เมื่อเช้าสอน ม.4 เรื่องเซลล์ ท้ายๆชั่วโมงมีนักเรียน 2 คนนำโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ ไม่แน่ใจว่าใช้เรื่องใด แต่มั่นใจว่าใช้ เพราะทั้งคู่ก้มหน้างุดอยู่ใต้โต๊ะ ซึ่งใช้บังสายตาครู เคยดุกันครั้งหนึ่งแล้ว วันนั้นเห็นคนเดียว วันนี้แทนที่จะดีขึ้น หรือไม่มีใครแอบใช้โทรศัพท์ในชั่วโมงเรียนเลย กลายเป็นว่าจำนวนคนกลับเพิ่มขึ้น
โรงเรียนจึงห้ามหรือไม่ให้นำโทรศัพท์มา ถ้าใช้เฉพาะที่จำเป็น สื่อสารกับผู้ปกครอง จะเล่นก็นอกเวลาหรือเวลาพัก อะไรอย่างนี้ครูคงไม่ห้าม ไม่มีใครอยากเข้มงวดกับเธอดอก แต่การใช้ขณะเรียน คุย เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง อย่างไม่รู้เวลา ควรหรือไม่ เหมาะสมหรือเปล่า พะวงอยู่กับโทรศัพท์หรือเรื่องอื่นตลอด สมาธิเรียนเธอจะหามาจากไหน?
ก็หักห้ามใจหรือความอยากสักหน่อย ประเดี๋ยวก่อน เรียนให้จบก่อน ถึงเวลาพักก่อน แต่นี่เธอแพ้ แพ้ความอยาก ครูเชื่อและย้ำเสมอ ชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นการชนะใจตัวเอง ไม่มีทางจะทำอะไรสำเร็จ ถ้าเธอยังแพ้..
ผมร่ายยาวเมื่อเห็นความไม่ถูกต้องของลูกศิษย์ ด้วยหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี พร้อมนึกถึงหัวค่ำวานนี้ที่ไปพบแพทย์ เพื่อติดต่อรับยาลดไขมันตามปกติ นานพอสมควรแล้ว ที่ตัวเองต้องทานยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง จากภาวะไขมันในเลือดสูงเกินเกณฑ์
เริ่มจากได้รับการชี้แนะจากคณะเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งเข้ามาส่งเสริมการมีสุขภาพดีให้กับบุคลากรภายในโรงเรียน ผลการตรวจร่างกายครั้งนั้นพบว่า ตัวเองมีระดับไขมันในเลือดสูง ระยะแรกแพทย์ให้ควบคุมการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกไขมัน และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงนัดให้ไปตรวจเลือดใหม่ สุดท้ายแพทย์สั่งให้ทานยา
แต่จนแล้วจนรอดอาการก็ไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย เพราะแพทย์สั่่งเพิ่มปริมาณยา จาก 5 mg. เป็น 10 และเป็น 20 mg. นอกจากนั้นทุกครั้งที่ไปตรวจ ตัวเองมักต้องเจอคำถามซ้ำๆเก่าจากแพทย์ผู้ให้การรักษา ควบคุมอาหารมั้ย? ออกกำลังกายมั้ย? คงไม่สงสัยนะครับ ว่าผมตอบแพทย์ไปอย่างไร เพราะปริมาณยาที่เพิ่มขึ้นตลอด ก็น่าจะเป็นคำตอบชัดเจนแล้ว(ฮา)
ผ่านมาระยะหนึ่ง ไขมันในเลือดลดลงสู่ภาวะปกติได้ คงเป็นด้วยปริมาณยา แพทย์จึงให้งดทานยา แต่ไม่กี่เดือนจากนั้นก็ต้องกลับไปทานใหม่อีก แถมต่อๆมายาเม็ดเดียวไม่พอ เพราะแพทย์เพิ่มยาอีกอย่าง ผมจึงต้องทานยาลดไขมันทุกคืนก่อนนอน 2 เม็ด มาจนบัดนี้
หัวค่ำวันวาน แพทย์ถามคำถามเดิมอีกแล้ว ควบคุมอาหารมั้ย? ออกกำลังกายมั้ย? รู้สึกผิดเหมือนกันครับ ทั้งที่รู้เต็มอกว่าควรจัดการกับชีวิตตนเองอย่างไร? แต่ก็แค่รู้ จึงได้แต่อ้อมแอ้มตอบ “ก็ควบคุมบ้างเหมือนกัน”
บ่นเด็กๆเสร็จ สะกิดแปล๊บขึ้นมาในใจเลย โดยเฉพาะบางประโยคเหมือนบริภาษตัวเองอย่างแรง “ก็หักห้ามใจหรือความอยากสักหน่อย แต่นี่แพ้ใจ ชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นการชนะใจตัวเอง ไม่มีทางจะทำอะไรสำเร็จ ถ้ายังแพ้”
ขอให้ทุกๆท่านมีความสุขตลอดปีใหม่ 2556 ที่จะมาถึงและตลอดไป รวมทั้งขอให้พยายาม อดทน และเข้มแข็ง จนสามารถเอาชนะใจตัวเองได้ด้วยครับ(ฮา)
(ภาพประกอบ : กิจกรรมส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ 2556 นักเรียนชั้น ม.4/1 เมื่อ 28 ธ.ค. 55)
รักษาสุขภาพด้วยนะครับครู
...
สุชกับสิ่งดี ดี ในชีวิตตลอดปี 2556 นะครับ
เด็กสนุกกันน่าดู
happy new year ค่ะ
ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่อง ไขมันในเลือดสูง
น่าจะได้ฤกษ์เขียนสักที
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
ชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุดเป็น....การชนะใจตัวเอง ..... เป็นหลักคิด หลักการวางแผนชีวิิต ....ใช้ได้ตลอดกาลเลยนะคะ ขอบคุณ ท่านอาจารย์.....ปีใหม่ ๒๕๕๖ ท่านธนิตย์...จะเอาชนะตนเอง โดยเฉพาะ...ด้านสุขภาพ นะคะ (ชนะใจตนเอง)
สวัสดีปีใหม่นะครับครู
ที่ทำงานก็ห้ามการนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในโรงงานค่ะ แต่นั่นเพราะความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ก็มีผลดีคือเราไม่ต้องคอยแพ้ใจตัวเองค่ะ
ส่งความสุขปีใหม่ให้ท่านอาจารย์และครอบครัวมีสุขภาพกายใจแข็งแรง มีพลังสร้างสรรค์สิ่งดีงามตลอดไปค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะท่านอาจารย์
สวัสดีปีใหม่ครับพี่ครู ขอให้ชนะใจตัวเองนะครับ
มาสวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้มีความสุขตลอดปีและตลอดไป
สวัสดีปีใหม่ครับอาจารย์
สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ
สุขสันต์ตลอดปี..สุขีตลอดไป..ขอให้กำลังใจในการปรับสมดุลเพื่อความสุขในชีวิตค่ะ
สวัสดีปีใหม่ 2556 ค่ะ http://www.gotoknow.org/posts/514705
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์ กายแพ้ ใจไม่แพ้ ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะคะ