(ต่อจากตอนที่ ๒)
กระปุกออมบุญ เมื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติ จะได้ทำในชั้นเรียนที่บีแมนสอน โดยจะให้นิสิตแต่ละคนไปทำกระปุกออมบุญ มาประกวดกัน (น่าจะใช้กลุ่ม ๕๐๑ ในรายวิชาการจัดการการดำเนินชีวิต) โดยที่กำหนดเงื่อนไขว่า กระปุกนี้จะใช้วัสดุเหลือใช้ และไม่ใช้สตางค์ในการทำ (ใช้วัสดุที่มีอยู่แล้ว)
เมื่อประกวดกันแล้ว เลือกมา ๑ กระปุก และหาผู้ดูแลกระปุกนี้ อาจเวียนกันถือคนละวันแล้วแต่จะตกลงกัน
วิธีปฏิบัติในการหยอดกระปุกออมเงิน
- ออมเงินทุกวัน วันละ ๑ บาท ออมน้อยๆ แต่บ่อยๆ เพื่อฝึกวินัย และได้อธิษฐานก่อนออมทุกครั้ง (บีแมนต้องเตรียมเหรียญ ๑ บาท ไว้หลายเหรียญ ถ้ามีนิสิตมาเรียนเท่าไร ก็หยอดเหรียญตามจำนวนนิสิตเท่านั้น)
- เงินที่จะนำมาออมบุญนั้น ต้องมีที่มาจากการประหยัด..เช่น ไปคุยกับแม่ค้าขายข้าวแกงว่า ราคาอาหารมือนี้ ขอให้ลดข้าวลดกับข้าวลง จำนวน ๑ บาท แล้วเงิน ๑ บาทนี้ ทำบุญร่วมกันระหว่างแม่ค้าและผู้เรียน..ส่วนบีแมนก็ได้เงินจากการประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือ เดือนละ ๕๐ บาท ประหยัดค่าโอนเงิน เดือนละ ๑๕ บาท ประหยัดค่าธรรมเนียมการมี ATM ปีละ ๓๐๐ บาท และยังมีกองทุนพัฒนาบุคลากรอีกปีละ ๒๐,๐๐๐ บาท (บริจาคให้ Unicef ปีละ ๓,๖๐๐ บาท และ Greenpeace ปีละ ๓,๖๐๐ บาท รวมบรจาคปีละ ๗,๒๐๐ บาท)
- เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งที่ตกลงกัน ก็เปิดกระปุกออมบุญ นับจำนวนแล้วคุยกันว่าจะนำไปบริจาคให้สาธารณะกุศลใด
- นำเรื่องราวสรุปจากภาคปฏิบัติ มาเขียนอีกครั้งหนึ่ง
- มีการทำ AAR หรือ ALR. ว่าแต่ละคนมีความรู้สึกอย่างไรกันบ้าง..
สิ่งที่่คาดว่าจะได้รับ
- อาจารย์และนิสิตได้ฝึกฝนตนเองเรื่องวินัย, การประหยัดอดออม,
- นิสิตได้แนวคิดและแนวปฏิบัติในเรื่องนั้นๆ รวมทั้งเรียนรู้การเขียน Journal, Mind Mapping
- ได้ฝึกจิตใจในเรื่องจิตสาธารณะ และการได้ช่วยเหลือผู้อื่นทางด้านการบริจาคทานหรือการให้
- รับเรียนรู้ เรื่อง ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ