อยากทำความฝันอันสูงสุดของตัวเองให้เป็นความจริง ตั้มเองตอนนี้รับราชการอยู่แล้วที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนหน้านี้มีโอกาสได้ทำงานในสายงานวิชาการด้านการจัดการเรียนการสอน โดยเป็นคุณครูผู้สอนที่่โรงเรียนบ้านแม่ลิด อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีคุณวุฒิทางด้านบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว ที่ตัดสินใจเรียนตามเพื่อนและความความนิยมชมชอบของสังคมในขณะนั้น แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เมื่อมีโอกาสได้ทำงานด้านนี้ กลับมีใจรักและมีความสุขกับการเป็นผู้ให้ทางการศึกษา มีความสุขอยู่กับภาระหน้าที่ของความเป็น "ครู" จึงได้ตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย และสำเร็จการศึกษาเป็นครุศาสตรบัณฑิตเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ใจจริงและความหวังของแม่นั้นอยากให้ตั้มรับราชการครู แต่เมื่อโอกาสที่ดีของชีวิตมาถึงโดยการมาลองสอบบรรจุของ ก.พ. กลับมีโอกาสเข้ารับการบรรจุแต่งตั้งจึงมารับราชการ ละทิ้งความฝันที่ยิ่งใหญ่ไว้ที่กลางดงดอย ทิ้งเด็กน้อยที่พร่ำสอนมากว่า ๓ ปีที่นั่นโดยที่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะล่ำลา .... เพราะได้มาบรรจุอยู่ที่กรุงเทพฯ ในช่วงเวลาของการปิดภาคเรียน .... ต่อจากนี้ขอแค่มีโอกาส เท่านั้น ฉันคนนี้จะยังคงเดินตามหาความฝันที่ยิ่งใหญ่ของฉันจนเจอให้ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม เพราะฉันเชื่ออยู่เสมอว่าไม่เคยมีสิ่งไหนที่ถูกวางไว้อยู่บนหรือเหนือกว่าความพยายาม ไม่มี ไม่มีจริง ๆ ..... ผู้ศรัทธาในอาชีพ "ครู"
"...เราพูดถึงการสร้างชาติมานาน และผิดทางอยู่เรื่อย เราจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการสร้างรถไฟความเร็วสูง แต่เราไม่สร้างคน ทำให้คุณภาพของคนในชาติสู้ประเทศพัฒนาแล้ว (จริงๆ) ไม่ได้ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเองยังเขลา จะเอารถไฟความเร็วสูงไปขนผัก แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ ถ้าเอาเงิน ๒ ล้านล้านไปทุ่มกับการศึกษาของชาติ ทำให้คนมีคุณภาพ หลังจากนั้นเราจะเอารถไฟความเร็วสูงกี่เส้นก็ได้ เพราะเราสร้างเอง..."
(ทำไมไม่อ่านหนังสือ http://thaipost.net/news/160413/72268 ถูกทุกข้อ 16 April 2556)
นี่ใช่ไหม? คือชีวิตมหาวิทยาลัยที่ฉันวาดฝันเอาไว้ TT'
มองไปทางไหนก็มีแต่ป่า...ป่า...และก็ป่า
คนฉลาดกับคนโง่ต่างกันตรงที่
คนโง่นั้นเราต้องบอกมันย้ำพันครั้งมันถึงจะเข้าใจ
ส่วนคนฉลาดเราบอกมันแค่ร้อยครั้งมันก็เข้าใจแล้ว
....โดย Maharishi (มหาฤษี อาจารย์ของพวก The Beatles)