สงกรานต์ พาลูกหลานเที่ยวชมทะเลหน้าบ้าน ได้เล่าให้ฟังถึงความรุ่งเรืองในอดีตของอำเภอ
ปากพะยูน ท่าเรื่อปากพะยูน เป็นท่าเรือที่คึกคักมาก เป็นเมืองที่ไม่หลับคือมีการสัญจร
ตลอดคืน มีเรือวิ่ง จาก สงขลา ระโนด ลำปำ มาแวะรับส่งคนและสัมสาระ มีเรือโดยสารหลาย
ลำ นึกถึงบทกลอนที่ทางกลุ่ม 468 (กลุ่มคนเขียนกลอนสี่ กลอนหก กลอนแปด มีเพชร
ประยูรวงศ์ ส.ศรีสุนทร และวอญ่า) ร่วมกันจัดตั้ง ร่วมกันเขียนเวียนกันอ่าน วานกันชมในปี
2535 จึงนำมาบันทึกไว้ให้ลูกหลานได้ตามรอย….
ปากพะยูน…..ท่าเรือเหงา ทะเลโหย
ไม่มีแล้ว…ไม่มีแล้ว ไม่มีเหลือ
ไม่มีเสียงเรือยนต์ให้บ่นหา
ไม่มีท่าเทียบเรือแช่เกลือปลา
ไม่มีลำนาวาล่องสายชล
ไม่มีคนผิวคล้ำหน้ากรำแดด
ไม่มีแนตลากปลายามหน้าฝน
ทะเลร้างอ้างว้างไร้เสียงคน
ปลาขี้ตังสีหม่นมาหายไป
กุ้งก้ามกามตัวใหญ่ไข่เต็มท้อง
ทั้งปลาฆ้องลูกท่องเที่ยวเลี้ยวไปไหน
อีกลูกแหยงลูกแมระทะเลใน
ที่ไครไครลือกันมันราสา
ความคึกครื้นดื่นดึกเคยคึกคัก
ทั้งแม่ค้าคนมาพักขวักไขว่หา
ผลไม้รสดีมีราคา
รอขึ้นลงจากท่าไปบ่อยาง*
นั้นมะลิ* ดีปลีนี้หัวมัน
เหรียงเนียงตอ*วางไกล้กันไม่ได้ห่าง
ทั้งข้าวสารสอบใหญ่ใส่ตรงกลาง
แม้ขี้ยางเหม็นจังเรือยังรับ
ชัยมงคล แสงจันทร์เจริญผล
คือเรือยนต์วิ่งไกลทั้งไปกลับ
อีกพรทิพย์พืชมงคลก็วนรับ
แล่นสลับเรื่อยมาชั่วตาปี
ปากพะยูนท่าเรือเหงาทะเลโหย
ร้องครวญครางโอดโอยสิ้นศักดิ์ศรี
ความคืกครื้นแต่เก่าเราเคยมี
หมดสิ้นแล้ว…วันนี้ท่าหนีเรือ........ กลุ่ม สี่หกแปด
*บ่อยาง คือ สงขลา
*มะลิ คือสับปะรด
*เหรียง เนียง ตอ คือลูกเหรียง ลูกเนียง ลูกสะตอ สามพี่น้อง ตระกูลฉ๋อง
ท่าเรือแห่งที่ 2 หน้าสำนักงานสาธารณะสุขอำเภอปากพะยูน
ท่าเรือแห่งแรกอยู่หน้าท่าใหญ่
เรือยนต์ที่วิ่งวนในทะเลสาป เท่าที่นึกออก บอกได้
เรือดรุณี
เรือสายสัมพันธ์ ของคนปากพะยูน ตระกูล สันสาคร
เรือดวงจันทร์
เรือโชคดี
เรือเจริญผล 3
เรือเจริญผล 5
เรือแสงจันทร์
เรือพืชมงคล ของนายโค้ว พืชมงคล ระโนด
เรือชัยหลี ปากรอ
ปี 2506 เก็บค่าโดยสารคนละ 10 บาท เด็กไม่เก็บ
วิ่งจากสงขลาถึงระโนด ระยะทาง 83 กิโลเมตร ความเร็ว วิ่ง 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ออกจากท่า 15 นาทีต่อลำ เรือลำสุดท้ายแห่งตำนานเรือด่วนปากพะยูน หยุดกิจการปี 2517
บ่อหมาแปะ บริเวณนี้คือบ่อหมาแปะ ยุคคนจีนเดินทางโดยเรือสำเภา แวะตักน้ำกินหน้าน้ำใช้ เป็นบ่อที่เป็นน้ำจืดแห่งเดียวของตลาปากพะยูน ที่ต้องใช้รถเข็นใส่ปิบมาตักน้ำไปไว้กิน
บ่อหมาแปะยุคที่ 2 เมื่อย่ายวัดรัตนารามจากหน้าท่าด้วยเหตุผล มีศาลอำเภอ มีโรงพัก มีศุขศาลา เกิดขึ้น จึงย้ายวัดมาอยู่ที่ หัวบ้านออก
ตรงนี้จึงถูกเรียกเป็น บ่อหมาแปะถึงปัจจุบันนี้
คือลูกเหรียง ลูกเนียง ลูกสะตอ สามพี่น้อง ตระกูลฉ๋อง
มาแปลเป็นไทยว่า ฉ๋องแปลว่ากลิ่นแรง
555
เสียดายบรรยากาศเก่าๆ
เกิดไม่ทัน ตอนอยู่สงขลายังมีแพขนานยนต์อยู่เลยครับ
เอ๋...ทำไมระยะนี้จึงมีแต่บันทึก....เหงา ๆ เศร้า ๆ ...หนอ ?
กลอนเพราะ และเศร้าจัง.. เป็นกำลังใจอีกหนึ่งคนนะคะ
ขอบคุณ อาจารย์ คนเฒ่าเล่าความหลังให้ลูกหลานฟัง
เพื่อเรียนรู้อดีต เพื่อความอยู่รอดในปัจจุบัน และวางแผนในอนาคต
กลอนไพเราะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ฝากติดตาม
http://www.gotoknow.org/user/thebeattlecity38/posts
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ ศจย. พรุ่งนี้เครือข่ายสิ่งเสพติดนัดหารือการขยายเครือข่าย ที่ รพสต. บ้านลำกะ พัทลุง
ในความเหงา .... มีความงดงามอยู่ นะคะ บัง
เรียนพี่ใหญ่ ปากพะยูนโหยท่าเรือหาย ตอนนี้กำลังฟื้นสภาพ ใช้การท่องเที่ยวเชิงวิถี ชุมชน มาเป็นอาชีพ
เรียนคุณเพชร ส้มแผ่น คือ มะม่วงแผ่นใช่มั้ยครับ
เรียนคุณ ยายธี นึกถึงความรุ่งเรืองของท่าเรือในอดีต ที่เคยโดดเด่น แต่วันนี้ท่าเรือ เหงา
เรียนคุณหมอเปิ้ล
ความงามในความเหงา
ความโหยหาในสิ่งที่ขาดไป
ความทันสมัยที่ต้องตามให้ทัน
ขอบคุณ พ่อเขียน....เวียนมาอ่าน
มาประเชื่อมต่อทางความคิด
มาชี้บอกตอกย้ำทางความคิด
ไม่ให้ยึดติดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม