เปลี่ยนมะเร็ง เป็นพลัง : บันทึกชีวิตชิ้นสุดท้ายของหมอสงวน


"หากความป่วยไข้ ได้เข้ามากลายเป็นพลังทำให้เราสามารถยกระดับทางปัญญา มีความกล้าหาญที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง ตลอดจนนำไปสู่วิถีการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะยาวนานหรือเพียงช่วงเวลาหนึ่งก็ตามก็ถือว่าเราไม่ได้สูญเปล่าไป และถ้าจะคิดให้ดีแล้วเราจะเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นย่อมดีที่สุดเสมอ"

เปลี่ยนมะเร็ง เป็นพลัง

                                                                           (ร่างงานเขียนคอลัมภ์ แนะนำหนังสือน่าอ่าน วารสารหมออนามัย - โดย จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร)

ลองคิดดูว่าหากวันหนึ่งชีวิตของเรามีเงื่อนไขที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่คาดคิดและเงื่อนไขนั้นมีทางเลือกเพียงแค่จะอยู่เพื่อมีชีวิตต่อหรือจะยอมแพ้ศิโรราบ ความท้าทายของการก้าวไปข้างหน้าจึงอยู่ที่เรามีมุมมองกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอย่างไร?

 

ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด แห่ง สคส.(สถาบันการจัดการความรู้เพื่อสังคม) ท่านเคยบอกผมนานมาแล้วว่า "การมองโลกในแง่บวกนั้นเป็นเรื่องที่เราควรฝึกฝน แต่เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการยอมรับสิ่งที่เป็นอยู่ตามสภาพความเป็นจริง พิจารณาตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่รวมถึง พิจารณาตามเหตุและปัจจัย"

 

เมื่อเราอยู่ท่ามกลางปัญหา มองไปทางไหนก็ล้วนแล้วแต่มีเหตุของปัญหาแทบทั้งสิ้น ผู้คนส่วนหนึ่งจะยอมจำนนกับปัญหาเพราะคิดว่ามันเรื้อรังซะจนแก้อะไรไม่ได้ ในสถานการณ์ที่ระอุด้วยปัญหาถูกพลิกด้วยวิธีคิดที่ว่า "ใช้วิกฤติเป็นโอกาส" การแก้ปัญหาดำเนินไปด้วยวิธีคิดที่ไม่ย่อท้อกับปัญหา และในที่สุดก็พลิกกลับเป็นผู้ชนะอย่างไม่น่าเชื่อ

 

หากเปรียบวิกฤติปัญหาในชีวิต เหมือน "มะเร็ง" โรคร้ายที่คร่าชีวิตมนุษย์คนแล้วคนเล่า จะมีสักกี่คนที่ไม่ยอมจำนนต่อวิกฤตินี้แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้และอยู่กับมะเร็งอย่างรู้เท่าทัน

 

"มะเร็งเข้ามาเป็นเงื่อนไขสำคัญในชีวิตผมแล้วจริงๆ นับจากวันนี้ผมจะไปไหนทำอะไรตามสบายอย่างที่เคยทำคงไม่ได้ การอยู่กับความจริงที่ว่าเรามีมะเร็งในช่วงสองสามวันแรกเป็นการต่อสู้ในจิตใจตัวเองครั้งใหญ่ ที่ต้องการกำลังใจและสติเป็นอย่างมาก"

 

คุณหมอสงวน นิตยารัมพงศ์ บอกถึงความรู้สึกแรกเมื่อทราบว่าตนเองมี "มะเร็ง" เป็นส่วนหนึ่งวิถีชีวิต และโรคร้ายนี้ถูกสร้างเป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นแบบกะทันหัน จนยากจะเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

"ผมเป็นคนหนึ่งที่เหมือนกับทุกคนคือหวั่นไหวในบางครั้งและเข้มแข็งในบางที แต่ผมก็ยังรู้ว่าผมไม่มีเวลาให้ท้อแท้นานมากนัก มะเร็งเติบโตขึ้นทุกวันในร่างกายของเรา มันอาจโตทีละนิดมานานแล้วแต่เรากลับไม่รู้ตัว วันนี้เมื่อเรารู้แล้วก็ถึงเวลาที่เราจะต้องรุกกลับและทำอะไรกับมันบ้าง  เราต้องคิดให้รอบคอบและลงมือทำในทันที"

 

เป็นการตัดสินใจที่ไม่ยอมแพ้ และพยายามหาหนทางต่อสู้ เพื่อเพิ่มเวลาชีวิตให้นานขึ้น ของคุณหมอสงวน

 News_1201220426

ผมหยิบหนังสือ "เปลี่ยนมะเร็ง เป็นพลัง" ที่คุณหมอสงวนได้ถอดบทเรียนชีวิตหลังจากทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็งขึ้นมาอ่านรวดเดียวจบ ซึมซับเอาความรู้สึกที่เขียนบรรยายไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ท่ามกลางความอลหม่านของปัญหาและความรู้สึกสับสน คุณหมอสงวนได้ค้นพบทางเลือกและเปลี่ยนมุมมองตัดสินใจเลือกข้างเพื่อที่จะต่อสู้ เหมือนได้อ่านหนังสือที่ให้กำลังใจ เป็นหนังสือธรรมะที่มีคุณค่าผ่านประสบการณ์ของการมีชีวิตอยู่ของคนหนึ่งคน

 

ไม่ง่ายนักที่เราจะได้เห็นมุมมองของแพทย์ที่มีต่อการป่วยของตัวเอง รวมถึงข้อคิด การปฏิบัติตัวเมื่อเจ็บป่วย ผ่านประสบการณ์จริง กล้าสะท้อนถึงปัญหาที่ละเอียดอ่อนอย่างตรงไปตรงมา จนมาถึงการพลิกวิธีคิดโดยใช้กระบวนการทางธรรมะ สร้างปัญญาผ่านวิกฤติ เห็นแสงสว่างในความมืดมิด แสวงหาโอกาสในสถานการณ์วิกฤติ

 

"หากความป่วยไข้ ได้เข้ามากลายเป็นพลังทำให้เราสามารถยกระดับทางปัญญา มีความกล้าหาญที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง  ตลอดจนนำไปสู่วิถีการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะยาวนานหรือเพียงช่วงเวลาหนึ่งก็ตามก็ถือว่าเราไม่ได้สูญเปล่าไป และถ้าจะคิดให้ดีแล้วเราจะเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นย่อมดีที่สุดเสมอ"

 

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เหมาะเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงประเภทอื่นเท่านั้น หากแต่เป็นหนังสือที่ทุกคน "ควรอ่าน" เป็นอย่างยิ่ง ประสบการณ์เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของหมอสงวนเป็น "เส้นทางลัด" ของการเข้าถึงปัญญาผ่านความเป็นจริงของชีวิตและเป็นการตีความใหม่ว่า "ชีวิตที่ดีคืออะไร"?

 

----------------------------------------------------------------------

Ca-sanguan

เปลี่ยนมะเร็งเป็นพลัง,นายแพทย์สงวน นิตยารัมพงศ์ ,ราคา 220 บาท

ผู้ที่สนใจหนังสือสามารถติดต่อเพื่อร่วมสนับสนุนกองทุนนายแพทย์สงวนฯ ได้ที่ สำนักสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคี สปสช. โทร.0-2831-4000 ต่อ 4134 และสามารถดาวน์โหลดอ่านข้อความของ นพ.สงวน ในหนังสือได้ในเว็บไซต์ สปสช.http://www.nhso.go.th

หมายเลขบันทึก: 173361เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2008 11:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (47)

สวัสดีเจ้า อ้ายเอก

ความป่วยไข้เป็นพลังหนึ่งในการคิดและทำสิ่งที่ถูกต้องกับชีวิตที่เหลืออยู่

หากเราใช้บทเรียนของผู้ป่วยไข้ก่อนมาสร้างพลังให้คิดและทำสิ่งที่ถูกต้องก่อนที่ต้องรับรู้ว่าชีวิตที่เหลือมีภาวะเจ็บป่วยเข้ามาแทนที...ก็คงจะดีนะคะ

หนังสือเล่มนี้น่าจะเสริมพลังให้คนเจ็บป่วยและสร้างพลังให้คนยังดีให้มองโลกในแง่บวก หากคิดและตกผลึกได้แบบที่อ้ายเอกทำได้ทุกคน...ก็คงจะดีนะคะ

ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆ ที่นำมาแบ่งปัน

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

---^.^---

เห็นด้วยคะคงมีคนจำนวนมากที่ต้องการเติบโตทางจิตใจเพื่อผ่านวิกฤติของชีวิตที่ยิ่งใหญ่

แต่ถ้าทำได้ง่ายสังคมคงไม่ต้องมีความเศร้าจากการจัดการกับปัญหาที่วิกฤติของตน

จึงน่าเรียนรู้ต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้คนของเราเติบโตทางความคิดและจิตวิญญานไม่ไช่

เติบโตแต่ร่างกายแก่แต่อายุ

คนเราขอเพียงมีกำลังใจ และความพยายาม...โอกาสแห่งความสำเร็จ คงอยู่ไม่ไกลครับ

มาร่วมศึกษา ฝึกจิต

ขอบคุณมากๆครับ  บันทึกดีๆ

สวัสดีครับน้องพิมพ์พิมพ์ดีด

ผมเพิ่งส่งต้นฉบับไปเมื่อวานเอง วันนี้ก็เลยนำมาลงให้อ่านกันก่อนหนังสือจะออกครับ

เป็นหนังสือที่ดี ให้กำลังใจ และมั่นใจในสิ่งที่คิด ทำมากขึ้น

ลองไปหาอ่านดูนะครับ

สวัสดีครับ

  • ติดตามอ่านละเอียดทุกบรรทัด
  • อ่านแล้วได้ประโยชน์ ได้แง่คิด
  • ขอบคุณมากครับ
  • คิดถึงมาก

สวัสดีครับ คุณพยาบาล PCU

ใช่แล้วครับ ...ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ แต่หนังสือเล่มนี้ก็เป็นบทเรียนหนึ่งที่ดีครับ อย่างน้อยหากเราพลิกวิธีคิดได้ เปลี่ยนปัญหาเป็นปัญญาได้ ..เป็นการเรียนรู้ชีวิตผ่านชีวิตครับ

สวัสดีครับน้องขุนย่ามแดง

ขอให้กำลังใจน้องในการเรียน ป.เอก นะครับ ขอให้มีความสุขกับเมืองเหนือ บรรยากาศที่สวยงามครับ

สวัสดีครับพี่เหลียง สิทธิรักษ์

เป็นหนังสือที่ดี แนะนำให้อ่านครับ ไม่หนามาก กำลังดี

สวัสดีครับ อาจารย์ Handy

คิดถึงอาจารย์มากเช่นเดียวกันครับ..อาจารย์สบายดีนะครับ

พอดีผมต้องถอด ต้องเขียนเป็นหนังสือแนะนำให้นิตยสารฉบับหนึ่งครับ ในคอลัมภ์แนะนำหนังสือ เลยถือโอกาสนี้นำมาให้อ่านใน Blog ด้วยครับ

รักษาสุขภาพครับผม

คุณเอกคะ

หากคนเราคิดได้อย่างคุณหมอสงวน ก็จะทำให้มีสติในการต่อสู้กับสิ่งที่คาดไม่ถึงและไม่อยากให้เกิด แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องมีความอดทนและกล้าหาญอย่างมากกว่าที่ จะหลุดพ้นจากจุดนั้นมาได้

สวัสดีครับ พี่อุ๊ a l i n l u x a n a =)

ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการต่อสู้คือ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เข้ามา และสร้างภูมิด้านจิตใจ หามุมมองที่บวก ใช้วิกฤติเป็นปัญญาซึ่งคุณหมอสงวนทำได้ดีและเป็นตัวอย่างของคนสู้แบบใช้ปัญญา

อ่านแล้วรู้สึกดีมากครับ

สวัสดีครับน้องอำนวย สุดสวาสดิ์

ผมต้องการรูปประกอบพอดีเลย งั้นขอยืมเลยนะครับ

----------

บันทึกนี้สามารถหาอ่านได้ใน วารสารหมออนามัย ฉบับที่จะวางแผงเร็วๆนี้ครับผม

ด้วยความยินดีครับ, ขอบคุณครับ

  • สวัสดีคะ ผ่านมาเยี่ยมบ่อย ๆ แต่ยังไม่ได้เขียนทักทาย ชอบบทความ ทุกบท อ่านแล้วชวนคิด ชวนให้ทบทวนสิ่งรอบข้าง ๆใกล้ ๆ ตัวทุกครั้ง ทั้งที่สิ่งนี้เราคิดควรถึง ก่อนสิ่งอื่น ๆ เสมอ แต่เรามักเก็บไว้ทำ เป็นสิ่งสุดท้าย หรือเมื่อพบ ประสบเหตุกับตัวเองแล้วเสมอ ดิฉันเป็นคนหนึ่ง..ที่จะต้องหาหนังสือเล่มนี้มาไว้แน่นอนคะ

ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆเล่มนี้นะครับ

น่าจะส่งไปให้คุณยอดรักนะครับ

ขอเป็นกำลงใจให้กับทุกคนที่เผชิญกับมันนะครับ

ขอให้ต่อสู้ไปได้นะครับ

สวัสดีครับ  P'กา ก้า

เล่มนี้เน้น มรณานุสติ ดีมากครับ ชวนให้คิดถึง "เวลาที่เหลือน้อย" สิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ ก็ควรทำ ไม่รู้ว่าเราจะหมดเวลาเมื่อไหร่

ขอบคุณครับที่  P'กา ก้า
ติดตามบันทึกผมเสมอๆ นี่เป็นกำลังใจที่ดีที่จะเขียนบันทึกต่อๆไปครับ

 

สวัสดีค่ะเอก

พี่ต้องหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านค่ะ

มีวางขายไหมคะ

สวัสดีครับน้องเอก

  • ถ้าวันเสาร์ว่าง พบกันที่โรงเรียนพูนสินนะครับ
  • จะเอาตั๋ว รฟ.ไปให้ หรือไม่ว่างก็ช่วยส่งเมล์ที่อยู่มาด้วย จะส่ง EMs ไปให้ครับ

สวัสดีครับเอก

อยู่ไหนเนีย?...พ่อหนุ่มลอยชาย

กลับบ้านเมื่อไร...พี่คงได้อ่านหนังสือเล่มนี้นะ ฮิ ฮิ

สวัสดีครับคุณ HeadOfArt

หนังสือเล่มนี้คนไม่ป่วยแบบเราก็ต้องอ่านครับ วิธีคิดบางอย่าง ช่วยให้เรากลับเป็นผู้ชนะเหนือปัญหาได้ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแต่ต้องฝึกการมองโลกอีกมุม

น่าสนใจครับ

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

เปลี่ยนวิกกฤต..ให้เป็นโอกาสที่เยี่ยมมากเลยค่ะ.. เคยอ่านเจอ..เค้าบอกว่า..ปัญหาและอุปสรรค..เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้..และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชีวิต.. ... คงต้องไปลองหาอ่านดูแล้วล่ะค่ะ.. คุณเอกสบายดีนะคะ..ได้ข่าวว่าไปกรุงเทพด้วย.. มีความสุขกับทุกวัน..ของชีวิตค่ะ..

พี่  อุบล จ๋วงพานิช ครับ และพี่ บางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)

สามารถโทรไปตามที่อยู่ท้ายบันทึกได้ครับ หากหาซื้อไม่ได้

ผู้ที่สนใจหนังสือสามารถติดต่อเพื่อร่วมสนับสนุนกองทุนนายแพทย์สงวนฯ ได้ที่ สำนักสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคี สปสช. โทร.0-2831-4000 ต่อ 4134 และสามารถดาวน์โหลดอ่านข้อความของ นพ.สงวน ในหนังสือได้ในเว็บไซต์

เปลี่ยนมะเร็งเป็นพลัง,นายแพทย์สงวน นิตยารัมพงศ์ ,ราคา 220 บาท

ผู้ที่สนใจหนังสือสามารถติดต่อเพื่อร่วมสนับสนุนกองทุนนายแพทย์สงวนฯ ได้ที่ สำนักสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคี สปสช. โทร.0-2831-4000 ต่อ 4134 และสามารถดาวน์โหลดอ่านข้อความของ นพ.สงวน ในหนังสือได้ในเว็บไซต์ สปสช.http://www.nhso.go.th

พี่สมนึกสะมะนึก แซ่เฮ ครับ

ไม่รู้จักโรงเรียนพูนสินครับ แต่เย็นนี้จะไปที่ สวนลุมฯ ครับ และจะเลยไปที่แถวๆสุรวงศ์ สีลมครับ

เย็นนี้ไปทานข้าวกับพ่อสุทธินันท์ครับ...แล้วเจอกันครับ

ขอบคุณพี่สมนึกมากๆครับ ที่ช่วยให้ผมมีตั๋วกลับบ้านได้...หลังจากที่ทุกการขนส่งปิดรับหมดแล้ว..

ขอบคุณครับผม

พี่หมอรอน

อยู่แถว นนท์ ครับ เดินทางไปมา ช่วงปีใหม่เมืองก็ปิ้กบ้านเฮาแล้วครับ

คุณครูแอ๊ว ครับ

ผมสบายดีครับ ก็ทำงาน และเดินทาง เป็นเรื่องเดียวกัน ผมก็ได้โอกาสดีๆจากการเดินทางนี้หละครับ ได้เรียนรู้วิถีผู้คนที่หลากหลาย...ผมโชคดี

กำลังใจสร้างกับตัวเอง พลิกปัญหาให้เป็นปัญญา ครับ

สวัสดีค่ะ

หายไป คงยุ่งมากนะคะ อยู่แถวนนท์ ก็แถวบ้านเก่าพี่ค่ะ ถนนพิบูลสงคราม ที่เป็นคอนโด River Rhine ค่ะ แถวนั้นเขริญมากแล้ว แต่ยังมีความเป็นชนบทซ่อนๆอยู่บ้างค่ะ

หวัดดีจ้ะ...น้องเอก

  • สบายดีนะค่ะ
  • โรคมะเร็ง โรคยอดฮิต โรคที่น่ากลัวจริง ๆ
  •  แต่บางคนดีนะ...ที่มีพลังใจในการต่อสู้กับโรคร้าย
  • บางทีอะไร ๆ ที่คิดว่ามันร้ายแรง...อาจจะไม่ร้ายก็ได้
  • ถ้าพลังใจดี จิตใจดี ดูแลสุขภาพที่ดี ยอมรับกับความจริง และมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อโรคร้าย...
  • ปาฎิหาร์ยก็ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอเชื่อไหม... 

สวัสดีค่ะ พี่เอก

สบายดีนะคะ

คงต้องไปลองหามาอ่านแล้วล่ะคะ เพราะ เดี๋ยวนี้คนเราท้อแท้ง่ายเหลือเกิน พลังใจสำคัญ พอๆกับพลังกาย อาจมากกว่าด้วยซ้ำ

คงไม่ผิดนะคะ ถ้าจะบอกว่า ทุกอย่างอยู่ที่ทัศนคติ คิดบวก ย่อมเกิดทางบวก ถ้าคิดลบ ก็คงไม่พ้นได้รับผลทางลบกลับมา

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อากาศแม่ฮ่องสอน ร้อนเหลือเกิน

  • แหววมาสนับสนุนอีกคนค่ะ ว่าหนังสือเล่มนี้ดีมากๆ แหววพึ่งได้มาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง
  • คุณหมอสงวนเป็นบุคคลในดวงใจของแหววอีกท่านหนึ่งค่ะ หลังจากที่ได้เคยสัมผัสและร่วมงานตั้งแต่ รพ.บ้านแพรกเข้าร่วมโครงการปฏิรูประบบสาธารณสุขเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ท่านเป็นคนดีมากๆ เป็นหมอที่แหววชื่นชอบในแนวคิด และการทำงาน ยังมีแนวคิดบางอย่างที่ท่านเคยเปรยไว้ตั้งแตครั้งนั้น แล้วยังไม่เกิดขึ้น แหววภาวนามาตลอดว่ามันจะเป็นเช่นนั้น หลังจากที่โครงการใหญ่ ๆได้เกิดขึ้นดังใจแม้ว่าจะใช้เวลาหลายปี แหววเลยไม่รู้ว่า สิงที่แหววรอคอยอยู่มันจะเกิดขึ้นมั้ย..เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว...(มันเป็นบางสิ่งที่บอกใครไม่ได้ เพียงแค่รำพึงจากใจเท่านั้นเองค่ะ)

สวัสดีค่ะ น้องจตุพร

ฝากความห่วงใยไปถึงคุณหมอด้วยค่ะ ขอให้หายในเร็ววัน

แล้วมะเร็งในอารมณ์ล่ะคะ จะรักษาอย่างไร โปรดตอบด้วย ขอบคุณค่ะ

สวัสดียามเช้าค่ะ..อาจารย์เอก

  • สบายดีนะคะ...ติดตามตั้งแต่อาจารย์เอกอยู่ภาคใต้แล้วค่ะ
  • จนกลับถึงบ้านแล้ว..ยังไม่มีโอกาสได้คุยด้วย..ดูอาจารย์เอกมีความสุขจังค่ะ..กับงาน
  • ในเรื่องนี้...น่าสนใจมากค่ะ
  • เพราะลึก ๆ ก็กังวลกับตัวเองอยู่เหมือนกัน..
  • ฝากความห่วงใยไปยังคุณหมอด้วยเช่นกันค่ะ
  • จะหาซื้อค่ะ..เปลี่ยนมะเร็ง เป็นพลัง..
  • ด้วยความระลึกถึงอาจารย์เอกเสมอค่ะ...

สวัสดีค่ะ คุณเอก

ตามพี่สาวเข้ามา คิดถึงเช่นกันค่ะ

มีความสุขกับการทำงานนะค่ะ

ผมทราบชีวิตและผลงานของหมอสงวน จากนพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานตร์ เพราะทำงานวิจัยด้วยกัน รู้สึกชื่นชมคนดีของสังคม แต่บุญน้อย เสียดายชีวิตและผลงานมากเลยครับ คนที่ไม่สมควรอยู่กับอยู่ คนที่สมควรอยู่กลับไปเสียก่อน ขอให้หมอจงไปสู่สุขคติ

อาจารย์เก แม่ฮ่องสอน

สวัสดีครับพี่ศศินันท์ Sasinanda

ช่วงนี้งานค่อนข้างรัดตัวครับ เลยหาโอกาสมาตอบความเห็นช้าไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยครับผม

เมื่อสักครู่ผ่านถนนพิบูลสงคราม เห็นแล้วนึกถึงพี่ศศินันท์ไปด้วย พอดีได้มาอ่านข้อเสนอแนะแล้ววันก่อนครับ

คุยกับ Taxi บอกว่า แถวนนท์ แถวกระทรวงสาธารณสุขอากาศยังดี และน่าอยู่มาก และเท่าที่ผมทราบถามจากคนนนท์บอกว่าในเรือกสวน ไร่นาที่ลึกเข้าไปอีก ก็มีบรรยากาศที่เป็นชนบทมากขึ้น

คิดถึงบ้านจังครับ !!!

สวัสดีครับพี่อ้อยอ้อยควั้น

ผมสบายดีครับ

งานค่อนข้างรัดตัว แต่ดีใจครับที่ได้ทำหน้าที่ และภาระกิจที่สำคัญ ดังนั้นความหมายของความสุขของผม จึงหมายถึงการได้ทำงานในประเด็นที่ท้าทายนี่เอง สนุกครับผม

หากเรายังไม่ป่วย ผมขอให้ดูแลสุขภาพ โดยการส่งเสริมสุขภาพ ทางสาธารณสุขเน้น 5 อ.ครับ

ผมตัดจากข่าวมาให้อ่านครับ น่าสนใจดี

*****************************

สถิติล่าสุดพบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อร้อยละ 30 ของอัตราการตายหรือ 112,403 ราย ต่ออัตราการตายของคนไทยทั้งหมด 380,364 ราย

ใน 1 ปี ซึ่งการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่ออันดับหนึ่งคือ โรคมะเร็ง อันดับ 2 คือ อุบัติเหตุและการเป็นพิษ อันดับ 3 โรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดในสมอง และอันดับ 4 โรคหัวใจ

ซึ่งเทียบได้ว่าทุก 1 ชั่วโมง จะมีคนตายจาก 4 โรคดังกล่าว 13 ราย เทียบแล้วพบว่ามีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าโรคเอดส์ 19 เท่า

อย่างไรก็ตามเราสามารถป้องกันได้ โดยการเน้นสร้างสุขภาพโดยใช้หลัก 5 อ. คือออกกำลังกาย อารมณ์ อโรคยา อาหารและ อนามัยสิ่งแวดล้อม

ทำให้ได้ครบนะครับพี่อ้อยเพื่อสุขภาพที่ดี

 

สวัสดีครับน้องหัวใจติดปีก

ทราบข่าวมาว่าที่แม่ฮ่องสอน อากาศไม่ค่อยดี มีหมอกควันมาก และอุณหภูมิไต่ขึ้นเรื่อยๆ สงกรานต์คงร้อนน่าดูนะครับ รักษาสุขภาพด้วยครับ(ผมอยู่ กทม.ครับ)

มีโอกาส และ ได้พบเจอหนังสือเล่มนี้ ก็ซื้อไว้อ่านนะครับ คุณค่าของประสบการณ์จากชีวิตทำให้เราได้สติ ตระหนัก ในการอยู่ต่อได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยม

สวัสดีครับ คุณแหววพชรวรัตถ์ แสงทองชนาพงศ์

คนดีที่ยังอยู่ในใจเสมอครับ คุณแหววโชคดีที่ได้ร่วมงานท่านแบบใกล้ชิด ในช่วงที่ท่านยังอยู่ ท่านมีพลังที่ล้นเหลือ ผมอ่านจากหนังสือแล้ว มีกำลังใจทำงานขึ้นมามากครับ โดยเฉพาะการต่อสู้กับโรคร้ายแบบไม่ยอมแพ้ ในสถานการณ์ที่ต้องต่อสู้กับโรค ยังต้องต่อสู้กับตัวเองด้วย

เชื่อว่าสิ่งดีๆที่ท่านได้คิด ริเริ่มในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จะดำเนินต่อ สานต่อไปครับ-ให้กำลังคุณแหววด้วยครับ

ขอให้ดวงวิญญาณท่านไปสู่สุขคติ

สวัสดีครับพี่ไหมแก้ว

ท่าน คุณหมอสงวน ท่านได้จากพวกเราไปแล้วครับ สิ่งที่เหลืออยู่ก็เป็นสิ่งดีๆที่ท่านได้ทำไว้ตลอดที่ท่านมีชีวิตอยู่

พี่ตั้งประเด็นคำถามว่า "มะเร็งในอารมณ์" แก้ไขยังไง

ก็คงต้องแก้ที่ต้นเหตุ แก้ที่อารมณ์ครับ

เหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งในอารมณ์คือ ความฟุ้งของอารมณ์

เมื่อน้ำกระเพื่อม เราไม่เห็นเงาอะไรได้ หรือมองเห็นก็เป็นภาพที่ลายตา น่าเวียนหัว ดูสับสน

หากน้ำนิ่งๆ เราก็จะเห็นเงาได่แจ่มชัด เหมือนดวงจิตครับ หากดวงจิตที่มีสติ นิ่ง ทำให้เรามีเวลาได้คิด ทบทวน เรียนรู้ ดูจิต ก่อนที่จะทำในสิ่งที่ไม่ควรเช่น ระเบิดอารมณ์ ทำร้ายความรู้สึกคนอื่น เป็นต้น

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึกผมและโทรศัพท์มาให้กำลังใจผมบ่อยๆ ผมขอบคุณมากๆครับ

 

สวัสดีครับ ท่าน ศน.วัชราภรณ์ วัตรสุข

ผมเองก็คงต้องเดินทางไปใต้บ่อยครั้งในช่วงต่อไปนี้ ส่วนหนึ่งเป็นงานศึกษาที่ผมรับผิดชอบครับ

มีความสุขกับการทำงานหรือไม่?

ผมมีความสุขครับ สุขที่มีอิสระ ได้เรียนรู้ ท่ามกลางความหลากหลาย

น้องที่ทำงานด้วยกัน เธอได้เขียนบทความไว้ในเอกสารเล่มหนึ่งน่าสนใจมากครับ บอกว่า เราปรารถนาความหลากหลาย ยกตัวอย่างการไปเที่ยวเรามักเพลิดเพลินกับความหลากหลายของสถานที่ ดอกไม้ น้ำตก ที่มีส่วนประกอบที่สวยงามเติมเต็ม การทำงานก็เช่นเดียวกัน หากเรามีโอกาสได้ทำงานท่ามกลางความหลากหลาย เราจะพบความงามเหล่านั้น

ข้อความเหล่านี้ เปรียบไปถึง ความหลากหลายในพื้นที่ภาคใต้ ที่ประกอบด้วย ความต่างของเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ทั้งมวลนั้น คือความสวยงามของการอยู่ร่วมกัน หาใช่...ต้นเหตุความขัดแย้งใดๆไม่

ผมมีโอกาสได้ชมละครสั้นเกี่ยงกับ Art of peace เมื่อวานนี้ มีเรื่องราวมากมายที่อยากเล่า ติดตามในบันทึกต่อไปของผมนะครับ ทั้งภาพและบรรยากาศ รวมถึงความประทับใจที่ผมซาบซึ้งมากๆครับ

ขอบคุณครับ ท่าน ศน.วัชราภรณ์

ให้กำลังท่านทำงานเพื่อสังคมด้วยครับ

สวัสดีครับ ครูเอ

ผมได้รับหนังสือดีๆ พร้อม การ์ดสวยแล้วครับ เมื่อวานนี้ ต้องขอขอบคุณมากครับ วันนี้ผมได้นั่งอ่านหนังสือในรถ Taxi ท่ามกลางการจราจรที่โกลาหล ด้วยใจสงบมากๆครับ

ขอบคุณครับ สำหรับน้ำใจที่ให้ผม

สวัสดีครับ อาจารย์เก

แม่ฮ่องสอน เป็นอย่างไรบ้างครับ??

อาจารย์สบายดีนะครับ

บันทึกแนะนำหนังสือเล่มนี้ ผมได้เขียนให้นิตยสารเล่มหนึ่งครับ น่าจะออกเร็วๆนี้ ต่อไป ก็จะเขียนแนะนำหนังสือเล่มใหม่ๆเรื่อยๆ ติดตามต่อครับ

คุณหมอสงวน ท่านได้ทำหน้าที่ที่ดีที่สุด แม้ว่าท่านจากไปแล้ว ความดีงามของท่านยังกล่าวขานไม่รู้จบ

ให้กำลังใจอาจารย์ เก ทำงานเพื่อสังคมที่ดีของแม่ฮ่องสอน และประเทศชาติยิ่งๆไป

ปี๋ใหม่เมือง ไม่มีโอกาสไปดำหัวท่าน ก็ขออนุญาตดำหัวในบันทึกนะครับ

ขอพรจากท่านด้วยครับผม

 

ร่วมแสดงความรู้สึก...อาลัย ในตัวท่าน ... คุณหมอสงวน......และสิ่งดี ดี ที่ท่านทิ้งไว้ให้

ขอบคุณครับ คุณ...จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

แวะมาขอบคุณ คุณ . จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

   ให้ความรักเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณเสมอ นะครับ

ขอบคุณ คุณ แสงศรี มากเลยครับ

ขอบคุณมิตรภาพดีๆ และ ภาพสวยๆที่แทนคำขอบคุณ

 

:)

ผมแวะมาดูรูปที่ผมให้คุณ  แทนคำขอบคุณ...มันหายไป

ผมจำไม่ได้ว่ารูปไหน  .....แต่รูปนี้ก็มีความหมายครับ

เป็นกำลังใจให้คุณ...คนหนึ่ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท