จรดเเป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์คู่ใจเพื่อเขียนบันทึกเรื่องนี้ ผมเปิดเพลง “รักเดียวใจเดียว” เป็นเพลงประกอบละคร “พรุ่งนี้ก็รักเธอ” ไปด้วย ได้บรรยากาศวันหยุด และ สิ่งที่ผมอยากจะบอกให้ผู้อ่านทราบ ไม่ว่าคน พอช.(สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน-องค์การมหาชน) ที่ผมไปทำเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้ และทีมงานที่มีพลังเสมอๆของผม
“...อย่าแปลกใจ ที่ผ่านมานานเท่าไร กาลเวลาไม่อาจหมุนหัวใจ
เปลี่ยนไปจากเธอ คงเป็นไปไม่ได้ เมื่อใจผูกพันมีแต่เธอ...”
ดูออกจะเป็นเพลงที่หวานและโรแมนติคมาก แต่ผมอยากโยงไปถึงความสัมพันธ์ขององค์กรที่ตั้งต้นด้วยความรัก หากองค์กรใดก็ตามที่มีทุนอย่างเหลือเฟือ "ทุน" ในที่นี้หมายถึง ศักยภาพของคนทำงาน ทั้งความรู้เชิงเนื้อหา เชิงกระบวนการ ประสบการณ์ที่เคี่ยวกรำ เช่น พอช. หากไม่มี “บรรยากาศ” ของการมอบความรักให้แก่กัน หรือไม่ได้มีพื้นที่ในการนำเสนอความรักนั้น ก็ยากที่จะสัมผัสอารมณ์ ความรู้สึกนั้นโดยเร็ว
การจัดการความรู้ (KM)หลายครั้งที่องค์กรต่างๆนำไปใช้ เริ่มแรกก็ไปได้ดี แต่พอนานไปก็เริ่มแผ่ว ในที่สุดก็หายไป เพียงเพราะกระแสการทำจัดการความรู้ แต่ไม่เคยตระหนักเลยว่า โดยแท้จริงการจัดการความรู้นั้นเป็นวิถี ไม่ใช่ของใหม่ เพียงแต่มารื้อฟื้นกระบวนการผ่านบรรยากาศที่เอื้อต่อการหมุนของเกลียวความรู้ เมื่อเรารู้เบบนี้แล้ว การจัดการกับความรู้สึกของคนในองค์กร น่าจะเป็นประเด็นที่มาก่อนเป็นอันดับต้นๆ เมื่อคนไม่มีใจ ไหนเลยจะขับเคลื่อนได้ คนเก่งในองค์กร ก็กลายเป็น “เก่งใครเก่งมัน” มีของดีแต่ไร้พลัง ก็ไม่มีประโยชน์
เราจะไม่มีทางเข้าใจคนอื่นได้เลย หากเราไม่เข้าใจตนเองไม่รู้ความต้องการของตนเอง เราจะรักใครไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักรักตนเองให้เป็น ผู้บริหารจะไม่สามารถนำพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้เลย หากมัวแต่ขังตนเองกับอัตตา ลุ่มหลงกับอำนาจ พวกพ้อง เพื่อไต่ระดับคว้าสัญลักษณ์ของอำนาจมาประดับกาย แต่คว้าใจของคนในองค์กรไม่ได้เลย
“นพลักษณ์” เป็นศาสตร์ที่ทีมงานวิทยากรได้นำมาใช้ในการเปิดใจของคนในองค์กร ผ่านการเรียนรู้ตัวเอง เป็นสะพานไปถึงการเข้าใจผู้อื่น “ความเข้าใจ นำไปสู่การไว้เนื้อเชื่อใจ” กลายเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญเริ่มต้น คือ เรียนรู้ตัวเอง รู้จักตัวเอง เรียนรู้การปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าเราไม่อาจหลีกเลี่ยงการขัดแย้งได้แม้กระทั่งการขัดแย้งกับตัวเองก็ตาม ในองค์กรยิ่งมีการกระทบกระทั่งกันสูงไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
กระบวนการง่ายๆที่ อ.ภิรัชญา (ศิลา) ได้ใช้ในกระบวนการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้คือ ให้ทุกคนที่เข้าร่วมเวทีอ่านรายละเอียดของลักษณ์และให้เทียบเคียงแบบง่ายๆว่าตนเองใกล้เคียงกับลักษณ์ไหนมากที่สุด ก็ให้เลือกลักษณ์นั้นก่อน (หลายท่านบอกว่าตนเองไปคล้ายกับหลายลักษณ์เหลือเกิน ตรงนี้มีคำอธิบายครับ) ต่อจากนั้นให้แบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ ตาม “ศูนย์” คำว่าศูนย์ ในที่นี้หมายถึง กลุ่มของฐานบุคลิกภาพและการแสดงออกในชีวิตประจำวัน
สามศูนย์ที่ว่านี้คือ
ศูนย์ใจ ที่ละเมียดละไม อ่อนไหว สายลมแสงแดด แต่มีพลังเหลือเฟือ
ศูนย์หัว ที่มีระบบคิดเป็นระบบ ตรรกะสูง แม่นยำในวงจรที่ซับซ้อน ดาวน์โหลดข้อมูลช้าๆเพื่อรอคอยจะย่อย
ส่วนศูนย์ท้อง จะ Take Action ตลอดเวลา เน้นการปฏิบัติอย่างถึงลูกถึงคน มีอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่
เท่านี้เราก็เห็นอัศจรรย์ของการแบ่งกลุ่มออกเป็นศูนย์ ช่างคล้ายกับ เกมผู้นำสี่ทิศที่ศึกษาพื้นฐานบุคลิกภาพของแต่ละคน (กระทิง หนู หมี อินทรี) เราจะเห็นว่า การทำงานผ่านการมอบหมายงาน กระบวนการที่ดำเนินการในกลุ่มศูนย์จะบ่งบอกถึงพื้นฐานบุคลิกภาพชัดเจนมาก
ตรงนี้เอง ผมมองว่าผมได้เรียนรู้ถึง "ความสมดุลในความแตกต่าง" พื้นฐานบุคลิกภาพของผู้คนที่แตกต่างกัน (ยากมากที่เราจะแก้ไขได้) แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ “เข้าใจ” ว่าเขาเป็นแบบนั้นเพราะอะไร? เราจะ Approach เขาอย่างไร? “ยอมรับในตัวตนของเขา” ตรงนี้ต่างหากครับ คือเป้าหมายหลักๆของนพลักษณ์ในครั้งนี้
เห็นไหมครับว่า พื้นฐานขององค์กรที่กรุ่นไปด้วยความรักความเข้าใจนั้น เริ่มต้นด้วยตรงนี้ ไม่ใช่ยัดเยียดการจัดการความรู้ลงไปอย่างเดียว มันไม่พอครับ เข้าใจครับว่ากระบวนการกล่อมเกลาให้คนรักกัน KM นั้นพัฒนาความรู้สึกตรงนี้ได้ แต่อาจเนิ่นช้าไป
มาเปิดประตูใจ ปลดล็อคหัวใจด้วย “นพลักษณ์” กันก่อนทำ KM กันเถอะครับ
*** การเขียนครั้งนี้เป็นเพียงการเรียนรู้ตามรายทางครับ ไม่ได้ยึดเครื่องมือใด เครื่องมือหนึ่งเป็นสำคัญ แต่อยากให้ได้เรียนรู้ร่วมกัน ว่าน่าจะเป็นกระบวนการหนึ่งที่ช่วยจัดการองค์กรให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น
ขอบคุณสำหรับสุดยอด "คุณเอื้อ" คุณสุเทพ ไชยขันธุ์ที่ทำให้เกิดกระบวนการดีๆขึ้นในองค์กร พอช.
ท่านผู้อ่านสามารถ เยี่ยมชม Blog ที่ทรงพลังของคน พอช.ได้ ที่นี่ครับ >>> KM workshop
ถอดบทเรียนกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ
โครงการอบรมหลักสูตรการจัดการความรู้โดยชุมชนนักปฏิบัติ
เรื่อง การถอดบทเรียนในงานพัฒนา
ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๕ ธ.ค. ๕๒
ณ ภูเขางามรีสอร์ท ตำบลสาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
เยี่ยมเลยครับ
ผมเองได้เรียนรู้จากในเวทีคร้งนี้มากมาก
กำลังจะเขียนอีกสักบันทึกครับ
วันนี้เฌวามีการแสดงที่โรงเรียน ตอนห้าโมงเย็น
นึกไม่ออกว่าเฌวาจะแสดงได้อย่างไร...
เสร็จภารกิจของเฌวาผมต้องบึ่งรถขึ้นเชียงใหม่
มีการประชุมอโชก้าเฟลโลว์ที่นั่น
ผู้โด่งดังไปกันคับคั่ง
แล้วจะนำบรรยากาสมาแบ่งปันครับ...
สิ่งที่เติมเต็มพลังแห่งควงามรักเสมอๆในเวทีคือ วิทยากร นั่นเองครับ
ขอบคุณครับ สำหรับ พลังแห่งความดีงาม ที่ท่านมุ่งมั่น
ปลอดภัยในทุกเส้นทาง......
มีสิ่งดีๆเสมอๆนะคะ
ขอบคุณมากครับ คุณสายธาร นี่เป็น "สคส." ใบเเรกที่ผมได้รับเลยนะครับ :)
เป็นภาพที่ผู้เข้าร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ วาดครับ :)
พี่เกียรติ - หนานเกียรติครับ...
ตอนนี้มีงานที่ต้อง Confirm หลายเรื่องเลย ผมขออนุญาตตัดสินใจเเทนพี่เกียรติเลยนะครับ ส่วน การแสดงของหนูเฌวาที่โรงเรียน ถ่ายรูปแล้วมานำเสนอให้ ลุงๆ ป้า น้า อา ชมด้วยครับ...
เดินทางไปเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพครับผม
ทำให้องค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน คงต้องเป็นโจทย์ของแต่ละองค์กรที่ต้องหาวิธีการจัดการด้วยตัวเอง การเลียนแบบจากที่อื่นมาคงไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืน ครับ
ตรงนี้ขอเน้นย้ำเลยครับ จารุวัจน์ شافعى เพราะ แต่ละแห่งที่ มีบริบทแตกต่างกัน การจัดการความรู้นำมาเพียงเเนวคิดเท่านั้นนะครับ ส่งวนกระบวนการนั้นไปปรุงกันเอาเองให้ถูกกับจริตองค์กร คน และสถานที่
ที่ มอย.นั้นน่าสนใจมาก การขับเคลื่อนที่ มอย. น่าจะเป็นอีกที่หนึ่งที่จะบอกกล่าวให้สังคมได้เรียนรู้ร่วมกัน
ขอบคุณครับ...
คุณครูครับ
ผู้บริหารสำคัญมากครับ ในทาง KM เราก็ถือว่าเป็นคุณเอื้อ ที่ต้องเข้าใจ เปิดใจ และให้โอกาสคนในองค์กร เชื่อมั่นในศักยภาพ ลดอำนาจตนเองลง สร้างความสัมพันธ์แนวราบ
ในส่วนของโรงเรียน เราพบว่า ผู้บริหารมีส่วนสำตคัญมากในการนำพาองค์กร(โรงเรียน)ไปสู่ความสำเร็จ คงบได้อ่านจากงานที่ผมไปทำกลุ่มโรงเรียนมานะครับ :)
ขอบคุณครับ สำหรับ Link ผมจะตามไปโดยพลันครับ
พี่ครูนก
ตื่นเต้นครับ คิดว่า link นี้ เป็นบันทึก gotoknow แต่กลับเป็น เทศกาลที่พี่เคยเล่าให้ฟัง การถ่ายภาพสัตว์ โดยเฉพาะนกนี่ ท้าทายมาก ที่สำคัญ เลนส์ต้องมีช่วงยาวพอ แบบนี้ผมต้องปรึกษาก๊วนของผมก่อนครับ ดูเเล้วน่าสนใจมาก
ต้องขอบคุณมากครับสำหรับ ข่าวคราว เย็นดูดาว เช้าดูนก นะครับ
เห็นบันทึกนี้แล้วทึ่งในความมมหัศจรรย์ของตัวคุณเอกมากค่ะ ป้า ๆ ทั้งสองอยากมอบของขวัญให้เร็ว ๆ จังเลยค่ะ ตอนนี้ ยังไม่เม้นท์แบบเป็นทางการนะคะ มาหยอกเอิ๊นก่อน เพราะเมื่อคืนไปดูหนังเรื่อง Avatar ฉลองวันเกิดมา กลับถึงบ้านเที่ยงคืนกว่า ยังไม่หายมึนศรีษะเลยค่ะ เขียนวิชาการมากไม่ได้เกรงว่าจะเบลอเสียก่อน ... งานเยอะก็อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนด้วยนะคะ
+ สัวสดีค่ะน้องเอก...
+ ประทับใจมากค่ะ...หลายประโยคหลายข้อความที่เอกนำเสนอ...ลึกกินใจแท้ ๆ...
+...การจัดการความรู้สึกของตนเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ...เพราะมันจะนำมาซึ่งสิ่งนี้
"ผมมองว่าผมได้เรียนรู้ถึง พื้นฐานบุคลิกภาพของผู้คนที่แตกต่างกัน (ยากมากที่เราจะแก้ไขได้) แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ “เข้าใจ” ว่าเขาเป็นแบบนั้นเพราะอะไร เราจะ Approach เขาอย่างไร? “ยอมรับในตัวตนของเขา” ตรงนี้ต่างหากครับ คือเป้าหมายหลักๆของนพลักษณ์ในครั้งนี้"
+ ไม่ได้ทักทายกันนาน...แต่ติดตามอ่านเรื่องราวเสมอ ๆ นะค่ะ...
+ มีเรื่องขำ ๆ หลายครั้งเข้ามาเพื่อจะเขียนบันทึก...แต่มัวไปอ่านบันทึกมิตรรักแควน ๆ ทั้งหลาย...ว่าแล้วเวลาเลยล่วง...ลูกและสามีบอกว่าเวลาที่เหลือต้องเป็นของเขาทั้งสอง....ฮ่า ๆ ...ว่าแล้วก็ไม่ได้บันทึกอีกตามเคย...
+ คิดถึงเอกเสมอๆ ค่ะ
เก่งมากเลยคะ ก่อนที่จะรู้คนอื่นรู้ตัวเองเสียก่อน ก่อนที่จะทำอะไรในกิจกรรม ควรลดอัตตา ไม่ต้องแข่งขันชิงดีชิงเด่น แต่ร่วมกันเพื่อให้เป้าหมายบรรลุ
-สิ่งสำคัญคือวิทยากร หัวใจต้องเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ไม่เขวในเป้าหมาย คนที่มีส่วนร่วม ได้หัวใจเดียวกันที่พร้อมจะฟันฝ่า
-น้องเอกขารักษาสุขภาพด้วยนะคะ พี่สุชอบบทความแบบนี้แหละคะ เป็นบทความที่ถ่ายทอดออกมาจากประสบการณ์และความรู้สึกที่แท้จริง เป็นของจริง ที่นำมาถ่ายทอด
-คนที่เขา KM กัน เขาจะได้รู้จุด และเป้ามหายคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
นางฟ้าแสนสวย กำลังคิดว่า จะนำสิ่งดีดี มาให้คนเก่งได้รับ มีอะไรบ้าง
มีความสุข สดชื่น สมหวัง ในวันคริสต์มาสและวันปีใหม่นะคะ
สมการการเรียนรู้
Love + Learn = Life
เมื่อรัก เมื่อรู้สึกดีกับสิ่งที่ทำ ก็จะอยากเรียนรู้ เรียนรู้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนครับ
เห็นด้วยครับ
เป็นบันทึกที่งดงามครับ
อีกสัก 10 ปี องค์กรผมก็ยังคงไม่รับเรื่องนี้ ;(
แวะมาเยี่ยมคุณเอก ...อ่านบันทึกแล้วทำให้แน่ใจเลยว่าความรักสำคัญกว่าความรู้ มีคำกล่าวไว้ว่า ความรู้ทำให้ลำพอง แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น ทำการงานหรือทำสิ่งใดๆก็ตามหากขาดความรักเป็นตัวเชื่อมแล้วงานนั้นๆก็ไม่อาจประสบความสำเร็จได้อย่างที่ควรจะเป็น อย่างบันทึกนี้หากจะจัดการความรู้ ก็ต้องจัดการความรัก ก่อน ชัดเจนมาก มีความสุข สนุกกับชีวิต และการงาน ที่ท้าทายในทุกวันค่ะ คุณเอก
สวัสดีครับ ป้าเหมียว
ไม่ว่าองค์กร หรือ ครอบครัว หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ระดับไหนก็ตาม "ความรัก" เป็นสิ่งที่ยึดโยงความสัมพันธ์ที่ดีนั้นไว้ หากเสริมด้วย "ความเข้าใจ" อีก ก็จะสมบูรณ์
พัฒนาอะไรก็ตาม ขอให้เริ่มต้นด้วย "ใจ" ก่อนเสมอ ความรักที่เกิดจากใจที่เปิด เป็นความรักที่มีแต่การให้ เป็นสิ่งที่งดงามครับ
สวัสดีค่ะคุณเอกจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
ถ้าต่างตระหนัก ความสำเร็จของงานจะเพิ่มขึ้น..เราจะไม่มีทางเข้าใจคนอื่นได้เลย หากเราไม่เข้าใจตนเองไม่รู้ความต้องการของตนเอง เราจะรักใครไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักรักตนเองให้เป็น ผู้บริหารจะไม่สามารถนำพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้เลย หากมัวแต่ขังตนเองกับอัตตา ลุ่มหลงกับอำนาจ พวกพ้อง เพื่อไต่ระดับคว้าสัญลักษณ์ของอำนาจมาประดับกาย แต่คว้าใจของคนในองค์กรไม่ได้เลย ก่อนจัดการความรู้ รู้จักตัวเอง เพื่อเข้าใจคนอื่นก่อน.. ขอบคุณความรู้ครับ
สวัสดีครับ ครูธนิตย์
เรียนรู้ครูจากพี่หนานเกียรติ ทำให้ผมเข้าใกล้ครูมากขึ้นครับ.. เมื่อวาน อ.หมอวิจารณ์ พานิช ท่านได้ยื่นหนังสือให้ผมเล่มหนึ่ง ชื่อหนังสือ "ครูเพื่อศิษย์" ในหนังสือเล่มนี้กล่าวถึงครูธนิตย์ไว้ด้วย
ผมขอชื่นชมในความเป็นครูเพื่อศิษย์ของครูนะครับ
เห็นบันทึกนี้แล้วทึ่งในความมมหัศจรรย์ของตัวคุณเอกมากค่ะ ป้า ๆ ทั้งสองอยากมอบของขวัญให้เร็ว ๆ จังเลยค่ะ ตอนนี้ ยังไม่เม้นท์แบบเป็นทางการนะคะ มาหยอกเอิ๊นก่อน เพราะเมื่อคืนไปดูหนังเรื่อง Avatar ฉลองวันเกิดมา กลับถึงบ้านเที่ยงคืนกว่า ยังไม่หายมึนศรีษะเลยค่ะ เขียนวิชาการมากไม่ได้เกรงว่าจะเบลอเสียก่อน ... งานเยอะก็อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนด้วยนะคะ
ขอบคุณมากครับ อ. ศิลา
งานเยอะครับ ส่วนใหญ่ งานเอกสารจะท่วมหัวเเล้วครับ :) ทั้งงานนอกงานไหน บ่นใครไม่ได้หรอกนะครับ เพราะรับเอามาทั้งหมด จริงๆตั้งใจจะไปดูหนังนะครับ "อวตาร" นั่นหละครับ เอาไว้พรุ่งนี้ก่อนครับ
ต้องขอบคุณมากครับ สำหรับของขวัญวันเกิดที่ตั้งใจซื้อให้ ...
ครูอ๋อยคุณเเม่น้องแอมแปร์~natadee
อ่านข้อเสนอแนะเเล้ว คิดถึง คุณสัม และ หลานแสนซนคนนั้นนะครับ คงสบายกันดี ครอบครัวเฮฮา ช่วงหลังๆไม่ได้เดินทางไปใต้บ่อยเท่ากับ ช่วงที่ทำงาน พระปกเกล้าครับ แต่คิดว่าจะหาโอกาสไปอีกครับ
การจัดการความรู้ เป็นทั้งปลายทางและกระบวนการ ต้องการเรื่องของ "บรรยากาศ" ดังนั้น การดูเเลความรู้สึกกันและกันสำคัญอย่างยิ่ง
เข้าใจตนเอง นำไปสู่การเข้าใจผู้อื่นครับ :)
พี่ สุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ
ทีมงานเราไม่เข้วในเป้าหมายครับ แต่กระบวนการนั้นปรับเปลี่ยนตลอดเวลาครับ :)
ขอบคุณมากครับพี่สุครับ ผมก็ดูเเลตัวเองอย่างดีครับ พี่เองก็เช่นกันดูเเลสุขภาพนะครับผม
ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์
บันทึกของอาจารย์นั้น ผมได้เรียนรู้มากมายครับ
และขอบคุณสมการชีวิต Love + Learn = Life ความรักและการเรียนรู้ ทำให้ชีวิตเคลื่อนไปอย่างมีพลัง :)
อีกสัก 10 ปี องค์กรผมก็ยังคงไม่รับเรื่องนี้ ;(
ขอเศร้าด้วยคนครับ อาจารย์Wasawat Deemarn ครับ
แต่ อย่าหมดหวังสิครับ ทำเล็กๆก่อน เอาเบบป่าล้อมเมืองดีไหมครับ หากสนใจสอบถาม อ.ศิลา ได้เลยครับ ผมทราบมาว่า แอโร่ไทยได้ผลเป็นอย่างดีครับ
สวัสดีครับ พี่ สีตะวัน
อ่านเรื่องราวนพลักษณ์ได้ครับ มีหลากหลายมากใน internet แล้วลองเทียบเคียงดู ศึกษาในลักษณ์อื่นๆมองดูคนรอบข้าง เป็นการเรียนรู้ แบบสังเกตที่สนุกดีนะครับ
ผมสบายดีครับ...ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะครับผม :)
สวัสดีค่ะ คุณจตุพร "ความรักความศรัทธาย่อมก่อเกิดพลังสร้างสรรค์" แวะมาทักทาย ส่งการ์ดอวยพร ขอพระคุ้มครอง บุญรักษา ดูแลตนเองให้ดีจะได้เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้นาน ๆ นะคะ
สวัสดีครับ คุณธรรมทิพย์
เวลาคุณธรรมทิพย์ มาเยี่ยมทุกครั้ง คิดถึงบทกวีที่ไพเราะทุกครั้งเลย เป็นบทกวีที่สื่อได้ถึงใจ ผมชอบมากๆด้วยสิ
ต้องขอบคุณครับสำหรับคำอวยพร ขอให้สิ่งดีๆ เหล่านี้กลับคือไปยังคุณ ธรรมทิพย์ ด้วยครับผม
สวัสดีคะ
น้องเอก แม่ต้อยมาเพื่อจะบอกว่าคิดถึงและส่งความสุขให้นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆๆ ที่สุดคะ
สวัสดีค่ะ
น้องกานต์เข้ามาอ่านหลายครั้ง ชอบหลายๆบันทึกของพี่
แต่ไม่รู้ว่าจะเมนท์อย่างไร เพราะเป็นวิชาการล้วนๆที่ไม่มีปัญญาจะเสริมได้
เพราะมันเป็นความรู้นอกเหนือจากที่เคยเรียนมา ก็ต้องติดตามศึกษาไว้ประดับความรู้ตนเอง
ประสบการณ์ด้านนี้ยังน้อยอยู่ ขอฝึกขั้นที่ 1 ก่อนนะคะ
เรียนรู้ตัวเอง รู้จักตัวเอง เรียนรู้การปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
อ.เอก
ความเข้าใจ นำไปสู่การไว้เนื้อเชื่อใจ กลายเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญเริ่มต้น คือ เรียนรู้ตัวเอง รู้จักตัวเอง เรียนรู้การปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าเราไม่อาจหลีกเลี่ยงการขัดแย้งได้แม้กระทั่งการขัดแย้งกับตัวเองก็ตาม ในองค์กรยิ่งมีการกระทบกระทั่งกันสูงไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ชอบจังเลย
ขอบคุณครับ แม่ต้อย ครับ
ขอให้แม่ต้อยมีความสุขมากๆเช่นกันครับ
ขอบคุณ ดร.ขจิต ฝอยทอง
ฝากความระลึกถึง ผอ.โรงเรียนหนองตาบ่ง ครับ
แวะมาเก็บตกอารมณ์ความรู้สึกประทับใจมิรู้ลืมค่ะ วันเดียวที่ทรงพลังทำให้จดจำได้กว่าทุก ๆ วันที่ซ้ำซากนะคะ แต่เราก็เรียนรู้ที่จะมีความสุขในแต่ละวันอย่างเรียบง่ายโดยไม่ต้องจดจำอะไรมากก็ได้เช่นกันค่ะ แล้วจะนัดพบวันเสาร์อีกทีนะคะ เจอกันครบทีมสงสัยริมแม่น้ำป่าสักสั่นสะเทือนเเลื่อนลั่นแน่นอนค่ะ ทั้งคืน ถูกกำชับห้ามนอนนะคะ ตาเป็นหมีแพนด้าแม่ ป้า ลูก คงน่ารักไปอีกแบบค่ะ
ขอบคุณครับ อ. ขจิต ฝอยทอง
ผอ.วิวรรธ์ ท่านโทรมาหาผมเเล้วครับ ต่อจากนี้ไปผมคงได้เดินทางไปกาญจนบุรีบ่อยครั้งครับ
สวัสดีค่ะ
น้องกานต์เข้ามาอ่านหลายครั้ง ชอบหลายๆบันทึกของพี่
แต่ไม่รู้ว่าจะเมนท์อย่างไร เพราะเป็นวิชาการล้วนๆที่ไม่มีปัญญาจะเสริมได้
เพราะมันเป็นความรู้นอกเหนือจากที่เคยเรียนมา ก็ต้องติดตามศึกษาไว้ประดับความรู้ตนเอง
ประสบการณ์ด้านนี้ยังน้อยอยู่ ขอฝึกขั้นที่ 1 ก่อนนะคะ
ขอบคุณมากครับ คุณกานต์ ที่เข้ามาเยือนครับ บันทึกวิชาการมีกลิ่นของวิชาการบ้าง เเต่ก็พยายามเขียนให้ผ่อนคลาย
หากคุณกานต์มีอะไรที่จะเติมเต็ม ก็นำเสนอได้ครับ ...หากไม่มีก็บอกว่า "มาเยี่ยมเเล้ว" ก็ดีใจเเล้วนะครับ
อ.เอก
ความเข้าใจ นำไปสู่การไว้เนื้อเชื่อใจ กลายเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญเริ่มต้น คือ เรียนรู้ตัวเอง รู้จักตัวเอง เรียนรู้การปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าเราไม่อาจหลีกเลี่ยงการขัดแย้งได้แม้กระทั่งการขัดแย้งกับตัวเองก็ตาม ในองค์กรยิ่งมีการกระทบกระทั่งกันสูงไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ชอบจังเลย
ขอบคุณครับ พี่ท้องฟ้า ในความเป็นจริงก็เป็นเบบนี้ครับ การทำงานกับคน ปะทะสังสรรค์กับคน ย่อมต้องมีข้อขัดเเย้งกันบ้าง แต่จะทำอย่างไรให้ขัดเเย้งกันน้อย เข้าใจกันมากขึ้น?? เริ่มต้นจากเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น ...ก็เรียนรู้กันไปครับผม
สวัสดีปีใหม่ครับ
แวะมาเก็บตกอารมณ์ความรู้สึกประทับใจมิรู้ลืมค่ะ วันเดียวที่ทรงพลังทำให้จดจำได้กว่าทุก ๆ วันที่ซ้ำซากนะคะ แต่เราก็เรียนรู้ที่จะมีความสุขในแต่ละวันอย่างเรียบง่ายโดยไม่ต้องจดจำอะไรมากก็ได้เช่นกันค่ะ
แล้วจะนัดพบวันเสาร์อีกทีนะคะ เจอกันครบทีมสงสัยริมแม่น้ำป่าสักสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นแน่นอนค่ะ ทั้งคืน ถูกกำชับห้ามนอนนะคะ
ตาเป็นหมีแพนด้าแม่ ป้า ลูก คงน่ารักไปอีกแบบค่ะ
สวัสดีปีใหม่ครับผม :) อ.Sila Phu-Chaya "กัลยาณมิตร"