ประสบการณ์หนึ่งของนักอารักขาพืชหน้าใหม่ในแปลงนา ในห้วงระยะเวลานี้ อากาศทางภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำปางจะเริ่มหนาวเย็น มีหมอกลงจัดในบางพื้นที่ซึ่งเอื้อต่อการระบาดของเชื้อราที่มักจะเกิดกับต้นข้าวในเกษตรกรชาวนาในเขตอำเภอห้างฉัตร ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนชาวนาและเยี่ยมนักส่งเสริมการเกษตรที่รับผิดชอบพื้นที่ ได้พบต้นข้าวที่ได้รับความเสียหายจาก โรคไหม้ของข้าว ซึ่งเกิดจากเชื้อรา จะทำลายต้นข้าวอยู่ในระยะกำลังโผล่รวง ต้นข้าวในบริเวณที่เกิดโรคไหม้ระบาด ใบจะมีลักษณะแห้งสีน้ำตาล คล้ายถูกไฟไหม้ ตายเป็นหย่อมๆ บางจุดก็จะพบว่าใบและกาบใบที่เกิดโรค เริ่มมีจุดสีเทาช้ำๆจุดนี้จะขยายไปอย่างรวดเร็วและรอบๆจุดจะมีสีน้ำตาล ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีฟางข้าวแห้ง หากมีการขยายลุกลามจะทำให้ใบแห้งตายได้ โรคไหม้ของข้าวส่วนใหญ่จะแพร่เชื้อทางอากาศโดยลมพัดพาไป
การระบาดของโรคไหม้ของข้าวนี้ จากการศึกษาเราพบว่ามีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อยู่ ๔ ประการด้วยกันคือ (๑) ฟ้าอากาศ สภาพฟ้าอากาศที่มีความชื้นในอากาศสูง จะเป็นการช่วยส่งเสริมให้เกิดโรคนี้ได้ง่าย (๒) พืชอาศัยของโรค พบว่ามีหญ้าวัชพืชอยู่หลายชนิดด้วยกันที่เป็นพืชอาศัยของโรคนี้ และการแพร่ขยายเชื้อโรคนี้ ติดต่อระบาดทำลายต้นข้าวในฤดูการต่อไปได้ (๓) การปฏิบัติของเกษตรกรชาวนาเองเมื่อพบว่าต้นข้าวของตนเองมีอาการใบไหม้ แล้วโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปซื้อปุ๋ยยูเรียมาหว่านให้แก่ต้นข้าวซึ่งหวังว่าจะให้ต้นข้าวที่เป็นโรคมีสีเขียวขึ้นมา แต่กลับทำให้การระบาดของโรคได้เร็วขึ้น (๔) ที่นาบางแปลงมีธาตุอาหารคือ ไนโตรเจนสูง จะเป็นการส่งเสริมให้โรคระบาดติดต่อ ทำลายต้นข้าวได้กว้างขวางมาก ประกอบกับเกษตรกรนำพันธุ์ข้าวที่ไม่ต้านทานต่อเชื้อรามาปลูก
สำหรับการป้องกันกำจัดโรคไหม้ และโรคที่เกิดจากเชื้อรา เกษตรกรเจ้าของแปลงนา จะต้องลงไปตรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน มากเกินไป เพราะว่าหากใส่มากจะทำให้ต้นข้าวงอกงามทางใบ ลำต้นอ่อน เป็นโรคง่าย หากพบอาการในระยะเริ่มต้น เกษตรกรควรใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า มาผสมน้ำฉีดพ่น ในเวลาเช้าหรือเวลาเย็น ที่ไม่มีแสงแดด โดยพ่นอย่างต่อเนื่องจะสามารถป้องกันได้ แนวทางที่ทางกลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดลำปาง ได้สร้างความเข้าใจกับเกษตรกร ผู้นำชุมชน อปท.และนักส่งเสริมการเกษตร ในเขตพื้นที่ที่เกิดโรคไหม้ระบาดของข้าว ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เน้นผลิตสารชีวภัณฑ์ไว้ใช้ในกลุ่ม เพื่อทดแทนการใช้สารเคมี โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสานนั่นเองครับ .ในฤดูการเพาะปลูกปีต่อไป เกษตรกรต้องหาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีความต้านทานมาปลูก โดยหามาจากแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีความเชื่อถือ
เขียวมรกต
๑๙ ตค.๕๗
ขอบคุณ ทพญ.ธิรัมภา ที่กรุณาแวะมาให้กำลัใจเสมอมาครับ
ขอบคุณ คุณครูtuknarak ที่แวะมาให้กำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับหัวหน้า..
-สบายดีนะครับ?
-ดีใจกับพี่น้องเกษตรกรชาวลำปาง..บ้านเกิด.ของผม..ที่ได้หัวหน้าไปดูแล
-ทีมงานเข้มแข็งดีนะครับ?
-ด้วยความระลึกถึงครับ