ขอเขียนต่อจากบันทึกนี้นะครับ
หลังจากวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดของชางต่างประเทศก็พาชาวต่างประเทศที่มาช่วยทำค่ายฟื้นฟูน้ำท่วมไปเที่ยววัดอรุณฯ
ที่กรุงเทพฯ
ผู้เขียนพบว่าชาวต่างประเทศที่มาช่วยศึกษาข้อมูลของเมืองไทยมาดีมาก
วางแผนไปเที่ยวสถานที่ต่างได้อย่างดี แถมรู้ข้อมูลด้วย
ก่อนหน้านั้น
ผู้เขียนและนิสิตพามาเที่ยวที่มหาวิทยาลัย
เลยได้ภาพสวยๆแบบนี้มา
วันที่ 27-28 มีนาคม 2555
นิสิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน คือ วศิน กล้วยไข่ แพร
ปีโป้ แนน นุ่น และน้ำตาล ผู้เขียน ชาวญี่ปุ่น 13 คน และมีชาวฟินแลนด์
อีก 2 คนก็จัดกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษให้นักเรียนจำนวน 4
โรงเรียนคือโรงเรียนวัดท่าเสา โรงเรียนวัดห้วยม่วง โรงเรียนวัดปทุมฯ
แถมโรงเรียนบ้านสามัคคี ด้วย
กิจกรรมแรกเป็นกิจกรรมละลายพฤติกรรม
ชาวญี่ปุ่น 13 คน และมีชาวฟินแลนด์ อีก 2
คนได้ให้ผู้เขียนและนิสิตแบ่งนักเรียนเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรกเขียนบันทึกจากสมุดบันทึกที่ได้รับมาจากชาวต่างประเทศ
ในภาพจะพบว่านักเรียนได้เรียนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น
นักเรียนเล็กๆจะเรียนรู้ภาษาได้ไวมาก
ผู้เขียนคิดว่าถ้านักเรียนเรียนภาษาไทยได้ดีทั้งทักษะการฟังการพูด
การอ่าน และการเขียน ภาษาต่อไปคือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน
ภาษาญี่ปุ่นก็เป็นภาษาที่น่าเรียน
ตอนนักเรียนร้องเพลง
ปรากฏว่าชาวญี่ปุ่นชอบเต้น
เลยได้เห็นภาพการประชันการเต้นของนักเรียนไทยและชาวญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่น 13 คนได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 2
กลุ่ม นักเรียนกลุ่มแรกเขียนสมุดบันทึกและวาดรูป
นักเรียนได้ทักษะการเขียน
กระบวนการเรียบเรียงการเขียนทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์
อีกกลุ่มหนึ่งได้เรียนรู้การล้างมืออย่างถูกวิธี
เมื่อล้างมือแล้วจะมีการตรวจสอบว่าล้างมือเกลี้ยงหรือสะอาดหรือไม่โดยให้นักเรียนได้ทาเจล
และเอาไฟฉายส่องดูในที่มืดเหมือนกับพวกเราทดลองวิทยาศาสตร์เลย
ผู้เขียนเคยติดต่อชาวญี่ปุ่น 13 คนไว้ว่า
เมื่อมาเมืองไทย จะให้สอน Origami หรือเรียกว่าการพับกระดาษ
นักเรียนเลยได้พับเป็นรูปนกกระเรียน (Grane)และ
เครื่องบิน
ผู้เขียนได้นิสิตชื่อปีโป้ช่วยเขียนเนื้อสำหรับให้นักเรียนรำมวยจีนภาษาอังกฤษ
ในแต่ละทีมออกแบบท่ารำมวยจีนได้ดีมาก
ในตอนที่ทำกิจกรรมนักเรียนชวนชาวญี่ปุ่น 13 คน
และมีชาวฟินแลนด์ อีก 2 คนไถนาด้วย
ปรากฏว่าชาวญี่ปุ่นไถนาได้เร็วกว่าชาวฟินแลนด์ (ฮา)
เราได้ให้ชาวชาวญี่ปุ่นได้เรียนรู้เรื่องการเล่น
มอญซ่อนผ้า ปรากฏว่าญี่ปุ่นก็มีการเล่นมอญซ่อนผ้าเหมือนกัน
เล่นคล้ายๆกัน แต่ตอนเล่นกับชาวฟินแลนด์การเล่นวิ่งสวนกัน
ตอนเจอกัน จะล้มตัวไปนอนทั้งสองคนแล้วทำท่าชัก (ฮาจริงๆ)
ถ้าสังเกตภาพล่างจะพบว่าช้างไทยรุมช้างชาวญี่ปุ่นด้วยครับ
ตอนสุดท้ายในวันแรกนักเรียนได้เรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษ
เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น ภาษาไทย การทำกิจกรรมกลุ่ม จนผู้ปกครองมารอรับ
นักเรียนยังไม่ยอมกลับ รออ่านกิจกรรมในวันที่สองนะครับ…
ลองดูความน่ารักของทุกๆคนนะครับ
ปล.เพิ่งกลับมาจากอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
อากาศดีมากๆฝนตก มีหมอกลง เงาะและทุเรียนดกมาก
แถวๆนั้นปลูกยางพาราและกาแฟด้วย แล้วจะมาเล่าฟังนะครับ…
อ่านต่อได้ที่นี่
บันทึกที่ 1
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/483088
บันทึกที่ 2
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/483884