หยุดยืน...หมดแรงล้า
เบื้องหน้าคือภูผา แลฟ้ากว้าง
เหลียวมองหาเพื่ิอนร่วมทาง
กลับอ้างว้างไร้แม้เงา
คงมีเพียงแต่ดอกหญ้า
กับเมฆาช่วยคลายเหงา
สายลมพัดแผ่วเบา
อย่ามัวเศร้า...จงก้าวเดิน!
คิดถึงนะค่ะ…..กลับเมฆาช่วยคลายเหงา
โอโหน้องดาวมามองเมฆอยู่นี่เอง
55555
หายไปนาน นึกว่าไปกับสายฝนของวสันต์ฤดูเสียแล้ว
ยุ่งตลอดเลยค่ะ ตั้งใจจะเขียนบันทึกก็ไม่ได้เขียนสักที คงเขียนลงอนุทินไปพลางๆ ค่ะ รอฤกษ์ดีปั่นบันทึก เพิ่งไปขึ้นภูมาค่ะ ^^
อิจฉามากๆๆ ได้ไปเที่ยวด้วย วิ้วๆๆ
ว้าว ๆๆ วันนี้น้องดาวมาบ้านนี้ :)
เอาเห็ดที่ไปทำให้นักเรียนมาฝาก
พร้อมปลูกผักด้วย
เย้ๆๆ
@พี่หนูรี แวะมาบ้านนี้บ้างค่ะ หลังจากปล่อยบ้านรกร้างซะนาน 555
@พี่แอ๊ด ไปเดินขึ้นภูแบบไม่เจียมสังขารตัวเอง กลับมาปวดขาไปสามวันค่ะ ปล. ผักกับเห็ดน่ากินมากๆ
555 ถ้าชวนไปด้วยจะไม่ปวดขาครับ
555
ถ่ายทอดใช้คำไม่มาก แต่สะเทือนใจ (ศงสัยอารมณ์เดียวกันคะ :) ธรรมชาติบำบัดคะ
สงสัยคงอารมณ์เดียวกันมั้งคะอาจารย์…
ดูฟ้าดูเมฆเป็นเพื่อนไปพลางๆ ^^
บางครั้งคราว....
ฝนตก รถติด
ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเสมอไป ;-)
นึกว่าหนีเที่ยวสงกรานต์ 555
ชอบมุมมองที่เห็นความงามของแสงที่ตกกระทบน้ำเกาะกระจกคะ
ในวันอากาศร้อน...เปิดพัดลมเบาๆ
ณ ชั่วขณะที่กดชัตเตอร์
ทุกอย่างหยุดเคลื่ิอนไหว
เวลาหยุดเดิน...
ในความเป็นจริง เข็มนาฬิกายังคงเคลื่อนต่อไป
หรือเป็นใจฉัน...
ที่มันหยุดอยู่ ณ เสี้ยวเวลานั้น
ไม่มีความเห็น
หลายวันก่อน ไปเจอรูปนี้ไปอินเตอร์เน็ต เห็นแล้วชอบมากๆ
คุณยายทั้งสองยิ้มทั้งปาก ตา ใบหน้า และท่าทาง
ยิ้มเหมือนคนที่ไม่เคยได้รับความทุกข์มาก่อน
ทั้งๆ ที่ด้วยวัยขนาดนี้คงจะผ่านเรื่องราวร้อนหนาวมามากมาย
คงจะดี....หากพวกเราสามารถมี "ยิ้ม" เช่นนี้ได้ทุกวัน
วันนี้ ยิ้ม กันหรือยังคะ?
ยิ้มที่ออกมาจากตา :)
เพราะดวงตา คือ หน้าต่างของหัวใจ จริงมั้ยคะอาจารย์ ^_^
"เราชอบต้นงิ้ว ดอกงิ้ว"
พอบอกกับเพื่อนเช่นนี้ เพื่อนๆ ต่างพากันขำเนื่องจากพาลไปนึกถึงต้นงิ้วที่มีหนามแหลมคมในนรก
น่าสงสารเจ้าดอกงิ้ว ที่เพราะเพียงชื่อที่พ้องกัน ใครหลายคนจึงไม่กล้าที่จะบอกว่าชอบ
ถ่ายได้สวยมากเลยครับ
ขอบคุณนะคะคุณแสง
เพราะดอกเค้าสวย ภาพเลยออกมาดูดีค่ะ ต้องยกความดีความชอบให้นางเอกดอกงิ้วค่ะ ^-*
มุมภาพ "สูงสุดคืนสู่สามัญ" ครับ คุณหมอดาวสกาวใจ ;)...
จะเรียกอย่างนั้นก็คงได้ล่ะค่ะอาจารย์...สูงเสียดฟ้าขนาดไหน ท้ายที่สุดก็กลับสู่ผืนดิน ^_^
ดอกเหลืองปรีดิยาธรเบ่งบาน
สดใส สวยงาม สะดุดตา
พลันลมหนาวพัดมา
เจ้าก็ร่วงพรูพราย เกลื่อนผืนดิน
หมดสิ้นความงาม?
เปล่าหรอก...เจ้ายังงดงามเสมอ
งามตามกาลเวลา
แม้เจ้าจะสลายรวมกับผืนดิน
ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าแห่งดอกไม้
ความรักก็คงเหมือนกัน
แม้จะแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
หากยังทรงคุณค่าแห่งรัก
ไม่มีความเห็น
"นางพญาเสือโคร่ง"
นามนั้นฟังดูยิ่งใหญ่ น่าเกรงขาม
หากเมื่อได้พานพบ
เธอช่างอ่อนหวาน สดใส
กลีบบาง...ชมพูระเรื่อ
ราวกับแก้มดรุณียามเขินอาย
ยามสายลมหนาวผ่านมาจุมพิต
สาวเจ้าพริ้วระริกไหวไม่ทันตั้งตัว
ยามสายฝนโปรยกระหน่ำ
แก้มเจ้าจะช้ำหรือเปล่าหนอ?
ไม่มีความเห็น
เดินทางข้ามภูเขา...ตามคำร่ำลือถึงความงาม
ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง
สีชมพูหวาน เบ่งบานตระการตา
สายตาพลันสะดุด
ดอกไม้เล็กๆ กลีบขาวพลิ้ว บางเบา
ดอกบ๊วย...
ส่งกลิ่นหอมละมุน อบอวลในความรู้สึก
สงสัยครั้งหน้า คงจะบอกใครๆว่า
"เดินทางไปชมดอกบ๊วยบาน"....^^
...
บทเดินทาง ข้ามภู ยอดดูสูง
หมายจักจูง แขนขา พากำแหง
ดอกไม้งาม รออยู่ ดูสำแดง
มีมูลค่า ราคาแพง ณ แดนไกล
ดอกบ๊วยบาน ลานดิน ณ ถิ่นนี้
เหมือนผีเสื้อ ราตรี ศรีไสล
สีขาวงาม สีเขียวขับ ละมุนละไม
เต็มหัวใจ หากได้ชม สายลมโชย
...
ขอบคุณมากนะคะอาจารย์สำหรับ "บทกวีชมดอกบ๊วย" ;-)
เพิ่มความละมุนละไมให้อนุทินนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกบ๊วยเชียวค่ะ
ทางเดินอันยาวไกล...
คงจะไม่เหงาหากมีเพื่อน
ก้าวเดินช้าๆ มั่นคง
สัมผัสและซึมซับความงามระหว่างทาง
แต่บางคน
เลือกที่จะเดินทางเดียวดาย
บนทางเดินแสนยาวไกล...
โดยมีเพียงตน...เป็นเพื่อนร่วมทางแห่งตน
zzzz ผมหรือเปล่าเนี่ย 555
หากหวนคิดคำนึงชีวิตตัวเองแล้วกลับพบว่าไม่มีเพื่อนร่วมทางคนไหน แม้แต่ครอบครัวที่สามารถร่วมเดินทาง..และอยู่เคียงข้างกันไปได้ตลอดเวลา...ด้วยเหตุ..และปัจจัย..จึงไม่สามารถเป็นแบบนั้น..ทำให้ชีวิตมีบางช่วงเวลาที่เดินทางโดยมีตนเป็นเพื่อนแห่งตนบ้าง...โดยมีเพื่อนร่วมทาง...หลายหลายรูปแบบความสัมพันธ์..ตั้งแต่สนิทมากที่สุด..ไปจนถึงคนรู้จัก..จนถึงเพื่อนที่แค่เดินผ่านมาให้เห็น... เข้ามาร่วมเดินทางบ้าง...เพื่อเป็นกระจกสะท้อนจิตตน...มุ่งสู่หนทางแห่งตนต่อไปเรื่อยๆ...ความเดียวดายคงเป็นเพียงหนึ่งความรู้สึกของปถุชน...ที่เกิดขึ้นได้ง่าย...ต้านทานได้ยาก..บางทีความเดียวดายก็สอนให้ระลึกถึง...คุณค่าของข้อความหนึ่ง...หนังสือเล่มหนึ่ง...หนังเรื่องหนึง..บทเพลงๆหนึ่ง..เพื่อนคนหนึ่ง..ดอกไม้ดอกหนึ่ง..ลมหายใจฯลฯ..หนึ่งหัวใจที่เต้นอยู่ตรงนี้...การระลึกถึงสิ่งที่ได้รับ...นั้นก็เพียงพอทำให้ความเดียวดายผ่อนคลายสลายไป...ในบางช่วงเวลา ...ขอบคุณข้อความกระตุ้นต่อมความคิดนะคะ ...คิดไปซะไกลเลย 55 ^ ^
มีคนคิดเยอะกว่าผมอีก 555
@อาจารย์เสือ...ดาวหมายถึงตัวเองค่ะ 555
ขอบคุณนะคะคุณไอดิน....^^
เพราะการเดินทางของชีวิต มีอะไรมากมาย หลากหลายผู้คน หลากหลายเหตุการณ์ ไม่มีอะไรแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว ดาวคิดว่ายังไงก็ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ค่ะ...แต่เราก็ต้องฝึกฝนให้เราสามารถพึ่งตนเองได้ด้วย ;-)
หากการพลัดพรากจากคนอันเป็นที่รักนั้นทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส...
คมกริบ คุณหมอดาวสกาวใจ ;)...
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์เสืิอ ;-)
ปล. ดาวได้ฉายาใหม่อีกแล้ว 555
พบกันเพื่อจาก..จำพรากก่อนร่ำลา..ล้วนเป็นสัจจธรรมนำใจใคร่ไตร่ตรอง..ไม่ก่อชาติ..ไม่ก่อภพ..ไม่ต้องพบ..ไม่ต้องจาก..นะคะ
รถติด...
นั่งรอลุ้นว่า เมื่อไหร่ไฟสีแดงจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
เวลาที่เคลื่อนผ่าน ดูจะเนิ่นนานกว่าความเป็นจริง
"ไฟแดง...แดง...ยังแดงอยู่อีก" "เมื่อไหร่จะได้ไปซะที!"
เริ่มหงุดหงิด...
หยิบขวดน้ำพลาสติกขึ้นมาดื่ม
แสงสีส่องสะท้อนเหลี่ยมมุมขวดน้ำ...งดงาม
จริงๆแล้ว ไฟแดงไฟเขียวนี่ก็สวยดีนะ
ไฟเขียวมาแล้ว ^_^
(เพียงพลิกมุมมอง ก็จะพบความสุนทรีย์ของชีวิต)
ดีค่ะ..คิดดี..อารมณ์ดี..มีความสุข..
สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจจริงๆ ค่ะพี่ใหญ่
อยู่คนเดียวระวังความคิด
วิ่งออกกำลังกายรอบวังสวนจิตรฯคราใด
อดไม่ได้ที่จะมองดูวัดเบญจมบพิตร
ประทับใจในสถาปัตยกรรมตั้งแต่เมื่อครั้งได้มาเยือนเมืองฟ้าครั้งวัยเยาว์
ในวันนี้วัดเบญฯก็ยังคงงดงาม...เรืองรองในความรู้สึก
แต่ไม่ว่าจะเป็นวัดไหน...คงไม่สำคัญเท่ากับ "วัดใจ"
แล้วสักวัน จะเขียนบันทึกเรื่องราวของวัดเบญฯนะ (บอกตัวเอง) ;-)
วัดใจว่าวิ่งไปได้แค่ไหนใช่ไหมครับ
555
เอหรือมองตำรวจรักษาวัง ฯ ฮา
อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง
· มองตำรวจวังครับ ;)...
.... ถ้ามอง ทั้ง 2 อย่าง ก็ดีนะคะ ได้กำไรเต็มๆ นะคะ ถ้้าเป็น P'Ple เลือกแบบนี้ค่ะ
คำตอบคือ....มองหมดล่ะค่า อะไรอยู่ระหว่างทางก็มองหมดเลย กำไรเห็นๆ อิอิ
มองให้หมดกำไรเห็น เย้ๆ
วัดนี้หนูเคยเรียนในหนังสือตั้งแต่เด็กๆ
แต่ยังไม่เคยไปจริงๆเลยสักที
ถ้ากล้วยไข่ได้มาน่าจะชอบ พี่ชอบพระอุโบสถหินอ่อนสีขาวสะอาดตา แล้วรอบๆ ก็มีการจัดบริเวณให้ร่มรื่น มีตุ๊กตาจีนที่เป็นดินเผารูปคนในอิริยาบถและอารมณ์ต่างๆ กัน....วันหลังจะเขียนบันทึก ลงภาพให้ชมนะจ๊ะ
สวยแปลกตาดีครับ
ไม่เคยเห็นตอนเขาเปิดไฟแบบในรูป
ว่าแต่ว่า วิ่งครบรอบเลยหรือครับ น่าจะลงแข่งได้
มองฟ้างาม ยามตะวันลาลับ
มีคนเคยบอกไว้ว่า...
"การมีความรักก็เหมือนการชื่นชมความงามของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดื่มด่ำกับความงามเบื้องหน้า แต่ไม่สามารถครอบครองมาเป็นของตนได้..."
แม้จะเป็นเช่นนั้น ก็มีบางเสี้ยวขณะ ที่อยากหยุดเวลาไว้...^^
...
อยากหยุดเวลาไว้พาฝัน
อยากหยุดคืนวันระบายสี
อยากหยุดวันเวลาที่ดีดี
อยากหยุดเดือนปีไว้มี "ดาว"
...
แหม ! หาเรื่องลงชื่อเจ้าของอนุทินนิดนึงครับ 555
อาจารย์เสือช่วยกรุณาแต่งบทกวีที่มีคำว่า "ดาว" สงสัยในอนาคตไม่ช้า ดาวคงจะได้รวบรวม "บทกวีดวงดาว"ล่ะมั้งคะ 555
ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ ;-)
เออ คือว่า มัน "ปิ้งแว่บ" ขึ้นมาเองอ่ะครับ คุณหมอดาว 555
อ่อ...นักกวี เค้าเป็นกันเช่นนี้เองนะคะ ^_^
หลายครั้งหนูก็อยากจะหยุดเวลาค่ะ
น่ารักจังค่ะ
เกือบตายไปแล้วครั้งหนึ่งค่ะ...พอรอดชีวิต เค้าเลยออกดอกใหญ่เชียว ^_^
เป็นรูปหัวใจกลาย ๆ ด้วยครับ คุณหมอดาว ;)...
หัวใจหวานมากค่ะ
งั้นขอตั้งชื่อภาพว่า "หัวใจไฮเดรนเยีย" ก็แล้วกันนะคะ ;-)
น้ำ...ยิ่งนิ่ง ยิ่งสะท้อนภาพได้ชัดเจน
ใจเราก็เฉกเช่นเดียวกัน
...
เคยนับไหม ฟ้าวันนี้มีกี่สี
เคยนับไหม ไมตรีมีกี่หน
เคยนับไหม สายใยกี่ผู้คน
ได้ยินยลใช่ไหม หัวใจดาว
....
;)...
ว้าว...ขอบคุณสำหรับบทกวีนะคะอาจารย์
ดาวชอบมากค่ะโดยเฉพาะวรรคสุดท้าย อิอิ ^_*
ฟ้าวันนี้มีกี่สีมิเคยนับ
มิตรไมตรีที่ได้รับมากล้นเหลือ
เชื่อมสายใยเกื้อหนุนแลจุนเจือ
ประดุจเครือญาติมิตรจิตสัมพันธ์ ...^_^
ว้าว ใช่ธรรมดานะครับ คุณหมอดาว ;)...
ชาหอมๆสักแก้ว
หนังสือดีๆ สักเล่ม
กับเวลาที่เคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ...
เท่านี้ก็เพียงพอ ที่จะทำให้วันหนึ่งวัน
กลายเป็น"วันพิเศษ"
"ชาหอม"
"หนังสือ"
ต้องเพิ่ม
"ใครสักคน"
ครับ
คุณหมอดาว ;)...
โอ...งั้นสงสัยคงไม่ได้อ่านหนังสือค่ะอาจารย์เสือ 555
อ่านคนแทนหรือครับ 555
หึหึ อันนี้ความลับค่ะอาจารย์ ;-)
นั่งนิ่ง....
มองดูผืนน้ำ สะท้อนเงาผืนฟ้า
ลมหนาวพัดมาเอื่อยๆ
ต้นอ้อริมน้ำพลิ้วตามลม
ท่ามกลางความสงบ
ยังคงมีความเคลื่อนไหว
หากท่ามกลางความเคลื่อนไหว
มีความสงบแอบซ่อนอยู่เงียบๆ.....
เป็นบทกวีที่สัมผัสกับอารมย์ความรู้สึกได้ดีมากเลยครับ
ขอบคุณนะคะ ดาวไม่ได้ตั้งใจจะแต่งบทกวีหรอกค่ะ
จริงๆแล้วเป็นเพียงความรู้สึกขณะนั่งดูท้องฟ้าเปลี่ยนสีเท่านั้นเองค่ะ ^_^
นี่ขนาดความรู้สึกนะครับ คุณหมอดาว ;)...
ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือและภาพถ่ายค่ะอาจารย์เสือ ;-)
ช่วงเวลาที่ผ่านมา วุ่นวายกับอะไรหลายๆ อย่าง
อยากมีเวลาอยู่กับตัวเอง หยุดพักความคิด
วันก่อนมีเวลาได้นั่งนิ่งๆ ปล่อยให้สายลมหนาว ปะทะหน้าเบาๆ
แหงนหน้าขึ้นมองฟ้ากว้าง
รับรู้เพียงลมหายใจอุ่นๆและลมหนาว
การหยุดอยู่นิ่งๆ มีความสุขเช่นนี้เอง
ด้วยคิดถึงมากมาย ...:))
คิดถึงเช่นเดียวกันค่ะ...
ช่วงเวลาปีใหม่นี้ ดาวตั้งใจจะเริ่มต้นเขียนบันทึกค่ะพี่หนูรี....หยุดพักนานแล้ว งานเก่ายังเขียนค้างอยู่เลยค่ะ 555
ดาวเพิ่งจะสอบกลางภาคเสร็จค่ะท่านวอญ่า....ยอมรับว่าหายไปนานมากๆ มีบันทึกค้างปีที่เขียนค้างไว้ สงสัยปีใหม่จะเป็นเวลาสะสางงานค่ะ ^__^
คิดถึงเช่นกันค่ะ
หายไปกับสายลมหนาวใช่ไหมครับน้องดาว 555
เค้าเรียกกลับมาพร้อมกับสายลมหนาวตะหากค่ะพี่แอ๊ด 555
ดีแล้วที่กลับมาก่อนลมหนาว 555
คุณหมอกลับมาแล้ว ;)...
เย้ๆ.... ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะ ;-)
วันนี้ได้หยุดพักมาออกกำลังกาย…หวนระลึกถึงคุณป้าคนทำสวนที่เจอเมื่อเดือนก่อนวันนั้นวิ่งผ่าน เห็นคุณป้าก้มหน้าก้มตาทำอะไรสักอย่างบนพื้นถนนในขณะที่อีกหลายคนกำลังกวาดใบไม้ ด้วยความสงสัย จึงหยุด….แล้วเดินเข้าไปถาม“ป้ากำลังใช้มีดแซะ ขุดต้นหญ้าเล็กๆที่ขึ้นตามร่องคอนกรีต…ถ้าป้าไม่ทำ ก็ไม่มีคนทำ…ช่วยๆกันดูแลสวนน่ะถึงสนามจะสะอาด ไม่มีเศษใบไม้ แต่ถ้ามีหญ้าขึ้นแบบนี้ มันก็ไม่น่าดู”สิ่งเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม หากแต่ยังมีบางคนมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคุณป้าขณะทำงาน ทำให้ข้าพเจ้าอมยิ้มได้ทั้งวัน ^^
(แล้วข้าพเจ้าจะกลับมาเขียนบันทึกเกี่ยวกับคุณป้าอีกครั้ง..ขออ่านหนังสือสอบก่อน)
เหมือนเพิ่งผ่านการสอบไปหยกๆ เอง จะสอบอีกแล้วรึคะน้องหมอ .. ส่งกำลังใจจ้า :)
สอบอีกทีเดือนพฤษภาค่ะพี่สาว เหลือเวลาเตรียมตัวอีกเดือนกว่าๆเองค่ะ อ่านหนังสือไม่ทันแล้ววววว T-T
ทุกๆ วันพฤหัส จะมีการนิมนต์พระมาบิณฑบาตที่ตึกผู้ป่วย
เช้านี้ก็เป็นเช่นเคย...
คนไข้ไอซียูหลายคนมีญาติเตรียมของให้ทำบุญตักบาตร
บางคนไม่มีญาติ...
บางคนไม่มีแม้แต่สติรับรู้ถึงการมาโปรดของพระ
....."ทำไงดี อยากให้เค้าได้ร่วมทำบุญ".....
ข้าพเจ้าทำได้เพียงมอบเงินและให้พยาบาล
ช่วยนำเค้าทำบุญ...ทั้งๆ ที่เค้าไม่ได้สติ
ด้วยหวังเพียงว่า บางเสี้ยวแห่งสติที่เหลืออยู่
หรืออาจจะเป็นจิตวิญญาณที่ยังสามารถรับรู้
ได้รับความสงบ...ความสุขจากการได้ทำบุญครั้งนี้
.............................................................
คุณหมอดาว...
วันก่อนขึ้นรถตู้กลับจาก ม.เกษตรฯ กำแพงแสน รถติดยาวเหยียด รถเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เป็นสายยาวราวไม่มีที่สิ้นสุด... ผู้คนในรถเริ่มหงุดหงิด พยายามรักษาใจ ไม่ให้ร้อนรน...เพราะหงุดหงิดไป ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
พอลงจากรถตู้ขึ้นแท็กซี่ ได้ยินเสียงเสียงบทเพลงที่ชอบตั้งแต่เด็ก บทเพลงที่คุณพ่อเปิดประจำในรถ... "Right here waiting" อารมณ์ก็เริ่มแช่มชื่นขึ้นมา แถมพี่แท็กซี่ใจดี พาขับรถผ่านสนามหลวงช้าๆ ให้ชื่นชมความงามของไฟประดับ แสงไฟส่องสว่าง ระยิบระยับสองข้างทาง ชั่วขณะนั้น รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์
เออ...คนเราก็แบบนี้นี่เอง เมื่อสักครู่นี้ ยังรู้สึกเหมือนตกนรกตอนที่รถติด แป๊บเดียวเท่านั้นก็มีความสุขได้
ความทุกข์และความสุข เพียงชั่วพริบตาจริงๆ ^^
โกวเล้ง กล่าวว่า "ความสุขและความทุกข์ เพียงแค่พลิกฝ่ามือ"
;)...
โกขจิต บอกว่า สุขกับทุกข์อยู่ใกล้กัน ฮ่าๆๆ แซวคนข้างบนครับ
ขอบคุณอาจารย์เสือและพี่แอ๊ดค่ะ
555 มีการตามมาแซวด้วย...^o^
งั้นดาวขอเพิ่มด้วยดีกว่าว่า...ความสุขและและทุกข์เพียงชั่วจิตกำหนด
ป้าปู ขอแจมว่า สุขง่ายๆ ที่ได้แซว คนใกล้ตัว ๕ ๕ ๕ :)
แซววันละนิดจิตแจ่มใส...นะคะพี่ปู 555
อ้าว โกขจิต กะ ป้าปู มีแซวด้วย ฮา ๆๆๆ ;)...
วันนี้โชคดีมากๆ...
-ซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง แล้วก็น้ำดื่มไปถวายพระ เลยได้ทราบว่าที่วัดกำลังจะมีงานบุญกฐิน
-ของที่ซื้อไปถวาย ท่านกำลังรับบริจาคช่วยน้ำท่วม...พอดีเลย ^o^
-ตอนเย็นมีโอกาสพาคุณแม่กะน้องเข้าวัดไปฟังเทศน์
-ได้รับอาหารวิญญาณจากการฟังเทศน์... ถึงจะไม่ได้ฟังทั้งคืนแต่ก็รู้สึกอิ่มเอม
-ได้เติมพลังใจให้เข้มแข็งเพื่อที่จะฝึกฝนและปรับปรุงตนเองต่อไป
-ได้มีกิจกรรมครอบครัว...อยากให้เป็นแบบนี้นานแล้ว อิอิ
นับเป็นอีกหนึ่งวันดีๆ...^^
ไม่มีความเห็น
ฝนกระหน่ำ น้ำหลากแทบทุกพื้นที่
จะมีใครรู้สึกไหมนะว่า...
กลิ่นไอของลมหนาว แทรกมาแผ่วเบาท่ามกลางสายฝน
หยาดฝน...หยาดน้ำตา
ได้แต่หวังว่า ยามใดที่ลมหนาวพัดมา
คงจะพอช่วยซับน้ำตาของใครบางคน
อรุณสวัสดิ์ค่ะน้องดาว หายไปนาน คิดถึงจังเลย ..ลมฟ้าอากาศยามนี้ชวนให้ใจหดหู่.. มาซ้ำเติมความทุกข์ยากมากมาย
ปีนี้อาจเป็นอย่างที่เคยเป็นที่น้ำมาก อากาศจะหนาวเย็นจัดและยาวนานค่ะ
วันก่อนมีพระสงฆ์มาบิณฑบาตที่ตึกผู้ป่วย
คุณป้าซึ่งเป็นผู้ป่วยตื่นลืมตาถามอย่างงงๆ ว่า.... "ใครนิมนต์พระมาทำไมเหรอ?"
"คุณป้าไม่ทราบสินะคะว่า ทุกๆ วันพฤหัสของสัปดาห์จะมีพระสงฆ์มาบิณฑบาตที่ตึก ให้ผู้ป่วยได้ทำบุญกัน"
พระท่านเดินบิณฑบาตผ่านเตียงคุณป้าไปแล้ว....
ข้าพเจ้ามองสีหน้าแววตาคุณป้าสักครู่ เลยถามคุณป้าว่า..."คุณป้าอยากตักบาตรเหรอคะ"
"ป้าไม่มีตังค์ เงินฝากไว้ที่ลูกเค้าหมด"
"งั้นเดี๋ยวหนูให้เงินคุณป้าทำบุญนะคะ....คุณป้าจะเอาเท่าไหร่?"
"สักร้อยบาทก็ได้จ้ะ...เดี๋ยวหลานมา ป้าให้เค้าเอามาคืน"
"ไม่เป็นไรค่ะ...ถือว่าทำบุญร่วมกันนะคะ"
เห็นสีหน้าแววตาของคุณป้าตอนที่ตักบาตรแล้ว ก็ทำให้ข้าพเจ้าอดยิ้มไม่ได้...เป็นสิ่งเล็กๆ ที่ทำให้จิตใจเบิกบานได้อย่างประหลาดทีเดียว ^^
ขออนุโมทนาสาธุสำหรับการทำบุญในครั้งนี้ด้วยนะครับ
เยี่ยมมากเลย คุณหมอดาว ;)...
เอออย่างน้อยเมื่อเราป่วยก็ยังมีพระไปให้เราทำบุญน้อ วิเศษจริงๆ
สายฝนโปรยปรายปรอยๆ
ละอองแห่งความชุ่มฉ่ำกระทบผิวหน้าเบาๆ
แหงนหน้ามองฟ้า พบเพียงเมฆสีเทาเบื้องบน
เรื่องราวของเราช่างเล็กน้อยเสียยิ่งกระไร หากเทียบกับแผ่นฟ้ากว้าง
ความทุกข์ และหมองหม่นในใจมีขนาดเล็กลง
ชีวิตเราจะอะไรกันนักกันหนา...ชีวิตมันก็แค่เนี้ย!!!
ตามน้องปูมาค่ะ...น้องดาวที่คิดถึง