Rajabhat Plian Pai
วันหนึ่งนั่งกินข้าวกันอยู่(ดีๆแท้ๆ)ในโรงอาหาร รุ่นพี่แกเกิดปิ้งเอ๊ยปิ๊งไอเดียเรื่องภาษาอังกฤษเมื่อได้ยินคอนเส็ปต์ “ CHANGE” ของมหาวิทยาลัยเรา ที่จริงแกก็พูดเข้าท่าว่าเราเรียนภาษาอังกฤษเท่าไหร่ก็พูดไม่คล่องซักทีโดยเฉพาะเมื่อพยายาม จะหัดพูดที่นี่ เพราะเราไม่รู้คำศัพท์ในพื้นที่ที่เราอยู่ แล้วก็เสนอคูลไอเดียมาเป็นชุด ตอนพูดที่โรงอาหารไม่มีใครยอมฟังเพราะพี่แกชอบพูดยาว..ว..วว กว่าจะเข้าเรื่อง เลยต้องเขียนลงสารประชาสัมพันธ์ให้ช่วยๆกันอ่านหน่อย พี่แกอุตส่าห์ภูมิใจเสนอทั้งที
หนึ่ง เปลี่ยนป้ายชื่อห้อง หน่วยงาน และตำแหน่งต่างๆ เป็นภาษาไทยคู่กับภาษาอังกฤษ
รุ่นพี่ชูตะเกียบบอกว่าเวิร์กมากน้อง เพราะเงยปุ๊บ เห็นคำแปลปั๊บ ที่นี้แหละจำแหงๆ ดูอย่างป้ายคณะที่ทำคำคู่ไทยอังกฤษซี เราเห็นทุกวันมีรึจะจำไม่ได้ เนี่ยแหละเขาเรียกอินเทลเล็กช่วลโซไซตี๋ ที่ประชุมปรบมือเกรียวเห็นด้วยทุกประตู
สอง เปลี่ยนให้มีวงเล็บชื่อภาษาอังกฤษของชื่อดังกล่าวข้างต้น เมื่อลงประชาสัมพันธ์ใดๆในสารประชาสัมพันธ์ทุกครั้ง ให้ผ่านตา ผ่านตา ..และผ่านตา
รุ่นพี่เคาะชามก๋วยเตี๋ยว ทำหน้าตาน่าเชื่อถือ.... บอกว่าเงยก็เห็น ก้มก็เห็น ทีนี้ไม่จำก็ให้รู้ไป
สาม เปลี่ยนเป็นสักวันหนึ่ง ในเหว็บไส่ต์ ของเราก็น่าจะมีข่าวสั้นภาษาไทยคู่กับภาษาอังกฤษ สักอาทิตย์ละข่าวสองข่าวโดยเฉพาะข่าวสำคัญๆ หรือคำประกาศนโยบายบางอย่างที่สำคัญ เผื่ออาจารย์ชาวต่างชาติจะมีโอกาสได้รับรู้ข้อมูลด้วย และช่วยฝึกการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเราไปในตัว
รุ่นพี่อ้อมแอ้มบอกด้วยความเกรงใจเพราะเข้าใจดีว่าลำพังสอนเด็กทุกคนก็ยุ่งจะแย่อยู่แล้ว แต่ถ้าใครพอมีเวลาว่างเจียดมาช่วยๆกันได้ก็จะดีใจน่าดู เพราะการผลิตซ้ำคำที่เราเข้าใจความหมายภาษาไทยอยู่แล้วจะทำให้เราจำคำฝรั่งได้เร็วขึ้นอีกเป็นสองเท่า
สี่ ไหนๆก็เปลี่ยนแล้ว อาจเพิ่มคอลัมน์,ใส่บทสนทนา, หรือทำอินเด็กส์ศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตราชภัฏ วิธีนี้ดูโฮมๆ เชียว แต่รุ่นพี่บอกว่าเนี่ยแหละเวิร์กสุด จะลงเว็บก็ได้ จะลงสารประชาสัมพันธ์คณะไหนก็ได้ เวลาเจอฝรั่งจะได้พูดกับเขาได้มั่ง เพราะรูปประโยคน่ะเรียนกันมาจนพรุนแล้ว เหลือแต่ศัพท์และสำนวนเฉพาะพื้นที่เนี่ยแหละที่เราไม่รู้ว่าคนฝรั่งเขาเรียกอะไร
เช่นคำว่านักศึกษาภาคปกติ ภาคกศบป. บันทึกข้อความ ประชุมโปรแกรม ตะเกียบ เป็นต้น พอจะชวนเขาคุยเลยเงอะๆงะๆ ถ้ามีตัวอย่างไดอาหล็อกประมาณว่า “..ทูเดย์ไอแอมบีซี่บีคอสไอมีประชุมสถาบัน แอ่นด์อ๊าฟเต้อร์แด็ทไอต้องสอนชดเชย ยูไปนั่งเว็ทฟอร์มีที่ศูนย์วัฒน์เลยก็แล้วกัน” ดังนี้เป็นต้น
อย่างน้อยหลังจากฝึกท่องไดอาหล็อกก็พอจะบอกเขาได้ว่า เดอะศูนย์วัฒน์คัลเจอร่อลเซ็นเต้อร์อยู่เนียร์เดอะโรงอาหารแคนทีน เดอะสำนักงานอธิการบดีเพรสสิเด๊นท์ออฟฟิศก็ตรงตึกกระจกแบล็กๆอินฟรอนต์ออฟเดอะหอพระแอ๋นด์เดอะสระน้ำนั่นไง
แอ่นด์เดอะสองแถวหน้าราชภัฏ เดโกทูในเมือง ยูจะเลือกขึ้นเดอะประตูไหนก็ได้
....รับรองว่าครบสามเดือนเห็นผล เราจะเอแอ่นด์เด่อะกันคล่องแคล่วทั้งโรงเรียน
ห้า เปลี่ยนเอ๊ยเปิดห้องดูทีวี ดูยูบีซี ห้องอิงลิช ออลเดย์ หรือห้องอะไรก็ตามที่มีแต่ภาษาอังกฤษล้วนๆ
รุ่นพี่บอกว่าแว่วๆว่าเขาจะจัดให้แล้วด้วย คือเราอยากรีเควสต์ที่แบบว่าให้หลงเข้าไปปุ๊บแล้วนึกว่าอยู่แถวๆหนิวโหยร์ก หรือซิดนีย์ ให้อบๆอวลๆด้วยภาษาอังกฤษอยู่อย่างนั้น ถ้ามีอาจารย์ฝรั่งกรุณาอยู่ร่วมสนทนาเป็นขวัญกำลังใจเป็นระยะๆด้วยยิ่งดี
แล้วก็ต้องตั้งกฎให้เข้ม เช่นเข้าไปแล้วห้ามพูดไทย ต้องอยู่ให้ครบชั่วโมง อีกทั้งมีกาแฟแลขนมต่างๆบริการให้เคลิบเคลิ้ม คือเก็บตังค์ด้วยยิ่งเจ๋งจะได้เกรงใจ เข้าไปจะได้พยายามเพิ่มอีกหน่อย ใครเผลอพูดภาษาไทยในแอเรียนี้ก็จะโดนเก็บตังค์สองเท่าเป็นต้น จะอุทาน จะตกใจ ก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษอย่างเดียวตามคอนเส็ปต์
รุ่นพี่กำชับว่าเสียงเข้มว่าไหนๆจะตื่นเต้นตกใจทั้งทีก็ต้องให้ดูดีมีระดับ เมื่อจิ้งจกหรือลิสาร์ดตกใส่มือ ก็ต้องร้อง อู๊วว..ว! เท่านั้น แอ่นด์เด็นพี่ก็ทำท่าจะฝอยต่ออีกยาว..ว ทันใดนั้นก็มีฝรั่งตัวโตๆสองคนเดินตรงรี่เข้ามาในแคนทีน..........
..............พี่แกตกใจทิ้งตะเกียบเผ่นแน่บสี่ประตูต่อศูนย์.. น้องๆทั้งวงทิ้งถ้วยทิ้งจานโกยอ้าวตามลูกพี่.........
......... คอนเส็ปต์กระเจิงโดยทั่วกัน ! ......
สงสัยว่าท่านที่อ่านเรื่องนี้แล้วขำกลิ้งได้ ต้องเข้าใจธรรมชาติน่ารักๆของราชภัฏเป็นอย่างดีอ่ะค่ะ ..... :)
ขอสารภาพว่า ดิฉันเขียนไปหัวเราะไปอยู่คนเดียว เพราะอยู่ในเหตุการณ์วงตะเกียบ เห็นภาพเปิดแน่บสี่ประตูต่อศูนย์มากับตา
ไม่อยากบอกเลยว่าดิฉันก็วิ่งโกยอ้าวตามลูกพี่แทบไม่ทันเหมียนกัลล์ ........ha !...
ผมก็เพิ่งลุกขึ้นจากการกลิ้งเพราะขำเหมือนกันครับ ..
มันเห็นภาพและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาทุกขั้นตอน .. ทั้งวงน่าจะมี สะโลแก่น ว่า .. ผีมาข้าไม่หวั่น แต่ถ้าเป็นฝรั่งพวกนั้น .. โกยเถอะโยม !
พวกผรั่งนี่น่าเบื่อจริงๆ พวกนี้มักพูดอังกฤษไม่ชัดครับ ตอนเรียนมัธยมครูของเราพูดชัดแจ๋ว .. ผมว่าฝรั่งนี่ทำภาษาอังกฤษเสียหายมาก พูดทีไรฟังไม่รู้เรื่องตลอด เคยมีเรื่องเล่านะครับว่ามีนักเรียนโรงเรียนหนึ่งเดินขบวนประท้วงผอ.เรื่องครูฝรั่งพูดไม่ชัดนี่แหละ ..
ตัวอย่างเรื่องพวกนี้น่าจะมีกันเยอะนะครับ น่าจะได้นำมาแบ่งปันกันให้เป็นที่ครื้นเครงได้ไม่น้อย เช่น ..
ครั้งหนึ่ง นักเรียนของผม รายงานหน้าชั้น แนะนำตัวเองว่า ..
My name is Kiangleng. I like Rice Leg Pig.
(เรื่องจริง ปราศจากการปรุงแต่ง)
I very bore him. Talk go talk come not fall down. ( คำแปล ......... ) ... (อันนี้เรื่องเล่าครับ)
ดิฉันนั่งหัวเราะ "สโลแก่น" ของอาจารย์อยู่พักใหญ่ค่ะ แล้วก็ต่อด้วยครูฝรั่งพูดไม่ชัดอยู่อีกพักใหญ่กว่า......เกือบตกเก้าอี้อ่ะค่ะ....... :-)
ตอนเด็กๆดิฉันคิดยังงี้จริงๆด้วยนะคะ แถมแนะนำเพื่อนอย่างภาคภูมิใจว่า คุณครูเราออกเสียงชัดแจ๋ว ฝรั่งพูดผิดนะคำเนี้ย "เซ้นถร่อล" ที่ไหนกั๊น......
มันต้อง "เซ็นตร้อน" สิเธอ ก็พ่อเรานะ ยังออกเสียงเหมือนครูเดี๊ยะเลย... ha..!...
ขออนุญาต ขอโอกาส
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณธรรมมาวุธ
อาจารย์Ranee คะ
เอ่อ...คุณโอ๋คะ
แนะ...มีแนวร่วมมาช่วยปั่นกระทู้ด้วยอะ... :)
เอ...ถ้าเขียนใหม่แบบออกเสียงตามใจแบบข้างล่างนี้
" แน้ะ....มีแนวร่วมมาช่วยปั่นกระทู้ด้วยอ่ะ...."
.......ดิฉันว่าได้อารมณ์กว่ากันเยอะ..... (กระซิบนะคะ เดี๋ยวคุณครูภาษาไทยเอ็ดเอาอ่ะค่ะ) :)
เขียนซิค่ะอาจารย์จะตามไปอ่านเป็นคนแรกเลยค่ะ อิๆๆ
อ่านบันทึกน้ำตาไหลพราก...เป็นเหมือนคุณโอ๋ ค่ะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า....มีเพื่อนฝรั่งอยู่สองสามคนที่ค่อนข้างจะสนิทด้วย เห็นด้วยจริง ๆ ค่ะ ว่า เราพูดชัดกว่าเขา อิ อิ
คิดดูสิ เขาพูดว่า "ทูดาย..ไอว้อนน่าโกทูซี่เดอะปาโก่ด้า.."
เรา "ว้าย? ดูหยูบีลีฟอินบุ๊ดดิสซึ่ม?"
เขา "เยส"
เรา"แอนด์ วายยูทิ้งแด๊ด อืม..ยูว้อนทูซีเดอะบุ๊ดดา บีฟอร์ยูดาย"
เขา..??..??.. "โน่ โน่ โน่ ไอจัสเซด Today, not to die.."
เรา..??..!!..??แป่ว ! ! ! หนุ่มออสซี่ น่ะค่ะ
สวัสดีด้วยความระทึกใจมากจ๊ะน้องราณี
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด แต่พี่แอมป์ก็ยังดีใจอยู่เสมอที่เห็นคอมเม็นต์ของราณีอยู่ในบันทึก แม้ว่าจะผ่านไปประมาณสองปีมะโว้แล้ว
...พี่ก็ยังดีใจไชโยออกนอกหน้าเหมือนเดิมเปี๊ยบเลยอะค่ะ.. อิอิ : )
สวัสดีแบบขำตัวเองน่าดูค่ะคุณหมอเล็ก เพราะตะกี้ตอบความเห็นผิดบันทึก มาบันทึกนี้ทีไรมีอะไรขำๆทุกที
อ่านที่คุณหมอเล็กเล่าก็ยิ่งขำอะค่ะ ภาษาออสซี่ฟังยากชะมัดเลย กีวี่พี่ก็ยิ่งไปไม่รอดอ่า อเมริกันพอทนที่สุดเพราะชินสำเนียงจากหนังฮอลลีวู้ด
...แบบว่าพอฟังรู้เรื่อง...
...คือแบบว่าฟังรู้เรื่องแต่แปลไม่ได้อะค่ะ อิๆๆๆ : ) : )
มาเพิ่มเรื่องขำ ๆ (แม่หน้าแตกยับเยิน)
วันที่เที่ยวกันแบบเหนื่อยอิดโรยในกรุงโตเกียว
ขณะโหนรถไฟฟ้า หมอเล็กเหนื่อย(ร้อนตับแลบ)จึงถามเพื่อนญี่ปุ่นว่า
"After this will we go where?"
แบบว่ารู้สึกเพื่อนก็อธิบายเป็นคุ้งเป็นแคว ไม่รู้สึกสะดุด ง่า...เก่งอังกฤษด้วยกัน พอ ๆ กัน
..........จนใกล้ถึงสถานีที่จะลง น้องภูสุดเลิฟของแม่สะกิดแม่เบา ๆ แล้วบอกว่า.........
"Where will we go?" นะแม่นะ......
Tsu goi(สุดยอด-ภาษษญี่ปุ่น) ค่ะ สำหรับไทยลิชของแม่ อิ อิ
อิอิ... เรื่อง หลังนี้จะเราไปไหน ของคุณหมอเล็กทำให้พี่นึกถึง กูเกิ้ล ทรานสะเหลต ขึ้นมาทันใด ฟังทีไรขำทุกที
พี่มี "คลังคำ" เด็ดๆเพิ่มเพราะ กูเกิ้ล ที่ทราน-สะ-เหลต ให้แบบไม่คิดชีวิต ไม่ยึดติดความหมาย แบบว่าสามารถ "แปลทุกคำที่มีความหมาย ให้อ่านแล้วไม่เข้าใจ ว่าหมายความว่ากระไร" ได้นี่
ซุ้ดยอด..ด...ด...ด! จริงๆอะค่ะ
Yo .. Sud de .. Rs.
โย ซุ้ดเดอะ อ้อรัส ...อิๆๆๆๆๆๆ...
ปล.มุกนี้ต้องเข้าไปที่ "แปลภาษา" ของกูเกิ้ล จึงจะได้อารมณ์ของแท้ค่ะ : )
ตามมาคุย...
มีที่ผิดอีก และลูกภูก็ตามมาอ่านและแก้ให้อีก
ที่นี่ ที่แม่ขายหน้าเล็ก ๆ แต่ขายโฆษณาหน้าใหญ่ ๆ ให้ลูก ;P