ผ่าตัดต้อกระจกครั้งที่ 2


การมองเห็นเป็นของขวัญอันล้ำค่า การมีสายตาที่คมชัดทำให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า เพราะการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ เป็นการเรียนรู้ธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมของมนุษย์จะแย่ลงเมื่อมีอายุมากขึ้นโดยอาจจะเห็น สีผิดเพี้ยนไปหรือเห็นภาพมัว ซึ่งอาการเหล่านี้มีสาเหตุมาจากโรคต้อกระจก

1  พฤษภาคม  2551  ได้ผ่าตัดต้อกระจกตาด้านขวามาแล้ว "บันทึกการผ่าตัดต้อกระจก"

 

 เสาร์ที่ 24  มีนาคม  2555  ไปคลินิกหมอตา "พญ.อมรรัตน์ วัชรานานันท์" เพื่อจะนัดทำการผ่าตัดต้อกระจกตาซ้าย เพราะเป็นมานานแล้วปัจจุบันนี้มองอะไรไม่ชัดเจน  และเป็นช่วงปิดภาคเรียนมีเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัด  คุณหมอนัดเข้าโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทำการผ่าตัดในวันที่ 3  เมษายน  2555  การเข้าทำการผ่าตัดผ่านคลินิกถือว่าเป็นคนไข้กรณีพิเศษ

วันอังคารที่ 3  เมษายน  2555  เวลา 07.30 น.  ไปโรงพยาบาลตามใบนัดของคุณหมอ  ยื่นบัตรได้หมายเลข 12 จากนั้นจองห้องพิเศษแล้วไปนั่งรอตรวจหน้าห้องที่ทำการตรวจตา รอนานมากเพราะมีพยาบาลซักประวัติคนไข้ ตรวจเช็คสายตา ทำอีกหลาย ๆ อย่าง เพียงคนเดียว นั่งมองเพลิน ๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไร

 08.15 น. ได้ยินเสียงพยาบาลเรียกชื่อเข้าไปซักประวัติ เขาขอโทษที่ให้นั่งรอนาน เขาบอกเขารีบทำข้อมูลที่สุดแล้วเพื่อให้ทันคุณหมอมาตรวจ แต่ทำคนเดียว เราก็ถามทำไมไม่มีคนช่วย เขาตอบว่า " เดี๋ยวนี้คนเรียนพยาบาลน้อย" ขณะนี้โรงพยาบาลขาดแคลนมาก อึ้ง! คนเป็นครูคงต้องเก็บไปแนะแนวเด็กนักเรียนให้เรียนพยาบาลเสียแล้ว แต่ก็ต้องชื่นชมเขางานล้นมือ คนไข้เยอะ แต่เขาเขาไม่หงุดหงิดใส่คนไข้ ยิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักมาก (ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่า??)

เวลาประมาณ 10.10 น. คุณหมอเรียกเข้าไปตรวจ เรียกเฉพาะคนที่ต้องนอนโรงพยาบาลผ่าตัดเข้าไปก่อน มีทั้งหมด 5 คนเข้าไปนั่งเรียงลำดับตามที่เขาเรียก หน้าโต๊ะคุณหมอ ทั้งหมด 5 คนเป็นคนสูงวัยทั้งหมด 70 ปีขึ้นไป เราเป็นคนที่อายุน้อยสุดในกลุ่มนี้  ผ่านกระบวนการจากคุณหมอแล้ว  ทั้ง 5 คน นั่งรอด้านนอก รอเจ้าหน้าที่มาพาไปตึกหมอพร ชั้น 8

ไปถึงชั้น 8 ตึกหมอพร แผนก จักษุ โสต คอ นาสิก แผนกจักษุถึงก่อนมี 10 เตียง มีคนไข้ที่ผ่าตัดแล้วและรอผ่าตัดช่วงบ่ายอยู่ 5 คนแล้ว เราได้เตียงที่ 8 เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคนไข้เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาอาหารกลางวัน เจ้าหน้าที่นำอาหารมาให้แต่ไม่ได้ทาน เพราะทานข้างกล่องจากห้องสหกรณ์ของโรงพยาบาลมาแล้ว จากนั้นพยาลบาลทำความสะอาดตาข้างซ้าย  ตัดขนตา

เวลาประมาณ 15.00 น. พยาบาลเรียกคนป่วยพร้อมญาต 1 คน เข้ารับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ด้านสุขศึกษาในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดและเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเขามาชี้แจงว่าต้องทำตัวอย่างไรเมื่อเข้าห้องผ่าตัด เราได้เจ้าหลานสาวตัวน้อย ป.3 เข้าร่วมฟัง มีการทำแบบทดสอบก่อนผ่าตัดด้วย  กลับมาที่เตียงคนไข้ ทุกเตียงเขามีป้ายติดไว้ปลายเตียงทุกเตียง สะดุดตาเตียงที่ 8 เขียนแปลก "อาหารธรรมดาพิเศษ" ไม่มีโอกาสถามใคร ได้แต่เก็บความสงสัยไว้คนเดียว เพราะเตียงอื่น "อาหารธรรมดา"

 

16.00 น.  ทานอาหารมื้อเย็นเรียบร้อย  พยาบาลให้ไปอาบน้ำสระผม เรียบร้อยแล้ว จะมีการหยอดยาทำความสะอาดตา เมื่อเรียบร้อยแล้ว ปิดตาที่ข้อมือปีป้ายมาผูกไว้ ในป้ายมีรายละเอียดของคนไข้  ประมาณ 19.00 น. พยาบาลแจ้งย้ายเข้าห้องพิเศษในเวลา 20.00 น

 20.00 น. พยาบาลให้ทานยานอนหลับ 1 เม็ด เพื่อจะได้พักผ่อนเต็มที่ก่อนผ่าตัด ย้ายไปตึกศัลยกรรมพิเศษ ชั้น 5 ห้อง 501 พักผ่อนหลับไปจนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งเวลาไว้ปลุก

วันพุธที่ 4 เมษายน  2555 เวลา 04.00 น.อาบน้ำแล้ว เวลา 05.00 น. พยาลเข้ามาหยอดยาขยายม่านตาทุก ๆ 10 นาที  แสบจี๊ดทุกครั้งที่หยอด จนกระทั่งเขาบอกตามพร้อมแล้ว รอเจ้าหน้าที่มารับไปห้องผ่าตัด

10.10 น. เขามารับไปห้องผ่าตัด  เข้าห้องผ่าตัดเวลา  10.20 น. ขึ้นเตียงผ่าตัด เตียงแคบมากกระดุกกระดิกไม่ได้  พยาบาลเอาผ่าห้อตัวเราถึงคอแน่นมากมือแนบลำตัว เอาสำลีอุดหูด้านซ้ายกันน้ำเข้าหู เริ่มทำความสะอาดใบหน้า และรอบดวงตาด้านซ้าย

      คุณหมอหยอดยาชาในดวงตา และฉีดยาชาที่เปลือกตาล่างมุมซ้าย ปวดหนึบนิดเดียว จากนั้นเริ่มคลุมใบหน้าเว้นเฉพาะดวงตาที่จะผ่าตัด

       คุณหมอเริ่มผ่าตัดแล้ว  เรานอนตัวเกร็งอยู่ในห่อผ้า  ใจเต้นตูมตาม คุณหมอกับพยาบาลทำไปเรื่อย ๆ และคุยกันเรื่องไปทาน MK กันตลอดเวลาที่ทำ จนแล้วเสร็จ  เหลือบดูนาฬิกาเป็นเวลา 10.45 น.

       พนักงานเข็นเปลนอนจากห้องผ่าตัดไปห้องพัก เขาซิ่งมาก  รถกระแทกกระทั้น คนบนเปลกลัวเลนส์ตาจะกระเด็นออกมาจัง  ถึงห้องพักพยาบาลให้นอนิ่ง ๆ 4 ชั่วโมง และให้ทานพารา 2 เม็ด เผื่อหมดฤทธิ์ยาชาจะได้ไม่ปวด ลุกได้เมื่อจำเป็น เช่นไปห้องน้ำ หรือทานอาหาร เพราะเลนส์ที่ใส่ไว้ไม่ได้เย็บ เขากลัวเลนส์จะเลื่อน ถ้าเมื่อยคะแคงไปด้านที่ไม่ได้ผ่าตัด  4  ชั่วโมงลุกไปห้องน้ำครั้งเดียว เมื่อยมาก

 ครบ 4  ชั่วโมงแล้ว ทำตัวปกติ ทานอาหาร อาบน้ำนอนตกดึกปวดมาก ต้องพึ่งพาราอีก 2 เม็ด 

วันพฤหัสบดีที่ 5  เมษายน  2555  เช้าพยาบาลเปิดตาทำความสะอาด ดีใจที่มองเห็นชัดเจนมาก ประมาณ 09.00 น. พบคุณหมอ  คุณหมอตรวจเช็คแล้วบอกว่าแผลดี อีก 7 วันมาพบหมออีกครั้ง ตลอดเวลาที่อยู่บ้านต้องหยอดยา 2 ชั่วโมงครั้ง และอีกขวด 4 ชั่วโมงครั้ง มียาป้ายเป็นครีมเวลานอน คุณหมอบอกทำตัวปกติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ แต่ต้องไม่ใช่งานหนัก ใช้คอมพิวเตอร์ได้

ขณะที่เขียนบันทึกนี้เป็นวันที่ 7  เมษายน  2555 สายตาปกติมองเห็นชัดเจนแต่ยังไม่คมชัดเท่าที่ควร  เพราะยังมีอาการอักเสบอยู่บ้าง  หากท่านเป็นต้อกระจกอย่ากลัว  รีบไปพบคุณหมอเพื่อตรวจและทำการรักษา "เพื่อความสดใสของชีวิตและดวงตา"

 วันที่ 10  เมษายน  2555 วันนี้เป็นวันที่ 7 หลังจากการผ่าตัดต้อกระจก การมองเห็นชัดเจนมาก ๆ และเป็นครั้งแรกขับรถไปร้านสระผมด้วยตนเองได้อย่างปลอดภัยและไร้ปัญหาเกี่ยวกับ "ตาและการมองเห็น"

‎11 เมษายน 2555 เช้าไปพบหมอตามนัดที่คลินิกเพื่อดูแผลผ่าตัด หมอบอกโอเคแล้ว ลดการหยอดยา เหลือเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ชนิดเดียวเท่านั้น "ห้ามถูกน้ำ" จนครบ 1 เดือน และไปให้หมอดูอีกครั้ง โล่งใจแผลหายแล้ว คงต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น

29  เมษายน  2555 เช่านี้ล้างหน้าสระผมได้แล้ว ตาหายเป็นปกติมองได้ชัดแจ๋วมาก หากไม่อ่านหนังสือตัวเล็ก ๆ ก็ไม่ต้องสวมแว่น

ขอบคุณคุณหมออมรรัตน์ วัชรานานันท์

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ต้อกระจก
หมายเลขบันทึก: 484521เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2012 13:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม 2018 17:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

วันศุกร์ที่  9  มีนาคม  2561  ได้ำปตรวจตาผลปรากฏว่า  ตาข้างนี้ทำมาครบ 6 ปี โอเคค่ะ "ดี" 

ขอบคุณครูนะคะ สำหรับคำแนะนำ ต่างๆๆ ผ่าตัดมาด้ายจะครบ 10 วันแล้ว ยังไม่ค่อยชินเลยคะ รุ้สึกหนังตาซ้ายที่ ผ่า มาจะตกพอรุ้สึกด้าย นะคะ มันแวววาว พิลึก 555

สักพักก็ชินค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท