ฤดีซึ่งเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ มาปรับทุกข์กับเรา ว่าเขาพลาดอีกแล้ว พลาดอย่างไม่น่าให้อภัยตัวเอง ทั้งที่เราก็ได้เตือนเขาเสมอ แต่เขาก็บอกว่าคงไม่เป็นไรหรอกนะ ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาแห่งการกระทำ ด้วยลักษณะนิสัยส่วนตัว ที่เป็นคนชอบสงสารคนอื่น ไม่ชอบเห็นคนอื่นผิดหวัง ไม่ชอบเห็นคนผิดใจกัน มีอะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วยตลอด จากการที่เป็นพี่ใหญ่ของน้อง ๆ จึงทำให้เกิดเหตุจนได้
เก่งและผึ้งเป็นแฟนกันมาหลายปี ตอนยังไม่รู้จักกันทั้งสองสนิทสนมกับฤดีมาก เพราะเก่งทำงานที่เดียวกับฤดีแต่คนละแผนก ส่วนผึ้งก็เข้ามาฝึกงานในแผนกของฤดี และฤดีเป็นคนแนะนำให้เก่งรู้จักกับผึ้ง ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงได้รู้จักกันและนับถือฤดีเป็นพี่ใหญ่
เก่งเป็นคนหนุ่มที่สุภาพเรียบร้อย ขยันงาน มีมนุษยสัมพันธ์ดี เป็นขวัญใจของพนักงานในที่ทำงาน แผนกของเก่งไม่มีผู้หญิง และที่แผนกของฤดีก็ไม่มีผู้ชาย จึงมักจะขอความช่วยเหลือจากเก่งในเรื่องที่เกินกำลัง
ผึ้งเป็นนักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่นิสัยเรียบร้อย ตั้งใจทำงาน เรียนดี บุคลิกดี มีความมานะที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากพี่ ๆ ให้มากที่สุด จึงเป็นที่รักของพี่ทุกคน โดยเฉพาะพี่เก่งจะคอยช่วยเหลือน้องผึ้งด้วยความเต็มใจ
หลายปีต่อมาเก่งและผึ้งก็ยังคบหากัน จนในที่สุดหลังจากดูใจกันจนมั่นใจว่าจะร่วมชีวิตกันได้ ทั้งคู่ก็ตกลงที่จะให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบถึงความรักของตัวเอง ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ขัดข้อง จึงได้ทำพิธีสู่ขอแต่งงานกันถูกต้องตามประเพณี
เมื่ออยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว เก่งและผึ้งก็ได้เก็บหอมรอมริบ จนในที่สุดก็สามารถที่จะเช่าซื้อบ้านได้หนึ่งหลัง ส่วนรถยนต์นั้นทั้งเก่งและผึ้งต่างก็มีกันคนละคันตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน อย่างไรก็ตามเก่งและผึ้งยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงกันไปอีกระยะหนึ่ง เพราะเงินเดือนของคนทั้งคู่รวมกันจำนวนก็ยังไม่มากนัก เพียงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย ๆ แต่ยังฟุ่มเฟือยไม่ได้ หมายความว่าทั้งคู่จะต้องทำงานเหนื่อยมากขึ้น เพื่อส่งค่าเช่าซื้อบ้านและเตรียมรองรับผู้สืบสกุลของทั้งคู่ที่จะตามมา
จากการที่ทั้งเก่งและผึ้งใช้ชีวิตก่อนแต่งงานที่ไม่ค่อยมีอะไรมาบีบบังคับหรือมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนมากนัก แต่เมื่อแต่งงานกันก็ฝันร่วมกันมากมายและมีความตั้งใจสูงที่จะให้ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
หกเดือนต่อมาทุกอย่างก็ชัดเจนตามแผนที่ทั้งเก่งและผึ้งวางแผนไว้ แต่ทั้งคู่เริ่มที่จะห่างเพื่อนห่างสังคม โดยที่ตัวเองไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันค่อย ๆ เกิดขึ้นช้า ๆ ทีละน้อย ทีละน้อย ทุกคนก็คอยมองด้วยความเป็นห่วง และภาวนาช่วยเขาทั้งสองอย่าให้ความเหนื่อยล้ามาทำลายชีวิตคู่ของทั้งสองเลย
แล้ววันหนึ่งสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็ปรากฏเป็นรูปร่างที่ชัดเจนของมันขึ้นมา ทุกคนตกใจและถามไถ่กันเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคู่ของคนทั้งสอง เมื่อทั้งสองเล่าให้ฟังสั้น ๆ ว่าได้ตัดสินใจที่จะแยกทางกันแน่นอน
ฤดีซึ่งเป็นพี่ใหญ่ที่ทั้งผึ้งและเก่งนับถือเสมือนญาติผู้ใหญ่ของตน เพราะทั้งคู่เป็นคนต่างจังหวัด มีอะไรก็จะมาปรึกษาตลอด ทั้งมาด้วยตนเอง หรือโทรศัพท์มา ให้รู้สึกไม่สบายใจเป็นที่สุด เมื่อทั้งสองผลัดกันมาขอคำปรึกษา ฤดีก็ให้คำปรึกษาด้วยไม่อยากให้ทั้งคู่แยกทางกัน
และได้ผลอีกสองอาทิตย์ต่อมาทั้งคู่ก็คืนดีกัน แต่ทั้งคู่กลับแสดงท่าทีห่างเหินต่อฤดีทำให้ฤดีรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก และพยายามทบทวนว่าตัวเองให้คำปรึกษาอะไรที่ไม่ดีกับคนทั้งสอง ทบทวนอยู่หลายครั้ง ก็ไม่พบว่ามีอะไรที่เป็นเหตุให้คนทั้งสองแสดงอาการเช่นนั้นกับพี่ใหญ่ที่เขานับถือเสมือนญาติผู้ใหญ่คนนี้
เปรียบเสมือนว่า....ในการให้คำปรึกษาแก่ผู้อื่นในเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนสองคน เสี่ยงที่จะเป็นดาบสองคมต่อผู้ให้คำปรึกษานั้นเป็นที่สุด โปรดจารึกไว้ในหัวใจของทุกท่านเทอญ เพราะเรื่องของเขาสองคนมีเขาสองคนเท่านั้นจะเป็นผู้รู้จริงที่สุด....หึหึ...เราห้ามยุ่ง
ขอให้ทุกท่านโชคดี
สวัสดีครับ
+ หวัดดีค่ะท่านพี่บ่าว...นายช่างใหญ่.....
+ เห็นด้วยค่ะท่านพี่.....
+ พอเขาดีกัน...คนที่แนะนำ...เป็นอย่างนี้ทุกที....
+ อีตอนมาขอคำปรึกษาก็อีกแบบ...พูดยากค่ะ...
+ ทางที่ดีก็อย่างที่ท่านพี่ว่านั่นแหละ......
+ ขอส่งผ่านกำลังใจให้คุณฟดีด้วยแล้วกันค่ะ....
+ " คุณทำดีที่สุดแล้ว "
+ คิดถึงค่ะ
สวัสดีค่ะ
นั่นซินะ
ใครจะมารู้เท่าเขาสองคน
คงทำได้แค่ให้เขารู้สึกสบายใจก็พอเนาะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
- การให้คำปรึกษาเรื่องครอบครัว ดูจะยุ่งยาก เพราะเป็นดาบสองคม เหมือนอาจารย์ว่าก็ได้ แต่ตามหลักการให้คำปรึกษา เขาจะไม่ชี้แนะว่าต้อง อยู่ด้วยกัน หรือต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนมากเน้นเรื่อง ให้เขาตัดสินใจปัญหากันเอง เราต้องเป็นฝ่ายรับฟังและรับรู้มากกว่า และติดตามผลเท่านั้นค่ะ
ซีเรียสมากเลยค่ะ ตอนนี้
สวัสดีครับน้องครูอ๋อย
ครับถึงว่าได้ยินผู้ใหญ่เขาแหลงให้ได้ยินตอนเราเด็ก ๆ ว่าเวลาผัวเมียรบกันเราอย่าไปยุ่ง เพราะเวลาเขาแหลงกับเราเขานั่งแหลง แต่เวลาเขาแหลงกันเองเขานอนแหลง แป๊บเดียวเขาก็ดีกัน...อิอิ
โชคดีครับน้อง
สวัสดีครับหมอรุ่ง
ก็เป็นเช่นนั้นแหละครับ...หึหึ...เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ มาทั้งน้ำมูกน้ำตา แต่พอน้ำตาแห้ง เราก็เป็นแค่...
โชคดีครับหมอ
สวัสดีครับคุณมนัญญา
ยังดีนะครับที่เป็นแค่หมาหัวเน่า...เขาไม่มายืนรุมด่าหน้าโต๊ะทำงานก็ดีถมไป...ไม่น่าเช็ดขี้มูกน้ำตาที่หยดไว้ น่าจะให้มาเช็ดกันเองจะได้มีสำนึก....ฮาฮา
โชคดีครับ
สวัสดีครับคุณเพชรน้อย
อย่าซีเรียสครับ...ตอนเขาฉอเราะกันย่อมต้องหาแพะเป็นธรรมดาครับ....
โชคดีครับ
ฝากผลไม้ให้ทาน กระจาดใหญ่ อิ อิ
สวัสดีครับอาจารย์เอื้องแซะ
โชคดีครับ
พี่บ่าวๆๆ เรื่องแบบนี้ไม่มีประสบการณ์ให้คำปรึกษาไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
+ หวัดดีค่ะท่านพี่บ่าว...
+ แหม....ตอบได้แรงอกมากค่ะ....
+ ถูกใจ....ค่ะ...โอ้ย...โดนใจ..
+ อิ อิ...
สวัสดีครับอาจารย์ขจิต
งั้นแสดงว่าฤดีซึ่งยังไม่มีประสบการณ์คงปลอบน้อง ๆผิดคิว...ฮ่าฮ่าฮ่า...เลยโดนค้อนซะไม่มีดีเฮ้อ...
โชคดีครับ
สวัสดียามค่ำครับน้องครูอ๋อย
ของพรรค์นี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่...เหมือนของใส่โจนั่นแหละน้องเหอ...เห็นผลทันตา
โชคดีน้องครู
แวะมาทักทายครับ
สบายดีไหมครับ
สวัสดีครับครูโย่ง
สบายดีอยู่แล้วครับ แล้วท่านประธานกลุ่มคนหน้าตาดีล่ะครับ เป็นอย่างไรบ้าง
โชคดีนะครับ
เรื่องผัวเมียทะเละกันห้ามยุ่ง
พอค่ำเขาก็นอนเตียงเดียวกันอีก
ใครคือหมาหัวเน่า........ห้ามยุ่ง พี่ใหญ่
ฮิๆๆ
สวัสดีครับคุณเกษตรยะลา
หนังไทยกี่เรื่อง ตอนจบเหมือนกันทุกที...อิอิ..ตัวพระกับตัวนางพันพรือก็ต้องไปตามแนวหนังไทย ผิดเมื่อไรชาวบ้านไม่ค่อยยอม
โชคดีครับผม
มาเยี่ยม นายช่างใหญ่
เหมือนเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ ทะเลาะกันตอนเช้า พอตกค่ำก็นอนกอดกันนะนี่ ฮิ ฮิ ฮิ
สวัสดีค่ะ นายช่างใหญ่
แวะมาเยี่ยมค่ะ
สบายดีไหมค่ะ
เรื่องบางเรื่องอย่าเข้าไปยุ่งดีที่สุดค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์ยูมิ
คงเป็นแบบนั้นหละครับ...อิอิ...เหมือนในหนัง
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับคุณ berger0123
ไม่ได้คุยกันนานแล้ว คงสบายดีนะครับ ตอนนี้ผมสบายดีครับ
ทุกเรื่องที่สามารถกลับมาทำร้ายเราได้ไม่ควร...ยุ่ง
โชคดีครับ
สวัสดีครับคุณวัชรา ทองหยอด
ไม่ได้คุยกันนานแล้วนะครับ
เขาถึงบอกว่าเรื่อง ผัวๆเมียๆ ละเหี่ยใจ...มาถึงหัวไดก็อย่าไปยุ่งกับมันนิ....
" เวลารบกัน ชอบให้ชาวบ้านเห็นใจ น้องพันนู่พี่พันนี่ เสร็จศึกเมื่อไร ชอบด่าเช็ดชาวบ้าน หมินไปทั้งเรอนน้องเหอ อย่าไปยุ่งกับหมัน"
โชคดีน้องเหอ