อย่าเพิ่งงงนะครับว่าผมกำลังจะพูดถึงอะไร
ประเด็นนี้ผมได้ใช้เวลากลั่นกรองทั้งหลักของการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ หลักการพัฒนาทรัพยากรเกษตร หลักการพัฒนาเกษตรยั่งยืน หลักของการพัฒนาแบบบูรณาการ และการปรับความรู้ต่างๆเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องนี้ผมเคยนำเสนอในเบื้องต้นมาแล้วเมื่อประมาณต้นตุลาคม ๒๕๔๙ ในบันทึกนี้ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมจำได้ว่าสมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา ผมเคยอ่านวรรณคดีเรื่อง กำสรวลศรีปราชญ์ และมีกลอนตอนหนึ่งว่า “ธรณีนี่นี้เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง……..” ทำให้ผมเกิดภาพลักษณ์ในจินตนาการว่า ธรณี น่าจะแปลว่า แผ่นดิน หรือ ที่ดิน หรือ เทพเจ้าหรือเทพธิดาแห่งแผ่นดิน ประมาณนั้น</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่ พอพูดถึงพระแม่ธรณี หลายคนอาจจะนึกถึงรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่ตั้งอยู่ที่ข้างสนามหลวง ที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งนำไปเป็นเครื่องหมายของพรรค</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <div style="text-align: center"> </div><p> ผมก็ไม่เคยเข้าใจมาก่อนว่าทำไมพระแม่ธรณีต้อง</p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมสงสัยมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่กล้าจะถามใคร </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">พอมาเรียนวิชา ธรณีวิทยาก็สอนแต่เรื่องหินชนิดต่างๆ ไม่เห็นเกี่ยวกับพระแม่ธรณีสักหน่อย </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">พอไปเยี่ยมการทำงานของ ภาควิชาธรณีวิทยา กลับพบว่ามีแต่หินและแร่อีกเช่นกัน </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่ เมื่อเข้าไปดูการทำงานใน ภาควิชาธรณีวิทยา ก็พบว่ายังมีงานเกี่ยวกับน้ำใต้ดินด้วย จึงเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่าธรณี นี้ยังเกี่ยวกับน้ำ และการไหลออกมาของน้ำใต้ดิน เอ๊ะเริ่มจะเข้าเค้าแล้ว</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ถ้าเป็นแค่นั้น ธรณี น่าจะเป็นเพศชายมากกว่า</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">จนผมมาเรียนวิชาปฐพี ที่พูดถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่เพาะกล้าพันธุ์และสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมกลับมองว่านี่คือการพูดถึง พระแม่ธรณี นี่นา</p> ที่ต้องมี <ol>
</ol> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เอ๊ะ ผมเริ่มสงสัยตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ไม่กล้าถามว่าทำไมจึงตั้งชื่อวิชาไม่ตรงกับฐานคิดและภูมิปัญญาไทย ว่าเป็นวิชาธรณีศาสตร์ หรือ ธรณีวิทยา ก็แล้วแต่</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> แต่กลับตั้งเป็น ปฐพีศาสตร์ หรือ ปถพีวิทยา ที่แปลว่า แผ่นดิน (ที่อาจจะมีน้ำอยู่ด้วย) <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ที่ซ้อนทับอยู่บนตรรกะ ของ พระแม่ธรณี</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นี่กระมัง ที่ทำให้การเกษตรบน “แผ่นดิน”ของเราจึงขาดน้ำเป็นประจำ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเลยไม่ค่อยอยากพูดถึง “ปฐพี” เพราะผมไม่ชอบอยู่อย่างแร้นแค้นขาดน้ำ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่อยากมีชีวิตอยู่กับ “พระแม่ธรณี” ที่อุดมสมบูรณ์ ใส่เสื้อผ้าสีเขียว(หรือสีเหลือง ก็ยังดี) มีมวยผมยาวที่บีบเป็นสายน้ำออกมาได้เลย</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อ้าว แล้วผมยาวคืออะไรละครับ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเข้าใจเอาเองว่า "ผมยาว" น่าจะสื่อว่าเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์นะครับ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> เห็นไหมครับภูมิปัญญาไทยนี่ละเอียดลออ ลึกซึ้งขนาดไหน <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เพราะถ้าเป็นพระแม่ธรณีศีรษะโล้น ท่านจะเอาอะไรมาบีบเป็นน้ำให้เราได้ดื่มกินกันละครับ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และถ้าพระแม่ธรณีผอมกะหร่องท่านจะเลี้ยงพวกเราไหวไหม</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และถ้าพระแม่ธรณีขาดอาหารจนไม่สามารถเจริญพันธุ์ได้ เราจะกินอะไรกัน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ดังนั้น การที่เราจะพึ่งตนเองได้ เราจึงต้องช่วยกันดูแลให้พระแม่ธรณี “สมบูรณ์” สวยงาม แข็งแรง มีผมยาว ที่จะดูแลเราได้อีกทีหนึ่ง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่ถ้าเรายังปล่อยให้พระแม่ธรณีอยู่ในสภาพ “หัวก็โล้น เสื้อผ้าก็ไม่ให้ใส่ (มีเท่าไหร่ก็เผาทิ้งหมด) มีอาการเจ็บป่วยกระเสาะกระแสะ ไม่ให้กินอาหารที่ดี และให้กินแต่สารพิษ เพื่อนฝูงก็ไม่มี เครือข่าย (เทพาอารักษ์ พระแม่คงคาฯลฯ) ก็ไม่มี” แล้วเราจะพึ่งพระแม่ธรณีได้อย่างไร เราจะพึ่งตนเองได้อย่างไร จะทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างไร</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมคิดไม่ออกจริงๆ ท่านผู้รู้ช่วยแกะผมออกจากความไม่รู้ด้วยเถอะครับ </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> ผมจะได้เอาความรู้ไปสอน “นักศึกษา” อีกทีหนึ่ง ถือว่าทำบุญเถอะนะครับ</span>
เรียน ผศ.ดร.แสวง รวยสูงเนิน
อ่านแล้วลึกซึ้งมากเลยทีเดียวครับอาจารย์ และทำให้ผมเข้าใจเรื่องพระแม่ธรณีได้ดีขึ้น อีกทั้งในการที่จะพัฒนาอาชีพการเกษตรสู่ความยั่งยืนได้นั้น จะต้องดูแลจัดการระบบดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อม(ป่า) ให้สมบูรณ์เสียก่อน
แต่เราจะทำอย่างไรครับที่จะทำให้ผู้คนที่กราบไหว้ หรือบูชา แต่สัญญลักษณ์ ได้เข้าใจทั้งความหมาย และลงมือปฏิบัติควบคู่กันไป อันจะส่งผลถึงความยั่งยืนในอาชีพครับ
ด้วยความเคารพ
อุทัย อันพิมพ์
คุณอุทัย
ผมพยายามจะนำเสนองานวิชาการเชิงภูมิปัญญาไทย ที่เป็นฐานของ KMธรรมชาติ ครับ
คงพอมองออกนะครับ
ผมอยากเห็นงาน Review ของคุณเทียบเคียงกับเรื่องคล้ายๆนี้ ครับ
ลองทำให้ดูสัก ๒-๓ ประเด็นซิครับ
นี่ผมทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วนะครับ
อาจารย์แสวงที่เคารพ
สมัยเป็นนักศึกษาอาจารย์ที่สอนปรัชญาและศาสนา บอกว่าเป็นความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ที่เห็นว่าน้ำจากมวยผมของแม่พระธรณีคือต้นกำเนิดของแม่น้ำในสำคัญในชมพูทวีปที่ไหลหลั่งมาจากยอดเขาหิมาลัยไม่ขาดสาย
ซึ่งความเชื่อในศาสนาพราหมณ์นี้ก็อยู่คู่กับสังคมไทยมานานเท่า ๆ กับศาสนาพุทธ แม่พระธรณีจึงเปรียบเทียบได้กับความอุดสมบูรณ์ของแผ่นดินและผืนป่า โดยเฉพาะป่าจากภูเขาที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่ให้น้ำหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนเรื่อยมา
แต่ทุกวันนี้ภูเขาบ้านเราแค่หัวโล้นยังน้อยไป เพราะบางลูกเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายที่คนไทยกำลังผ่าตัดรักษาผิดทางกันยกใหญ่ ต่อไปแม่พระธรณีคงหนีไม่พ้นเป็นแม่พสุธาแน่ค่ะอาจารย์
ขอบคุณค่ะ
อาจารย์พันดา
เราต้องเอากลับมาครับ จึงจะรอด
ปล่อยไปไม่ได้ครับ
นี่คือคำตอบสุดท้ายครับ
เรียน ผศ.ดร.แสวง รวยสูงเนิน
หลังจากที่ผมได้อ่านเรื่องนี้แล้วผมรู้สึกประทับใจในความคิดและการนำเสนอเรื่องนี้มากเลยครับ