ขอเกริ่นสักนิด.......เมื่อก่อนผมก็เป็นคนที่ หน้าใหญ่ ใจชา บ้าฝรั่ง ดังที่อาจารย์ทวิชเคยเหน็บแนมคนไทยสมัยนี้ เหมือนกัน แต่ด้วยความโชคดี มีโอาสได้ติดตามงานเขียนของท่าน อ.ทวิช ประมาณ 2 ปีก่อน ก่อนจะได้มาเป็นลูกศิษย์ท่าน แบบเต็มตัว เลยเข้าใจอะไรมากขึ้น ฉุกคิดสิ่งบางอย่างที่ท่านพยายามสอนได้ มีสติมากขึ้น ความหน้าใหญ่ ใจชา บ้าฝรั่ง ก็น้อยลงไป (รวมถึงเกาหลี ญี่ปุ่นด้วย อิอิ)
ด้วยความที่ซึมซับจาก ท่านอาจารย์ทวิช มาบ้างไม่มากก็น้อย ผมก็จะเขียนทำนองคล้ายๆกัน แต่จะเขียนในบริบทที่ง่ายกว่าตามภาษาเด็กวัยรุ่นอย่างผมที่มีความรู้รอบตัวมิอาจจะเทียบท่านได้ แต่ว่ามีหัวใจไปในทางใกล้เคียงกัน(ทำนองรักชาติ ไม่อยากให้ชาติล่มจม ก็ได้มาจากท่านอีกนั่นแหละ ซึ่งเมื่อก่อนผมไม่เคยสนใจ) และเขียนในเรื่องที่ผมมีความรู้มาบ้าง และเป็นเรื่องเกิดกับตัวผมเองในอดีต มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
วันนี้เอาเรื่องการเรียนในรั้วมหาลัยแบบมักง่ายของ นศ.บางคนที่เยอะมาก ผมว่าอาจเป็นการคอรัปชันเลยก็ว่าได้นะ
นักศึกษาระดับมหาลัย หรือระดับโรงเรียน ไปเรียนหนังสือกัน ส่วนใหญ่มักจะอยากได้คะแนนดีเมื่อทำการสอบ แต่ว่าขี้เกียจอ่านหนังสือ จึงอ่านเฉพาะช่วงใกล้สอบ และมักจะอยากรู้แนวทางการออกข้อสอบจากอาจารย์ ถ้ารู้ข้อสอบได้เลยยิ่งจะชอบกันมาก เพราะจะได้อ่านแค่นิดเดียวก็สามารถทำคะแนนดีได้ จริงๆมันก็ไม่ผิดหรอกนะ (เอาไงแน่..อิอิ)
แต่ผมว่านั่นจะทำให้เราโง่ลงทันที คนจำพวกนี้ไม่มีความศรัทธาในสาขาวิชาที่ตัวเองเรียนเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ถูกต้องคือการศึกษาให้รอบด้านในวิชาที่ตัวเองเรียนแม้ครูจะไม่ได้สั่งก็ตาม เพื่อให้รู้จริงมากที่สุด (ความรู้จริงนั้นทำให้เกิดบารมีมาก ผมเห็นได้จากอาจารย์หลายๆท่านที่เก่งๆ) เมื่อจบออกมาจะได้เป็นบัณฑิตแบบไม่ปลอม และมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม มีความสง่างาม และดูมีบารมี แต่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างแรกเสียมากกว่า นศ. ที่จบออกมาจึงมีความรู้น้อยเนื่องจากไอ้ที่เรียนมาก็ลืมไปหมดแล้ว เพราะตอนเรียนอ่านแค่ช่วงสอบไง มันไม่ได้เอาจริง มันจึงไม่ซึมลึกและไม่เข้าใจเนื้อหาเท่าที่ควร ซึ่งผมก็เป็นอย่างนั้น มาก่อน อีกนั่นแหละ!!!
แต่ทุกวันนี้ผมเปลี่ยนไปมาก และอ่านหนังสือมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า เพราะอยากเป็นคนเก่ง แถมยังสนใจไปหมดซะทุกเรื่อง 5555 ต้องขอบคุณท่านอาจารย์ทวิชจริงๆ ที่ดัดนิสัยให้ผมดีขึ้น จนถึงทุกวันนี้...............^^
ปล. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ผมไม่มีอัตตามากนักหรอก ผิดถูกยังไงผมจะวินิจฉัยไว้ในใจ ^_^
ทัดระวี กวีไทย
๑๘ พ.ย. ๒๕๕๕