ค่าโทรมือถือมหาโหด..ถึงจุดนี้สายเกินไปหรือยัง


ถ้าจะให้รัฐสร้างเครือข่ายสัญญาณมือถือ แล้วให้บริษัทเอกชนเป็นเพียงผู้ต่อเชื่อมลูกค้าเข้าเครือข่าย  ตามที่ผมเขียนไว้ในตอนที่ ๑ ... ณ จุดเวลานี้คงยาก

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/508877

เหตุผลคือ ผู้เล่นรายใหญ่สามรายที่ได้ลงทุน (ซ้ำซ้อน) ด้านเครือข่ายไว้แล้ว จะเสียประโยชน์  พวกเขาก็จะต่อต้านกันสุดกู่ รวมไปถึงการยัดเงินเพื่อยับยั้งใครก็ตามที่คิดจะทำเช่นนั้น  (ทำให้ผมสงสัยมากว่า คกก. สมัย คมช. ที่ตั้งมาเพื่อการนี้ทำไมถึงหายสาบสูญไร้ร่องรอย) 

ที่เสียประโยชน์ก็เนื่องจากว่า มันจะทำให้เกิดคู่แข่งรายเล็กรายน้อยเกิดขึ้นอีกมากมาย  ที่จะมาตัดราคาของพวกเขาลงไป ทำให้พวกเขาไม่สามารถกำหนดราคาแพงๆ ทำกำไรงามๆ บนความทุกข์ของประชาชนทั้งประเทศได้อีกต่อไป

ที่รายเล็กน้อยสามารถแข่งได้ก็เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านเพื่อสร้างเครือข่าย แค่เช่าสัญญาณจากรัฐ และเสียค่าเช่าเท่าที่ใช้ ก็ทำธุรกิจได้แล้ว และจะมีเครือข่ายครอบคลุมเท่ากับพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วย


พวกรายเล็กๆ  เขาจะมีลูกเล่น หลากหลาย เพื่อแข่งกับรายใหญ่  ผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับประชาชน  (ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองใดคิดเอาไปเป็นนโยบายหาเสียงหรอก เพราะไอ้สามบริษัทใหญ่มันให้เงินสนับสนุนทุกพรรคนั่นแหละ  ถ้าไม่รับเงินมัน ก็แพ้เลือกตั้งแหงๆ  ...ขนาดรับยังแพ้เลย อิอิ ) 



...คนถางทาง (๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕) 

หมายเลขบันทึก: 509276เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2012 19:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2012 00:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มันน่าจะให้รัฐเป็นคนทำเนอะ ยังไง ยังไงก็ไม่ขาดทุนหรอก รับรองได้

แต่แนะนำนะคะกรณีที่เราแก้ไขไรไม่ได้ ก็หาโปรราคาถูกๆ คุ้มๆ ไว้คุยกันสองคน แต่ถ้ามีเยอะกว่าสองคนคงต้องซื้อซิมคู่ขวัญใหม่อีก 555 ถ้าอยากบริหารใจเยอะๆ แต่ราคาไม่แพง ก็ต้องขยันหาโปรคะ -- แหม จริงๆมันก็ช่วงแป๊บเดียว พอรักหมดโปร ทอสับก็หมดความสำคัญละ คริคริคริ คราวนี้ค่าโทรราคาจะถูกหรือแพง ก็ไม่น่าเป็นปัญหาละ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท