ชายหญิงสูงวัยคู่หนึ่ง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่า ๆ พื้นๆ เดินเข้าไปที่สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด เลขาธิการของอธิการบดีรู้ดีว่าชายหญิงที่ดูสุดแสนจะบ้านนอกทั้งสองไม่ได้มีนัดกับอธิการบดีแน่นอนในวันนั้น หรือจะพูดอีกที ดูจากลักษณะแล้วทั้งคู่ไม่สมควรจะมาเดินอยู่ในมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติด้วยซ้ำ
"เรามาขอพบอธิการบดี" ชายสูงวัยกล่าวด้วยเสียงอันเบา
"อธิการบดีมีนัดเต็มอยู่แล้วทั้งวัน" เลขาธิการตอบเลี่ยงอย่างช่วยไม่ได้
"เราจะรอจนกว่าท่านจะทำงานเสร็จก็แล้วกัน" หญิงชรากล่าว
หลายชั้วโมงผ่านไป เลขาฯ ก็มิได้ใส่ใจทั้งคู่อีก เพราะหวังว่าชายหญิงแก่ ๆ ทั้งสองจะเปลี่ยนใจแล้วกลับไปในที่สุด แต่ก็ไม่เป็นดังคิด จนในที่สุด เลขาฯ จึงตัดสินใจแจ้งให้อธิการบดีทราบ
"คุณอาจจะลองพบทั้งคู่ดูสักหน่อย ไม่รู้ว่ามีธุระอะไร เสร็จแล้วพวกเขาจะได้กลับไปเสีียที" เลขาธิการกล่าวกับอธิการบดี อธิการบดีวางสีหน้าเข้มขรึม เดินยืดอกเข้าไปหาทั้งคู่
หญิงชรากล่าวกับอธิการบดีว่า "ลูกชายของเราเคยเรียนอยู่ที่นี่ปีหนึ่ง เขารักฮาเวิร์ดมาก และมีความสุขที่ได้มาเรียนที่นี่ ทว่าเมื่อปีกลายเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เราจึงอยากสร้างอนุสรณ์ให้ลูกที่มหาวิทยาลัยนี้"
อธิการบดีไม่ได้ซาบซึ้งไปกับเรื่องราวที่หญิงแก่เล่า เขากล่าวด้วยเสียงดุดันว่า "เออ...มาดาม เราไม่อาจอนุญาตให้สร้างรูปปั้นสำหรับทุกคนที่เคยมาเรียนที่นี่แล้วเสียชีวิตลง มิเช่นนั้น มหาวิทยาลัยก็จะดูไม่ต่างจากสุสานสักเท่าไหร่"
"เราไม่ได้คิดจะสร้างรูปปั้น เราเพียงแต่คิดว่าจะมอบอาคารสักหลังเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้มหาวิทยาลัย" หญิงสูงวัยกล่าวตอบ
อธิการบดีหันมามองเสื้อผ้าเก่าๆ ที่ทั้งสองสวมใส่อย่างพิจารณาอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า "มาดาม คุณรู้ไหมว่าอาคารแต่ละอาคารจะต้องใช้เงินมากเท่าไหร่ อาคารในมหาวิทยาลัยนี้ใช้เงินสร้างกว่า 7.5 ล้านเหรียญ" (เมื่อร้อยยี่สิบกว่าปีมาแล้ว)
หญิงสูงวัยเงียบไปสักพัก อธิการบดีคิดว่าทั้งคู่คงจะกลับไปเสียที หญิงคนนั้นจึงหันไปคุยกับสามีว่า "การสร้างมหาวิทยาลัยใช้เงินเท่านี้เองหรือ ทำไมเราไม่สร้างมหาวิทยาลัยของเราเองล่ะ?"
ชายชราพยักหน้าเห็นด้วย อธิการบดีรู้สึกสับสนกับคำพูดของป้าแก่ๆ คนนั้น และแล้วทั้งคู่ก็อำลาอธิการบดีแล้วเดินออกจากมหาวิทยาลัยไป
ชายหญิงสูงวัย แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ พื้นๆ ทั้งสองจึงไปสร้างมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับบุตรชายที่เสียชีวิตลง บุตรชายที่ฮาเวิร์ดไม่ใส่ใจ มหาวิทยาลัยแห่งนั้นชื่อ "มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด"
ชายหญิงสูงวัย ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ พื้นๆ คู่นั้นคือ มิสเตอร์ และ มิสซิส เลแลนด์ สแตนฟอร์ด
...
...
บางครั้ง...การถือตนไว้ตัวของเราก็ทำให้เราตัดสินคนอื่นผิดไป บ่อยครั้งที่เรามักตัดสินคนอื่นจากรูปร่างหน้าตา เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ภายนอกอย่างฉาบฉวย เราอาจปฏิบัติต่อคนอื่นไม่ดีเท่าที่ควรเพราะคิดว่าเขาไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยอะไรเราได้ เราจึงสูญเสียโอกาสที่จะมีเพื่อน มีลูกน้อง หรือมีลูกค้าที่ดีไปในที่สุด
ได้อ่านเรื่องราวนี้ในฟอร์เวิร์ดเมลล์จากเพื่อนคนหนึ่ง มานานมากแล้ว จึงเอามาเรียบเรียงเพื่อแบ่งปัน
สุขสันต์เช้าวันที่เราให้เกียรติคน เพราะคุณค่าความเป็นคน และความตั้งใจภายใน ที่ไม่ใช่เครื่องประดับภายนอกค่ะ
Moment - The Heirs Ost
http://www.youtube.com/watch?v=QEE7oK10jzc
เป็น "เรื่องเล่าที่ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิตดีๆ" ในแบบฉบับของ "หนูปริม" ที่ไม้ได้อ่านมานานพอสมควร นะคะ
อ่านแล้วก็นึกถึงสำนวนไทยที่ว่า "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง"...นึกว่ามีแต่วัฒนธรรมไทยที่ประเมินคนจากเครื่องแต่งกายภายนอก ชาวตะวันตกก็เป็นเช่นนั้นด้วยเช่นกันหรือนี่...
หวังว่าหนูปริมและคนข้างกาย จะสุขสบายดีนะคะ
ปีใหม่ได้กลับเชียงใหม่บ้างหรือเปล่าคะ เห็นแต่ทุ่งรวงทองของหนูปริมจากบันทึกของคุณอักขณิช เห็นแล้วก็คิดถึงเจ้าของค่ะ
ขอบคุณเรื่องเล่าดี ๆ ที่มีมิติแง่คิดที่คุณปริมนำมาฝากมากครับ...
มาครั้งนี้...คงไม่หายไปนาน (มาก) อีกนะครับ...:)
สวัสดีปีใหม่อีกครั้งนะครับอาจารย์ปริม
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ทุกวันนี้..จะคิดอยู่เสมอ..ว่า..อย่ารีบตัดสินใคร..อย่าด่วนสรุป ภาพที่เห็นอาจไม่ใช่ คนที่ไม่ใช่อาจจะใช่ก็ได้ ใช้ใจพิจารณาเยอะ ๆก็ดีครับ...วันนี้ มีตายายแก่ๆเข้ามาในโรงเรียน..แต่งตัวโทรมมาก..ก่อนหน้านั้น หลานชายได้มาขอให้ช่วยเหลือด้านวุฒิการศึกษาเพื่อไปสมัครงาน..หลานชายเกเรมาก..แต่เราก็ช่วย..ตายายยังไม่รู้ว่าเราช่วยไปแล้ว..จึงจะมาพูดขอร้องเหมือนจะเอาเรื่องเพราะคิดว่าหลานเขาเกเราจึงไม่ช่วย..เปล่าเลย..ผมคิดได้มากกว่านั้น... ผมรีบยกมือไหว้ก่อน..แล้วบอกว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ หลานยายกลับไปแล้ว แต่ยังไม่ถึงบ้าน ตายายกลับไปอย่างมีความสุข..
สวัสดีปีใหม่อีกครั้งค่ะคุณปริม
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูมะเดื่อ
ขอบคุณสำหรับการแนะนำเพลงที่ให้ข้อคิดชีวิตดีดีเช่นนี้ค่ะ
สังคมโดยทั่วไปเป็นแบบนี้จริงๆ ที่พบเจอเป็นประจำคือเวลาที่เดินทางตามที่สนามบินต่างๆ หากแต่งชุดทำงาน ดูุภูมิฐานจะไม่ค่อยโดนตรวจมากมายนัก แต่หากแต่งชุดลำลอง สบายๆ จะโดนตรวจค่อนข้างละเอียดและนานมากค่ะ เคยคิดเล่นในใจ หากจะทำผิดจริงๆ คงทำได้ไม่ยากนัก :)
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์แม่วิไล
ปริมโพสเรื่องเล่านี้ในเฟสบุ้คไม่นานมานี้ค่ะ เลยนำมาโพสในโกทูโนด้วย
ปริมและครอบครัวสบายดีค่ะ ปีที่ผ่านมาเรากลับเชียงใหม่ช่วงปลายปี ไปทำธุระแล้วก็ปลูกต้นไม้ที่บ้าน อีกสองสามปีคงมีสีเขียวรอบๆ บ้านค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์จัตุเศรษฐธรรม
ขอบคุณค่ะ ปีนี้จะพยายามมีวินัยในตัวเองให้มากขึ้นค่ะ ;)
สวัสดีปีใหม่เจ้าพี่ครูตูม
ขอให้พี่ครูมีความสุขนักๆ ในปีใหม่นี้เจ้า ;)
สวัสดียามดึกค่ะคุณพิชัย
สิ่งดีดีต้องแบ่งปันค่ะ ;)
สวัสดีค่ะคุณสายนที
ขอบคุณอีกครั้งที่มาทักทายกันพร้อมกำลังใจมากมายค่ะ
...สิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดามักเกิดขึ้นเสมอแต่ไม่มากนัก... จากความไม่ธรรมดาของพฤติกรรมผู้คน แนวความคิด สติปัญญานะคะ...คนปกติธรรมดาไม่มีเรื่องราวในชีวิตให้ใครกล่าวถึงหรือเป็นอุทาหรณ์สอนใจใครๆ...มีแต่ความดี ความชั่วที่มีอยู่ในตัวไว้สอนใจตนเอง และอาจพอเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกหลาน คนใกล้ตัวได้บ้างนะคะ
สวัสดีค่ะท่าน ผอ ชยันต์
จะว่าไปที่มีคนบอกว่า "การที่คนเราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร ก็แสดงถึงพื้นฐานทางจิตใจของคนคนนั้น" น่าจะเป็นจริงนะคะ
ใจที่ไม่ให้เกียรติคน จะไม่มองคนอื่นในด้านบวก
ท่านอาจารย์เป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กๆ สมกับการเป๋นครูบาอาจารย์ที่น่ายกย่องค่ะ ;)
สวัสดีปีใหม่จ้าาา.. แฟนๆคุณปริมก็ยังคอยติดตามบันทึกอยู่อย่างแน่นหนาเช่นเดิมน้าาาา......
ผมได้ลอง ไม่แต่งตัว ไม่ใส่น้ำหอม ผมตัดสั่นไม่ต้องหวี ไม่ต้องใส่เจล..... ใส่รองเท้า (รองเท้าแตะ คู่ที่ใช้เข้าวัด ) มาเกือบ 2 ปีละ ได้เรียนรู้อะไรๆเยอะเลยครับ........... โดยเฉพาะใจตัวเอง....:):)
สวัสดีปีใหม่ค่ะ Dr. Ple...
ขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งความสุขมากๆ นะคะ ;)
สวัสดีค่ะคุณน้อย...
เริ่มต้นปีใหม่แบบช้าๆ ค่ะ ให้เวลาตัวเองมากหน่อยค่ะปีนี้
สุขสันต์วันสงบสุขค่ะ
ขอบคุณดอกทานตะวันสดใสจากคุณตะวันดินนะคะ ปีนี้คงสดใสเหมือนดอกค่ะ ;)
สวัสดีค่ะ ดร. พจนา
ขอบคุณข้อคิดดีดีที่กรุณาแลกเปลี่ยนค่ะ
ในความต่างของคน ในทุกสิ่งมีข้อดีที่เกิดขึ้นเสมอ ตอนโพสเรื่องนี้ปริมก็แอบคิดว่า หากไม่ใช่เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็อาจไม่มีมหาวิทยาลัยที่โด่งดังเกิดขึ้นมาก็ได้ ทุกคนและทุกสถานการณ์เป็นครูเป็นบทเรียนให้เราได้เสมอ ให้เราเลือกที่จะทำ จะสร้างความดีค่ะ
สุขสันต์ค่ำวันดีดีค่ะ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์วิชญธรรม
ขอบคุณการทักทายที่อบอุ่นเสมอค่ะ
ดีใจกับสองปีแห่งการลด ละ ของอาจารย์ด้วยค่ะ วางสิ่งของลงเพื่อกายจะได้เบา แล้วใจจะได้เบาตาม
ปริมก็ว่าชาตินี้คงจะไม่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของหลุยส์ ชาแนล เฮอเมส กับเขาแล้วค่ะ ;)
แล้วคุยกันอีกนะคะอาจารย์ ;)
อ่านแล้วชอบมากๆ
คิดถึงตัวเองใส่ชุดเก่าๆไปหน่วยงานหนึ่งแล้วโดนดุเลย 5555
ดีใจที่กลับมาแล้ว
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ
เรื่องนี้มีคติสอนใจและเพลงไพเราะ ขอส่งความสุขให้คุณปริมมีความสุขมากๆ ครับผม ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ขจิต
ปีนี้ตั้งใจว่าจะมาเขียนมาอ่านให้บ่อยขึ้นค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ ดร ป๊อบ
ดีใจที่คุณชอบคนตรีนี้เหมือนกันค่ะ เสียงเปียโนทำให้รู้สึกมีความสุขค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพิชชา
ตอนโพสเรื่องนี้ก็คิดคล้ายกันค่ะ เพราะเหตุนี้...จึงมี...
มีความสุขสนุกสนานเช่นกันค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอต้อนรับกลับมาเขียนบันทึกดีๆให้ได้อ่านกันอีกค่ะ...
สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่
ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่นอีกครั้งค่ะ
ฝันดีนะคะ ;)
ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่กรุณาแวะมาอ่านและให้กำลังใจบันทึกนี้นะคะ
ฝันดีค่ะ