ทำไมใครๆก็ไม่อยากคบกับนักจิตวิทยา???


นักจิตวิทยาดีแต่โชว์ทฤษฎี แต่พูดกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง???

ผมมักได้ยินคำพูดหนึ่งบ่อยๆ(ไม่รู้หยอกเล่นหรือพูดจริง)ทำนองว่า เจอกับคนที่เรียนจบมาทางจิตวิทยาหลายๆคน(หรือส่วนใหญ่)มีลักษณะที่คล้ายกัน คือ ใครๆก็ไม่อยากคบหาด้วย หรือไม่ก็ทำไมคนที่เรียนทางนี้มามักจะพูดจาสื่อสารกับคนอื่นไม่ค่อยจะรู้เรื่อง  ก็เลยสงสัยว่าท่านอื่นๆที่เรียนหรือไม่ได้เรียนมาทางนี้ จะเคยได้ยินในทำนองเดียวกันนี้บ้างหรือไม่ จะได้เป็นข้อมูลยืนยันว่าสิ่งที่ได้ยินมานั้นเป็นความจริงหรือไม่(เพราะคนที่บอกก็มีคุณสมบัติที่น่าเชื่อถืออยู่)

จะได้นำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาตัวเองให้น่าคบขึ้น(ฮา...)

ในความคิดผม จิตวิทยาเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้วในตัวเอง เป็นเหมือนอุปกรณ์มาตรฐานอันจำเป็นในการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง(แม้กระทั่งกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ)  แต่อุปกรณ์ตัวนี้ในแต่ละคน(แต่ละยี่ห้อ)ก็อาจจะมีคุณภาพที่แตกต่างกันไป  บางคนก็ต้องการ "up grade" เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ของตนเองเพื่อให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น บางคนก็(คิดว่า)ดีอยู่แล้ว บางคนลืมว่ามีอยู่แล้ว มิหนำซ้ำบางคนไม่รู้ว่ามีอยู่แล้ว ก็เท่านั้นเอง จิตวิทยาไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลยเพราะมันมาคู่กับมนุษย์ ตั้งแต่มนุษย์คนแรกของโลกเลย

ปัญหาของผู้เรียนจิตวิทยาจึงน่าจะอยู่ที่ว่าเรียนเพื่ออะไร จะนำมาใช้กับใคร(อย่าลืมตัวเอง)และใช้อย่างไรมากกว่า ถ้าหากว่าเรารู้จักใช้จิตวิทยาอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง จริงใจ ไม่ปลอมปนกับอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวมากนัก คิดว่าคนแบบนี้ใครๆก็คงไม่ปฏิเสธที่จะคบด้วยครับ แล้วท่านหล่ะ มีความเห็นอย่างไร ช่วยเสนอแนะด้วยนะครับ

คำสำคัญ (Tags): #จิตวิทยา
หมายเลขบันทึก: 81975เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2007 11:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 15:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ใครก็มักจะมีภาษาเฉพาะกลุ่ม ตั้งแต่เด็กเล็กๆ  เด็กวัยรุ่น นักวิชาการ นักเรียน คุยกันข้ามกลุ่มทีไร ก็ต้องพยายามหน่อย

คนที่เป็นมิตร  ประพฤฒิตนดีงาม พูดไม่ค่อยรู้เรื่องหน่อย ผมก็คงคบหาด้วยนะครับ :-) 

  • กลัวมังคะ  กลัวถูกทำจิตวิเคราะห์ เดี๋ยวรู้ความลับในจิตใต้สำนึก...ยิ้ม ยิ้ม

ตัวเองก็เรียนจิตวิทยานะคะ แต่เป็นจิตวิทยาในการสอนเด็กค่ะ  ตอนเรียนก็มีคนแซวเหมือนกันว่าไม่อยากคบกับเด็กจิตหรอก เพราะกลัวรู้ทัน..ก็ว่ากันไป

จริงๆแล้วเราน่ะไม่ได้จะไปพยายามจับผิดหรือรู้ทันใครไปหมดหรอกค่ะ เค้ากลัวของเค้าไปเอง...แต่ถ้าพูดถึงการนำมาใช้ในการทำงานหรือในชีวิตประจำวันนั้น..โดยส่วนตัวคิดว่า.. มันก็ประกอบกันนะคะ แต่การทำให้ใครๆอยากคบหาด้วยมันน่าจะอยู่กับเสน่ห์ที่เป็นลักษณะเฉพาะของคนๆนั้นเป็นทุนเดิมแล้ว มากกว่า เช่นเป็นคนมีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจดี พูดจาไพเราะ เอาใจเขามาใส่ใจเราฯ เหล่านี้ต่างหาก ...จริงมั๊ยคะ

กลัวนักจิตวิทยาวิเคราะห์คนที่มาคบด้วยค่ะ กลัวใจตัวเองจะรับไม่ได้มั้งค่ะ
สมัยเรียนวิชาจิตวิทยา ขณะอาจารย์กำลังสอนอยู่ ผมฟังแล้วก็ผงกหัว (หลายครั้ง) อันเป็นการแสดงความเห็นด้วยกับที่อาจารย์กำลังสอนอยู่นั้น ซึ่งอาจารย์สังเกตเห็น ก็เลยถามว่า "อ.อาลัม เธอผงกหัวทำไม???" ผมก็ตอบไปว่า "ผมรู้สึกเห็นด้วยกับที่อาจารย์สอนครับ" ผมตอบไปตามจริง แต่อาจารย์ท่านนั้นไม่เชื่อ เธอจะให้ผมบอกสิ่งที่ผมคิด หลังจากนั้นเรื่องนี้ติดอยู่ในใจผมจนกระทั่งไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า "ภาษากาย" หรือ "body language" ก็เลยถึงบาง อ้อ ก็ อาจารย์เล่นอ่านภาษากายผม ซึ่งมันไม่ตรงเสมอไป ต่างวัฒนธรรมกัน ภาษากายที่แสดงออกมาก็มีความหมายต่างไปด้วย อ.อาลัม
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ดีใจมากครับที่ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ผมได้เข้าไปเยี่ยมบล็อคของทุกท่านมาแล้วนะครับ หลายๆท่านมีความพิเศษของตัวเองที่น่าทึ่งมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท