที่จะสนับสนุนการทำงานในส่วนรับผิดชอบให้ดีและประทับใจผู้ขอรับบริการและหาวิธีการพัฒนางานให้ดีขึ้น
ทุนความรู้ ทักษะและทัศนคติเป็นผู้มีความรู้ในงานที่บริหารจัดการมามากกว่า 25 ปีและได้ใช้ประสบการณ์การทำงานในการถ่ายทอดแนวคิดการทำงานและการแก้ไขปัญหาภาคสนามและสำนักงานแก่ทีมงานเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการทำงาน ตามสุภาษิตจีนที่ว่า “ จับปลาให้เขากินแล้ว ต้องสอนให้ขับปลากินเองด้วย ”
ทฤษฏีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 5 K’s (ใหม่)
ทุนทางวัฒนธรรม บรรพบุรุษประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี ซื่อสัตย์เสียสละต่อการทำงานทั้งในหน้าที่และชีวิตส่วนตัวและได้สั่งสอนสืบต่อกันมาสู่รุ่นลูกหลานเป็นตัวอย่างที่ดีที่สังคมที่รู้จักให้ความเคารพยกย่อง วัฒนธรรมการทำงาน
พยายามสร้างค่านิยมแนวคิดการทำงานอย่างมีเป้าหมายและมีความสุขกับการทำงาน การทำงานอย่างท้าทาย
ทุนทางความรู้และทุนแห่งการสร้างสรร ชอบศึกษาอ่านหนังสือ ข่าวสารที่น่าสนใจต่อการพัฒนาสังคม การพัฒนางาน การพัฒนาความรู้ และการพัฒนาตนเอง และได้นำความรู้ความคิดใหม่ๆมาพัฒนาตนเองและทีมงานเช่น การทำงานอย่างมีเป้าหมาย เสนอการพิจารณาความชอบโดยใช้การวัดเชิงประจักษ์ทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณกับหน่วยงานที่
ทุนทางนวตกรรม การทำงานโดยการมีใบงานเพื่อแสดงผลงานเชิงประจักษ์ทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
ทุนทางอารมณ์ สร้างการทำงานร่วมกันโดยการร่วมคิด ร่วมทำ สร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยการทำงาน การสื่อสาร
สรุปการสร้างผู้นำองค์กรของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรตามแบบ “ Ram Charan ”
ตัวอย่างIdentify ผู้นำตั้งแต่อายุน้อย เช่น 30- 35 ปี , ศึกษาว่าเขาเก่งทางใด , พัฒนาต่อเนื่อง , ดูแลเขาตลอดเวลาของการพัฒนา เสมือนการทำวิทยานิพนธ์ งานวิจัย เพื่อปลูกฝังและพัฒนา ในความเป็นจริงอาจทำไม่ได้เพราะ ขรก.มีความขาดช่วงการรับเข้ามาทำงาน ถ้าสศก.มีความมุ่งหวังจะทำอย่านี้จริงจะต้องเริ่มตั้งแต่การวางสเปคของคนที่จะเข้ามาทำงานในแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่าย และดำเนินการคัดเลือกคนอย่างจริงจัง คนเองต้องมีความสมัครใจที่จะรับการพัฒนา เปรียบเสมือมการให้ทุนคนไปเรียนต่อต่างประเทศโดยมีเงื่อนไขว่าเรียนจบแล้วต้องกลับมาช่วยกันสร้างและพัฒนาองค์กรให้ดีขึ้นไปอีก มิใช่ว่าเรียนจบกลับมาแล้วขอโอนย้ายไปอยู่ที่ทำงานอื่น หรืออยู่เพียงแค่ใช้เวลาทุนเสร็จก็โอนย้ายไปอยู่ที่อื่น คนที่เข้าหลักสูตรการสร้างและพัฒนาจะต้องมีระบบคัดกรองเหมือนนักเรียนที่จะเข้าไปเรียนแพทย์ ต้องผ่านการฝึกงานให้เห็นสภาพการทำงาน ลักษณะ กิจกรรมที่ต้องทำภายในหน่วยงานนั้นมีการเฝ้าดูให้คะแนนการทำงานจากหลักเกณฑ์ที่เชื่อว่าสามารถบอกถึงคุณลักษณะภายนอกของคนๆนั้น และผ่านการสัมภาษณ์มีเครื่องมือสัมภาษณ์( เช่นแบบทดสอบที่บอกถึงลักษณะภายในของคนได้ ) โดยเชิญนักสัมภาษณ์มืออาชีพที่สามารถค้นหาคุณลักษณะภายในของคนๆนั้นว่ามีความเหมะสมกับการทำงานลักษณะนี้หรือไม่ เพราะอดีตที่ผ่านมาการคัดเลือกคนดูจากวุฒิการศึกษา มิได้มีการสอบประวัติการทำงานลักษณะนิสัยการทำงาน การดำรงตน การทำงานร่วมกัน สภาพจิตใจคุณธรรมจริยธรรม ส่งผลให้ได้บุคคลที่มีความรู้แต่ขาดความตั้งใจทำงานอย่างแท้จริง ได้คนที่ทำงานอย่างขรก.สมัยเดิมที่มีค่านิยมเหมือนเดิมไม่มีการพัฒนาเพื่อความเจริญก้าวหน้าขององค์กร หรือได้คนที่ตั้งใจทำงานแต่มาอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ดูแลที่สอนค่านิยมผิดๆให้ เช่นอย่างไปทำงานมากนักเลยเหนื่อย ทำบ้างพักบ้างดีกว่า หรือ ไม่มีงานทำนายถามก็บอกมีงานมาก นายเองก็ไม่เคยติดตามการทำงานลูกน้อง เสมือนน้ำที่ดีจึงเริ่มกลายเป็นน้ำเสียในที่สุด สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของสศก. ควรมีการคัดกรองคนเพื่อการพัฒนา 40 – 50 ปี โดยความสมัครใจก่อน สร้างใบเชิญชวน ผลตอบแทนความก้าวหน้าถ้าสามรารถทำงานได้ถึงเป้าที่ตั้งไว้และคัดกรองโดยการดูจากประวัติการทำงาน คุณลักษณะนิสัย ความตั้งใจ จัดทำแผนพัฒนาสร้างคนตอบสนองงานเพื่อเป็นกำลังหลัก ทั้งในด้านสายเสธ สายควบคุมการปฏิบัติงาน และสายปฏิบัติงาน โดยจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาคนที่มีอยู่ปัจจุบันแยกตามสายงานให้ชัดเจน มีการติดตามประเมินผลอย่างจริงจัง การให้คุณและโทษเป็นไปตามผลงาน มีการกำหนดตัวชี้วัดไว้ชัดเจน ระบบต้องโปร่งใสและเป็นธรรม เสมือนการจำลองวิธีการขายตรงของธุรกิจแอมเวย์ ส่วนยุทธศาสตร์การพัฒนาคนเข้ามาใหม่ ควรกำหนดสเปคคนที่ตรงกับงานให้ชัดเจน มีการทำงานอย่างมืออาชีพหรือเคยผ่านงานด้านนี้มาก่อนพิจารณาเป็นพิเศษ คัดคนต้องทำเพื่อองค์กรมากกว่าการเล่นพวก เกณฑ์วัดต้องโปร่งใสและเป็นธรรม ต้องนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ ( หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักทรัพยากร )
สุดท้าย
1.การเป็นผู้นำต้องเข้าใจคำว่าผู้นำคืออะไร ใช่ผู้บริหารหรือไม่
2.ผู้นำของสศก.ในลักษณะงานนั้นๆควรมีคุณลักษณะใดที่พึงประสงค์โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมและจริยธรรม
3.ความโปร่งใสของการคัดเลือกคนมีเพียงพอแล้วหรือยัง หรือยังคงใช่ระบบอุปถัมย์ เช่น การคัดเลือกคนเข้าทำงาน ไม่ควรบอกคณะกรรมการคัดเลืกให้รู้ว่าบุคคลที่มาเข้ารับการสัมภาษณ์มีความเกี่ยวพันกับท่านใด ให้คณะกรรมการมีอิสระในการตัดสินใจคัดเลือกคนเข้าทำงานที่ตรงสเปคงานมากที่สุด คณะกรรมการเองก็ต้องมีความสามารถที่จะคัดกรองคนมากกว่าพวกมากลากไปสามรถแสดงข้อความที่ใช้และวิธีการตัดสินได้
บุษฎีรมณ์ ลมูลศิลป์
|
อภิสิทธิ์ |
อภิรักษ์ |
||||
|
8 K's |
5 K's |
8 K's |
5 K's |
||
|
Human Capital |
|
Human Capital |
Creativity Capital |
||
|
Intellectual Capital |
Knowledge Capital |
Intellectual Capital |
Knowledge Capital |
||
|
|
Innovation Capital |
Social Capital |
Innovation Capital |
||
|
|
|||||
|
|
Cultural Capital - 5 K's |
|
|||
|
|
Ethical Capital-8 K's |
|
|||
|
|
Happiness Capital-8 K's |
|
|||
|
|
Sustainability Capital-8 K's |
|
|||
|
|
Digital Capital-8 K's |
|
|||
|
|
Talented Capital-8 K's |
|
|||
อภิสิทธิ์ มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี Human Capital จบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างประเทศ Knowledge Capital เป็นนักการเมืองที่มีอายุน้อย และนักการเมืองรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง Intellectual Capital ซึ่งจากการที่นายอภิสิทธิ์มีบุคลิกลักษณะสุภาพ นุ่มนวล การให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างมีหลักการ ทำให้เป็นที่น่าเชื่อถือ แต่มีข้อจำกัดบางประการ เช่นประสบการณ์ทางการเมืองและขาดความเข้าใจในพื้นฐานของสังคมไทยที่ชัดเจน Cultural Capital ทำให้การสื่อสารเข้าใจยาก
อภิรักษ์ มาจากต้นตระกูลข้าราชการทหาร พื้นฐานครอบครัวดี อยู่ในกฎระเบียบ (Human Capital) การศึกษาจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาโทจากสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (Knowledge Capital) และเป็นนักการตลาดฝีมือดี มีประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายในวงการธุรกิจสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทที่เคยร่วมงานมาในอดีต ซึ่งที่ผ่านมาทำให้เห็นว่านายอภิรักษ์มีทุนแห่งการสร้างสรรค์ Creativity Capital มีจิตแห่งการคิดสร้างสรรค์ คิดและกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความแตกต่าง
ในทางการเมืองนายอภิรักษ์มีโครงการต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายจากแนวคิดสร้างสรรค์ Creativity Capital และผลที่ได้นั่นคือ Innovation Capital คือ ออกจากกรอบแนวคิดเดิมๆ คิดริเริ่ม สร้างสรรค์นโยบาย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้คนเมืองหลวง ในรูปโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้หากมีชื่อโครงการที่จะพัฒนาบ้านเมืองเกิดขึ้นมาแล้ว จะต้องปฏิบัติได้จริงและตรงประเด็น เกิดประโยชน์กับคนส่วนรวม ไม่เช่นนั้นมีคำถามตามมาอย่างแน่นอน......
ไม่ว่าจะเป็นการเมืองในยุคใดก็ตาม จะขาดทุนทางจริยธรรม (Ethical Capital) ไม่ได้ โดยจะเห็นตัวอย่างในอดีตชัดเจนว่า ความซื่อสัตย์สุจริตเป็น คุณธรรมประการสำคัญที่จะทำให้เกิดความเคารพนับถือ บุคคลที่มีความรู้ดี สติปัญญาดี แต่ขาดคุณธรรม จะทำให้เกิดความหายนะกับประเทศชาติได้ ฉะนั้น ทุนทางจริยธรรมหากมีในสังคมใด ย่อมทำให้เกิดความผาสุกนั่นคือ ทุนทางความสุข (Happiness Capital)สุดท้ายทุนแห่งความยั่งยืน (Sustainability Capital) จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่ามีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัตน์ ความร้อนแรงของเหตุการณ์บ้านเมือง การแข่งขันทางธุรกิจ และภัยคุกคามต่าง ๆ เพราะฉะนั้นการเป็นผู้นำ ที่จะต้องนำคนทั้งประเทศให้ผ่านวิกฤติไปได้นั้น ต้องเข้าใจในวัฒนธรรมไทย พื้นฐานของสังคมไทย - Cultural Capital และมี Talented Capital พัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนให้ได้ เพื่อความอยู่รอดและแข่งขันได้ในโลกยุคไร้พรมแดน
สำหรับ Obama เป็นคนหนุ่มไฟแรงลูกครึ่งมีแนวนโยบายเสรีนิยม เน้นความมั่นคงร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย สังคมมีความเป็นธรรมและมั่นคงปลอดภัย แสดงถึงศักยภาพด้านทุนแห่งความยั่งยืน Sustainability Capital และทุนจริยธรรม Ethical Capital ในขณะที่ McCain ไม่มี
ส่วน McCain ถอดแนวนโยบายตามแบบฉบับของ Bush ซึ่งเป็นพวกอนุรักษ์นิยม เน้นการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ซึ่งเน้นเป้าไปที่ประเทศเผด็จการ ในแถบเอเชียก็คือ เกาหลีเหนือ จีน และพม่า ด้านเศรษฐกิจการค้า McCain จะทำให้อเมริกาเป็นผู้นำเศรษฐกิจและเป็นผู้นำในการเปิดเสรีการค้าในเอเชีย จะเห็นว่า McCain ไม่ได้มีการส่งสัญญาณที่จะบรรเทาความรุนแรงต่าง ๆ ที่ผ่านมาในอดีต และยังคงมีจุดยืนแบบเดิม
|
Gordon Brown |
Tony Blair |
|
- ร่วมเป็นพันธมิตรผูกติดกับประเทศมหาอำนาจในกรณี สงครามอิรัก - ที่สุดในชีวิตของการเป็นนายกรัฐมนตรี ได้สละ และวางมือออกจากตำแหน่ง |
|
Gordon Brown มีความฉลาด คิดวิเคราะห์ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ -Intellectual Capital และได้ทุ่มงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับประเทศได้ - Creativity Capital ทำให้ประเทศ ผ่าวิกฤตและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง -Innovation Capital แต่ปัญหาที่ตามมาคือ งบประมาณของภาครัฐขาดดุล และขาดเสถียรภาพในระยะยาว ในภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรง Sustainability Capital-8 K's |
|
|
ประยุกต์เชื่อมโยงการเตรียมความพร้อม โดยสร้างความสามารถ (competency) ให้เกิดขึ้นกับตนเอง พัฒนาศักยภาพของตนเองในด้าน Intellectual Capital ฝึกคิด วิเคราะห์ให้เป็น ซึ่งไม่ได้หมายความว่า จะผิดพลาดหรือล้มเหลวไม่ได้ แต่หากผิดพลาดถือเป็นบทเรียนที่จะต้องนำมาหาทางแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง ใฝ่รู้ที่จะพัฒนา ริเริ่ม กล้าคิดสิ่งใหม่ ๆ เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด พัฒนาตนให้เกิด Creativity Capital มีทัศนคติที่ดี คิดบวก - Talented Capital เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอและที่สำคัญต้อง Execution |
พัฒนาองค์กรของสำนักงานเศรษฐกิจเกษตร การสร้างผู้นำในองค์กรแบบ Ram Charan สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มี Shared Value "PROUD to be OAE"
O = Openness : การเปิดกว้าง ปัจจุบันสำนักงานเศรษฐกิจมีสภาพแวดล้อมที่ดีเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงาน-ทฤษฎี 4L's และในระยะยาวต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้ออำนวยเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และตื่นตัว
A = Awakening : การตื่นตัวและตื่นรู้ ซึ่งพนักงานทุกคนควรจะต้องพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ในตนเอง - Compencies ทุนมนุษย์ด้านต่าง ๆ ความรู้ ทักษะในการปฏิบัติงาน ความสามารถ ประสบการณ์ และค่านิยม จะต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Energize ผลักดันพลังให้เกิดกับเพื่อนร่วมงาน
E = Effectiveness : การมีประสิทธิผล ต้องมีแรงจูงใจ ให้กับทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร อันเป็นกลไลและพลังขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ พบว่าแผนยุทธศาสตร์ล้มเหลวนั้นเป็นเพราะขาดการดำเนินงานตามแผนที่ดี ซึ่งแรงจูงใจที่จะทำให้บุคลากรดำเนินการตามแผนได้นั้นต้องมีปัจจัยสนับสนุน อันได้แก่ การเพิ่มพูนความรู้อย่างต่อเนื่อง การมีส่วนร่วมและแรงบันดาลใจจากผู้นำ ตลอดจนทีมที่มีศักยภาพ
ที่สำคัญในระยะยาว คือ การสร้างความเชื่อและพฤติกรรมของคนในองค์กร ให้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ และนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายในอนาคตร่วมกัน..อย่างยั่งยืน
ขอขอบคุณ ท่านอาจารย์จีระ ที่จุดพลังใฝ่รู้อีกครั้ง ทำให้ตื่นตัว และเชื่อว่าเป็นประโยชน์ที่จะทำให้เกิดแนวคิดดีๆเพื่อพัฒนาตนเองต่อไป
ขอบคุณ ทุก ๆ ความเจ็บปวดทั้งภายใน..และ...นอกองค์กร
ขอบคุณ " Pain is Gain "
ศุภกรณ์ พุทธินันท์
สวัสดีครับอาจารย์
จากโจทย์ที่ท่านอาจารย์ได้ให้แสดงความคิดเห็นในการวิเคราะห์ผู้นำทั้ง 3 คู่ โดยอาศัยทฤษฎี 8K’s และ 5K’s(ใหม่) ผมเห็นว่า ทฤษฎีทั้ง 2 นั้น จริงๆแล้วเป็นพื้นฐานที่ผู้นำทุกคนต้องมี ซึ่งในมุมมองของผมคิดว่า 8K’s และ 5K’s(ใหม่) ไม่แตกต่างกัน และคงไม่ต้องอธิบายถึงรายละเอียดของทั้ง 2 ทฤษฎีซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ได้แสดงรายละเอียดไว้ครบถ้วนอยู่แล้วรวมถึงข้อมูลพื้นฐานของผู้นำทั้ง 6 ท่าน ทฤษฎีทั้ง 2 ครอบคลุมพื้นฐานด้านต่างๆที่ผู้นำจะต้องนำมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาหรือปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับมุมมองและแนวคิดของผู้นำแต่ละคน แต่ท้ายที่สุดภาวะผู้นำ ก็จะเกิดขึ้นจาก การที่คนในสังคมให้การยอมรับในตัวของผู้นำนั่นเอง
เมื่อวิเคราะห์ผู้นำ 3 คู่นั้น จะเห็นว่าทุกท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งแสดงถึงภาวะในการเป็นผู้นำที่สังคมให้การยอมรับและกล่าวถึง อย่างน้อยสิ่งที่เหมือนกันก็คือทุกท่านมีพื้นฐานของการเป็นผู้นำตามทฤษฎี มีความโดดเด่นในแต่ละเรื่องมาก-น้อยต่างกัน บางท่านอาจจะโดดเด่นในเรื่องหนึ่ง แต่มีข้อด้อยในบางเรื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทุกคน จึงเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าใครดีกว่าหรือเก่งกว่าใคร แต่การที่สังคมให้การยอมรับและให้โอกาสบุคคลเหล่านี้มีบทบาททำหน้าที่ในฐานะผู้นำ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อว่า ผู้นำที่มีศักยภาพ
จะทำให้สังคมนั้นเจริญรุ่งเรืองและสร้างความพึงพอใจให้ทุกคนในสังคม ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้นำไปสู่ผลงานที่ได้รับการยอมรับ ดังนั้นข้อคิดที่ได้จึงน่าจะเป็นการพิจารณาลักษณะเด่นของผู้นำแต่ละคน เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อตัวเราและสังคม
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น เป็นการอธิบายให้เห็นถึงที่มาและความสำคัญของผู้นำ ซึ่งจำเป็นต้องมีพื้นฐานตามแนวฤษฎี 8K’s และ 5K’s(ใหม่) จากนั้นเมื่อวิเคราะห์ถึงเรื่องที่ต่อเนื่องกันนั่นคือ วิธีการที่จะสร้างผู้นำ โดยอาจกล่าวได้ว่า สศก. รวมถึงหน่วยงานภาครัฐอื่นๆในปัจจุบันจะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ให้เหมาะสมกับความถนัดและความต้องการของบุคลากร เพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำงาน ตามแนวคิดของ Ram Charan ซึ่งอาจเป็นผลมาจากแนวนโยบายในการลดขนาดองค์กรภาครัฐ หรือแม้กระทั่งนโยบายการเปลี่ยนแปลงระบบบริหารงานราชการ ซึ่งจะเริ่มใช้เร็วๆนี้ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงขององค์กร จึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องได้รับความร่วมมือจากบุคลากรที่เกี่ยวข้อง กิจกรรมการเรียนรู้และวิธีคิดเพื่อพัฒนาตนเอง รวมถึงการติดตามประเมินผล จึงเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาความคิดอย่างสม่ำเสมอ
เรียน อ. จีระ หงส์ลดารมย์
ไม่ได้แก้ตัว แต่ขออภัยอย่างยิ่งที่ส่งงานช้า เพราะมีงานอื่นที่ได้จัด priority ไว้แล้ว
ทฤษฎีการพัฒนาทุนมนุษย์
|
8 K’s 1. ทุนมนุษย์ (Human Capital) 2. ทุนทางปัญญา (Intellectual Capital) 3. ทุนทางจริยธรรม (Ethical Capital) 4. ทุนแห่งความสุข (Happiness Capital) 5. ทุนทางสังคม (Social Capital) 6. ทุนแห่งความยั่งยืน (Sustainability Capital) 7. ทุนทาง IT (Digital Capital) 8. ทุนทางความรู้ ทักษะ ทัศนคติที่ดี (Talented Capital) |
5K’s 1. ทุนแห่งการสร้างสรรค์ (Creativity Capital) 2. ทุนแห่งความรู้ (Knowledge Capital) 3. ทุนทางนวัตกรรม (Innovation Capital) 4. ทุนทางวัฒนธรรม (Creativity Capital) 5. ทุนทางอารมณ์ (Emotion Capital)
|
Obama/ McCain
Obama มีความโดดเด่นในด้านบุคลิก สุขุม คล่องแคล่ว ยิ้มแย้มแจ่มใส จริงใจเข้ากับคนได้ทุกชนชั้น มีการศึกษาสูงถึงระดับปริญญาเอก มีความกล้าที่จะนำการเปลี่ยนแปลง มีความคิดทันสมัย นำ IT มาใช้ประโยชน์ในการหาเสียง ทำให้เขาได้คะแนนนิยมจากบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวอเมริกัน มีทุนทางการสร้างสรรค์ นวัตกรรมและความรู้ เคยทำงานให้ความช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันมีคุณธรรมจริยธรรมมีความสามัคคีและต่อต้านการใช้ความรุนแรงและการเหยียดสีผิว
McCain มีประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชนมานาน ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม เคยเป็นทหารนาวิกโยธิน และออกสงคราม เคยสมัครแข่งขันตำแหน่งประธานาธิบดี แต่แพ้ประธานาธิบดี บุช คนปัจจุบัน McCain เป็นผู้อาวุโส มีทุนทางสังคม และทักษะความรู้มาก มีประสบการณ์สูง
Gordon Brown / Tony Blair
Blair เป็นนายกฯ อังกฤษ มานานถึง 3 สมัย ดำรงตำแหน่งนานกว่า 10 ปี และเพิ่งประกาศลาออกเมื่อปี 50 Blair ให้ความสำคัญทางด้านการศึกษา การคุ้มครองผู้บริโภคและการค้าเสรี เข้ามาทำงานในพรรคการเมืองขณะอายุยังน้อยจนได้เป็นนายกฯอังกฤษที่มีอายุน้อยที่สุด Blair เป็นผู้มีพื้นฐานการศึกษาดี มีความคิดสร้างสรรค์มองการไกลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีสังคมกว้าง มีบุคลิกยิ้มแย้มแจ่มใสจัดได้ว่าเป็นผู้ทุนแห่งความสุข และทุนทางสัมคมสูงแต่ความกล้าตัดสินใจเข้าร่วมกับสหรัฐในสงครามอิรักเป็นสาเหตุกดดันให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง
Brown เป็นนายกฯอังกฤษ คนปัจจุบันต่อจาก Blair Brown เป็นเพื่อนร่วมสมัยทำงานในพรรคเดียวกันกับ Blair มาตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม และเคยเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาลของ Blair มาก่อน แต่จะมีบุคลิกที่เงียบขรึมกว่าขาดเสน่ห์ อาจเพราะเขามีปัญหาเรื่องตาที่บอดเพราะประสบอุบัติเหตุ Brown มีพื้นฐานการศึกษาดี มีทุนความรู้ทักษะด้านเศรษฐกิจค่อนข้างมากเพราะอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีคลังนานที่สุด แต่ยังขาดความมั่นใจและความกล้า ขาดทุนทางความสุขและสังคมที่ไม่กว้าง
อภิสิทธิ์ / อภิรักษ์
คุณอภิสิทธิ์และคุณอภิรักษ์ เป็นผู้ที่มีพื้นฐานการศึกษา ครอบครัว ที่มีความสมบูรณ์ อยู่ในสังคมแวดล้อมที่ดีถือว่ามี ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทางจริยธรรม ทางสังคม ค่อนข้างสูง
คุณอภิสิทธิ์ มีความรอบรู้ทางด้านการเมือง เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย และเคยดูแลงานด้านการศึกษาของชาติมาก่อนทำให้เข้าใจปัญหาการศึกษาของชาติดีพอควร เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากมาย และก้าวเข้ามาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ในขณะที่มีอายุน้อยแต่ยังขาดความเข้มแข็งจริงจังยังต้องสร้างศรัทธาในระดับชาติให้เกิดมากกว่านี้
ส่วนคุณอภิรักษ์อยู่ในแวดวงของการทำงานในบริษัทเอกชนมีความคิดในด้านอนุรักษ์ และเป็นอิสระในการทำงานพอสมควร ทำให้เข้าใจพื้นฐานการใช้ชีวิตของชาวกรุงเทพค่อนข้างมาก แต่ยังขาดในเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ ด้าน บุคลิก สุขุม มีความอ่อนน้อมถ่อมตน คล่องตัวพอสมควร ทำให้สามารถสร้างคะแนนนิยมจากชาว กทม. ได้เป็นสมัยที่ 2
ผู้นำทั้ง 6 ท่าน มีข้อดี ที่ควรนำมาปรับใช้ให้เข้ากับองค์กร
การสร้างผู้นำใน องค์กร ของ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) แบบ Ram Charan น่าจะมีส่วนช่วย สศก. ได้บ้าง เพราะขณะนี้ผู้นำใน สศก. อยู่ในยุคถดถอยทางอายุเป็นส่วนมาก ไม่มีช่วงต่อระหว่างรุ่น และในอดีตไม่ได้มีการพัฒนาบุคลากรไว้รองรับ ทำให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถขาดช่วงไป ประกอบกับเราไม่ได้จัดแบ่งบุคลากรตามสายงานอย่างจริงจัง นักวิชาการหลายคน จึงอาจไปทำงานในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของตน ดังนั้น สศก. ต้องเริ่มสร้างผู้นำ ซึ่งในระยะ 2-3 ปี มานี้ก็ได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้วโดยจัดอบรมภาวะผู้นำให้บุคลากรที่มีอายุไม่เกิน 35-45 ปี สศก. จะต้องเร่งสรรหาบุคลากรมีความชำนาญเฉพาะด้าน โดยมีการจัดการความรู้ ทั้งที่นำมาถ่ายทอดให้แก่บุคลากร และทั้งที่เปิดโอกาสให้บุคลากรมีการพัฒนาและนำไปใช้ ในด้านที่เป็นงานหลักและสนับสนุนงานของ สศก. เช่น การพัฒนาโมเดล การจัดทำยุทธศาสตร์ภาคเกษตร การจัดทำและวิเคราะห์นโยบายและแผน การวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจการเกษตร การพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติการเกษตร เป็นต้น และต้องส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรเหล่านี้ได้ใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามความรู้ความสามารถและความถนัด ผู้นำ ที่เป็น Old Talent ในวันนี้ต้องช่วยกันหาจุดด้อยในอดีตของ สศก. นำมาปรับแก้และต้องเปิดใจยอมรับความรู้ความสามารถพร้อมทั้งผลักดันให้เกิดผู้นำรุ่นใหม่ Young Talent ที่สามารถเชื่อมต่อสิ่งดี ๆและร่วมแก้ไขปรับปรุงสิ่งด้อยใน สศก. ได้
ด้วยอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี มีคุณภาพทั้งคนและงานใน สศก. เป็นที่ยอมรับ
นางจิตรา เดชโคบุตร
เรียน อ.ดร.จีระ
ดิฉัน นางจิตรา เดชโคบุตร ขอตอบแบบทดสอบเกี่ยวกับการวิเคราะห์ผู้นำทั้ง 3 คู่ดังนี้ค่ะ
อภิสิทธิ์ / อภิรักษ์
ท่านผู้นำทั้งสองมีอุปนิสัยและบุคลิกลักษณะที่คล้ายคลึงกัน จนมีฉายาว่า หล่อใหญ่ และหล่อเล็ก ท่านทั้งสองมีการศึกษาที่ดี มีประสบการณ์ทำงานที่เป็นมืออาชีพโดยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรธุรกิจหลายแห่ง ก่อนที่จะเข้าสู่วงการเมือง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ประกอบกับมีภาพลักษณ์ที่ ใจซื่อมือสะอาด สมควรที่จะได้รับการไว้วางใจให้เป็นผู้บริหารระดับสูง เพราะมีบุคลิกยืดหยุ่นและประนีประนอม
Gordon Brown / Tony Blair
Brown กับ Blair เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสามารถและทรงคุณค่า มีอุปนิสัยที่คล้ายคลึงกัน มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง กล้าได้กล้าเสีย แต่ Blair กล้าที่จะคิดนอกกรอบ โดยเป็นกำลังหลักของสงครามอิรักร่วมกับสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.2003
Obama / McCain
Obama กับ McCain บุคคลคู่นี้แตกต่างกันในเรื่องของวัยและสีผิว ทั้งคู่ลงแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ Obama เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีทุนแห่งการพัฒนาครบทุกด้าน สาเหตุที่ทำให้ Obama มาแรงไม่เพียงแต่ในเรื่องของนโยบายทางการเมือง เศรษฐกิจ เพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญก็คือเขาสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นคนในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ทำให้คนรุ่นใหม่มีความรูสึกร่วมในประเด็นด้านสังคมและศีลธรรม ความเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ทำให้ภาพลักษณ์ของ Obama มีความชัดเจนมากกว่า McCain ที่ถูกมองว่าเป็นคนหัวโบราณ หัวรุนแรงและเข้าไม่ถึง McCain มีภาพลักษณ์ของการเป็นตัวแทน กลุ่มอนุรักษ์นิยม และชาตินิยมรวมถึงความเป็นอำนาจนิยมด้วย ในขณะที่ Obamaไม่ได้ต้องการเป็นแต่เพียงผู้นำของสหรัฐอเมริกาแต่ต้องการเป็นผู้นำของสังคมยุคโลกาภิวัฒน์ หรือการเมืองรูปแบบใหม่ โดยที่สีผิวนั้นไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป ในขณะที่ชาวอเมริกันไม่ต้องการผู้นำที่มีความเป็นชาตินิยมและอำนาจนิยมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการผู้นำที่เข้าถึงประชาคมโลก เขาต้องการผู้นำที่เข้าใจความแตกต่างมากกว่าคนที่สร้างความแตกต่าง จากการหาเสียงของบุคคลทั้งคู่พบว่า Obama ได้รับคะแนนนิยมมากกว่า McCain
ในการสร้างผู้นำของ สศก.นั้นดิฉันคิดว่าควรพัฒนาบุคคลากรทุกระดับ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อความเสมอภาคในองค์กร สร้างค่านิยมร่วมของบุคลากรใน สศก. เพื่อความมีเอกภาพ เกิดความพร้อมเพรียงและความเป็นหนึ่งเดียวนำไปสู่การมีประสิทธิผลในทางปฏิบัติทุกขั้นตอน
อุสา เสือสุภาพ
เรียน อาจารย์จีระ
วิเคราะห์ผู้นำ 3 คู่ โดยใช้ทฤษฎี 8k’s และ 5k’s (ใหม่)
อภิสิทธิ์ / อภิรักษ์ ทั้งสองท่านมีทุนตามทฤษฏี อภิรักษ์เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอ่อนน้อม ควบคุมอารมณ์ได้ดี อภิสิทธิ์ ยังเป็นนักการเมืองแบบเก่า ยังไม่มีบทบาทโดดเด่น ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน
Brown จะมีทุนสร้างสรรค์ เน้นความโปร่งใส แต่ Blair จะเหมือน จอร์จ บุช
Obama เป็นคนรุ่นใหม่ ชูสโลแกน changeพูดโน้มน้าวคนได้ดี แต่มีประสบการณ์น้อย McCain ขาดทุนทางอารมณ์ เป็นคนหัวรั้น โกรธง่าย เผด็จการ สไตล์คล้ายจอร์จ บุช และขาดทุนทางเทคโนโลยี
สรุปว่าทุกท่านมีทุนตามทฤษฏี บางคนอาจมีมากบ้างน้อยบ้าง ไม่มีใครดีพร้อมทุกอย่างในคนเดียวกัน
การสร้างผู้นำในองค์กร สศก. แบบ Ram Charan
ก่อนอื่นต้องลบวัฒนธรรมเดิม ๆ ของระบบราชการ คือ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบการเรียนรู้ ทำตามคำสั่งนาย อาวุโสต้องโตก่อน และระบบเส้นสาย แบ่งพรรคแบ่งพวก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำยากมากในระบบราชการ
การสร้างผู้นำแบบ Ram Charan ต้องสร้างผู้นำรุ่นใหม่ เริ่มตั้งแต่อายุน้อย ให้มีความรัก ศรัทธาต่อองค์กร และมองเห็นอนาคตของตนเอง การให้รางวัลควรขึ้นกับผลงาน ไม่ไช่เฉลี่ยเท่ากันหมด
ค้นหาศักยภาพของแต่ละคน มอบหมายงานตามความถนัด แต่ไม่ใช่มอบงานให้ทำคนเดียว แบบตัวใครตัวมัน ควรมีทีมงาน เก่งคนละด้าน มารวมทีมกัน ผลงานควรเป็นของทีม มิใช่ตัวบุคคล
พัฒนาความรู้ความสามารถอย่างต่อเนื่อง ให้เรียนรู้งานทุกด้าน ทุกสายงาน เพื่อสร้างเครือข่ายทางสังคม ทั้งในและนอกองค์กร
ผู้นำรุ่นเก่าคอยดูแล ช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา แนะนำ อย่ามีอคติ อย่ากลัวว่าเด็กจะเด่นกว่าตน
นาย ธวัชชัย ประยูรสิน
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ เป็นนักการเมืองหนุ่ม ที่สามารถเป็นผู้นำแนวใหม่ที่สังคมประชาธิปไตยพอจะคาดหวังได้ในอนาคต โดยมีพื้นฐานทางครอบครัวที่สมบูรณ์ ซึ่งมีคุณพ่อคุณแม่เป็นแพทย์ ภรรยาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ตัวท่านเป็นผู้มีความรู้ โดยเฉพาะด้านปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ โดยจบจากมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลก รวมทั้งยังเคยเป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากนั้นได้มาเล่นการเมือง ตั้งแต่ปี 2535 มีการพัฒนาการเมืองอย่างต่อเนื่อง เป็นนักการเมืองที่ได้นำความรู้ไปใช้อย่างเข้าใจ ชำนาญ มีทักษะและแนวคิดต่องานที่ทำในเชิงสร้างสรรค์ ทัศนคติเป็นบวก คงคุณสมบัติของความเป็นผู้ที่มีตระกูล สามารถควบคุมอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยมเราจะไม่เคยเห็นคุณอภิสิทธิ์ กล่าวคำหยาบคายโดยใช้อารมณ์ การนำเสนอมีเนื้อหาสาระ จังหวะจะโคน สามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมและผู้ฟังได้เป็นอย่างดี จึงนับเป็นคนที่มีคุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่องค์กร สถาบัน ควรนำไปศึกษาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาผู้นำตั้งแต่อายุน้อย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2 สมัย ผู้มีความรู้และประสบการณ์การทำงานโดยเฉพาะทางด้านการบริหารการตลาด เป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น สังกัดพรรคประชาธิบัตย์ที่เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด เป็นคนมีครอบครัวที่ดี นับเป็นคนหนุ่มที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ทีมีความพร้อมทางครอบครัว ความรู้และประสบการณ์ ด้านการบริหาร เป็นอย่างดี
บาราก โอบามา หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันกับเคนยา การศึกษาดีจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด เป็นคนเข้าใจความแตกต่างของเชื้อชาติ โตที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นนักการเมืองหนุ่มหน้าใหม่ที่มาแรง ด้วยประวัติทางการเมืองยังค่อนข้างใสสะอาด เป็นคนที่มีวาทศิลป์ยอดเยี่ยม ผนวกกับมาดปัญญาชน สุขุม ลุ่มลึกและติดดิน สามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่ม โดยได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง และจากนโยบายต่างประเทศที่พรรครีพับลิกันซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งได้ใช้ในการบุกรุกประเทศอีรัก รวมถึงบทบาทของอเมริกันที่มองว่าเป็นผู้นำในนานาประเทศ และนโยบายเศรษฐกิจของพรรครีพับลิกัน ที่ผิดพลาด ล้มเหลว โดยเฉพาะการลดภาษีเพื่อผลประโยชน์ของคนมีรายได้สูง นโยบายประนีประนอมของโอบามาจึงได้รับการตอบรับของอเมริกันชน
จอห์น แมคเคน เป็นวุฒิสมาชิก ที่เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2008 เคยเข้าศึกษาในโรงเรียนนาวิกโยธินแห่งสหรัฐอเมริกา และเคยตกเป็นเฉลยศึกในสงครามเวียดนามเป็นเวลานานกว่า 5 ปี โดยได้แสดงความกล้าหาญ และรักชาติ ในการไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือ ในการสร้างภาพการปล่อยเฉลยศึก ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติของผู้ที่รับผิดชอบในหน้าที่ และเสียสละเพื่อส่วนรวม
โทนี่แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ซึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 3 สมัย เขาได้นำความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจกลับมายังประเทศอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง แต่การเดินนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาด โดยเข้าร่วมกับสหรัฐในสงครามอิรัก ซึ่งในเรื่องนี้ประชาชนอังกฤษ เห็นว่านายแบลร์ตามใจและตามหลังสหรัฐอเมริกามากเกินไป ขาดการเป็นตัวของตัวเอง เป็นผู้นำที่ไม่สง่างาม ทำให้คะแนนเสียงของพรรคแรงงานของเขาตกต่ำ ทำให้มีเสียงในพรรคกดดันเขา ให้สละตำแหน่งให้แก่นายกอร์ดอน บราวน์ต่อมา
กอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรี ของสหราชอาณาจักรคนปัจจุบันโดยเมื่อเด็กเรียนเก่งมากจนได้เข้ามหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ตั้งแต่อายุ 16 ปี จบปริญญาโทเกียรตินิยมอันดับ 1 และได้จบปริญญาเอกในเวลาต่อมาเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถโดยเฉพาะบทบาทในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยได้สร้างสถิติใหม่ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่มาจากพรรคแรงงานซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเวลายาวนานที่สุด ความรู้ความสามารถและประสบการณ์โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้ กอร์ดอน นราวน์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน โทนี่แบลร์
นาย ธวัชชัย ประยูรสิน
นายบัณฑิต เกษราพงศ์
1. อภิสิทธิ์/อภิรักษ์ ทั้ง 2 คนมีลักษณะเด่นของความเป็นผู้นำคล้ายกัน ทั้งในเรื่องความรู้ การที่เป็นรู้จักของสังคม มีคุณธรรมและมีความคิดที่กว้างไกล จะต่างกันตรงที่นายอภิรักษ์จะมีทุนทาง ไอที มากกว่าและประสบผลสำเร็จในด้านการบริหารจัดการมากกว่า เนื่องจากเคยดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการมามากกว่า
2. โทนี แบลร์ จะเป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้และกล้าที่จะตัดสินใจในการบริหารจัดการ พร้อมกล้าที่จะตัดสินใจเพื่อการพัฒนา และเป็นที่ยอมรับของประชาชนในประเทศและต่างประเทศ มีทุนทางสังคมค่อนข้างสูงสำหรับนานาประเทศ พร้อมที่จะตัดสินใจให้ความร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อในเกิดสันติ สำหรับนายกอร์ดอน บราวน์ จะเป็นคนรุ่นเก่า มีความรู้มากในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ทางการคลัง การเงิน ที่จะแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีบุคลิกที่เคร่งขรึม มีความเด็ดขาด มีความซื่อสัตว์ ที่สำคัญทำตัวเป็นกันเองติดดินมาก น่าจะนำพาให้ประเทศอยู่เย็นเป็นสุขและเป็นมิตรสำหรับทุกประเทศ
3. การสร้างผู้นำของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรแบบ Ram Charan ว่าจะช่วยได้อย่างไร
- จะช่วยให้สำนักงานฯได้ผู้นำที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ
- วางกรอบคุณสมบัติของผู้จะมาเป็นผู้นำ
- ผู้นำได้มีการพัฒนาความรู้ ตามความถนัด ความสามารถ
- ลักษณะที่ต้องการเป็นผู้นำ สศก. ของกระผม คือ มีความกล้าในการตัดสินใจแผนพัฒนาการเกษตร มีคุณธรรม และให้กำลังใจต่อเพื่อนร่วมงานด้วยความจริงใจ
นายสมพงษ์ หนูเนียม
เรียน เลขาธิการ มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
ตามที่มีหนังสือให้ตอบแบบสอบถาม เรื่องการติดตามและมอบหมายงานหลังจากอบรมฯ กระผมนายสมพงษ์ หนูเนียม จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 9 ในฐานะผู้ผ่านการอบรมดังนี้
กรณีที่ 1 อภิรักษ์/อภิสิทธิ์
มีทุนทางจริยธรรม/ทุนทางสังคม/ทุนทางปัญญาสูง ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการปฏิบัติตน และการดำเนินชีวิตประจำวันผ่านทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งแสดงออกให้สาธารณชนทั่วไปได้รับทราบและตรวจสอบได้ ทำให้มีความน่าเชื่อถือด้านความโปร่งใส และคุณธรรมที่แสดงออกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีทุนทางสังคมสูงเป็นที่น่าเชื่อถือและประสบความสำเร็จสูงด้วยอายุยังน้อย โดยอภิรักษ์ ได้รับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2 ครั้งติดต่อกัน และอภิสิทธิ์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเก่าแก่ แสดงให้เห็นถึงทุนทางสังคมสูง ของทั้งคู่จึงเป็นแบบอย่างสำหรับยึดถือเป็นแนวปฏิบัติตามได้
กรณีที่ 2 Obama/Mc Cain
เป็นความแตกต่างกันด้านทุนทางวัฒนธรรม/นวัฒกรรม/อารมณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของการเหยียดสีผิว (ในลักษณะไม่แสดงออกอย่างชัดเจน) ในสังคมประชาธิปไตย ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงทุนทางอารมณ์ที่แตกต่างกันในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง Obama มีรูปแบบการที่ใช้นวัฒกรรมหลากหลายในการหาเสียง ในขณะที่ Mc Cain หาเสียงโดยวิธีการโจมตี/ขุดคุ้ย ฯลฯ เพื่อหวังผลทางการเมือง ซึ่งสะท้อนให้เห็นการแข่งขันชิงดี ชิงเด่น เพื่อให้ได้ชัยชนะตามเป้าหมาย
กรณีที่ 3 Gordon Brown/Tony Blair
มีทุนทางจริยธรรม/ทางวัฒนธรรมสูง
ในสังคมสาธารณชนประเทศอังกฤษ จารีตประเพณี/วัฒนธรรมและประชาธิปไตย ได้รับการยอมรับและถือปฏิบัติเป็นแนวทางอย่างเคร่งครัด ทำให้การปฏิบัติตนของแต่ละบุคคลต้องมีความชัดเจนและตรวจสอบได้ นอกจากนี้บุคคลที่มีเป้าหมายในระดับสูงในอนาคต จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่าง ต้องใช้เวลาเพื่อบรรลุเป้าหมาย ในการตรวจสอบในอนาคตได้ด้วย
กระผมได้รับความรู้และสามารถนำทฤษฎีการพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K,s และ 5 K,s มาปรับใช้ได้ในการปฏิบัติตนและพัฒนาองค์กร
นายสมพงษ์ หนูเนียม
7 พฤศจิกายน 2551
นายธีรวัต มณีวัต
เรียน อาจารย์จีระฯ
จากการวิเคราะห์ผู้นำทั้ง 3 คู่ พบว่า สิ่งที่ทำให้ผู้นำแต่ละคนโดดเด่นหรือมีความแตกต่างกันนั้น ขึ้นอยู่กับ “การสะสมทุน” ที่แตกต่างกัน คือ
- คุณอภิสิทธิ์ / อภิรักษ์ จะมีความโดดเด่นใน “การสะสมทุน” ด้าน Ethical, Social, Sustainability, Talented , Creativity , Innovation และ Emotional
- Gordon Brown/ Tony Blair สิ่งที่ทำให้ 2 คนนี้มีความแตกต่างกัน โดย Brown ดูจะมี “การสะสมทุน” ที่เหนือกว่า Blair ในด้าน Ethical , Sustainability และ Talented ทั้งนี้เหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่า Brown เหนือกว่า Blair คือ Brown เน้นและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาในประเทศ สร้างความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ขณะที่ Blair เน้นให้ประเทศมีบทบาทและความสำคัญในเวทีโลกเหมือนดังเช่นสหรัฐอเมริกา
- Obama / McCain สิ่งที่ทำให้ 2 คนนี้มีความแตกต่างกัน คือ Obama ดูจะมีการ “สะสมทุน” ที่เหนือกว่า McCain แทบจะทุกด้าน โดยเฉพาะด้าน Ethical, Social, Sustainability, Talented, Knowledge, Creativity, Innovation, Cultural และ Emotional
ทั้งนี้สิ่งที่ได้จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบทำให้มีความคิดว่า แต่ละคนจะมีทุนเดิมที่เป็น 8 K และ 5 K อยู่แล้วมากบ้างน้อยบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างและโดดเด่น คือ “การสะสมทุน” ซึ่ง“การสะสมทุน”ที่ทำให้ผู้นำมีความโดดเด่นประกอบด้วยทุนด้าน Ethical , Social , Sustainability , Talented , Creativity , Innovation และ Emotional นอกจากนั้นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การ “ข้ามศาสตร์” หรือการบูรณาการความรู้ที่ตนมีอยู่มาใช้ให้ก่อให้เกิดประโยชน์ด้วย
ในส่วนภาพที่ใหญ่ขึ้นระดับองค์กรหรือระดับ สศก.นั้น การสร้างผู้นำตามแนวทางของ Ram Charan มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากในอนาคตภาคราชการจะมีขนาดเล็กลง (จำนวนคนทำงานน้อยลง แต่ภาระกิจเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น) และสภาพแวดล้อมมีความเป็นพลวัตที่สูงมาก ต้องมีการแข่งขันและปรับตัวตลอดเวลา องค์กรจึงต้องการผู้นำที่ดี มีคุณธรรมในการชี้นำที่จะนำพาไปสู่อนาคต
ดังนั้นแนวทางของ Ram Charan จะมีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการสร้างผู้นำแบบต่างๆของ สศก.โดยให้มี “การสะสมทุน” ที่จำเป็น และ “การข้ามศาสตร์” สำหรับบุคคลที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำ ซึ่งจะต้องเริ่มตั้งแต่
1 การ Identify ผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อย
2 Competency ในเรื่องอะไร (ความเก่งของแต่ละคน)
3 การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
4 ดูแลไม่ให้เขาตกราง
โดยที่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2 เป็นต้นไป จะมีบทบาทอย่างมากที่จะสนับสนุนเรื่อง“การสะสมทุน” ที่จำเป็น และ “การข้ามศาสตร์” ของการสร้างผู้นำซึ่งมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไปในแต่ละคน
สุดท้ายนี้ผมมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในกาสร้างผู้นำ คือ
- ต้องมีการให้โอกาส และ มีคุณธรรมในการ Identify ตัวผู้นำ โดยเริ่มจากต้องมีมุมมองต่อนิยามของคำว่า “ผู้นำ” ในแบบกว้าง
- ต้องมีการทำอย่างมุ่งมั่นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาศัยความอดทน เนื่องจากเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากร เหมือนดังเช่นการปลูกไม้ผลที่รสชาติหอมหวาน จะไม่เห็นผลทันทีต้องใช้เวลา และให้ความเอาใจใส่ในการดูแล ก่อนที่จะได้ลิ้มลองรสชาติที่หอมหวานนั้น
นายธีรวัต มณีวัต
สศข.8
ณิริศพร มีนพัฒนสันติ
เรียน ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
ขอตอบคำถามที่ท่านอาจารย์ได้มอบหมายให้วิเคราะห์ผู้นำทั้ง 3 คู่ ดังนี้ค่ะ
1 อภิสิทธิ์/อภิรักษ์
สำหรับคุณอภิสิทธิ์ มีลักษณะที่มีความซื่อสัตย์สุจริตไม่เคยมีข่าวคราวการคอรัปชั่น ด้านความรู้ความสามารถก็มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยความสามารถนี้เองจึงกระโดดเล่นการเมืองก่อยวัย 30 บุคลิกภาพออกนุ่มนวล แต่เนื่องจากมีพื้นฐานอยู่ในครอบครัวดีมีฐานะ มีชีวิตในต่างแดนเสียส่วนใหญ่จึงอาจเข้าถึงกลุ่มคนในไทยที่เป็นชนชั้นล่างยาก แสดงให้เห็นว่าเด่นในทุนด้าน
ส่วนคุณอภิรักษ์ มีลักษณะแนวบุคลิกออกแนวอ่อนน้อมนุ่มนวล เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและเป็นนักบริหารแต่อายุน้อย เช่นกัน แต่จะดูอนุรักษ์นิยมมากกว่าคุณอภิสิทธิ์
ดังนั้นทั้ง 2 ท่าน จึงเด่นในด้านTalented Capital ทุนทางปัญญา Ethical Capirtal ทุนทางจริยธรรม แต่คุณอภิสิทธิ์จะได้เปรียบในด้านประสบการณ์ทางการเมืองระดับใหญ่ ในขณะที่อภิรักษ์ได้เปรียบด้านการเข้าถึงกลุ่มคนสังคมเล็กและระดับรากหญ้าได้มากกว่าแม้จะมีปัญหาการคอรัปชั่นที่ถูกกล่าวหาอยู่บ้าง
2 Gordon Brown / Tony Blair
Gordon Brown เป็นผู้มีบทบาททางการเมืองของอังกฤษมานานคุมเศรษฐกิจการคลังของประเทศ แต่ในสายตาคนอังกฤษเขาดูเป็นคนแปลกลึกลับอยู่บ้าง ด้วยความที่จบประวัติศาสตร์และร่วมงานกับพรรคแรงงานตั้งแต่เด็กๆวัยรุ่น บวกกับลักษณะเป็นคนดูเคร่งขรึมและจริงจังเกินไปแต่นับว่าเป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ปัญญาดี
ส่วนTony Blair ผู้คนมองว่าเขาดูมีอำนาจมากกว่าเพราะความที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาหลายปีอีกทั้งบุคลิกที่เป็นกันเองไม่เคร่งขรึมเกินไป ซึ่งแม้ทั้ง 2 คนจะเป็นเพื่อนกันมาก่อนและช่วยกันกอบกู้พรรคแรงงานแต่มาช่วงหลังกลับมีข่าวว่าทะเลาะกันเพราะอำนาจการบริหารงาน
แม้ทั้งคู่จะเด่นในด้าน Talented Capital ทุนทางปัญญา และInnovation Capital ทุนทางนวัตกรรม Digital Capital ทุนทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาประเทศได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ Tony Blairดูจะได้เปรียบในด้านEmotional Capital ทุนทางอารมณ์ Social Capitalทุนทางสังคม และHappiness Capital ทุนแห่งความสุขมากกว่า Gordon Brown เพราะบุคลิกที่ดูยิ้มแย้มเป็นกันเองมากกว่า
3 Obama / Mc Cain
Obama มาด้วยมาดความหวังของคนรุ่นใหม่และการเปลี่ยนแปลงในเรื่องสิทธิชนชั้นสีผิว ในแนวการเมืองแบบใหม่ที่ไม่แบ่งขั้วเสรีนิยมและอนุรักษ์ ลักษณะมองโลกแง่ดี โน้มน้าวเก่ง ความรู้ดีกว่า แม้จะด้อยประสบการณ์กว่าแต่ก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ
Mc Cain เป็นคนพูดตรง ออกขวางโลกบ้างดูอารมณ์ร้ายไม่ฟังใครเพราะความที่เป็นทหารมาก่อน แต่ก็มีอารมณ์ศิลปินตลกเหมือนกัน อีกทั้งมีประสบการณ์มากกว่า มาแนวอนุรักษ์นิยมแบบBush
Obama จึงเด่นกว่า Talented Capital ทุนทางปัญญา และInnovation Capital ทุนทางนวัตกรรม Digital Capital ทุนทางเทคโนโลยีสารสนเทศจากการที่เป็นคนรุ่นใหม่ ชนะใจคนผิวสีนั่นเอง ขณะที่ Mc Cain ออกจะเสียเปรียบในด้านการแสดงออกทาง Emotional Capital ทุนทางอารมณ์ แต่ก็มีประสบการณ์ที่สูงกว่า
ซึ่งการสร้างผู้นำในของ สศก. ควรนำทุนมนุษย์ที่เด่นของแต่ละคนมาปฏิบัติร่วมกัน ให้ได้ทั้งทุนทางปัญญา ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศใหม่เพื่อให้องค์กรพัฒนาอย่างแข่งขันได้อย่างทัดเทียมกับองค์กรอื่นและต่างชาติ แต่ก็ควรควบคู่กับทุนด้านจริยธรรม ควาสุขและทุนความยั่งยืน พราะมนุษย์ หรือผู้นำองค์กรทั้งหลายจะต้องเก่งทั้งด้านความรู้ความสามารถลามีจิตใจที่ดี จริยธรรมที่ดี จึงเรียกว่าครบสูตรแห่งทุนมนุษย์ อย่างยั่งยืนโดยแท้ และต้องเข้าถึงความรู้ความสามารถของตนเองและบุคลากร รู้ถึงขีดความสามารถขององค์กรว่าขาดเหลือสิ่งใดมีอะไรที่พร้อมอยู่แล้ว เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางการทำงานวางคนให้ตรงกับงาน พัฒนาคนให้ตรงกับประสิทธิภาพงาน และเปลี่ยนแปลงให้ทุกคนมีความทัดเทียมกันทั้งค่าตอบแทนและการปฏิบัติต่อกัน ตามแนวคิดแบบ Ram Charan
อภิสิทธ์ และ อภิรักษ์
สำหรับอภิสิทธิ์ และอภิรักษ์ มีความกคลายคลึงกันในหลายเรือง ไม่ว่าจะเป็นทุนทางสังคม ทุนทางความรู้ ทุนทางจริยธรรม ทั้งคู่ถือว่าเป็นผู้นำยุคใหม่ที่ถือได้ว่ามาแรงในช่วงนี้ แต่ส่งที่ต่างกันคือ ประสบการณ์และแนวคิดในการบริหารการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอภิสิทธิ์จะใช้หลักการบริหารแบบเศรษฐศาตร์ ส่วนอภิรักษ์เน้นการบริหารในเชิงธุรกิจมีประสบการณ์ในการสร้างภาพลักษณ์และสร้างโอกาสเพื่อสร้างความได้เปลี่ยบ
ซึ่งถ้าหากทั้ง 2 คนนำแนวคิดด้านการบริหารมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และหาเครื่อข่ายด้านกฎหมายระหว่างประเทศ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาร่วมงานด้วย จะถือว่าเป็นคณะการเมืองที่น่าจับตามองได้ที่เดี่ยว
Brown และ Blair
ทั้ง 2 คน มีทุนทางด้านความรู้ ทางสังคม ทางนวัตกรรม ที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันเลยคือ ทุนทางด้านอารมณ์ Brown มีความนิ่งและสุขุมกว่า Blair
ทั้ง 2 คนถือได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอีกคู่หนึ่งด้านการบริหารถ้าหากสามารถรวมกันได้และนโยบายไม่ขัดซึ่งกันและกัน เนื่องจาก
Brown เก่งทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ การบริหารใช้หลักการด้านเศรษฐศาสตร์ มีความสุขุมรอบครอบ เน้นประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนนโยบายส่วนใหญ่สนับสนุนด้านสวัสดิการ การสาธารณสุข การศึกษา ระบบจราจร รวมทั้งการกระจายอำนายในการบริหารงาน
Blair เก่งด้านรัฐศาสตร์การปกครองและด้านระหว่างประเทศ เน้นการสร้างเครือข่ายกับต่างประเทศ
Obama / McCain
ทั้ง 2 คนมีความแตกต่างกันหลายด้านถ้าพิจารณาในเรื่องของภาพลักษณ์ Obama เป็นที่ยอมรับมากกว่าและดูเหมือนเป็นคนที่มีเอกภาพในการบริหารงานมากกว่า McCain ถือว่าเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับทิศทางการการเมืองของสหรัฐ
จากการพิจารณาลักษณะของผู้นำทั้ง 6 คนจะเห็นทั้ง 6 มีทั้งข้อเด่นและข้อด้อยที่ต่างกันและมีนโยบายการบริหารที่ต่างกัน จะเห็นได้ว่าแต่ละคนจะต้องมีความสามารถหลาย ๆ ด้านเพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างโอกาสที่จะเป็นผู้นำ
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะอยู่ในฐานะที่เป็นผู้นำ หรือผู้ปฏิบัติก็ตามจะต้องเป็นคนที่มีความหลากหลายทางด้านความคิด ความรู้ ความสามารถ หาก สศก. ต้องเป็นผู้นำในภารกิจ ของ สศก. จะต้องสร้างผู้นำและผู้ปฏิบัติที่มีความหลากหลาย ได้แก่ ความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ ความร้ด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นเป็นกับภารกิจ การทำงานเป็นทีม การบริหารการเปลี่ยนแปลง การบริหารความเสี่ยง และที่สำคัญหากทุกคนทำงานด้วยอาศัยข้อมูลจริง และไม่ยึดติดกับสิ่งที่ตนมี ตนเป็น ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกล
น.ส.สุดารัตน์ แซ่อุ้ย
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
ขอแสดงความคิดเห็นวิเคราะห์เปรียบเทียบผู้นำ 3 คู่ ดังนี้ค่ะ
• อภิสิทธิ์ / อภิรักษ์
อภิสิทธิ์ เป็นผู้นำแบบ Ethical Capital มีคุณธรรม จริยธรรม เนื่องจากคุณอภิสิทธิ์เกิดขึ้นมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่มีท่านอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย เป็นผู้นำที่มีสัญลักษณ์แห่ง Trust นอกจากนี้การที่คุณอภิสิทธิ์ซึ่งมีอาวุโสน้อยแต่สามารถก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้ เพราะมีลักษณะของคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีความเป็นผู้นำแบบ Intellectual Capital ดังจะเห็นได้จากการได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัย Oxford ก่อนเล่นการเมืองเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเป็นนักวิชาการ เป็นที่ยอมรับในความสามารถจึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งได้อย่างสมเกียรติ นอกจากนี้พบว่ามีการงัดกลยุทธ์มาสู้ศึกการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยพยายามเน้นนโยบายให้เป็นในรูปแบบความยั่งยืนเพื่อสู้กับพรรคคู่แข่ง จึงถือว่ามีลักษณะผู้นำแบบ Creativity Capital รู้จักปรับกลยุทธ์นโยบายการหาเสียงโดยใช้ทุนทางความรู้ ทักษะที่สั่งสมมาในทางการเมืองและสนามการแข่งขัน บวกกับทัศนคติในการมองที่ความยั่งยืนเป็นหลัก ถือว่าประสบความสำเร็จจากคะแนนเสียงที่ได้เพิ่มขึ้น
อภิรักษ์ เป็นผู้นำแบบมี Charismatic มีเสน่ห์ในตนเอง บุคลิกภาพลักษณ์ดูดี มาดนิ่มเป็นมิตร ก่อนเข้ามาเล่นการเมืองประสบความสำเร็จการการเป็นนักการตลาด ถือว่ามี Social Cost มี Networking และเมื่อได้ดูการ Debate จากการสมัครผู้ว่าฯ กทม.รอบ 2 จะเห็นได้ว่ามีการควบคุมอารมณ์ได้ดีจากการยั่วยุของผู้สมัครท่านหนึ่ง จึงถือว่ามี Emotional Capital
• Gordon Brown / Tony Blair
Gordon Brown เป็นผู้นำที่มีลักษณะ Intellectual Capital เพราะจากประวัติได้บอกว่าเป็นคนที่เรียนเก่งมาก อายุ 16 ปี ก็สามารถเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยได้แล้ว และสามารถจบการศึกษาในระดับปริญญาเอก นอกจากนี้ยังพบว่ามี Creativity Capital เพราะมีส่วนช่วยผลักดันให้พรรคแรงงานกลับมาผงาดทางการเมือง เมื่อครั้งGordon Brown ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง เขาได้เครดิตทั้งจากมิตร และศัตรูทางการเมืองในฐานะกุนซือ ผู้ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพ จึงถือ
ว่ามี Social Cost
Tony Blair เป็นผู้นำที่มีลักษณะ Charismatic มีเสน่ห์ในตนเอง บุคลิกภาพลักษณ์ดูดี นอกจากนี้ยังพบว่ามี Creativity Capital เพราะมีส่วนช่วยผลักดันให้พรรคแรงงานกลับมาผงาดทางการเมือง เขาได้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงานหลังจากการเสียชีวิตของหัวหน้าพรรคคนก่อนคือ นายจอห์น สมิท และเอาชนะนายจอห์น เมเจอร์ พรรคอนุรักษ์นิยมและเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานคนเดียวที่สามารถชนะการเลือกตั้งได้ 3 สมัยติดต่อกัน
• Obama / McCain
Obama มีลักษณะ Sustainability Capital เพราะมีลักษณะการประนีประนอม สมานฉันท์สร้างมิตรกับนานาประเทศ นอกจากนี้ยังมีลักษณะ Culture Capital โดยสังเกตจากการที่เขาได้เขียนหนังสือชื่อ “The Audacity of Hope” ได้บอกว่าหัวใจของหนังสือเล่มนี้คือ “เรา(ชาวอเมริกัน)จะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลงการเมืองและวิถีชีวิตอย่างไร” เขาบอกว่าเขาไม่ได้ทำตัวเป็นผู้รู้แต่พยายามแสดงมุมมองที่เขาหล่อหลอมขึ้นจนเป็นนักการเมือง
McCain มีลักษณะ Ethical Capital ซึ่งสะท้อนจากหนังสือที่เขาได้เขียน ชื่อ “Why Courage Matters” เขาต้องการยกให้ผู้อ่านเห็นถึงการต่อสู้ด้วยความกล้าหาญบนหลักแห่งความสงบ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นระดับความกล้าหาญที่สูงส่งกว่าการสู้ด้วยความรุนแรง นอกจากนี้เขายังเน้นถึงความกล้าที่จะทำดีเพื่อความดี เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ถูกละเลยทำให้สังคมอเมริกันเสื่อมลง ซึ่งถือเป็นผู้นำที่มี Culture Capital ได้เช่นกัน
จากการวิเคราะห์ผู้นำ ทั้ง 3 คู่ พบว่า ผู้นำจะมีคุณสมบัติลักษณะที่คล้ายๆ กัน เหมือนเป็นสูตรสำเร็จที่ผู้นำที่ดีควรจะมี แต่คุณสมบัติโดยพื้นฐานจริงๆ ที่ทุกคนควรมีและควรแสวงหา รวมทั้งตัวดิฉันด้วย ก็คือ Intellectual Capital, Creativity Capital ซึ่งส่วนนี้สำคัญมาก ดังจะเห็นได้จากคำกล่าวของไอน์สไตน์ ที่ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” เพราะจินตนาการก่อเกิดการสร้างสรรค์ และการสร้างสรรค์จะไปด้วยกันกับ Knowledge Capital และ Innovation Capital แต่ทุนที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ต้องถูกควบคุมด้วย Ethical Capital เพื่อนำไปสู่ Sustainability Capital ต่อไป ส่วนทุนด้านอื่นๆ ถือว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะเป็นเหมือนทุนสนับสนุนให้คุณสมบัติของความเป็นผู้นำมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้นำที่ดีควรทำตัวเหมือนแก้วที่สามารถเติมน้ำได้ตลอดเวลา หรือไม่ก็ฟองน้ำที่มีคุณสมบัติในการดูดซับสิ่งที่อยู่รอบๆ (สิ่งดีๆ) ได้ดี
สำหรับการสร้างผู้นำในสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แนวคิดของ Ram Charan สามารถช่วยได้ ดังนี้
1) Identify ผู้นำตั้งแต่อายุน้อย
การเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ได้พัฒนาและดึงศักยภาพของตนเองออกมา ดังจะเห็นได้จากการสนับสนุนให้มีโครงการหลักสูตร “พัฒนาทุนทางความรู้ ทักษะและทัศนคติสำหรับบุคลากรของสศก.”
2) ศึกษาว่าแต่ละคนเก่งเรื่องอะไร
การแบ่ง Function ของงานในการรับผิดชอบที่ชัดเจน ย่อมสร้างทักษะ ความชำนาญและความเป็นมืออาชีพใน Function นั้นๆ
3) พัฒนาเขาเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง
มีการสนับสนุน/ส่งเสริมให้ข้าราชการได้รับการอบรมเพิ่มทักษะความรู้ใน Function ที่ตนเองรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง
4) ดูแลไม่ให้เขาตกราง
สนับสนุน/ส่งเสริมผู้มีความรู้ความสามารถให้ได้แสดงศักยภาพตามโอกาสอันควรไม่ว่าจะเป็นเวทีในระดับสำนักงาน ต่างหน่วยงาน หรือต่างประเทศ
นางเพ็ญศิริ วงษ์วาท
เรียน ศ.ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์
ดิฉันขอวิเคราะห์ผู้นำทั้ง 6 ท่าน ตามข้อมูลที่มี โดยใช้ทฤษฎีเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ 8 K's และ 5 K's (ใหม่) ดังนี้
|
ทบ.เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ |
อภิสิทธิ์ |
อภิรักษ์ |
|
Human Capital |
มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี เกิดในตระกูลแพทย์ มีนิสัยที่อ่อนโยน |
มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี เกิดในตระกูลทหาร เป็นคนที่มีระเบียบวินัย ยึดมั่นในกฎกติกา |
|
Knowledge Capital |
มีการศึกษาสูงจบปริญญาตรีได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สาขาปรัชญาการเมือง และเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา |
จบปริญญาโท (การบริหาร) มีประสบการณ์ทำงานในวงการธุรกิจ |
|
Creativity Capital |
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร เนื่องจากยังขาดโอกาสที่จะได้บริหารประเทศ |
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการกำหนดนโยบายที่จะพัฒนากรุงเทพฯให้น่าอยู่โดยมีโครงการดีๆเกิดขึ้นหลายโครงการ |
|
Social Capital |
เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เคยเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย และสถาบันอื่นของรัฐ ก่อนเป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งได้เข้ามาเป็นสส. ตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบัน |
เป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจ ซึ่งท่านเป็นนักการตลาดฝีมือดี เป็นผู้บริหารระดับสูง มีประสบการณ์การทำงานและสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร |
|
Cultural Capital |
มีลักษณะการทำงานเป็นทีม รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น |
มีลักษณะการทำงานเป็นทีม |
|
Emotion Capital |
นิสัยใจเย็น บุคลิกสุภาพนุ่มนวล ไม่ก้าวร้าว ไม่พูดจาหยาบคาย |
นิสัยใจเย็น มีพื้นฐานจิตใจดีสามารถควบคุมอารมย์ได้ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้น |
|
ทบ.เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ |
Gordon Brown |
Tony Blair |
|
Human Capital |
ได้รับฉายาเป็น "บุตรชายแห่งเคหาสน์พระ"เนื่องจากพ่อเป็นผู้นำศาสนา และมีอิทธิพลอย่างมากต่อบราวน์ |
มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี พ่อเป็นอาจารย์สอนนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัย |
|
Knowledge Capital |
มีการศึกษาสูงจบปริญญาเอก ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งตอนเรียนปริญญาโท |
จบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด |
|
Creativity Capital |
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ได้นำพาเศรษฐกิจของอังกฤษให้เจริญเติบโตยาวนานเป็นประวัติการณ์ และนำเสนอข้อตกลงด้านความอดอยากและภาวะฤดูกาลแปรปรวน ในการประชุมสุดยอด G8 |
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือสังคม(กฏหมายสิทธิมนุษยชน) |
|
Social Capital |
ได้รับให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังนานที่สุด ก่อนได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก Tony Blair |
ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพรรคแรงงาน และเป็นคนเดียวที่เป็นนายกรัฐมนตรี 3 สมัยติดต่อกัน |
|
Intellectual Capital |
เป็นนักคิด/นักวิเคราะห์ ที่มีความรู้ความสามารถจึงได้รับมอบหมายให้เป็นบรรณาธิการข่าวสังคมและการเมืองประจำสถานีโทรทัศน์ และให้เป็นผู้บรรยายวิชารัฐศาสตร์ในวิทยาลัยฯของอังกฤษ |
ให้ความสำคัญทางด้านการศึกษา |
|
ทบ.เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ |
Obama |
Mccain |
|
Human Capital |
ตอนวัยเด็กขาดความอบอุ่นพ่อแม่แยกทางกันแต่มิใช่อุปสรรค ถ้ามีความมุ่งมั่นความพยายามก็จะประสบผลสำเร็จบรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งใจไว้ จนได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ |
เกิดในตระกูลทหารเรือระดับผู้นำ เป็นคนที่มีระเบียบวินัย ยึดมั่นในกฎกติกา เชื่อมั่นในตนเอง |
|
Knowledge Capital |
จบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด |
จบโรงเรียนนาวิกโยธิน สามารถขับเครื่องบินจู่โจมจากเรือบรรทุก |
|
Creativity Capital |
กล้าที่จะนำการเปลี่ยนแปลงให้ชาวอเมริกันมีคุณธรรม มีความสามัคคี ต่อต้านการใช้ความรุนแรงและการเหยียดสีผิว |
นักอนุรักษ์นิยม ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในทางการเมือง รณรงค์ให้มีการปฏิรูปทางการเงิน และนำไปสู่การปฏิรูปได้ในที่สุด |
|
Social Capital |
ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และทนายสิทธิพลเมือง ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี |
ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาถึง 4 สมัย |
|
Intellectual Capital |
กำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐ |
นโยบายยังเน้นความรุนแรงสงครามอิรัก เพราะเคยมีส่วนร่วมในสงครามเวียดนาม |
|
Emotion Capital |
เป็นบุคคลที่สุภาพอ่อนน้อม มีศิลปะในการพูดสามารถโน้มน้าวใจคนสหรัฐได้ |
ลักษณะการพูดจาดุเดือด |
สำหรับตนเองคิดว่าเป็นคนรุ่นใหม่ พร้อมที่จะยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงและจะไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพและความรู้เพิ่มขึ้น โดยจะยึดหลักธรรมาภิบาล
การสร้างผู้นำในองค์กรของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แบบ Ram Charan
ขั้นแรก ต้องทำให้ทุกคนในองค์กรมีความจงรักภักดี และความเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน สร้างคนเก่งควบคู่ไปกับ สร้างจิตสำนึกให้เป็นคนดีมีคุณธรรม เน้นการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีเวทีแสดงความรู้ความสามารถ ทั้งนี้ก็ต้องเห็นคุณค่าของคนรุ่นเก่าที่สั่งสมประสบการณ์มานาน สร้างการทำงานเป็นทีม ร่วมคิดร่วมทำ ระหว่างคนรุ่นใหม่ + คนรุ่นเก่า (ความรู้ + ประสบการณ์) ก็จะนำพาองค์กรให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ "องค์กรชี้นำการพัฒนาการเกษตรของประเทศ"
นางนุจรี สภาพันธ์
เรียนท่านอาจารย์จิระ ที่เคารพ
จากการบ้านที่ได้รับหนูได้ค้นคว้าหาข้อมูลแล้วนำมาตอบคำถามของอาจารย์ดังนี้
1.นายอภิสิทธิ์/นายอภิรักษ์
1.1 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน เป็นคนที่มีความสามารถ ดังที่นายแพทย์ประเวศ วะสี ได้กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ว่าเป็นนักการเมืองพันธุ์ใหม่ที่สังคมไทยต้องการ จะเห็นได้ว่าเขามีความโดดเด่นและมีคุณสมบัติหลายประการที่ตรงกับทฤษฏีทุน 8 ประการของทรัพยากรมนุษย์ 8 K’s ดังนี้
1) ทุนมนุษย์ โดยจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด
ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1
2) ทุนทางจริยธรรม เขาเป็นคนที่มีความรู้ดี สติปัญญาดี ยึดหมั่นในคุณธรรม
3) ทุนทางสังคม โดยมีเครือข่ายรอบ ๆตัวเช่นเพื่อนเก่า
เพื่อนสนิท ในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงอาจารย์จากการที่เคยเป็นอาจารย์ที่สถาบันต่างๆ
4) ทุนแห่งความสุข ทุนทางปัญญาและทุนทางเทคโนโลยี
เขามีครอบครัวที่อบอุ่น มีความสมดุลระหว่างชีวิตและงานรวมทั้งมีการใช้ IT เช่น การมี Web.ของตนเอง
1.2 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นคนหนุ่มไฟแรง มีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์การบริหารงานทั้งภาครัฐและเอกชน มีการศึกษาดี มีเครือข่ายจากคนทุกระดับ แม้ขณะนี้จะมีคำถามจากสังคมกรณีคดีรถดับเพลิงแต่คิดว่าในอนาคตเขาต้องเข้าสู่การเมืองระดับชาติแน่นอน
โดยสรุปนายอภิสิทธิ์และนายอภิรักษ์มีคุณสมบัติทฤษฏีทุน 8 ประการของทรัพยากรมนุษย์ 8 K’s เกือบครบ จึงเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
2. Godon Brown / Tony Blair
2.1 Godon Brown รมว.กระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร และเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานใหม่ เขาเรียนหนังสือเก่งมาก มีความรู้ มีความสามารถที่นำพาให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจไปได้ เขาทำงานเคียงข้างนายกรัฐมนตรี
2.2 Tony Blair อดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร เป็นคนฉลาดมีไหวพริบ กล้าเสี่ยงที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ เช่นเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงาน ในปี2537เขามีส่วนในการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากที่เคยเป็นพรรคซ้ายจัดเป็นพรรคที่มีนโยบายกลางๆ ทำให้พรรคชนะการเลือกตั้ง และสามารถนำความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจกลับมายังประเทศอีกครั้ง แต่การนำอังกฤษเข้าสู่สงครามอิรักและอัฟกานิสถาน ทำให้ถูกวิพากวิจารณ์อย่างมาก
สรุปว่าทั้ง Godon Brown/ Tony Blair มีความโดดเด่นทาง ทุนทางมนุษย์ ทุนทางปัญญา และทุนทางสังคม
3. Obama/McCain
3.1 Obama ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 44 เขามีทุนมนุษย์สูง เรียนดี จบป.เอกจากฮาร์เวิร์ด เคยสอนกฏหมายที่วิทยาลัยกฏหมาย ม. ชิกาโก จึงมีทุนทางสังคมสูงมีเครือข่ายจากลูกศิษย์เพื่อนร่วมงาน เขาเป็นคนที่มีความรู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมีจุดยืนที่หนักแน่น มีความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างดีขึ้น ประกอบกับมียุทศาสตร์ที่ชัดเจนทำให้เขาชนะการเลือกตั้ง การมีทุนทางความรู้ ทักษะและทัศนคติ ทำให้เขาคัดเลือกเพื่อนร่วมงานที่มีประสพการณ์มีความรู้ความสามารถที่จะเสริมจุดอ่อนของเขาให้แข็งแกร่งขึ้น สำหรับทุนทางความสุขเขามีอยู่อย่างเต็มที่เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนและกำลังใจจากภรรยาและลูกสาวทั้งสองคน และที่สำคัญเขาเป็นผู้นำที่มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นคนที่ติดโทรศัพท์และE-Mail
3.2 McCain เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีอายุมากถึง 72 ปี มีต้นทุนทางสังคมสูงมาก เคยเป็นทหารผ่านศึกในเวียดนามได้สร้างวีรกรรมความกล้าหาญ เขามีนโยบายที่
แตกต่างจาก Obama หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือด้านการต่างประเทศแต่ สุดท้ายเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งเนื่องจากชาวอเมริกันต้องการการเปลี่ยนแปลงดังที่ Obama กล่าวในการหาเสียง
สรุป Obama/McCain ต่างก็มีจุดเด่นที่ทุนทางมนุษย์ ทางสังคม ทุนทางปัญญา
4.สำหรับการวิเคราะห์ตัวเอง(นางนุจรี สภาพันธ์)
4.1 ทุนมนุษย์และทุนทางปัญญา เรียนจบป.ตรี วท.บ.(เกษตรศาสตร์)จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และป.ตรี เศรษฐศาสตร์ จาก มสธ.ขณะนี้กำลังเรียนป.โท ด้านนโยบายและการวางแผนสังคม ที่ม.ทักษิณ สงขลาเพื่อเพิ่มเติมความรู้และพัฒนาตนเอง โดยคาดหวังว่าจะนำไปใช้ในการทำงาน
4.2 ทุนทางจริยธรรม มุ่งมั่นที่นำความรู้ความสามารถของตนเองไปใช้ในทางที่ถูกต้อง ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
4.3 ทุนทางความสุข มีอยู่ในระดับปานกลาง โดยการเรียนรู้จุดหมายของงาน ทำงานด้วยความกระตือรือร้น ไม่เครียดมีความ
สมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวและการทำงานแต่ยังขาดการดูแลสุขภาพ น้ำหนักเกินส่วนสุขภาพจิตถือว่าอยู่ในเกณน์ดี สิ่งที่ต้องพัฒนาในการทำงานคือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม การทำงานเป็นทีมและเพิ่มคุณค่าให้ตนเอง( Enrich )
5.การสร้างผู้นำในองค์กรของสศก.แบบ Ram Charan ซึ่งเน้นExecution เป็นการทำให้เกิดขึ้นจริง ผู้บริหารต้องให้นโยบายและต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรับทราบนโยบายและมีการนำไปปฏิบัติอย่างแท้จริงในทุกระดับ ทุกคนในองค์กรต้องมีส่วนร่วม ส่วนผู้นำในองค์กรนั้นโดยตำแหน่งก็มีผู้นำอยู่แล้วเพียงแต่ต้องมีการอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมสร้างจิตสำนึกให้มีภาคภูมิใจในการเป็น สศก. และสร้างคนรุ่นใหม่ให้ต่อทำงานต่อเนื่องกับคนรุ่นเก่าที่จะเกษียณอายุราชการ
นางนุจรี สภาพันธ์
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 9 สงขลา
ถึง ลูกศิษย์ สศก. ทุกท่าน
ขอขอบคุณที่ท่านกรุณาให้ความสนใจและยังคงเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ผมจะรวบรวมประเด็นที่ท่านส่งเข้ามาและสรุปให้แก่ท่านเลขาธิการฯ เพื่อการพัฒนาที่ต่อเนื่องต่อไปครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์