อิอิ...หลงเข้ามาอ่านตามชื่อบันทึกใช่ไหมล่ะ.........
ผมได้พันธุ์มะปรางมาปลูกเมื่อ 11 ปีที่แล้ว จากพี่สงกรานต์ ตั้งสวัสดิ์ อดีตเกษตรอำเภอทรายทองวัฒนาได้ให้ไว้จำนวน 4 ต้น แต่เหลือรอดมาจนออกลูกออกผลในปัจจุบันได้ 2 ต้น
ตอนได้มานั้น เป็นพันธุ์มะปรางหวาน หรือมะยงชิดอะไรทำนองนั้นนั่นแหละ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี จึงได้ชิมผลมะปรางที่อุตส่าห์บำรุง รดน้ำมาอย่างยาวนาน ปรากฏว่า ผลที่ออกมานั้นเป็นมะปรางลูกเล็ก และก็เปรี้ยวจัดมากๆๆๆๆ จนถึงบัดนี้ยังไม่มีใครที่สามารถทานได้หมด 1 ลูกในคราวเดียว
อิอิ...ชาวบ้านเขาเรียกว่า กาวางครับ กายังวางแล้วคนจะไม่วางได้เรอะ
ต้น/ผลมะปรางถ่ายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ครับ
มะปรางเปรี้ยวที่ผมชอบไงครับ
แรกๆ ผมก็รู้สึกผิดหวังเหมือนกันนะครับ เพราะหวังว่าเขาจะลูกใหญ่เท่าไข่ไก่ และหวานอร่อย จึงผิดหวังเพราะผลผลิตที่ออกมากลับตรงกันข้าม นี่ขนาดเราเป็นนักส่งเสริมยังถูกพ่อค้าหลอก ถ้าเป็นชาวบ้านคงเสียเวลาและเสียความรู้สึกไม่น้อย
ก็เหมือนกับชื่อบันทึกครับ แรกๆ ผมก็รู้สึกผิดหวัง แต่พอรักษาและดูแลเขาต่อไป เขาก็ออกดอกออกผลให้ได้เชยชมทุกๆ ปี ไม่มีเว้น ที่ว่าเชยชมก็เพราะว่าเมื่อเปรี้ยวก็เอาไว้ดูก็ยังดีไงครับ...555
เมื่อผมเปลี่ยนมุมคิดของตนเองใหม่ คิดเชิงบวกให้มากๆ เข้าไว้ เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วกลับพบว่า
เหตุผลเหล่านี้ยังไงละครับที่ทำให้ผมชอบมะปรางเปรี้ยว คุณละครับคิดจะปลูกไว้ที่บ้านซักต้นไหมละครับ
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร.ครับ
สิงห์ป่าสัก 18 ก.พ. 2552
สวัสดีค่ะ
-สวัสดีครับอ้ายสิงห์
-แวะมาดูคนชอบ.มะปรางเปรี้ยวครับ
-สบายดีนะครับ.....
ดูจากรูปลูกใหญ่ดีนี่ครับ
ผมว่าเมื่อเวลาผ่านไป สัก 10 ปีน่าจะหวานขึ้นบ้างนะ
ประสบการณ์จากระกำ ออกใหม่ๆสุกยังไงก็เปรี้ยว
พอนานวันเข้าต้นแก่ เริ่มหวานๆขึ้นมาบ้าง
(ใข่นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรหรือเปล่า..แนะนำแบบนี้)
ฮ่าๆๆๆ
ชอบทานมะปรางค่ะ แต่คงต้องเป็นแบบ หวานๆ
ตามมาอ่านจากอนุทิน33181 นี้ค่ะ พี่ซูซานไปพาดหัวข่าวไว้
เลยแวะมาเชียร์ต้นมะปรางของพี่สิงห์ป่าสักค่ะ
ได้อ่านบันทึกและวิธีรับประทานมะปราง ให้อร่อยแล้ว น้ำลายไหล จะมีโอกาสได้ทานมะปรางเปรี้ยวกับน้ำปลาหวานแบบคุณสายลมแนะนำหรือไม่น้อ ที่ขอนแก่น ไม่มีมะปรางดิบ
มะปราง 2 ต้น ทำให้มีเรื่องราวมากมาย มี 100 คำเขียนที่เขียนถึงกัน ลามไปถึงมะปรางอีก 1 ท่าน (เป็นๆ) อีกต่างหาก
วายยย ตกกะใจ ดีใจหมดเลย คิดว่า..น้องมะปรางเปรี้ยว..จะบอกงานมงคลครูอ้อยแล้ว
ผมเป็นคนที่ชอบมะปรางและมะยงชิดมากครับ มีประสบการณ์พอสมควรครับ
ความแตกต่างระหว่างมะปรางกับมะยงชิดมีดังนี้ครับ
มะปรางมีทั้งพันธ์ผลขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่
มะปรางมี 2 ชนิด คือ
1. มะปรางหวานเมื่อยังดิบ มีรสมัน ไม่เปรี้ยว เมื่อสุกจะหวาน ผิวสีเหลือง และเหลืองอ่อน รับประทานได้ทั้งเปลือกแต่จะคันคอ
2. มะปรางเปรี้ยว เขาเรียกว่ากาวาง คือเปรี้ยวจนแม้แต่นกกามาจิกแล้วยังต้องรีบวางด้วยความเปรี้ยวครับ
ส่วนมะยง(ชิด) (ความจริงคือมะปรางชนิดหนึ่งแต่แตกต่างกันที่คุณสมบัติของเปลือก) แบ่งได้ 2 ชนิด เช่นกัน
1. มะยงชิด เมื่อดิบมีรสเปรี้ยว เมื่อสุกผิวเปลือกเป็นสีส้มสด สวยงามมาก สวยกว่ามะปรางทุกชนิด มะยงชิดเมื่อสุก จะมีรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ แต่เมื่อปอกเปลือกออกจะหวานฉ่ำ เพราะความเปรี้ยวอยู่ที่เปลือกของมันครับ
2. มะยงห่างจะมีรสเปรี้ยว ไม่ว่าจะปอกเปลือกหรือไม่ก็ตาม
กรณีของ สิงห์ป่าสัก ผมคิดว่า
1. ถ้ากิ่งพันธ์ได้มาจากการทาบกิ่ง ต้นนี้ไปทาบกิ่งต้นที่เปรี้ยวมาครับ คือถูกแหกตา
และถ้ากิ่งพันธ์นี้เป็นกิ่งพันธ์ดี แต่กิ่งอาจตายภายหลัง ต้นตอยังอยู่จึงแตกกิ่งขึ้ยมาทดแทน ต้นตอที่และครับคือต้นตอที่เปรี้ยวครับ
2. ได้มากจากการเพาะเมล็ดแล้วมีการกลายพันธ์ครับ
ปกติมะปรางปลูกให้รอดยาก บางคนซื้อพันธ์มาปลูก 10 ต้น จะเหลือแค่ 2-3 ต้นเท่านั้น สนนราคาพันธ์มะปรางมีตั้งแต่ต้นละ 500 บาท ถึง 2,000 บาทครับ
มะปรางเป็นพืชที่เจริญเติบโตช้ามากครับ ปลูก2-3 ปีแรกแทบไม่โตเลยครับ
ถ้าสนใจขยายความเดี๋ยวผมจะไปตั้งกระทู้ขึ้นที่บล็อกของผมครับ
http://gotoknow.org/blog/lifetime/243409
ส่วนพี่ ชอบมะปรางเปรี้ยว คนนี้ค่ะ
ไม่ชอบทานมะปรางและของเปรี้ยว ๆ ค่ะ
แยากทราบว่ามะรางเปรี้ยว หรือ กาวาง มีแหล่งจำหน่ายหรือหาซื้อได้ท่ีไหน ราคากิโลละเท่าไหร่ครับ
เมื่อ พ. 18 ก.พ. 2552 @ 21:00
1140619 [ลบ]