คนที่ชวนไปดูงานที่โรงเรียนวิถีพุทธฉือจี้ คือ อ.อธิป ผอ.กองศึกษาทั่วไป ที่ชวนบีแมนไปบอกว่าจะไปดูพิธีชงน้ำชาของโรงเรียน แต่ไปจริงก็ไม่ได้ชงน้ำชาให้ดู..สิ่งที่ผอ.ต้องการจากบีแมน คือ การเอาความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาศึกษาทั่วไป ในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานรายวิชา..
ความจริงเรื่องที่ไปเรียนรู้มา สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลายเรื่อง แต่สิ่งที่เห็นได้คือการที่ "ต้องนำกลับไปปฏิบัติ" ซึ่งเรื่องแรกที่คิดว่าทำได้คือเรื่องของการบรจาคทาน..กระปุกออมบุญ
เรื่องที่นึกได้ก่อนคือ รายวิชาศึกษาทั่วไป ๐๐๑๒๓๖ การจัดการดำเนินชีวิต..กลุ่มที่สอนอย่างน้อยมี ๒ กลุ่ม เลือก กลุ่มพิเศษเรียกว่ากลุ่ม ๕๐๑ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียนทับซ้อนเวลากับกลุ่มปกติ คือ กลุ่มปกติเป็นเทอม ๒ แต่กลุ่มพิเศษนี้เรียนภาคฤดูร้อน (เทอม๓) ซึ่งมีช่วงเวลาของการเรียนสิ้นสุดเมื่อ ๗ มีนาคม ๒๕๕๗ คือมีเวลาเรียนเพียง ๒ เดือนเท่านั้น
ตอนที่เปิดกลุ่มเรียนนี้ ก็ไม่ได้นึกถึงว่าจะเรียน ๒ เดือน ซึ่งจะต้องแยกสอนออกมา เพราะคนลงทะเบียนมีเวลาไม่ตรงกัน และส่วนมากจะเรียนจบในภาคฤดูร้อนนี้..ผู้เรียนมี ๔ คณะ (ที่เข้าร่วมโครงการ-รหัส ๕๓ ขึ้นไป) จำนวน ๖ คน (ข้อมูลเมื่อ ๒ ม.ค.๕๗) แยกตามคณะดังนี้
การจัดการเรียนการสอนค่อนข้างจะยุ่งยากหน่อย เนื่องจากเวลาทับซ้อนกันเหมือนขึ้น Time Machine คือ คนส่วนใหญ่เรียนภาคปกติซึ่งเป็นเทอม ๒ มีเวลาเรียน ๔ เดือน ซึ่งบีแมนสอน ๕ วิชา สัปดาห์ละ ๕ วัน เลิกเรียน ๕ โมงเย็น.. ดังนั้นกลุ่มพิเศษนี้ ต้องเรียนเป็น ๒ เท่า สัปดาห์ละ ๔ วันๆ ละ ๒ ชั่วโมง..
การหาห้องเรียนสำหรับ ๑๐ คน ก็เป็นปัญหาพอสมควร ในที่นี้เลือกใช้บริการของสำนักหอสมุด โดยการเสนอของคุณประดับเดือน แห่งกองการศึกษาทั่วไป..ซึ่งได้ทำหนังสือไปยังผอ.สำนักหอสมุด แต่เนื่องจากในตารางเรียนยังไม่ได้กำหนดเวลาไป จึงทำเรื่องขอจองห้อง วันจันทร์-ศุกร์ เลย เพราะว่ายังไม่ได้นัดเวลาเรียนนิสิต..ทางสำนักหอสมุด โดยคุณต้อย-สุนิสา ก็โทรมาบอกว่าขอให้แจ้งช่วงเวลาและวัน เพื่อจองห้องไว้ในระบบ Online และจะได้ไม่เป็นการกันที่นิสิตคนอื่นๆ ด้วย ตั้งใจจะเรียนกัน ตอน ๕ โมงเย็นถึง ๑ ทุ่ม..สัปดาห์ละ ๔ วัน
สอบถามเรื่องห้องเรียน เป็นห้อง Self Study มีเพียงกระดานไวท์บอร์ด และ wireless (ไร้สาย=ไม่มีเส้นลวด) เท่านั้น
กลุ่ม ๕๐๑ นี้ การเรียนการสอนก็ยึดมคอ.๓ เป็นหลัก อยู่ในใจผู้สอน แต่การเรียนการสอนจะเน้นการปฏิบัติและตรวจสอบอารมณ์ความรู้ที่ได้รับ ผ่านการเขียนสมุดบันทึกการเรียนรู้ (Journal) และการพูดคุยในชั้นเรียน
วิธีการสอน
เป็นงานที่ท้าทายว่า นิสิตจะปฏิบัติกันได้แค่ไหน แต่ที่สำคัญผู้สอนก็ต้องฝึกตนไปพร้อมกับนิสิตด้วย
ตอนสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และ ๒ อ่านหนังสือ "ทางแห่งความดี" ของท่าน วศิน อินทสระ บีแมนชอบพุทธวจนะที่ว่า "ชาวนา ไขน้ำเข้านา ช่างศร ดัดลูกศร บัณฑิต ย่อมฝึกตน"
ข้อ ๑๐ คือ ยกพุทธศาสนสุภาษิตหรือหัวข้อธรรมะขึ้นมา วันละบทและให้แสดงความเห็นกันออกมาทุกๆ คน
ไม่มีความเห็น