ผมกำลังจะกลับบ้าน...
นี่คือความรู้สึกและห้วงนึกของผมที่พร่ำถึงอยู่บ่อยครั้งและถี่ครั้งเหลือเกิน ณ ช่วงนี้
ก่อนนั้น ในเทศกาลปีใหม่ ผมไม่เคยได้กลับบ้านติดต่อกันยาวนานถึง 3 ปี
ผมไม่กลับบ้าน, แต่ก็ไม่เคยเหลวไหลหนีไกล ห่างหาย หรือหลีกเร้นไปไหน
แต่ต้องรับผิดชอบ "ภารกิจ" และ "พันธกิจ" ที่มีต่อสังคม...
นั่นก็คือการจัดกิจกรรมให้บริการต่อผู้สัญจรท้องถนนในเทศกาลปีใหม่
แจกขนม น้ำดื่ม น้ำหวาน แนะนำเส้นทาง แจกผ้าเย็น บีบนวด ประจำศูนย์ข้อมูลรายงานช่วยจังหวัด และอีกจิปาถะ....
แต่ก็เป็นการทำงานร่วมกับแกนนำอาสาที่เป็นนิสิตอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
และทุกครั้งผมจะทำงานอยู่กับนิสิตผู้ซึ่งเป็นผองเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรม น้อยนัก และน้อยเหลือเกินทีจะมีเจ้าหน้าที่ หรืออาจารย์มาร่วมชะตากรรมเช่นเดียวกับผม
(ทุกคนและทุกท่านได้กลับบ้านในตอนปีใหม่)
.......
นิสิตเคยถามผมว่า...ไม่คิดถึงบ้านและไม่อยากจะกลับบ้านบ้างเหรอ ?
ผมก็ตอบเหมือนกันทุกครั้งว่า "คิดถึง" แต่ก็มีความสุขที่ได้บริการ "คนที่กำลังกลับบ้าน"
รถบางคันวิ่งไปในเส้นทางที่ไม่ผ่านบ้านผม แต่หลายคันก็มีเส้นทางผ่านบ้านผม (มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงบ้าน)
...........
แต่ปีนี้ ผมปรับเปลี่ยนสายงาน เติบโตไปตามวิถีที่ควรจะเป็น....
ผมไม่ได้ทำงานในลักษณะเช่นนั้นอีกแล้วในเทศกาลปีใหม่ !
ผมเคยบอกกับนิสิตเสมอว่า "เราต่างก็โชคดีที่ยังมีบ้านให้คิดถึง" เพราะบ้านคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นโดยที่เราสามารถกินอิ่ม นอนหลับได้อย่างสุขใจ !
สำหรับผมแล้ว, ในโลกใบนี้ บ้าน..เป็น "พื้นที่" ที่เรารู้จักดีมากกว่าที่อื่น ๆ
และบ้าน เป็น "พื้นที่" ที่ "รู้จักเรา" ดีกว่าที่อื่น ๆ
บ้านเป็น "พื้นที่" ที่มี "คนที่เรารัก และรักเรา" รวมถึง "รู้จักเราดี" รออยู่ที่นั่น
......
ผมรู้สึกดีและตื่นเต้นทุกครั้งที่นึกได้ว่ากำลังจะได้กลับบ้านในเทศกาลปีใหม่
และเขินไม่เบาที่จะได้กลับบ้านหลังห่างเหินไปนานในเทศกาลเช่นนี้และอดถามตนเองไม่ได้ว่า นอกจาก "หัวใจ" ที่พองโตดวงเดียวนี้ ผมควรต้องตระเตรียมอะไรกลับไปบ้าง..
........
ผมเคยแต่อวยพรและอธิษฐานให้ผู้คนที่สัญจรไปมาในเทศกาลปีใหม่เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
ถึงคราวนี้...ผมก็จะไม่ลืมที่จะอวยพรและอธิษฐานให้กับตัวเองเช่นกัน
....................
โลกนี้มีพื้นที่มากมายนัก
แต่มีที่ที่รู้จักไม่กี่ที่
มีผู้คนมากมายเท่าโลกมี
แต่มีคนรู้จักดีไม่กี่คน
(บทกวีของคุณไพวรินทร์ ขาวงาม)
แวะเข้ามาทักทายค่ะคุณ แผ่นดิน คิดถึงบ้านเหมือนกันค่ะ
ยินดีด้วยกับการเติบโตขึ้นของชีวิต และดีใจด้วยที่จะได้กลับบ้าน เห็นการทำงานของคุณแผ่นดินแล้วทำให้นึกถึง อาจารย์บางท่านที่ วท.ยะลา แผนกช่างยนต์ที่ไม่เคยได้กลับบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่เนื่องจากมีโครงการของกรมอาชีวะ เกี่ยวกับการบริการตรวจ เช็ค ยานพาหนะในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้กับประชาชน ตามท้องถนนในจุดต่าง ๆ ค่ะ คิดแล้วก็เห็นภาพการทำงานค่ะ
ชอบบทกวีบทนี้จังเลยค่ะ ทำให้นึกถึงบ้าน มีความสุขเยอะ ๆ กับครอบครัวที่รัก ในเทศกาลแห่งความสุขกับเทศกาลปีใหม่...สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ
โลกนี้มีพื้นที่มากมายนัก
แต่มีที่ที่รู้จักไม่กี่ที่
มีผู้คนมากมายเท่าโลกมี
แต่มีคนรู้จักดีไม่กี่คน
ปีใหม่ปีนี้ผมไม่ได้ไปไหน...ผมยังคงอยู่บ้านของผม ปีนนี้รับแขกอยู่ที่บ้านมากกว่า
เมื่อสักครู่น้องสาวผมโทรมาคุยว่า "อยากกลับบ้าน" มากแต่ดูท่าแล้วกลับบ้านไม่ได้เป็นแน่ เพราะระยะทางที่ไกลกันมาก และต้องเตรียมการสอนและทำงานบางอย่างให้มหาวิทยาลัย ในวันเปิดเรียนปีใหม่ของนักศึกษา
ผมเข้าใจความรู้สึกของน้องสาวผมดี ว่าเขารู้สึกอย่างไร..แต่ด้วยเหตุผลและความจำเป็นที่มี ทำให้เขาต้องอยู่
สำหรับคนเดินทาง หากจะเดินทางก็คงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษครับ
เดินทางโดยสวัสดิภาพ นะครับ คุณ "แผ่นดิน"
(^______^)
อ่านบันทึกนี้แล้วรู้สึกว่า...เหมือนมานั่งฟังหลายๆ ท่านคุยกันด้วยอารมณ์ละมุนละไมคะ...
แวะมายามดึก..ตามรอยที่ท่านอัจฉรา...ทิ้งรอยไว้พามาคะ...
ขอให้มีความสุข...นะคะ
กะปุ๋ม
การเรียนรู้ที่มีคุณค่าจากการได้ปฏิบัติจริง
การปฏิบัติจริงถือว่าเข้าถึง เข้าใจ
การเข้าถึงเข้าใจ นำไปสู่การพัฒนา
ผมเห็นว่า คุณแผ่นดิน ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่าต่อแผ่นดิน