ข้อคิดจากเพื่อนผู้จากไป....แวฮามะ....


คงยังไม่สายสำหรับผู้อ่านหากจะย้อนถามตนเองว่า ณ วันนี้สิ่งที่อยู่ในใจคุณนั้นคุณได้พูดบอกกล่าวหรือแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ดีๆ ให้คนที่คุณรักรับรู้แล้วหรือยัง ทำเถอะค่ะ ก่อนที่จะสายเกินไป และคุณก็จะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก

          ในวันพรุ่งนี้ผู้เขียนคงต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อร่วมงานทำบุญงานศพครบ  7  วัน  ของ...แวฮามะ..เพื่อนของผู้เขียนซึ่งจากไปเมื่อ  7  วันที่ผ่านมากับเพื่อนๆ ในกลุ่มสมัยเรียนชั้นประถมศึกษา

         การจากไปของแวฮามะ  หรือมะของเพื่อนๆ ทิ้งข้อคิดบางอย่างไว้ให้ผู้เขียนและผองเพื่อนพร้อมๆ กับการสูญเสีย

          ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้รับเมล์จากเพื่อนอีกคนที่อยู่กรุงเทพฯ เป็นเรื่องของการให้กระตุ้นเตือนใจให้กระทำการอันใดก็ตามกับคนที่เรารักไม่ว่าจะเป็นการพูดบอกรักเค้าหรือการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมแห่งความรักและความปรารถนาดีต่อคนที่เรารัก  ใครๆ ก็ทราบน่า....แต่ใครจะปฏิบัติล่ะ....(นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง)  นั่นเป็นความคิดแรกของผู้เขียนในขณะที่ได้รับเมล์นั้น

          ถัดมาประมาณหนึ่งเดือน.....ข้อความในเมล์นั้นได้ย้อนกลับมาให้ผู้เขียนได้ตระหนักคิดถึงข้อเท็จจริงอีกครั้ง  เมื่อเพื่อนของผู้เขียน...แวฮามะ...จากไป  พร้อมๆ กับการนึกโกรธตนเองที่มิได้กระทำการอันใดในก่อนหน้านี้

          ในละแวกบ้านของผู้เขียนจะมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันมาตั้งแต่เด็กๆ 3 คน  คือมะ, ปืน และผู้เขียน  ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันนั่นเอง  ก็พอที่จะไปมาหาสู่กันได้  แต่บ้านของผู้เขียนกับมะอยู่ห่างกันไม่ถึงร้อยเมตรด้วยซ้ำไป  และตรงกันข้ามบ้านของมะคือบ้านของปืน  เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ  ในชั้นประถมศึกษาห้องเดียวกัน  มะนับถือศาสนาอิสลาม  ปืนกับผู้เขียน  และเพื่อนคนอื่นๆ นับถือศาสนาพุทธ  แต่นั่นไม่ใช่ตัวกีดกั้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนของพวกเรา  พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมาจนโตเป็นผู้ใหญ่  แต่ ณ  วันนี้คงเหลือเพียงภาพความทรงจำที่ดีระหว่างพวกเราเท่านั้น

          ตั้งแต่เด็กๆ  เราเรียน, เล่นด้วยกันมาตลอด  จนถึงชั้น ป.4  เมื่อคุณครูภาษาอังกฤษสาวสวยบรรจุใหม่มาจากกรุงเทพฯ  พวกเราตื่นเต้นกันมาก  เพราะคุณครูมาอยู่บ้านพักและชวนเด็กๆ ในละแวกโรงเรียนให้ไปนอนเป็นเพื่อนคุณครูที่บ้านพักในตอนกลางคืน  ผู้เขียนและเพื่อนๆ อีกประมาณ 5 6  คนรวมถึงมะด้วยได้ถูกรับเชิญจากคุณครู(นับเป็นเกียรติอันสูงสุดของเด็กในวัยนั้นอย่างพวกเรา)  พ่อแม่ของแต่ละคนก็มาส่งกันที่บ้านพักครูและตอนกลางคืนคุณครูก็สอนภาษาอังกฤษให้  นับเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีใครเคยเรียนมาก่อน  เสร็จจากการเรียนเราก็เล่นกันต่อตามประสาเด็กๆ จนต่างคนต่างง่วงผล็อยหลับกันไป  ในตอนนั้นเด็กผู้ชายตัวผอมแห้งที่โดนเพื่อนแกล้งมากที่สุดเห็นจะเป็นมะ  แต่มะก็ไม่เคยโกรธใคร  มะจึงเป็นคนที่เพื่อนๆ รักมาก  แม้ว่ามะจะเรียนไม่เก่งเท่าเพื่อนๆ คนอื่นๆ นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา  จนกระทั่งจบชั้นประถมศึกษา  เมื่อเข้าสู่ระดับมัธยมศึกษาเราก็ไปเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน  แต่อยู่กันคนละห้อง  และชีวิตก็เริ่มแยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตของใครของมัน  จนผู้เขียนมาเป็นครู  มะเองก็ก้าวเข้ารับตำแหน่งเจ้าของร้านน้ำชาแทนพ่อ  ปืนก็กลายเป็นช่างซ่อมจักรยานยนต์มือฉมังและเจ้าของสวนยางที่ตัดด้วยตนเองในตอนย่ำรุ่ง  ทุกครั้งที่เราเจอกันความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนไม่เคยเปลี่ยน  แม้ไม่ได้พูดจากัน  ขับรถผ่านบ้านกันแค่สายตาและรอยยิ้มที่ส่งให้กันต่างคนต่างก็รู้กันว่าเพื่อนก็คือเพื่อนเหมือนเดิม  ไม่เปลี่ยนแปลง   จนเมื่อผู้เขียนย้ายกลับมาทำงานในบ้านเกิด  เราพบเจอกันบ่อยขึ้น  และแทบจะทุกครั้งที่เจอะเจอมะจะตะโกนเรียกให้ผู้เขียนแวะเข้าไปดื่มน้ำชาที่ร้านเค้า  ด้วยคำพูดเดิมๆ ที่คุ้นหู ครูแอน....ม๊า..มากินน้ำชาร้านเราก่อนมา  นี่คือน้ำใจของมะที่มีให้เสมอมา  จนเมื่อเหตุการณ์ความไม่สงบเริ่มเข้ามาในหมู่บ้านของผู้เขียน  มะกลับเป็นคนเดียวที่ผู้เขียนและเพื่อนๆ สนิทใจมากที่สุดแต่กระนั้นพวกเราก็ไม่มีใครกล้าแวะเข้าไปทักทายเพื่อนถึงในร้านเหมือนเก่า  ด้วยร้านของเพื่อนมักมีคนแปลกหน้าที่เราเองก็ไม่รู้จักมานั่งกินน้ำชาอยู่บ้าง  จึงเป็นความห่างตามสภาพการณ์โดยที่ใจไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้น  จนมะเริ่มมีอาการป่วยแต่เพื่อนๆ กลับไม่มีใครทราบแม้แต่คนเดียว  (ขนาดบ้านใกล้กันแค่นี้)   แรกเริ่มเดิมทีด้วยเข้าใจว่าที่มะหายไปจากบ้านเพราะย้ายไปอยู่บ้านภรรยาที่ปัตตานีเพื่อช่วยภรรยาเลี้ยงลูกเล็กๆ ที่เพิ่งคลอดนั่นเอง  โดยหารู้ไม่ว่าการจากไปในครั้งนั้นของมะคือภาวะการณ์แห่งการจากไปและไม่กลับมาอีกแล้ว

.......นอนหลับให้สบายเถอะเพื่อน    ขอให้ไปพบพระเจ้านะเพื่อนคนดี.....

           สิ่งหนึ่งที่หากย้อนเวลากลับไปได้....ผู้เขียนและผองเพื่อนจะเข้าไปเยี่ยมมะหากรู้ว่าเขาป่วยก่อนที่เขาจะย้ายไปปัตตานี  และจะคอยให้กำลังใจแก่เขา...เพื่อนที่พวกเรารักแม้จะต่างศาสนากันก็ตาม  ด้วยเราเป็นเพื่อนกัน

           วันนี้การที่ผู้เขียนได้ตระหนักถึงข้อความในเมล์ที่ได้รับคงสายไปแล้ว.....สำหรับผู้เขียนและเพื่อนๆ ที่จะแสดงออกซึ่งความรักฉันท์เพื่อนที่มีต่อแวฮามะเพื่อนของพวกเรา  แต่กระนั้นข้อคิดที่ได้รับระหว่างเรื่องราวของแวฮามะกับผองเพื่อนและผู้เขียน  คงยังไม่สายสำหรับผู้อ่านหากจะย้อนถามตนเองว่า    วันนี้สิ่งที่อยู่ในใจคุณนั้นคุณได้พูดบอกกล่าวหรือแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ดีๆ ให้คนที่คุณรักรับรู้แล้วหรือยัง    ทำเถอะค่ะ  ก่อนที่จะสายเกินไป  และคุณก็จะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก  และจะได้ไม่ต้องมีความคิดนี้แว๊บขึ้นในใจอีก  ใครๆ ก็ทราบน่า.... 

หมายเลขบันทึก: 173283เขียนเมื่อ 26 มีนาคม 2008 21:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (39)

วันนี้แปลกจังค่ะ..รู้สึกว่า.เข้าไปอ่านบล็อกใครก็เหมือนจะสื่อในประเด็นเดียวกัน...ในเรื่องชีวิตและจิตวิญญาณ..ปรัชญา.ชีวิต..แนวนี้

ขอบคุณค่ะ..สำหรับข้อคิดดีๆ.สำหรับชีวิต..

เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเสียใจ..ในภายหลัง..กับคำว่า."ถ้ารู้อย่างนี้..."...

หวัดดีค่ะครูแอ๊ว

  • มันคงเป็นธรรมดาของชีวิตล่ะค่ะ  ที่เราต้องเจอในรูปแบบนี้ในที่สุดไม่วันใดก็วันหนึ่ง
  • แล้วแต่ว่าใครจะเจอมันในวันใดของชีวิต  ก่อนหรือหลังกัน...เช่นนั้นเอง....
  • แต่ครูแอนก็ใช้คำ "ถ้ารู้อย่างนี้...."  เหมือนที่ครูแอ๊วกล่าวมาไปแล้วล่ะค่ะ
  • เราต่างทราบกันดีอยู่แล้วน่ะค่ะ  แต่บางครั้งอาจหลงลืมไปในขณะจิต  การฉุกให้คิด....เพื่อจะได้ไม่ประมาทกับชีวิตและการกระทำของเราอาจจะดีกว่ามานั่งสำนึกในภายหลังค่ะ
  • ไม่ประมาทกับชีวิตนะคะครูแอ๊ว....โชคดีและมีความสุขกับวันดีๆ ของชีวิตค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์แอน

                 ผมเองก็เคยมีประสบการณ์เหมือนครูแอนและยังเสียใจมาจนทุกวันนี้ครับ

                 บางครั้งเราคิดจะทำแต่ก็ผลัดไปว่าต่อโพลกก็ได้มั้ง...การผลัดวันประกันพรุ่ง ครูเคยสอนเสมอว่าเป็นการกระทำที่ไม่ดี...แต่ไม่รู้ใส่เราลืมทุกที...อิอิ

                 ความเป็นเพื่อนแม้นไม่เจอกันถึงสี่สิบหวาปี เช่นผมกับเพื่อนแมวเพื่อนหมุนลำไพล คุณแฉล้ม สันสีเมืองเกษตรอำเภอเทพา สามคนนี้เป็นเพื่อนนักเรียนกันกับผมตั้งแต่จำความได้ ที่โรงเรียนบ้านครูน้อยที่โคกโพธิ์ แม้จะนานมาแล้วแต่ในใจเรายังมีความเป็นเพื่อนกันอยู่เสมอครับ ไม่ได้หายไปกับกาลเวลาหรือระยะทาง เจอกันเมื่อไรความทรงจำเก่า ๆ ก็จะผุดขึ้นมาออกดอกเหมือนเดิม...มหัศจรรย์มากครับเรื่องแบบนี้

                                                       ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะนายช่างใหญ่

  • เลยคราวนี้อยากพูดอยากทำอะไรให้ใครๆ ได้รู้สึกดีก็ทำเลยล่ะค่ะ
  • ทุกคนได้บทเรียนชีวิตบทสำคัญค่ะนายช่าง
  • พี่แมวจะย้ายกลับมาสอนที่โรงเรียนในหมู่บ้านแล้วล่ะค่ะในภาคเรียนที่จะถึงนี้  ส่วนพี่หมุนก็อยู่บ้านที่ยะลามังคะ  ทราบแต่ว่าเจ้าลูกชายพี่หมุนเก่งน่าดู (คงเหมือนพ่อ)  เพราะเค้ากำลังเรียนที่โรงเรียนนายร้อยอยู่น่ะค่ะ  ....เพื่อนกันน่ะค่ะ....ไม่ต่อก็ติด  จะสี่สิบปีกว่าก็ไม่มีสิ่งใดขวางกั้นมิตรภาพแห่งเพื่อนมังคะ
  • แต่ตอนนี้ครูแอนเรียกพี่แมวว่า"ป้าแมว"ซะล่ะคะ (เรียกแทนหลานๆ ที่บ้านน่ะค่ะ)  แล้วอย่างนี้ครูแอนต้องเรียก "ลุงช่างใหญ่" เหมือนที่เรียกป้าแมวรึปล่าวคะเนี่ย อิอิอิ........ขอบคุณค่ะ.....

สวัสดีค่ะ * บันทึกนี้เขียนได้ซาบซึ้งค่ะ * ชอบ......มะนับถือศาสนาอิสลาม ปืนกับผู้เขียน และเพื่อนคนอื่นๆ นับถือศาสนาพุทธ แต่นั่นไม่ใช่ตัวกีดกั้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนของพวกเรา พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมาจนโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ ณ วันนี้คงเหลือเพียงภาพความทรงจำที่ดีระหว่างพวกเราเท่านั้น.....

สวัสดีค่ะพี่พรรณา

  • ขอบคุณค่ะพี่พรรณา.....ครูแอนเพิ่งกลับจากปัตตานีมาน่ะค่ะ
  • ก็....คิดถึงเพื่อนน่ะค่ะ....
  • วันที่เราไปกันมีเพื่อนสมัยเรียนประถมไปพร้อมๆ กันกับครูแอน  7  คนค่ะ  พอเราไปถึงแม่ของมะดีใจมากค่ะที่เห็นเพื่อนๆ ลูกชายไปทำบุญให้ลูกชายเขาในวันครบรอบ  7  วันตามหลักศาสนาของเขา  จนแกเองน้ำตาซึมไปเหมือนกัน  พวกเราเองก็เกือบกลั้นไว้ไม่อยู่เหมือนกัน  แต่บ้านที่ไปเป็นบ้านยายของมะ....ต่างถิ่นน่ะค่ะ   พวกเราเลยต้องกลั้นมันกันไว้ไม่ให้ออกมา
  • นั่งได้สักครู่.....พ่อและพี่ชายมะ(พี่แม็ง) พร้อมกับญาติๆ ผู้ชาย...ก็กลับจากสุเหร่าหลังจากที่ไปทำพิธีให้มะเค้า
  • พ่อและพี่แม็งเห็นพวกเราก็ยิ้มด้วยอาการดีใจ  คำพูดแรกที่พี่แม็งทักพวกเราคือ  "โอ้โห...อุตส่าห์มากันครบเลยเพื่อนสมัยเรียนของมะทั้งนั้นแหละที่มากันนิ"  พลางบอกเล่าญาติๆ ที่อยู่ทางปัตตานีของเค้าให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างมะและพวกเรา
  • หลังจากที่ญาติยกอาหารมาบริการเสร็จแล้ว  พี่แม็งก็หันมาคุยกะครูแอนว่า "น้องแอน...คราวนี้ไม่มีใครแซวแล้ว  เหงาไปอีกหล่าว  เพราทุกครั้งที่มะเจอกับน้อง แอนจะพูดว่า "นี่แหละเรานิ....ครูทิวาสอนแล้วว่าให้ตั้งใจเรียน  เห็นมั๊ยเพื่อนเค้าเรียนเก่งๆ กันเค้าเลยไปเป็นครูเลย  เราไม่น่าเลย  แล้วน้องแอนก็หนีเลย..." ซึ่งเป็นคำพูดประจำตัวมะเค้าเลย  แทบทุกครั้งที่มะมักพูดเช่นนี้จริงๆ .... พูดตลอดจนพี่ชายเค้าเองจำได้แทบจะทุกประโยคของน้องชายที่พูดเมื่อเจอกับครูแอน  จนถึงทุกวันนี้....พี่ชายเค้าคงคิดถึงน้องชายคนเดียวมากเช่นกัน
  • เลยนึกได้ว่า ช่วงแรกๆ ที่มะเค้าพูดแบบนี้ก็ได้สวนกลับเค้าไปว่า  "ว่าแต่เรา....ทีนายยังเป็นเถ้าแก่ร้านน้ำชาเลย  รับทรัพย์วันละหลายตังค์มากกว่าเราซะอีกน่ะ"  พอเจอกันวันหลังมะพูดอีกแล้ว....เลยหลังๆ พอมะเริ่มที่จะแกล้งพูด  ครูแอนเลยเริ่มที่จะหนีแล้ว  จนเป็นภาพที่พี่แม็งเห็นมาตลอดน่ะค่ะ
  • ขอบคุณนะคะพี่พรรณา

บอกรักด้วยการกอดกันค่ะ...รักกันๆๆๆๆๆๆ

^ ^

งั้นฝากกอดกลับไปสุรินทร์ ด้วยล่ะกันคะพี่กั๊ตจัง....บอกว่า "ฝากมาจากสงขลา" นะคะ ขอบคุณค่า....อิอิอิ

สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครูแอน คนสวย คิคิ

น้องจิ แวะมากอดเหมือนคุณครูกั๊ต เจ้าค่ะ คิคิ กอดๆๆๆๆๆๆ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ

เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^

หวัดดีจ้า...สาวน้อยคนสวยP

  • กอดหนูนี่นิ่มๆ จังเลยเจ้าตัวน้อย
  • กอดคนเก่งนี่รู้สึกดีจังแฮะ   ครูแอนก็จะเป็นนกำลังใจให้หนูเช่นกันนะคะ

หวัดดีจ้ะ...น้องแอน

  • สบายดีนะจ้ะ คิดถึงนะ
  • อ่านแล้วเศร้าใจจัง...
  • ใช่แล้วไม่ว่าจะศาสนาไหนก็ตาม
  • มิตรภาพของความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน
  • ขอให้ "คุณแวฮามะ" หลับให้สบาย และได้พบกับพระเจ้าอย่างที่ตั้งใจค่ะ
  • น้องแอนจ๋า...ดูแลตัวเองด้วยนะจ้ะ
  • ในความเงียบ...อย่างลืมว่าบ้านเราซ่อนอะไรอยู่ ต้องระวังตัวตลอดเวลา
  • ที่น้องถามว่า "ปัตตานี" และ "ยะลา" บรรยากาศเหมือนกันไหม...อยากบอกว่าคงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่หรอก เพราะโดนสถานการณ์เหมือน ๆ กัน จอดรถตรงไหน ก็ต้องดูซ้ายดูขวาให้ดีว่าจอดใกล้อะไรบ้าง ส่วนโรคหวาดผวา โรคหวั่นวิตก ก็คงไม่แตกต่างกัน...จนบางครั้งคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตนั่นล่ะ...จิตเพราะเหตุการณ์ จิตโดยไม่ตั้งใจ จิตเพราะความกดดันจากเหตุการณ์...อารมณ์บางครั้งก็เลยไม่ปกติไปบ้าง เป็นธรรมดาของคนบ้านเรานะน้องนะ

สวัสดีค่ะ

* ครูพรรณาได้พบนักศึกษาชาวอิสลามคนหนึ่งเมื่อ ๒ ปีก่อน...เขาเรียนเศรษฐศาสตร์ม. รามฯ....ขึ้นรถไฟนั่งใกล้กัน...เหตุที่ใกล้กันเพราะโบกี้ที่เขานั่งมีเขาเพียงคนเดียวอยู่ท้ายขบวน...ตอนเข้ามานั่งใหม่ ๆ ครูพรรณา ( หัวขบวน )...ก็ไม่ค่อยไว้วางใจ...แต่เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้วสัก ๑๐ นาที...ครูพรรณา..ชวนคุยถามโน่นถามนี่.....ปรากฎว่าน้องน่ารักมาก...ตื่นเช้าขออนุญาตไปล้างหน้าล้างตาแล้วทำละหมาด....เขาขอพื้นที่จากผู้โดยสารที่นั่งคนเดียว.....ใกล้ถึงอุดรแล้ว...คนลงรายทางไปมากแล้ว...ครูพรรณา...เพิ่งเคยเห็นการละหมาดเป็นครั้งแรก....น้องทำได้น่าศรัทธาค่ะ...ก่อนจากกันครูพรรณา มอบขนมให้ ๑ ถุงไว้กินกลางทาง...เขาขอบคุณและดีใจมากที่พบกันและเป็นเพื่อนคุยกันตลอดคืน....สองข้างทางรถไฟคืนนั้เดือนสว่าง...มีผู้โดยสารไม่หลับไม่นอนอยู่ ๔ คน เป็นคนภาคกลาง ๒ คน คือครูพรรณากับพี่สาว..หนุ่มชาวอุดร อำเภอที่ออกห่างเมืองไปไกล ๆ ( เดินทางต่ออีกเกือบวันกว่าจะถึงบ้าน ) ๑ คน และหนุ่มอิสลามชาวปัตตานี ๑ คน

* สมัยเด็ก ๆ ครูพรรณาก้มีเพื่อนเป็นชาวอิสลามเหมือนกัน...สนิทมากด้วย...แต่เขาอยู่ที่พิจิตร...จนจะกลายเป็นไทยแล้วค่ะ

*ขณะนี้ที่โรงเรียนก็มีลูกจ้างชั่วคราวเป็นหญิงอิสลาม...แต่งงานกับคนไทย...เธอปฎบัติทั้ง ๒ ศาสนา...แนวคิดเธอดีมาก....หนูอยู่ที่ไหนก็ต้องพูดคุยกับคนในสังคม...ถ้ามีงานบุญในสังคมที่เราอยู่แล้วเราไม่ไปร่วมด้วย...คงต้องอยู่คนเดียวในโลกของศาสนาอื่นหรือ....หนูไม่เห็นด้วยหรอกค่ะ...

หวัดดีค่ะพี่อ้อย

  • แน่ะ...เห็นมั๊ยคะ...โรคจิตนั่นล่ะ...จิตเพราะเหตุการณ์ จิตโดยไม่ตั้งใจ จิตเพราะความกดดันจากเหตุการณ์...อารมณ์บางครั้งก็เลยไม่ปกติไปบ้าง เป็นธรรมดาของคนบ้านเรานะน้องนะ ...ไม่ใช่ใครๆ ก็เป็นนะโรคนี้  เฉพาะคนบ้านเราที่อยู่ในพื้นที่จริงๆ เฮ้อ...จะสงบเมื่อไหร่น้อ
  • ขอบคุณค่ะพี่....เพื่อนแอนเค้าคงไปดีน่ะค่ะ....
  • และคนบ้านเมืองนี้ก็ต้องระวังตัวกันต่อไป  อย่าพลั้งเผลอไปตามความเงียบที่ซ่อนอะไรไว้มากมาย
  • ดูแลตัวเองเช่นกันนะคะพี่สาว.....ฝากกอดมาเต็มรักด้วยค่ะพี่

Pwithbloger

หวัดดีค่ะพี่พรรณาP

  • พี่พรรณานี่น่ารักจัง....แวะมาเยี่ยมครูแอนตลอดเลย
  • ชักอยากเจอตัวจริงพี่พรรณาคนเก่งซะแล้วสิ....เอ...แล้วเราจะเจอกันที่สุพรรณหรือสงขลาดีคะพี่...อิอิอิ...
  • แต่ครูแอนว่าสุพรรณดีที่สุดค่ะ....ทางนี้ครูแอนเองก็ไม่ค่อยกล้านักหรอกค่ะกับเหตุการณ์ในปัจจุบันของละแวกพื้นที่
  • ไม่ว่าศาสนาไหนๆ ก็ต้องสอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้น  ที่เพี้ยนไปเพราะบิดเบือนหลักศาสนาซะมากกว่ามังคะ
  • ขอชื่นชมแนวคิดของน้องค่ะ....เยี่ยมจริงๆ
  • ขอบคุณพี่สาวคนดีกับไมตรีที่เผื่อแผ่มานะคะ.....ขอบคุณค่ะ
  • แวะมาเยี่ยมน้องครูแอนค่ะอ้าวเจอน้องอ้อยด้วย
  • พี่เห็นด้วยว่าชีวิตคนเราสั้นนัก
  • เรามาเริ่มทำดีกับคนรอบข้างและขยายวงออกไปเรื่อยๆดีกว่านะคะ
  • สักวันสังคมของเราจะได้น่าอยู่กว่านี้

พี่อ็อดคะ

ตอนนี้หากอยากจะทำอะไรดีๆ แล้วนี่...แอนไม่มีกั๊กไว้ (แบบไว้ฟอร์ม)แล้วล่ะค่ะพี่ ทำเลย...หากคิดว่าดีแล้วพิจารณาแล้ว..ดี.. เพราะมีบทเรียนแล้วน่ะค่ะพี่

ในภาพ...เป็นครั้งที่พี่อ้อยมาเยี่ยมที่โรงเรียนแอนค่ะพี่อ็อด...ตอนที่ อ.ขจิต มาช่วยทำค่ายภาษาอังกฤษน่ะค่ะ มีพี่ไมตรี(พี่ยาวเกษตรยะลา) และพี่ปรามรภ์ด้วยค่ะที่มาเยี่ยม อ.ขจิตและค่ายของเรา

ทั้ง 3 ท่านน่ารักมากเลย แต่ไม่กล้ากอดพี่ยาว...อิอิอิ ...(กลัวเป็นเรื่อง5555)พี่ปรารมภ์ก็กอดไม่รอบด้วยล่ะค่ะ อ๊ะ..ล้อเล่นน่ะค่ะ เลยแอบกอดพี่อ้อยคนเดียวก่อน..กอดรอบเลย...

พี่อ็อดขา..พี่กั๊ดบอกว่าถ้าจะไปกอดพี่กั๊ตละก้อ...ให้แอนชวนพี่อ้อยไปกอดด้วยเดี๋ยวไม่รอบทั้งตัว...จริงหรือคะพี่อ็อด ฮาๆๆๆ...อ๊ะ..ล้อเล่นอีกน่ะค่ะ

ดีใจจังค่ะที่ได้รับรู้ข่าวว่าอาการพี่ดีขึ้นแล้ว เป็นปกติแล้ว 3 ซ.ม. ไม่น่ากังวลใช่มั๊ยคะพี่ แค่ 50 บาทเองยังพอไหวค่ะพี่ บางคุณหมอค่าพูดคุยด้วยแพงกว่าที่พี่เจออีกน่ะค่ะ...ดีแล้วค่ะที่อาการดีขึ้น

อา..ขอความกรุณาช่วยบอก..คุณนารี...ให้แอนหน่อยนะคะพี่อ็อด..บอกว่า..ถึงแม้คุณหมอบอกว่าจิ๊บๆ สำหรับ 3 เซ็นต์ แต่ก็วานคุณนารีกรุณาอย่าโลดโผนนักนะคะ...มีน้องๆ หลายคนเป็นห่วงอยู่ค่ะ...ขอบคุณครับผม

สวัสดีครับ

ปกติคนจากไปแล้ว เราจะมีความเสียใจ เศร้า แล้วคิดถึงเรื่องเก่าๆที่เราได้สัมผัสกันอยู่ร่วมกันทำงานร่วมกันเล่นร่วมกัน  เป็นอดีตที่มีความสุข

เป็นการรำลึกที่ไม่สามารถหวนคืนชีวิตกลับไปได้

ยิ่งถ้าคนๆนั้นเป็นคนที่ดีมากๆในสายตาเรา  พฤติกรรมดีๆที่น่าจดจำ  ยิ่งทำให้เราเศร้าใจยิ่งนัก   

และทำให้คิดได้ว่า   "คนดี"  จะให้ได้ต่อเมื่อได้เสียชีวิตไปแล้ว

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะคุณสิทธิรักษ์

ขอบคุณที่แวะเวียนมาเยี่ยมค่ะ

เพื่อน...เป็นอีกคนที่เติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตให้เราค่ะ การมีประสบการณ์ร่วมกันทำให้เกิดเป็นความทรงจำค่ะ เป็นความทรงจำดีๆ ซะด้วย แม้เป็นอดีตก็มีความสุข เช่นเดียวกับที่คุณสิทธิรักษ์กล่าวไว้เช่นนั้นจริงๆ

ขอบคุณนะคะ

  • ดีจ้ะ...น้องแอน
  • พี่แวะมาแล้วนะตามสัญญา
  • มาดูรูปใครกอดใครหนอ อิอิ
  • แต่ไง้...ทำไมพี่ยืนแบบนั้นล่ะ...กอดแรงไปหรือป่าวนี่ อิอิ
  • วันหน้าจะมีโอกาสได้กอดกันอีกไหมนี่...จะรอวันนั้น อิอิ
  • Pwithbloger
  • มารับโล่รางวัลครับ
  • ห้ามเบี้ยวนะครับ

หวัดดีค่ะพี่อ้อยP

  • หนูน่ะกอดพี่ซะเต็มแรงเลยแล่ะ......เอาให้หายดีใจที่เจอบล็อกเกอร์คนสวยไงคะ
  • วันหน้า....เจอกันเราก็กอด.....กันเหมือนเดิมค่ะ...สัญญาๆๆ
  • เจอกันอยู่แล้วค่ะพี่....เพราะเราพบหน้ากันแล้ว...เลยมีครั้งต่อไปไงคะ
  • ดูแลตัวเองดีๆ นะคะพี่สาว  ฝากบอกพี่ยาวกะพี่ปรารมภ์ด้วยข้อความเดียวกันนี้ด้วยนะคะ  เป็นห่วงจริงๆ ค่ะ

หวัดดีค่ะท่าน ผ.อ.ประจักษ์P

  • ไม่เบี้ยวเลยค่ะ  พร้อมเข้ารับโล่แล้วนะคะท่าน ผ.อ.
  • สถานที่ Place3 เตรียมพร้อมแล้วค่ะ
  • รับเลยค่ะ  รับเลย...คิคิๆๆ
  • ขอบคุณท่าน ผ.อ. ค่ะ

หวัดดีจ้ะ...น้องแอน

อากาศร้อนมากเลยน้องแอน...แวะมากอดน้องแอนอีกรอบจ้ะ ถ้าเจอกันคราวหน้าก็ต้องกอดกันอีกอยู่แล้ว อิอิ...ดูแลตัวเองด้วยนะจ้ะน้องสาวที่คิดถึง

หวัดดีค่ะพี่อ้อยP

  • อูย.....ที่เทพาก็ร้อนมากๆ เหมือนกันล่ะค่ะพี่อ้อย  ฝนไม่ตกให้หายร้อนเลย 
  • นี่...หนูกะชวนพี่ไปลงทะเลตอนเย็นๆ ซะแล้วสิ  ไปกันมั๊ยคะพี่  เอาให้หายร้อนเลย  ที่เทพาก็ได้นะคะ  สนใจมั๊ยเอ่ย
  • ดูแลตัวเองมากๆ นะคะ  คิดถึงพี่ค่ะ

สวัสดีจ๊ะ น้องแอน คนสวย

  • พี่ปูจำน้องแอนได้ในภาพ ของสาวน้อยตาหวาน นุ่มนิ่ม เรียบร้อย เสมอนะจ๊ะ
  • ดีใจที่เราเดินทางสาย ครู เหมือนกัน และได้อ่านบันทึกของน้องก็ยิ่งประทับใจในวิธีคิด และการใช้ชีวิตของน้องแอนนะจ๊ะ
  • หากมีอะไรที่ พี่ปู พอจะช่วยได้ อย่าเกรงใจนะ
  • และถ้าพี่ได้มีโอกาสไปสงขลา จะไม่ลืมไปเยี่ยมน้องแอนนะ

 

สวัสดีค่ะครูแอน

  • มาเยี่ยมด้วยความคิดถึงค่ะ

 

หวัดดีค่ะพี่ปูP

  • บอกตรงๆ ว่าดีใจเป็นที่สุดที่พี่จำได้
  • พี่ปูขา....สาวน้อยตาหวาน  นุ่มนิ่ม  เรียบร้อย...เริ่มหายไปตั้งแต่น้องไปบรรจุที่โรงเรียนแรกที่นครศรีฯ ล่ะค่ะพี่  ที่นั่นเด็กๆ ร้ายเหลือกำลัง  น้องเลยต้องปรับตัวเลย เค้าอยู่ในท้องถิ่นที่เป็นพื้นที่ที่เป็นสีชมพูน่ะค่ะ( ก่อนแอนไปบรรจุไม่นาน)  เลยทำให้กลายเป็นครู Lioness เพื่อให้ทันๆ กันกับพวกเค้าน่ะค่ะ  แต่สุดท้ายเค้าก็น่ารักมากๆ นะคะ 
  • กลับยิ่งดีใจเข้าไปอีกเมื่อนายขจิตบอกว่าเจอพี่ใน G2K เพราะตอนแรก ในมศว สงขลา  มีกัน  2  คนเอง  ดีใจมากๆ ที่มีพี่เข้ามาอีกคน  ว้า...ทำไมแอนไม่เจอพี่ก่อนหน้านี้นะ
  • มาสงขลาเมื่อไหร่....บอกมานะคะ....จะไปต้อนรับพี่เอกให้หายคิดถึงเลยทีเดียวล่ะค่ะ
  • ขอบคุณนะคะพี่ปู

หวัดดีค่ะครูมิมP

  • เนี่ย....ถ้าครูมิมไม่บอก....ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย คิคิคิ  (อ๊ะ..ล้อเล่น)
  • จริงๆ แล้ว  ครูแอนเป็นกำลังใจให้ครูมิมมาตั้งแต่บันทึกแรกๆ ของครูมิมด้วยนะเนี่ย...
  • เป็นกำลังใจให้ครูมิมต่อไปด้วยล่ะค่ะ...ขอบคุณนะคะ

 

  • โธ่ น้องแอนแสนหวานของพี่ ถูกเด็กแสบแปลงร่างให้เรียบร้อยแล้วเร๋อเนี่ยะ  ฮา...
  • แปลงเป็นครูแอน ที่เอาจริงเอาจังและตั้งใจทำเพื่อเด็กหน่ะซิ่ พี่เห็นภาพนะ

สวัสดีค่ะ..คุณครูแอน

อ.ขจิต แนะนำน้องไก่มานะคะ

อ่านเสร็จแล้วก็รีบโทรหาแม่เลยค่ะ (โทรไปบอกว่าคิดถึงค่ะ)

ตอนนี้น้องไก่ก็มีปัญหากับเพื่อนเหมือนกันค่ะ เค้าไม่เข้าใจ....คิดว่าน้องไก่ไม่มีเวลาให้ โทรไปง้อตั้งหลายครั้งแล้วค่ะ

ขออนุญาตส่งบันทึกนี้ให้เค้าอ่านหน่อยนะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ตามมาอีกรอบพี่แอน บันทึกนี้เศร้าจัง........

หว้ดดีค่ะพี่ปูP

  • "พี่เห็นภาพนะ" พี่ปูเห็นภาพจากหน้าประวัติแอนใช่ม่า  คิคิคิ
  • ขอบคุณที่เป็นพี่เอกที่น่ารักเหมือนเดิมค่ะพี่

หวัดดีค่ะน้องไก่P

  • เรียกพี่แอนก็ได้ค่ะน้องไก่..เดี๋ยวเป็นทางการไปไงคะ
  • พี่เพิ่งกลับมาจากไปอบรมมาน่ะค่ะ
  • เข้ามาเจอน้องไก่  มาเยี่ยมถึงบันทึกพี่....ดีใจนะคะเนี่ย
  • ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทายกันค่ะ
  • ยินดียิ่งขึ้นหากบันทึกแห่งชีวิตของพี่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของน้องและเพื่อนน้องไก่ดีขึ้น
  • ง้อเถอะค่ะน้อง  ก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสที่จะบอกง้อเค้า  เดี๋ยวจะสายเกินเหมือนพวกพี่ๆ ไงคะ
  • พี่เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ...

Pอ้าว....เหรอครับ

      มันจะไม่เศร้าสำหรับผมนะ....หากผมจะบอกเค้าซะในสิ่งที่ผมอยากบอก,อยากทำให้เค้า  ก่อนที่จะไม่มีเค้าให้บอกหรือให้ผมทำสิ่งดีๆ ให้เค้าไงครับผม

  • ทำอะไรครับพี่แอน
  • อิอิๆๆ
  • บ้า ... ลามก
  • อิอิๆๆ

สวัสดีจ๊ะ น้องแอนจ๊ะ

  • พี่ได้รับเมล์แล้วนะ และขอบอก
  • พี่ไปแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
  • ดีใจจัง
  • เดี๋ยวพี่จะเก็บชื่อ+เบอร์โทรพี่ ๆ น้อง ๆ มาให้แอนนะ
  • ดูว่า จำใครได้บ้าง อิอิ
  • ขอบคุณมากค่ะน้องแอน

P  เอ๋า....ทำอะไรเหรอ....คิดมากไปป่าวครับน้อง...

        ก็ไปบอกเค้าไงล่ะ...ใครล่ะที่ผมรัก  แม่ผมงี้ๆ สาวๆ ผมงี้ ผู้ที่ผมรักเค้าไง  ไปบอกเค้าว่าผมแคร์เค้านะ  รักเค้านะ  ทำสิ่งดีๆ ให้ไง  เค้าจะได้ปลื้มผมซะทีน่ะ....คิดอะไรไปไหนน่ะน้อง....

P  พี่ปู....ฟ้องๆๆ  นายขจิตกวนโอ๊ยๆๆมากๆ  ว๊ากซ่อมดีมั๊ยคะพี่  2  ชั้นปีเล่นงานเจ้าน้องจอมกวนทีเดียวกันเลย  รับรองไม่กล้าซ่าส์อีกแน่ๆ เลยพี่ 

        เพื่อนๆ แอนคงไปหลายคนน่ะค่ะ  อยากไปๆๆ  แต่ไปไม่ได้  แงๆๆๆๆ

        ครั้งหลังสุดที่ไปรวมตัวกันตอนงานแต่งเจ้าโดม  เทคโนน่ะค่ะ  มีเกษร  ฝน  เขียว  ถั่วเขียว  นายจอย(จาตุรงค์  สุขเอียด) ธนูเดชด้วยล่ะค่ะ  กุ้ง เทคโน  ส่วนใหญ่เทคโนน่ะค่ะพี่  วันนั้นมี เอกอังกฤษ  2  คน  แอนกะถั่วเขียว  แฮ่ะๆๆ

     ฝากใจไปด้วยคนพร้อมกะพี่นะคะ

ได้เลยจ๊ะ แอน

อ่ะ ระหว่างนี้ฝากปลาทูทอดมาให้กินเป็นข้าวเย็นไปก่อนนะ

หุหุ

 

ได้เลยจ๊ะ แอน

อ่ะ ระหว่างนี้ฝากต้มยำกุ้งมาให้ถ้วยนุง อ่ะ

หุ หุ

 

หวัดดีค่ะพี่ปู

  • ว้าววว.....รู้ได้ไงค่ะ  ....ของโปรด....คิคิคิ...น่ารักจังพี่เรา
  • แต่ไหง.....ไม่เจอปลาทูทอดค่ะพี่....อิอิอิ
  • ขอบคุณค่า....น่าอร่อยเนอะ....
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท