ตามหาผ้าไหม..


ที่นี่ตั้งแต่ ศวรรษ ที่๑๗ รุ่งเรืองมากในเรื่องการทอผ้าไหมที่มีความงดงามมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งยุโรป

วันนี้แม่ต้อยจะขอเล่าเรื่องราวของประเทศฝรั่งเศสอีกสักนิด ที่ได้ไปเยี่ยมเยือนมา คงไม่เบื่อนะคะ เพราะว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่สำคัญในอดีตของฝรั่งเศศ รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษาไม่ใช่น้อย

 

หลายต่อ หลายครั้งที่แม่ต้อยมีโอกาสไปต่างบ้านต่างเมือง เรื่องการหาของที่ถูกใจสำหรับมาฝากคนทางบ้าน รวมทั้ง เพื่อนฝูง ญาติ สนิท มิตรสหาย ก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน

ดังนั้น แม่ต้อยจึงบอกใครต่อใครว่า.. แล้วจะเที่ยวเผื่อนะคะ

 

       เมือง Lyon นี้ ที่จริงเป็นจุดศูนย์กลางเส้นทางที่จะต้องขึ้นรถไฟที่จะไปเมือง Annecy ในฝันของแม่ต้อยนั่นแหละคะ ดังนั้น เราจึงต้องมาพักที่นี่ก่อน และแน่นอนเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เราก้ต้องแวะเยี่ยมชมสิ่งที่น่าสนใจของเขาด้วย

สถานีรถไฟที่ลียองคะ

 

       เป็นนิสัยของแม่ต้อยและลูกๆ ที่ก่อนจะไปเที่ยวที่ไหน เราจะต้องศึกษาหาความรู้กันก่อนว่าที่ที่เราจะไปนั้น เขามีอะไร ที่ควรค่าแก่การเข้าชมบ้าง ( คล้ายๆโฆษณา อะไรสักยี่ห้อนะ)

 

       ที่นี่ก็เหมือนกัน เมื่อลูกชายถามว่า

 

แม่ๆๆๆ ที่เมือง  Lyon นี้นะ ในประวัติศาสตร์ที่นี่มีชื่อเสียงมากๆในการทอผ้าไหม. ..จะไปดูไหม?

 

       ผ้าไหม.. ผ้าไหมฝรั่งเศส...แม่ต้อยจินตนาการ เจ้าสาวในชุดผ้าไหมฝรั่งเศส สีงาช้าง เดินอย่างสง่างาม..

 

       ไปๆๆๆๆ แม่ต้อยตอบแบบไม่ยั้งคิด .. จินตนาการต่อไปอีกด้วย .. เขาจะมีขายหรือเปล่านะ ที่ถูกๆๆ .. เรื่องไปยาวขนาดนั้นเชียวนะ

 

เมื่อไปถึงเมืองนี้ พบว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มีตึกรามบ้านช่องมากมาย เราต้องนั่งจากสถานีรถไฟเพื่อเข้าเมือง รถแล่นผ่านแม่น้ำสายใหญ่ของเมือง ซึ่งมีถึงสองสาย แบ่งเป็นเมืองเก่าและเมืองใหม่ ถนนในตัวเมืองมีรถรางแบบเก่าๆวิ่งรับส่งผู้โดยสาร

อ่านตามป้ายชื่อแม่น้ำ มีชื่อว่าแม่น้ำโรน( rhone) และแม่น้ำ โซน ( Saone) และเมืองนี้ยังมี ภูมิประเทศคล้ายๆเนินเขาด้วย

 

 

       เนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายของยุโรป

( คงขายผ้าไหม นั่นแหละ อิอิ) จึงทำให้เมืองนี้มีธนาคารที่เก่าแก่ และนอกจากนั้นยังเป็นที่จาริกแสวงบุญของคริสต์ศาสนิกชนอีกด้วยจึงทำให้เมืองนี้เป็นอีกเมืองที่มีโบสถ์ใหญ่น้อยเต็มไปหมด

 โบสถ์กลางเมือง

 

       วันแรก เราจึงขอขึ้นเนินเขาก่อน เพื่อทดสอบความพร้อมของร่างกาย เขานี้ชื่อว่าโฟแวร์( Fourviere) เพื่อไปที่โบสถ์เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ ที่ชื่อว่า   Basillique Nortre dame de Fourviere

 ป้ายบอก

ทางขึ้นเนินเขาโฟแวร์

โบสถ์นี้ เมื่อมองจากตัวเมือง จะเห็นอยู่บนยอดเขาสูงลิบเลย จะขึ้นไปไหวหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยน้า..

 

       ปรากฏว่าผิดคาดคะที่นี่เขามีรถไฟฟ้าขึ้นเขาสำหรับผู้สูงอายุ หรือรวมทั้งผู้ที่ไม่ต้องการเดินขึ้นเขา  แอบเห็นหนุ่มสาวหลายคู่พากันขึ้นไปที่โบสถ์นี้ด้วย คงไปทำบุญร่วมกันละมั้ง..

 

       โบสถ์นี้สวยงามมากคะ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นแปลกตา

สูงตระหง่านบนยอดเขา เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้โดยรอบ ในโบสถ์นี้จะแบ่งเป็นสี่ส่วนคือ โบสถ์ใหญ่

โบสถ์เก่า โบสถ์ แซงโทมัส  และพิพิธภัณท์ ประดับประดาด้วยเสตนกลาส และโมเสกที่งดงามอย่างยิ่ง

 

ความงดงามของโบสถ์

 มองจากโบสถ์จะเห็นทิวทัศน์ของเมือง คล้ายๆภาพ พาราโนมา

 อีกมุมหนึ่ง

 

       ในโบสถ์จะเป็นที่ทำพิธีบูชาพระแม่มารี ที่คอยปกปักรักษาเมือง แม่ต้อยก็ได้เข้าไปบูชาด้วยคะ

 

       ตอนกลับแม่ต้อยบอกกับลูกว่า เราลองเดิน ลงไปดีกว่า ไม่ต้องรอรถไฟฟ้า เดินลงสบายๆคะ เดี๋ยวเดียวก็ถึงเมือง มีร้านรวงของขาย นานาชนิด ที่นี่ไอศกรีมอร่อยมากคะ มีขายทั่วๆไปริมข้างทาง

 ผู้คนเมืองนี้ชอบศิลปะ มีนักดนตรีมาขับร้องเพลงบริเวณสี่แยกบ้าง  ข้างๆร้านอาหารบ้างเป็นที่เพลิดเพลิน มีร้านขายของประเภททำเองจากมือ( hand made )มากมาย เช่น ภาพวาด ผ้าปัก ( แต่ยังไม่เห็นผ้าไหม อิอิ)

 

คราวนี้เราไปกันต่อที่อีกเขาหนึ่งคะ ซึ่งสามารถไปได้โดยรถไฟที่วิ่งตามเส้นทางสายต่างๆในเมืองนี่แหละคะ เรียกว่าเนินเขา ครัวส์ รูส ( Crox-Rousse) ที่นี่ แม่ต้อยจะมาตามหาแหล่งทอผ้าไหมฝรั่งเศสไงคะ

จาการอ่านหนังสือมาล่วงหน้าบ้างพอให้เป็นความรู้เบื้องต้น ก็พอทราบว่า ที่นี่ตั้งแต่ ศวรรษ ที่๑๗ รุ่งเรืองมากในเรื่องการทอผ้าไหมที่มีความงดงามมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งยุโรป

 

       อาคารที่ทำไว้สำหรับอุตสาหกรรมทอผ้า จะเป็นตึกโบราณ  ภายในเป็นห้องเล็กๆ เชื่อมติดต่อกันคล้ายๆรังผึ้ง และ( เขาเล่าว่า ) หากรู้เส้นทางดีดีจะสามารถเดินทะลุถึงกันได้ทั้งเมืองทีเดียว เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์เก่าแก่แห่งหนึ่งของ ลียอง

 

       เมื่อแม่ต้อยมาถึงที่นี่ค่อนข้างบ่ายแก่ๆ ถนนเก่าๆ ที่ปูด้วยอิฐโบราณดูเยือกเย็น ไม่ค่อยมีคนเดินไปมาสักเท่าไหร่ น่ากลัวเหมือนกันคะ เพราะว่าตึกเก่ามากๆ ประตูปิดตาย มีเพียงบางแห่งที่เป็นร้านอาหารเล็กๆ จำได้ว่าในหนังสือนำเที่ยวเขาบอกว่าให้เดินหาประตูหมายเลข 6 จะมีทางเล็กๆเดินเข้าไปจะเห็นห้องเล็กๆที่ใช้ทอผ้าเชื่อมต่อกัน

 

       พยายามเดินดู แต่ก็ไม่เจอ พบบ้านเลขที่6เหมือนกัน  แต่เพราะคงไม่มีทางเข้า หรือเราต้องเข้าไปในร้านก่อนจึงจะ เห็นทางก็ไม่ทราบคะ  เลยเดินผ่านไปหาทางเข้าช่องอื่นอีกทางก็เห็นห้องเล็กๆเก่าๆมีทางเดินติดต่อกันทะลุไปหลายๆห้องแบบในภาพคะ ก็เลยคิดว่า น่าจะใช่นะ ไปดีกว่า..ไม่ค่อยมีคนเดินอยู่ด้วย

เป็นอันว่า สิ้นสุดการตามหาผ้าไหมฝรั่งเศสของแม่ต้อยคะ ( น่าตื่นเต้น นิดหน่อย อิอิ ) ได้เห็นร่องรอยของเมืองและตึกที่มีชื่อเสียงก้องโลกในการทอผ้าไหมฝรั่งเศส ส่วนเครื่องทอผ้าและศิลปะการทอผ้าของเขานั้น ปัจจุบันต้องเข้าไปดูในพิพิธภัณท์ของเมืองนี้ แม่ต้อยไม่ได้เข้าชมเพราะว่าเวลาหมดเสียก่อนคะ

 

รุ่งเช้า เราเดินดูเมืองคะ  เมืองนี้จะมีประวัติศาสตร์ค่อนข้างมากจึงมีอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญในเมืองนี้เช่น ของพระเจ้าหลุยส์ที่๑๔

 

หลังจากนั้น แม่ต้อยไปเดินเที่ยวตลาดวันอาทิตย์ของเขา คล้ายๆตลาดนัดบ้านเรา มีอาหารพื้นบ้านมาขายเช่น ผัก พริก มะเขือเทศ กระเทียม มีไก่ย่างหมุนร้อนๆ สไตล์ ฝรั่งเศส อยู่หลายร้าน ผู้ชายฝรั่งเศสชอบไปจ่ายตลาดนะคะสังเกตเห็นผู้ชาย( หล่อๆ) หิ้วตะกร้ามาจ่ายตลาดเองเชียวนะ( มาคนเดียวไม่มีแฟนมาคุม)

ผู้ชายจ่ายตลาด บางคนหิ้วตะกร้าด้วยนะ (ขอบอก) น่ารักมากๆ

 ไก่หมุน อร่อยมากคะ

 

บางคนเห็นยืนต่อราคาหอยนางรมสดๆ อยู่ดีดี  อ้าวพอได้ราคาที่พอใจ พี่แกยืนกินกันตรงนั้นเลย.. อึ๋ยย..

 

ก็เป็นเมืองที่น่าประทับใจในอีกแง่มุมหนึ่งคะ

จนขึ้นรถไฟออกจาก ลียองแล้ว.. แม่ต้อยยังไม่ได้ชื่นชมผ้าไหมฝรั่งเศส ที่ฝันไว้เลยนะคะ

ไม่เป็นไรคะ สักวันโอกาสนั้นคงมาถึงคะ..

สวัสดีคะ

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ลียอง
หมายเลขบันทึก: 255637เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2009 17:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)
  • สวัสดีค่ะ แม่ต้อย
  • เพลิดเพลินการเล่าเรื่องแบบมืออาชีพ
  • แป๋มชอบผู้ชายถือตะกร้า กับผู้ชายกินหอยค่ะ..

สวัสดีค่ะแม่ต้อย..นั่งอ่านจนจบเพราะอยากทราบว่าเขาทอผ้าไหมแบบไหนเหมือนเราหรือเปล่า...แต่อิอิกลับมาประทับใจผู้ชายฝรั่งเศสจ้า

. ครูแป๋ม
สวัสดีคะ

ตกลงชอบคนไหนคะ ครูแป๋ม

คนที่ถือตะกร้า หรือคนที่แอบมากินหอยคนเดียว ..

 

2. add

โถ ครูแอ้ด แม่ต้อยนี่จบไม่เอาไหนเลย

คือสรุปว่า ในคศ.๑๘๓๐ ประมาณนี้คะ กิจการทอผ้าตกต่ำมากอาจจะเป็นช่วงสงคราม ทำให้คนทอผ้าได้ค่าจ้างถุก ประกอบกับการทำงานในห้องที่แคบๆอุดอู้เลย ล้มป่วยตายจำนวนมาก ( แม่ต้อยจึงรู้สึกเย็นๆ หลัง ชอบกล แถวนั้นไม่ค่อยมีคนเดินด้วย)

ต่อมาเท่าที่อ่านพบเขาบอกว่า ที่นี่คล้ายๆเป็นที่หลบซ่อนของทหารด้วย เพราะว่าชัยภุมิดีมาก สามารถเดินติดต่อกันได้ภายใต้ตึกที่เชื่อมติดต่อกันทั้งเมือง  ค้นหายาก

ปัจจุบัน มีผ้าไหมเทียมคะ ที่ขาย แต่แม่ต้อยก้ยังหาร้านไม่เจออยู่ดีคะ

สู้ผ้าไหมบ้านเราไม่ได้หรอกคะ ครูแอ้ด

  • สวัสดีค่ะ อ.แม่ต้อย
  • ตื่นเต้นค่ะ
  • ป้าแดงไม่เคยฝันที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ นอกทวีปเลยค่ะ
  • เพราะคิดว่า ไปไม่ถึงอย่างแน่นอนค่ะ
  • คงต้องตามอ่านแบบนี้ละค่ะ ดีกว่า เซฟกว่า อิอิอิ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • เข้ามาตอบเม้นท์ค่ะ
  • เห็นว่า..แม่ต้อยยังอยู่หน้าเครื่อง
  • ขอเข้ามาคุยด้วยหน่อยนะคะ  ก่อนปิดเครื่อง
  • บันทึกของแม่ต้อย..เป็นสารดีพิเศษฉบับหนึ่งได้นะคะ
  • อ่านแล้วได้สาระความรู้และความบันเทิงค่ะ
  • คิดถึงน้ำเสียง..ที่อ่อนโยนและมีเมตตาค่ะ

สวัสดีค่ะ..แม่ต้อย

ดีจังค่ะ..ได้เที่ยวตั้งไกลเลย

ภาพสวยๆทั้งนั้น..บ้านเขาเมืองเขานะคะ

เสียดายไม่เห็นผ้าไหมนะคะ

แต่คงจริงเหมือนแม่ต้อยว่า..ผ้าไหมไทยสวยที่สุดในโลก (อิ..เข้าข้างตัวเองค่ะ)

ขอบคุณแม่ต้อยค่ะ

 pa_daeng
ป้าแดงคะ

ก็ไม่มีของฝากอย่างที่บอกไงคะ( น้ำหอม  แพง กระเป๋าก็แพงเครื่องสำอางยิ่งแพง )

ก็เลยเอาเรื่องเล่ามาฝากคะ อิอิ

ประหยัดเหมือนกันคะ

 

. ครูคิม
สวัสดีคะครูคิม

ชมกันซึ่งๆหน้าเลยนะคะ

ยังไม่ถึงขนาดนั้นคะ

เมื่อกี้ครูแอ้ดมาเม้นคะ ว่ายังไม่ทราบว่าเขาทอผ้าแบบไหนกันแน่

บังเอิญว่ามาประทับใจคนตัวโตที่ฝรั่งเศสก่อน( ระฆังช่วย)

แม่ต้อยเพิ่งไปเพิ่มเติมข้อความให้สมบูรณ์คะ

 

. ศน.อ้วน
สวัสดีคะ

เมื่อ สักครู่เข้าไปเรียนรู้อย่างมีความสุขกับศน.อ้วนด้วยนะคะ

มีความสุขและสงบมาก และเกิดความรู้สึกรักภาษาเรามากขึ้นคะ

แม่นแล้วเจ้า ผ้าไหมไทยงามที่สุดในโลก  ขอให้เชื่อเถอะนะคะ

กุ้งนึกว่าแม่ต้อยจะมาตามหาผ้าไหมที่ขอนแก่นซะอีก ที่เเท้ก็ไปตามที่ฝรั่งเศส

สวยงามจริงๆค่ะเเม่ต้อยกุ้งจะมีโอกาสวาสนามั๊ยน้อ ฝรั่งเศส

คงเหมือนป้าแดงรอเกาะติดสถานการณ์แล้วก้อตามแม่ต้อยไปเที่ยวตรงนี้ดีกว่า

พูดเรื่องผ้าไหม...มาสิคะมาที่ขอนเเก่นแล้วแม่ต้อยจะได้ผ้าไหมที่งามหลายๆเด้อ

สวัสดีค่ะ แม่ต้อย

มาอ่านเรื่องผ้าไหม นึกถึงละคร เรื่องสาปภูษาค่ะ เมื่อคืนตอนจบ เกี่ยวกับวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในผ้าไหมค่ะ

  • ตามแม่ต้อยมาเที่ยวฟรีด้วยคนค่ะ
  • เสียดายไม่เห็นผ้าไหม
  • เลยไม่รู้ว่าของเขากับบ้านเราต่างกันตรงไหนคะ
  • สวัสดีย้อนหลังสงกรานต์นะคะ

สวัสดี...ปีใหม่ไทย 2552 นะคะ

พอดียุ่งๆ  ไม่ได้ทักทายตั้งนาน

มีสิ่งดีๆในทุกๆวัน นะคะ

Take care

P

 สวัสดีคะ

น้องกุ้ง ผ้าไหมที่ขอนแก่นนั้น แม่ต้อยเป็นลุกค้าประจำคะ

ร้านพระธรรมขันธ์

กลายเป็นว่าไปดูประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสที่เขาสามารถส่งผ้าไหมขายคะในหลายร้อยปีที่ผ่านมา

ตอนนี้ก็คงมีอยู่นะ เขาก็มีชื่อเสียงด้านนี้มากๆคะ

P

น้อง berger คะ
แม่ต้อยก็นึกถึงเรื่องนี้เหมือนกันคะ
แต่นึกอีกเรื่อง  เพราะว่าสมัยก่อนๆที่บ้านแม่ต้อยทางเหนือเขาก้มีการทอผ้าด้วยนะคะ
แต่แม่ต้อยทอไม่เป็นคะ น่าเสียดายจังที่ไม่ได้เรียน

สวัสดีค่ะแม่ต้อย

กอเห็นชื่อบันทึก

นึกว่าเรื่องสาบภูษาส่ะอีก อิอิ

P

 สวัสดีคะ

น้องมนัญญาคะ

ไม่ทราบว่าแม่ต้อยทำให้ผิดหวังหรือเปล่าคะ

เพราะแม่ต้อยก็ผิดหวังเหมือนกันนะ ที่ไม่ได้ติดไม้ติดมือมาสัก ๔-๕ หลานะคะ

 

อ้าว ตามอ่าน ตามอ่าน

อ่านมาจนจบ ไม่เจอผ้าไหม

กองง อ่านอีกที อ๋อ งงอะไรกัน

ก็แม่ต้อยบอกแล้วว่ายังไม่ได้ชื่นชมผ้าไหมเลย

แป่วปู้ด แป่วปู้ด

อิอิ สุขสันต์ทุกวันค่ะ

P 

สวัสดีคะ น้องสายธาร

ชื่อและรุป ทำให้หายร้อนเลยคะ

ตอนนี้ที่บ้านนนทบุรีร้อนมากๆคะ

ขอบคุณมากและขอให้มีความสุขมากๆเช่นกันคะ

 กอก้าน>>>ก้านกอ*:)*(แก๊งค์ก้านคอพับ)
น้องกอคะ

แม่ต้อยก็เป็นแฟนเรื่องนี้เหมือนกันคะ

อ่านในหนังสือคะ ไม่ได้ดูทีวี

น้องกอ อยากใส่ผ้าซิ่น คงชอบเรื่องนี้มากๆนะคะ

19. กอก้าน>>>ก้านกอ*:)*(แก๊งค์ก้านคอพับ)

สวัสดีอีกครั้งคะ

แม่ต้อยนี่ทำให้คนงง กันใหญ่

งั้นเปลี่ยนชื่อเรื่องว่า " ตามหาผ้าไหม.. ไม่เจอ.." ดีไหมคะ

อิอิ

อิอิ พอดีผ่านมาเห็น

แม่ต้อยก็แปลกคนจริง ๆ

อย่าเปลี่ยนชื่อเรื่องเลยค่ะ

เดี๋ยวคนรู้กันหมดว่าแม่ต้อยตามหาผ้าไหมไม่เจอ

เดี๋ยวเค้ารู้ว่าไม่เจอ เค้าก็ไม่มาอ่าน อิอิ

เค้าจะได้อ่านไป อ่านไป อ่านจนจบ แล้วก็ไม่เจอผ้าไหม เหมือนกอไงค่ะ

555+ อิอิ

อิอิ นั่นไง พี่เขี้ยวกอหาไม่เจอเหมือนกัน อิอิ

กอก้าน>>>ก้านกอ*:)*(แก๊งค์ก้านคอพับ)
งั้นทิ้งไว้อย่างนั้นก็ดีแล้วนะคะ

น้องซนคนสวย..

 

. ประกาย~natachoei ที่~natadee

คะ ยินดีมากคะ

ช่วงนี้หยุดยาวนานมาก เลยมีเวลามานั่งเขียนคะ

 

มาดูฝรั่งเศสค่ะ

งดงามมาก

ที่แปลกใจฝรั่งเศสทอผ้าไหมได้ด้วย

แต่ไหมบ้านเราต้องอำเภอชนบทค่ะ

สวัสดีคะ

ฝรั่งเศสมีชื่อเสียงด้านผ้าไหมคะ เป้นสินค้าส่งออกในสมัยก่อน

เดี๋ยวนี้ยังมีคนนิยมซื้อผ้าไหมฝรั่งเศส หรือลูกไม้ฝรั่งเศสมาตัดชุดแพงๆ เช่นชุดแต่งงานคะ

แหม อธิบายเป็นคุ้งเป้นแคว

อ่านมาจากหนังสืออีกทีคะ

  • เสียดายจังเลยนะคะไม่เจอผ้าไหม
  • แต่ก็ได้เจอวิถีชีวิต สถานที่สวยงาม แลเจอหอย  นางรมกับไก่หมุนค่ะ แม้อาจจะแทนกันไม่ได้ แต่ทุกอย่างคือสิ่งดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิต อย่างน้อยก็ทำให้ศิลาได้ร่วมเดินทางแสวงหาไปด้วยค่ะ
  • ตอนศิลาได้ไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง สิ่งที่ชอบสอดส่ายสายตาดูมากที่สุดคือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ค่ะ  คุณพี่ต้อยนำเสนอได้ถูกใจมากเลยค่ะ ไกด์อายเลย

 Sila Phu-Chaya
น้องศิลาคะ

แม่ต้อยเป็นคนชอบถ่ายรูปคะ ถ่ายไปเรื่อย  แม้ว่าจะไม่ค่อยมีฝีมือ

ภาพที่เราถ่ายไว้มันเลยกลายเป็นความทรงจำที่ดีคะ

ชมแบบนี้ชักเขินคะ

แต่ขอบคุณมากๆคะ

สวัสดีค่ะ แม่ต้อยขา..

ตามมาเที่ยว Lyon ด้วยคนค่ะ

เคยได้ยินเค้าว่ามาว่า ฝรั่งเศสไม่ได้มีดีแค่ปารีส

ยังมี Lyon ที่น่าสนใจ...เห็นจะจริงค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท