มาแว้ว......จ้า....หลังจากที่หายไปประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากดิฉันมีอาการอาหารเป็นพิษติดต่อกันหลายวัน ร่างกายย่ำแย่มาก ทั้งอ่อนเพลีย รับประทานอาหารไม่ได้ เพราะคลื่นไส้อาเจียนตลอด ร่างกายขาดสารอาหารและเกลือแร่ จนขาดความสมดุลย์ของร่างกาย ทำให้ปวดศีรษะและอ่อนเพลียจัด พอเริ่มทำงานได้ทำ ๆ ๆ แต่งาน รับงานหลายจ๊อบ (ฟังแล้วน่าจะรวยเนอะ) ได้แก่
ระหว่างทำงานสังเกตตัวเองว่าตัวชักจะเป็นเกลียว ลองคลำศีรษะตัวเองรู้สึกว่าหัวจะเป็นคล้าย ๆ น๊อตเข้าไปทุกที เวลาที่เคยใช้ในการจะเขียนบันทึกก็หาไม่เจอ จึงเป็นเหตุให้หายไปหลายวัน
วันนี้พอที่จะจัดสรรเวลาได้จึงมาเล่าถึงสิ่งที่ตัวดิฉันได้รับมอบหมายจากผ.อ. อัจฉราให้รับผิดชอบในการบรรยายเรื่องการจัดการความรู้ในหน่วยงานห้องผ่าตัดให้กับชาวบังคลาเทศที่มาศึกษาดูงานเกี่ยวกับเกี่ยวกับการพัฒนาโรงพยาบาลสู่ HA ในบ่ายวันที่ 29 ส.ค. 2549 นั้นค่ะ
อันที่จริงในวันนั้นดิฉันเองก็ยังไม่หายดีจากอาการอาหารเป็นพิษ ดิฉันตั้งใจว่าจะเล่าถึงการจัดการความรู้ภายในหน่วยงาน ซึ่งมีทั้งโชคดีและโชคร้าย
และในช่วงบ่ายที่ชาวบังคลาเทศมาถึงก็ได้รับการต้อนรับจากผ.อ. และเจ้าหน้าที่จากศูนย์พัฒนาคุณภาพ
ผู้ที่ร่วมบรรยายในวันนั้นมีหลายท่านได้แก่ ท่านผ.อ. อัจฉรา
หมอรุจนี บรรยาย เกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง
หมอวิศิษฎ์ บรรยาย PCT MED
พี่มอม บรรยายเกี่ยวกับศูนย์พัฒนาคุณภาพ
คุณชนกพรรณ บรรยายเกี่ยวกับโครงการ TUC
ประมาณบ่าย 14.30 น ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าชาวบังคลาเทศ ประมาณ 6 คน ฟังบรรยายจากผู้บริหารจบแล้ว และกำลังจะมาศึกษาดูงานการจัดการความรู้ของห้องผ่าตัดแล้ว ซึ่งดิฉันก็ได้เตรียมความพร้อมอยู่แล้ว โดยประเด็นการจัดการความรู้ของหน่วยงานเราจะเป็นการจัดการความรู้โดยการสื่อให้บุคลากรมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาหน่วยงานและให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสถาบันฯ การใช้โมเดลปลาทู เป็นเครื่องมือในการจัดการความรู้การนำดึงความรู้ฝังลึก TK ศักยภาพของคุณกิจต่าง ๆ มาพัฒนางาน โดยเราจะใช้เวที Morning Talk ประจำวันพูดคุยเล่าเรื่องกันทุกวัน
ตัวดิฉันเองบรรยายการจัดการความรู้ในหน่วยงานห้องผ่าตัด
ในระหว่างที่เล่าเรื่องการใช้โมเดลปลาทู ดิฉันได้ชี้ให้เห็นถึงการนำไปใช้ คือ
ในช่วงหนึ่งของเล่าเรื่อง Knowledge Asset และ Explicit Knowledge ดิฉันได้เปิด G2K และอธิบายถึงมหัศจรรย์ของ Blog และG2K .....ทำให้เรามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง....
ผู้ที่มาดูงานรู้สึกจะตื่นเต้นว่ามีอย่างนี้ด้วยหรือแต่เขาสงสัยว่าไม่มีภาษาอังกฤษหรือเพราะเขาไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ดิฉันเลยตอบไปว่า ต้องขอโทษด้วยที่เป็นภาษาไทยเพราะ G2K พัฒนาเพื่อคนไทยเท่านั้น คงต้องฝากเรื่องนี้เป็นการบ้านให้อ. จันทวรรณและอ.ธวัชชัยแล้วล่ะค่ะ
สิ่งที่ดิฉันได้จากในวันนั้นคือ
ความภาคภูมิใจ
ปลื้มใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองและของบุคลากรที่สามารถจัดการความรู้ได้อย่างดีเยี่ยม
ผู้บริหารให้ความไว้วางใจและสามารถเป็นตัวอย่างให้กับชาวต่างชาติที่มาศึกษาดูงาน ..
ดีใจที่สุดที่ KM บำราศ ฯ go Inter..
แต่อย่ามาบ่อยนักนะคะ... เมื่อย...ที่ต้องใช้ภาษามือ..ค่ะ.. (ฮา).
ดีใจจังที่พี่หายป่วยแล้ว....คนติดตามบล็อกอย่างเราก็ตั้งตาคอยว่าพี่เล็กจะเล่าอะไรให้ฟัง...และขอยกนิ้วให้คะ....และพี่เล็กได้โอกาสที่ดีมากนะคะที่สามารถบอกชาวต่างๆชาติได้ว่าเราก็สามารถจัดการความรู้ด้วยความคิดและการร่วมมือร่วมใจของคนชาวบำราศฯ เอง ทุกคนมีส่วนร่วม ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เปรียบเหมือนคำที่ว่า งานได้ผล คนเป็นสุข
ภาษาอังกฤษมีให้ได้ก็เฉพาะในส่วนของ interface เช่น เมนูต่างๆ ค่ะ แต่ถ้าเป็นเนื้อหานั้นทำไม่ได้ค่ะ
ปล. ขอให้สุขภาพแข็งแรงเป็นสาวมั่นเหมือนเดิมไวๆ นะค่ะ
ขอบคุณหนูเล็กที่ช่วยให้การดูงานวันนั้นมีความหมายมากขึ้นค่ะ
คุณศุภลักษณ์คะ
ความจริง 44 ปีแล้วค่ะ ครูอ้อยคลอดลูกคนเล็กเมื่อปี 2525 ที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร นนทบุรี
บ้านที่เคยอยู่ในซอยพิชยนันนท์
ครูอ้อยเดินทางไปคลอดที่โรงพยาบาลนี้ ยามดึก
ตอนนั้นอาคารที่ไปคลอดยังใหม่เอี่ยมค่ะ เพราะหมอกลัวเด็กติดเชื้อ เลยกลับบ้านค่ะ
อ้อลืมบอกไปว่า คลอดวันเสาร์ แต่ทำหมันวันจันทร์ค่ะ
ขอบคุณค่ะ ที่ทำให้นึกถึงเรื่องเก่าก่อน
ตอนนี้คงเปลี่ยนไปเยอะแล้วนะคะ เมื่อมีโอกาสจะไปเยี่ยมค่ะ
ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ
โชคดีที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยืนยันว่ายอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ