นักล่าความรู้สึก
หน้านี้ใครไม่อ่านฟ้องแม่จริงๆด้วย..
ฮึ!!นั่งเขียนแทบตายยังเมินอีก..
เจอหน้าจะหยิกก้นให้เขียวเชียว..
ความประทับใจ จะพัฒนาไปเป็นความทรงจำ เมื่อจำได้แม่นแล้ว มันก็จะบันทึกเข้าแฟ้มความระลึกถึง ในแฟ้มนี้ไม่ทราบว่ามันวางไว้ที่สมองซีกไหน หรือมันตั้งอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ทำไมมันถึงสื่อสารออกมาทางจิตใจได้รวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าแลบ ไม่ต้องกรอกข้อความอะไรเลย ไม่ต้องไปแผงควบคุม ความระลึกถึงสั่งให้ความคิดถึงเปิดหน้าแรกทุกอย่างก็จะเรียงร่ายส่ายออกมา ออกมา แค่นึกปับภาพ-เสียง-ความชื่นชม-ก็มายิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า
ผมมีแฟ้มความประทับใจไว้เปิดอ่าน จัดเก็บ อยู่คนเดียวเงียบๆ ก็ท่านเล่าฮูอีกนั่นแหละ เวลาท่านปิ๊งในฝีมือใครก็จะโทรศัพท์มาขออาศัยเปิดแฟ้มผม ว่าคนที่ท่านชื่นชมนั้นเป็นอย่างไร ขอให้สุวานลองเปิดบัญชีดูสิ ก็อย่างที่เล่าไว้นั่นและ ระบบข้อมูลใจผมไวยิ่งกว่าระบบออนไลน์ใดๆในโลก ผมจะแปลงรหัสความทรงจำจากจินตนาการมาเป็นรายงานเบื้องต้น
บังเอิญว่าสวรรค์มีตา ส่งบล็อกgotoknowมาเป็นโซ่สายใยให้คุณภาพการแปลงความเข้าใจพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ทั้งเนื้อหาและสาระวิชา ตรงจุดนี้เรียกว่าการเชื่อมชุดความรู้ในตัวตน ที่ภาษาKM. กำหนดไว้ในกลุ่มชุดความรู้หลักประเภทหนึ่งของการจัดการความรู้
หมอลำสมัยก่อน ตัวชูโรงจะออกมาร้อง ผ่อแต่เปิดผ่ากั๊งออกมานั๊งซกหมก..วันนี้มีเวลาจำกัด ขออนุญาตแนะนำคนเก่งจากบันทึกนักล่าความรู้สึกลำดับที่ 2 โอ้โฮ้!! คนนี้นะครับยิ่งกว่าคนรักและคนที่เคยรัก ยิ่งกว่าเพื่อน ยิ่งกว่าญาติ ผมไม่ทราบว่าท่านเคยมีความรู้สึกที่ยิ่งกว่ามาตรฐานแบบนี้รึเปล่า เมื่อครั้งที่เราไปประชุมโครงการซาซากาว่า ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เธอไปในฐานะเจ้าหน้าที่โครงการและเป็นล่ามผมด้วย ไอ้ผมนี่ก็เต็มทีพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่สะเออะไปประชุมกับต่างชาติ เธอทำหน้าที่อย่างหนักที่จะตอบทุกเรื่องตลอดระยะเวลาที่เราอยู่ในต่างแดน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการนำเสนอ ผมพูด เธอแปล ที่ละประโยค.. ผมเพิ่งจะรู้ตัวเองว่าสำนวนถ้าฟังไทยก็ยังงันๆ แต่พอมาแปลเป็นอังกฤษ ผู้แปลมักจะเสียเวลากับการถอดคารมเรื่อยเปื่อยที่โผล่ออกมาไม่รู้ตัว เรื่องนี้นักแปลมืออาชีพร้องโอ๊กมาแล้ว ที่เวทีสัมมนาเศรษฐกิจพอเพียงนานาชาติที่เชียงราย ผมโดนเธอเตือนหลายครั้ง ผมบอกว่าแปลตามความเข้าใจเราทำงานร่วมกันฟันธงไปเลย เธอตอบว่า..มันก็มีจรรยาบรรณของนักแปลอยู่นะ จะทำโมเมได้ยังไง นี่แหละ..คนชื่อตุ๊ จะไม่ยอมให้เรื่องไม่ถูกต้องผ่านไปแม้แต่นิดเดียว เธอจึงเป็นครูของผมในหมวดการทำงานแบบเถรตรงอย่างมีหลักการ
เธอมีสำเนียงพูดเหน่อๆช้าๆนิ่มนวลตามวัฒนธรรมของชาวอีสานเหนือ ฟังแต่แรกแล้วชอบเลย รวมทั้งกริยาท่าทางเรียบร้อยพอเหมาะพอควรเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นคนแม่นในหลักการของตัวเอง เธอจะแสดงความคิดเห็นชนิดไม้โปรแท็กเต้อร์เรียกพี่ แต่เวลาจะโต้ถ้อยกระทงความกับใคร จะไม่สามารถเร่งคำพูดให้เร็วและหนักได้ อัดอั้นตันใจมากๆน้ำตาจะไหลพรากลงมาอาบแก้ม เธอเป็นคนจิตใจงาม อารมณ์ดีมีวินัยใฝ่ธรรมะ เป็นคนสมถะง่ายๆสบายๆแต่เอาจริงเอาจังกับหน้าที่รับผิดชอบสูงมาก คำไหนคำนั้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับเพื่อนรวมงานสบายใจได้กับคำว่า “เต็มที่” คำนี้เธอวางไว้เป็นมาตรฐานมอบให้เพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา
บัณฑิตจากรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากรผู้นี้ เธอโคจรมาเจอเราในฐานะเจ้าหน้าที่สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา(LDI.) เมื่อปี2537 อาจารย์ใหญ่ของผม ศ.เสน่ห์ จามริก ได้ตกลงทำโครงการโรงเรียนชุมชนอีสานที่บุรีรัมย์ เธอมีบทบาทประสานงานภาคสนาม จากอดีตที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมหน่วยสันติภาพอเมริกา เธอได้เอาประสบการณ์เหล่านั้นมาแลกเปลี่นนเรียนรู้ร่วมกับชาวบ้านอย่างสนุก
เชื่อไหมครับชาวบ้านห้อมล้อมรักเธอยังกะลูกในไส้ วันไหนเธอไม่ได้มาร่วมวงสนทนาในท้องทุ่ง ลงทะเบียนกันแล้วทุกคนจะมองหาและถามถึงเซ็งแซ่ คุณตุ๊ไปไหน คุณตู๊ไม่มาเหรอ..ไม่ว่าจะเป็น พ่อผาย พ่อเดื่องคำ และสมาชิกทุกคน แสดงว่าเธอนี่เองที่เป็นหัวขบวนจูนการประชุมให้มีความกลมกลืนกับพันธะหน้าที่ในแต่ละครั้ง ถ้าถามว่าเธอคิดอย่างไรกับผม เธอฟันธงเปรี้ยง!เลยว่า ..ทำงานกับครูบา มีทั้งรักทั้งชังทั้งหวานและขมขื่น พอมองเห็นมาตรฐานคิดของเธอเลาๆแล้วใช่ไหมครับ
เสน่ห์ของเธออยู่ที่มีความใฝ่ฝันที่แสนงาม พร้อมที่จะใส่ลงไปในสำนึกของญาติร่วมแผ่นดินของเธอ โดยเฉพาะชาวบ้านที่สาละวนอยู่กับการบริหารชีวิตในสังคมที่ผิดปกติ ปัจจุบันเธอเป็นหัวหน้าโครงการฟื้นฟูต้นทุนชีวิตชุมชนท้องถิ่น อยู่ที่จังหวัดนครพนม
ท่านเล่าฮูมีบัญชาให้ผมชวนเธอเข้าบล็อก เธอเข้ามาในสนามแห่งนี้ช้าๆแต่มีคุณภาพสูงมาก ลองเข้าไปอ่านในบล็อกที่เธอเขียนเล่ามาแต่ละเรื่อง มีครบเครื่องได้ทั้งแนวคิด ชีวิตประสบการณ์ เห็นคานงัดในการแก้ไขปัญหาแบบพึ่งพาตนเอง น่าสนใจครับ น่าสนใจมาก ระดับที่ใครไม่ได้อ่านเสียดายชาติเกิดเลยเชียวแหละ นี่ไม่ใช้โฆษณา หรือยุให้ไปเสียเวลา ถ้าใครผิดหวังมาขอคืนเวลาได้ตลอด24ชั่วโมง แถมดอกเบี้ยให้ด้วย ใครนะพูดว่า เวลามีค่ากว่าทอง เพราะทองตกน้ำยังงมคืนได้ แต่เวลาผ่านแล้วผ่านเลย ผมจึงไม่บังอาจไปชี้ชวนให้ท่านเสียเวลาแน่นอน แล้วท่านจะ รู้จัก ชอบ และรักเธอผู้นี้ ศิริลักคณา เปี่ยมศิริ คนเก่งในสาระบบของนักล่าความรู้สึกลำดับที่ 2
พบเธอได้ที่ป้าย
-
คนนอกระบบรู้หนังสือกับการเรียนรู้และจัดการความรู้
-
องคาพยพและการก่อประกอบของโลก
- (ขอบคุณบอน-กาฬสินธุ์ที่ช่วยปรับป้ายลายแทงให้)
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ใน KM ในมหาชีวาลัยอีสาน
คำสำคัญ (Tags)#พัฒนบูรณาการศาสตร์#มหาชีวาลัยอีสาน
หมายเลขบันทึก: 72021, เขียน: 11 Jan 2007 @ 09:41 (), แก้ไข: 11 Feb 2012 @ 17:00 (), สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ, ความเห็น: 14, อ่าน: คลิก
แวะมาอ่านแล้วค่ะ ทิ้งหลักฐานไว้อีกต่างหาก