บุญข้าวปุ้น ..โฮมใจไทอาสา มมส.


วัฒนธรรมนิยมที่ต้องจัดขึ้นในเย็นวันก่อนการเดินทางไป “เยี่ยมค่าย

๓๑  สิงหาคม -

  ผมนั่งเคลียร์แฟ้มงานอยู่สำนักงานจวนเจียนจะล่วงเข้า ๒  ทุ่ม  พลันได้ยินเสียงโทรศัพท์จากน้องชมรมอาสาพัฒนาเชิญชวนให้ไปร่วมงาน “บุญข้าวปุ้น”  (งานข้าวปุ้นบุญอาสา)  ที่มีขึ้น ณ  อาคารพลศึกษา


 

อันที่จริงก่อนหน้านี้นิสิตก็มาเรียนเชิญแล้วครั้งหนึ่ง  และผมก็ตั้งใจที่จะไปร่วมเป็นเกียรติให้กับพวกเขา  หากแต่ยังไม่สามารถถีบตัวลุกออกจากเก้าอี้ได้เสียที ยังผลให้น้องนิสิตต้องกดโทรศัพท์ประสานย้ำมาอีกครั้งในทำนองว่า "มาแท่แม้ ..อีโดน บ่ ?"

ผมและทีมงานที่ประกอบด้วยคนในครอบครัว  พร้อมเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่ท่านจึงสัญจรออกไปร่วมงานนั้นตามคำชวนเชิญ



กิจกรรม “งานข้าวปุ้นบุญอาสา”  (แต่ส่วนตัวผมเรียกติดปากว่า “บุญข้าวปุ้น”)   ของชมรมอาสาพัฒนา  ถือเป็นกิจกรรมประเพณีที่จัดขึ้นในทุกปีการศึกษา  ซึ่งเป็นเสมือนกิจกรรมการรับน้องใหม่ของชาวอาสาพัฒนา  ซึ่งนิยมจัดขึ้นหลังวันเปิดโลกกิจกรรมได้สิ้นสุดลง  และที่สำคัญคือ  เป็นวัฒนธรรมนิยมที่ต้องจัดขึ้นในเย็นวันก่อนการเดินทางไป “เยี่ยมค่าย…” 

ผมไม่ใคร่แน่ใจนักว่า “บุญข้าวปุ้น”  เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด  แต่ที่แน่ชัดก็คือ  กิจกรรมนี้จะจัดขึ้นเพื่อรับขวัญน้องใหม่  โดยมี “ข้าวปุ้น”  หรือ “ขนมจีน”  เป็นอาหารหลักที่นำมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันและกัน

และนอกจากนี้แล้ว  บุญข้าวปุ้นยังเป็นกิจกรรมที่เรียบง่าย  ไม่มีรูปแบบซับซ้อน  ตกแต่งเวทีอย่างธรรมดาสามัญ  ที่เห็นได้ชัดในทุกปีก็คือการนำแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์โครงการเยี่ยมค่ายที่จะมีขึ้นในวันรุ่งขึ้นมาเป็นฉากเวที,  ภายในงานนำเชือกมาร้อยเป็นอาณาบริเวณ  ประดับด้วยลูกโป่งหลากสีและภาพถ่ายกิจกรรมร้อยเรียงอยู่ตามเส้นเชือกเหล่านั้น ..     

ขณะที่บางส่วนก็มีอัลบั้มภาพกิจกรรมเก่า ๆ มาวางไว้ให้น้องใหม่ หรือผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมชื่นชมกับสายธารกิจกรรมของชาวอาสาพัฒนา 


บริบทวัฒนธรรมการกินข้าวปุ้นในงานนี้ก็จะปูเสื่อ (สาด)  นั่งล้อมวงรับประทานอย่างเป็นกันเอง  บางปีมีประมวลภาพกิจกรรมมาฉายให้ดู  สลับกับการให้โอวาทจากอาจารย์ที่ปรึกษาชมรม  รวมถึงการให้คำแนะนำจากรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว  

และท้ายที่สุดก็จะเป็นการบอกกล่าวเล่าความถึงโปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางไปเยี่ยมค่ายที่จะมีขึ้นในรุ่งเช้า   ซึ่งปีนี้ต้องกลับไปยังโรงเรียนบ้านคำบอน  อ.เจริญศิลป์  จ.สกลนคร  โดยขั้นตอนนี้ก็เป็นเสมือนการปฐมนิเทศการออกเยี่ยมค่ายนั่นเอง ! 

ในความเรียบง่ายของกิจกรรมนี้  ผมเองก็พยายามเฝ้ามองว่าความเรียบง่ายที่ว่านั้น  แท้ที่จริงคือความเรียบง่ายของการสร้างสรรค์รูปแบบและวิธีการของการจัดกิจกรรม  หรือเป็นความเรียบง่ายที่เกิดจากมายาคติที่อยากให้ “ง่าย ๆ”  แบบ “หลวม ๆ” … ซึ่งหมายถึงการไม่ตกผลึกทางความคิดเท่าที่ควร  นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังเฝ้ามองและสังเคราะห์อยู่อย่างต่อเนื่อง



ระยะหลังผมได้รับเชิญมางานบุญข้าวปุ้นอย่างสม่ำเสมอ  และทุกครั้งที่มาเยือนก็ต้องพูดอะไรกับน้องนิสิตด้วยเช่นกัน  และปีนี้ผมก็สะท้อนความรู้สึกอันเป็นมุมมองส่วนตัวไปสู่นิสิตอยู่หลายประการ  อาทิ    

๑.    งานค่าย ไม่ได้หมายความว่าต้องไปทำเป็น “ค่ายสร้าง” เสมอไป 

๒.      งานค่าย  ไม่จำเป็นต้องใช้เวลายาวนานเป็นสิบ ๆ วัน  แต่ต้องบูรณาการให้เหมาะสมกับรูปแบบและเงื่อนไขด้านการเรียน หรือแม้แต่ชุมชน

๓.      งานค่าย  ไม่จำเป็นต้องรอจัดขึ้นแต่เฉพาะช่วงปิดเทอมเท่านั้น  หากแต่สามารถปรับมาจัดกิจกรรมในวันหยุดแต่ละสัปดาห์ได้  โดยปรับรูปลักษณ์กิจกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่และเวลา  บนพื้นฐานของความต้องการของชุมชน <

๔.      งานค่าย  มีองค์ประกอบสำคัญ คือ  “อาสา”  และ “พัฒนา”   คำสองคำนี้นิสิตต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ในทางความหมาย

๕.      งานค่าย  ควรสอดรับกับวิถีชุมชนและสถานการณ์อันเป็น  ปัจจุบันของสังคม   ไม่ใช่ตอบสนองกิเลสการอยากทำของนิสิตแต่เพียงฝ่ายเดียว ฯลฯ



และสุดท้าย,  ผมก็กล่าวชื่นชมให้กำลังใจแก่ชาวอาสาพัฒนาว่า งานบุญข้าวปุ้นทุกปีมักจะมีรุ่นพี่เก่า ๆ  มาร่วมด้วยอย่างไม่ขาดหาย  และนั่นคือโอกาสอันดีของการใช้งานนี้เป็นเวทีทางความคิดถ่ายทอดประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น

สำหรับผมแล้ว,  บุญข้าวปุ้นถึงแม้จะเป็นงานที่เรียบง่าย สมถะ  แต่ก็มีคุณค่าในทางวัฒนธรรมองค์กรเสมอมา ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมาเพื่อ “กิน” .. หรือมาเพื่อ “รับรู้”  สิ่งใด …หลายคนที่อยู่ในงานบุญข้าวปุ้นอาจไม่ได้ร่วมเดินทางไปเยี่ยมค่ายในเช้าวันรุ่งขึ้น  หลายคนที่ไม่ได้มาร่วมงานบุญข้าวปุ้นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่กำลังดำเนินชีวิตอยู่ในบริบทของการเยี่ยมค่าย

แน่นอนครับ ,  ผมเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาทุกคนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง


หมายเลขบันทึก: 124014เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2007 12:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม 2019 23:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)
  • เห็นกิจกรรมกรรมแล้วหิวมาก
  • โดยเฉพาะเจ้าตัวเล็กทำท่าเชื้อเชิญ
  • คิดถึงตอนเป็นนิสิตแล้วมีความสุข
  • มีอิสระกับการทำกิจกรรมมากกกว่าตอนนี้
  • โอย...อยากกลับไปเป็นนิสิตใหม่

สวัสดีครับคุณ  แผ่นดิน 

  • ได้เห็นกิจกรรมดีๆ ของชาว มมส. อยู่เรื่อยมา ชักอยากลาออกงานไปเรียนที่มหาสารคามเสียแล้วสิ
  • อายุจะเกินหรือเปล่าครับเนี่ย

ขอให้อิ่มเอมและมีความสุขกับกิจกรรมดีๆนะครับ

อ้อ ... ข้าวปุ้น คือ ขนมจีนนี่เอง  แหะๆ ^__^
  • สวัสดีค่ะ อ.แผ่นดิน
  • อิสานบ้านเฮา ทำบุญอะไรก็ต้องมีข้าวปุ้นนะคะ
  • ชีวิตคนอิสาน เรียบง่าย แบบง่ายๆ แต่คงไม่หลวมหรอกค่ะ ภูมิปัญญาคนอิสานบ้านเฮา มีอะไรที่ลึกซึ้งในความเรียบง่ายเสมอค่ะ
  • ว่าแล้วก็จะไปกินข้าวปุ้นก่อนคะ
  • ขอบคุณค่ะ  

สำหรับผมแล้ว, บุญข้าวปุ้นถึงแม้จะเป็นงานที่เรียบง่าย สมถะ แต่ก็มีคุณค่าในทางวัฒนธรรมองค์กรเสมอมา ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมาเพื่อ “กิน” .. หรือมาเพื่อ “รับรู้” สิ่งใด ...

           ใช่ครับ จุดประสงค์ของงานมีอยู่ เพียงแต่ใครจะสามารถรับรู้ นำเอาแก่นสารส่วนที่ดีๆ ไปใช้เท่านั้น

            การกินเป็นเปลือกนอก

ชอบคนตัวเล็กๆที่หัวโล้นๆครับ

ท่าทางอร่อยและสนุกจริงๆ

สวัสดีคะอาจารย์แผ่นดิน ชื่นชมทุกครั้งที่เข้าอ่านบันทึกของกิจกรรมนิสิตฯ  ไม่ได้ฝากอะไรไว้แต่มาอ่านและชื่นชมนะค่ะ รักษาสุขภาพดีๆนะค่ะ

ป้าหมูฝากความรักความคิดถึงถึงคนของความรักด้วยคะ 

 

 บทสนทนาของแผ่นดิน (ตัวจริง)&แดนไท   ขณะกิน วุ้นโดเรมอน 

        แผ่นดิน : แดนอย่ากินคักกินแหน่หลาย 

        แดนไท : โดเรมอนมันตายแล้ว  เดี๋ยวสวดมนต์ให้  กินหลายปานได๋กะได้

       คนฟัง    :  สุ้ดหยอดดดดด

สวัสดีครับ  อ.ขจิต

P

เขียนเรื่องค่ายครั้งใด   แน่นอนเลยว่า อ.ขจิตจะต้องมาปรากฏการณ์จับจองพื้นที่เป็นอันดับต้น ๆ

และเห็นบ่นถี่ครั้งแล้วนะว่าอยากกลับไปเป็นนักศึกษา ..

บุญข้าวปุ้นของชาวอาสา... ไม่ถึงกับสนุก แต่ก็อิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า  และเป็นโอกาสอันดีที่น้องได้พบเจอกับรุ่นี่รุ่นต่าง ๆ  งานปีนี่, ประธานคนแรกก็มาร่วมงานด้วย

....

มีความสุขมาก ๆ นะครับ

 

สวัสดีค่ะ...คุณพนัส

  • แหววเคยได้ยินคำว่า ข้าวปุ้น แต่พึ่งเห็นและรู้ว่า คือขนมจีนก็วันนี้เองค่ะ
  • ไปงานทุกที่ด้วยหัวใจ KM จริงๆเลย..น่านับถือค่ะ..

คิดถึง น่ากอด และน่าชัง ก็เจ้าตัวเล็กที่อ้าปากหว๋อสองภาพข้างบนครับ :)

พี่แผ่นดิน

  • เห็นในบันทึกบอกว่าจะไปสกลนคร
  • ออตเพิ่งกลับมาครับ งามมากๆ
  • แต่เห็นข้าวปุ้นแล้วเกิดอาการหิวครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์พนัส

     ตามเนียมเก่าแก่จริงของบุญข้าวปุ้นนั้น ชาวบ้านจะต้องลงแรงลงใจกันตั้งแต่แช่ข้าว ตำข้าว นวดแป้ง บีบข้าวปุ้น ทำน้ำยา แบบสามัคคีกันทั้งวันจริง ๆ แรงงานจะเป็นหนุ่มสาว คนแก่จะรอชมและรอชิม พร้อมทั้งร่ายกลอนลำและสรภัญสอนลูกหลาน

แต่ปัจจุบันหาแทบไม่มีแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นแบบจำลองซะมากกว่า เลยไม่ค่อยซึ้ง ถ้าทำได้อย่างในอดีตก็คงดีค่ะ

  • สวัสดีครับพี่แผ่นดิน
  • ช่วยน้อง ๆ ผมทีนะครับพี่
  • อยากให้พี่แยกร่างได้จังเลยครับ
  • http://gotoknow.org/blog/day4dream0001/122209

สวัสดีค่ะ

เพิ่งทราบเรื่องงานข้าวปุ้นที่นี่ค่ะ แต่เจ้าตัวเล็กน่ารักๆค่ะ

สวัสดีครับ  พี่สมนึก

P
  • ตอนนี้ก็เรียนมหาวิทยาลัยใน G2K อยู่แล้วนี่ครับ
  • มาเถอะครับ, มาเรียนที่มหาสารคาม  รับรองไม่อยากกลับบ้านเป็นแน่..
  • ที่นี่กิจกรรมเยอะจริง ๆ ครับ...
  • มีทุกวัน  และวันละหลาย ๆ กิจกรรม
  • ผมเลยจัดตารางจราจรชีวิตตนเองจนเหนื่อย
  • ขอบคุณครับ -

เคยไปทางภาคอีสาน ข้าวปุ้น ไม่เหมือน ขนมเส้น ทางภาคเหนือ ลักษณะเส้นแตกต่างกันเล็กน้อย

แต่ก็รสชาดดี ว่าง ๆ ไปทางเหนือ ลองชิมขนมเส้นน้ำเงี้ยว ดูซิครับ

รสชาดเหมือนกันไหมหนอ

ทางเหนือ เปรียบไว้ว่า ขนมเส้นเหมือนสายใยผูกพัน ที่จะทำให้มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน ไม่ว่าในเรื่องอะไรก็ตาม ดังนั้น งานมงคล จึงมักจะเลี้ยงขนมเส้น น้ำเงี้ยวเป็นประจำ

ทางภาคอีสาน เป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ อาจารย์

รักษาสุขภาพ

สุข สงบ เย็น

rainalone

สวัสดีครับ

P

ข้าวปุ้น และขนมจีน เป็นสิ่งเดียวกัน ...

ที่จังหวัดร้อยเอ็ด  เมื่อถึงบุญเดือนสี่ (บุญผะเหวด) ขนมจีนก็กลายเป็นวัฒนธรรมอันสำคัญของงานบุญใน "ฮีต"  นี้ ครับ !

สวัสดีครับ ป้าแดง

P

ผมมีความทรงจำที่ดีงามและแน่นเหนียวกับขนมจีนมาอย่างยาวนาน  นั่นคือ  บุญเดือนสี่ หรือบุญผะเหวด  ซึ่งมีขนมจีนเป็นอาหารวัฒนธรรมที่เด่นชัด

สมัยก่อนในหมู่บ้านเลิกทำขนมจีนเอง  ชาวบ้านจึงต้องตื่นตั้งแต่ตี 3  เพื่อเข้าไปในเมืองจัดซื้อขนมจีนมาไว้ในแต่ละครัวเรือน

และตลอดบุญผะเหวด  ผมก็อิ่มหนำสำราญกับการทานขนมจีนที่โรยด้วยผักนานาชนิด ... อร่อยมากครับ

  • ฝากบอกเจ้าตัวเล็กด้วย
  • ว่า...ทานข้าวปุ้นเอร็ดอร่อยขนาดนั้น
  • ระวัง! จะเหมือนคุณพ่อนะคะ

สวัสดีครับ  ลุงวอ

P

จริงดังที่ลุงวอกล่าวไว้นั่นแหละครับ  การกินเป็นเปลือกนอก

และผมก็เชื่อว่า  วัฒนธรรมนี้จะคงอยู่อีกยาวนาน...

ล่าสุดเมื่อวานถามน้องชมรมอาสาพัฒนาทราบว่ามีคนไปร่วมเยี่ยมค่ายมากถึง 90 กว่าคน ...

ผมปลื้มใจร่วมกับพวกเขา ...

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ

P

สำหรับเจ้าจุกของผมนั้น...

การันตีได้เลยครับ เรื่องกินเรื่องใหญ่มาก ...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ  พี่หมู

P
MOO
ขอบคุณนะครับสำหรับการมาทักทาย .. และความคิดถึงทั้งปวงก็ส่งผ่านไปถึงคนของความรักอย่างครบถ้วนแล้ว
รักษาสุขภาพมาก ๆ นะครับ
และขอให้มีความสุขกับโลกแห่งชีวิตและการงาน, เสมอไป
โชคดีครับ -

สวัสดีครับ  พี่องุ่น (คนสวย)

P

ล่าสุดน้องดินเปรยว่า "เจ้าจุกเฮ็ดให้ดินเรียนพิเศษ บ่ ทันหมู่"  ผมก็ถามกลับไปว่าเพราะอะไรล่ะ

"น้องแดน บ่ ยอมขึ้นมาเรียนพิเศษ  มีแต่เล่นกับหมู่  ดินเลยต้องนำไปตามอยู่ทุกเทือ..."

นั่นแหละครับ คือ สาเหตุที่พี่ชายเรียนไม่ทันเพื่อน  เพราะมัวแต่ไปตามน้องชายมาเข้าชั้นเรียน  ส่วนผู้น้องก็ไม่สนใจ  "เอาแต่จะเล่นสถานเดียว...."

 

สวัสดีครับ  คุณแหวว

P
  • การไปเยี่ยมนิสิตในแต่ละครั้ง
  • ผมจำต้องสังเกตกระบวนการจัดการเรื่องกิจกรรมของนิสิตเสมอ
  • จากนั้นค่อยหาเวลามานั่งคุยกัน ...
  • แบะที่สำคัญในช่วงที่ไปร่วมงานนั้น  เราก็จะแทรกตัวอย่างเป็นกันเอง  ไม่เน้นพิธีรีตอง
  • โดยปกติ  คนค่าย มักถนักในการลงงานภาคสนาม แต่บางที พอถึงขั้นตอนพิธีการก็ดูจะขาด ๆ เขิน ๆ อยู่บ่อยครั้ง
  • ผมอยากให้นิสิตเข้าในใจเรื่องเหล่านี้  แต่ไม่จำเป็นต้องสร้างงานให้เป็น หรือติดยึดกับความเป็น "พิธีการ"  เสมอไป
  • และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ...
  • การสะท้อนให้เขาได้สังเคราะห์กระบวนงานของตนเอง  เพื่อส่งต่อ หรือต่อยอดไปในแนวทางที่ดีและเป็นรูปธรรมต่อ ๆ กันไป
  • ....
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณเอก

P

ถ้าเป็นไปได้ .. งานเฮฮาศาสตร์ที่จะถึงนี้ จะพกพาเจ้าตัวเล็กไปให้กอดนะครับ   ส่วนจะกอดได้หรือไม่  อันนี้คุณเอก หรือลุงเอกของพวกเขา  ต้องงัดกลยุทธ์ขึ้นมาเองก็แล้วกัน .. !

แล้วเจอกัน ครับ

สวัสดีครับ คุณออต

P
  • น้อง ๆ ชมรมอาสาพัฒนาไปเยี่ยมค่าย ...
  • สอบถามล่าสุดมีคนไปร่วมเยอะมาก  และเยอะกว่าปีที่แล้ว
  • กิจกรรมก้ไม่มีอะไรมาก
  • กลับไปเยี่ยมพ่อฮักแม่ฮัก
  • ไปประเมินผลงานที่สร่างไว้ว่ามีการใช้ประโยชน์ หรือแม้แต่ดูแลอะไรบ้าง
  • ขณะเดียวกันก็มีกิจกรรมอื่น ๆ เสริมเข้ามาบ้าง  เช่น กีฬา, พัฒนาโรงเรียน, มอบสิ่งของต่าง ๆ
  • คราวนี้...ไปกลับ ไม่ค้างคืน... กิจกรรมจึงไม่มีอะไรมาก
  • แต่อย่างน้อยก็คงกระตุ้นให้น้องใหม่หันเหมาสนใจกิจกรรม "ค่าย"  กันได้บ้างไม่มากก็น้อยกระมังครับ
  • ....
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ

P

     ตามเนียมเก่าแก่จริงของบุญข้าวปุ้นนั้น ชาวบ้านจะต้องลงแรงลงใจกันตั้งแต่แช่ข้าว ตำข้าว นวดแป้ง บีบข้าวปุ้น ทำน้ำยา แบบสามัคคีกันทั้งวันจริง ๆ แรงงานจะเป็นหนุ่มสาว คนแก่จะรอชมและรอชิม พร้อมทั้งร่ายกลอนลำและสรภัญสอนลูกหลาน

 .....

ผมชอบคำบอกเล่าข้างต้นมาก เพราะสะท้อนภาพวัฒนธรรมในแบบวิถีไทได้อย่างชัดเจน  เห็นความสัมพันธ์ของคนในชุมชนในบรรยากาศและบริบทของ "งานบุญ"  ที่หลากหลายด้วยคนหลายวันซึ่งก้าวมาอยู่ในวัฒนธรรมเดียวกัน

เราต่างโหยหาอดีตกันทั้งนั้น   และนั่นอาจกำลังบอกกับเราว่า  ความสุขบางอย่างหล่นหายไปจากชีวิตและสังคม  กระนั้น,  เราเองก็ไม่สามารถทานทัดต่อห้วงแห่งการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยได้เลย  เพียงแต่ทำอย่างไรเล่าเราถึงจะรับรู้และมีความทรงจำที่แจ่มชัดในเรื่องเก่า ๆ

การมีความทรงจำที่แจ่มชัดในเรื่องเก่า ๆ ไม่ได้หมายความว่าเราต้องจมปลักอยู่กับมันจนไม่สามารถอยู่กับ "ปัจจุบัน"   ได้  หากแต่หมายถึงการรับรู้ตัวตน - รากเหง้า หรือแม้แต่สายธารแห่งวัฒนธรรมของเราเอง

ผมเชื่อเช่นนั้นนะครับ

และขอบพระคุณที่นำพาวิถีเก่า ๆ มาสะกิดเตือนให้หวนรำลึกอย่างมีความสุข

.....

ขอบพระคุณครับ

 

สวัสดีครับ น้องสายลม

P
  • ช่วยน้อง ๆ ผมทีนะครับพี่
  • อยากให้พี่แยกร่างได้จังเลยครับ
  • ....
  • พูดซะน่าตกใจ
  • น้อง ๆ โชคดีมากครับที่มีพี่ที่ดีอย่างน้องสายลมคอยดูแลและเป็นกำลังใจอย่างสม่ำเสมอ
  • คนทำดีเพื่อคนอื่น  ไม่สมควรที่จะปล่อยให้เขาเดียวดาย
  • เหตุการณ์เช่นนี้พี่ก้เคยกระทำมาแล้วด้วยการกระโจนลงไปช่วยกลุ่ม "มหกรรมคนอาสา"   เพราะเรารู้สึกว่า  จะให้ยืนดูคนทำดีกำลังสิ้นลมได้อย่างไร
  • ....
  • ส่งกำลังใจไปถึงแล้วนะครับ
  • ว่าง ๆ ชวนน้อง ๆ เหล่านั้นทำค่ายร่วมกับชาว มมส  เลยดีมั๊ย

สวัสดีครับ พี่ศศินันท์

P

ตกลงเป็นที่ทราบร่วมกันแล้วนะครับว่า  ข้าวปุ้น - กับขนมจีนเป็นชนิดเดียวกัน

ส่วนเจ้าจุกวันนั้น .. ทานขนมจีนกับน้ำปลาไปหลายจานเลยทีเดียว

จะว่าไปแล้ว  ลูกชายทั้งสองคนก็ชอบทานขนมจีนกับน้ำปลามาก ...  อยู่บ้านปู่กับย่าก็ทานเช่นนี้มาตลอด

คืนนั้นทานเสร็จก็งอแงให้พี่นิสิตพาไปดู "หนังกลางแปลง"  ในมหาวิทยาลัย  ทำเอาใครต่อใครหัวปั่นไปตาม ๆ  กัน

...

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ thassana wong /// อีสานก็น่าจะมีคตินิยมเช่นเดียวกับชาวเหนือนะครับ /// เส้นขนมจีน ก็เป็นประหนึ่งเส้นสายใยมิตรภาพอันนุ่มละมุนของผู้คน /// ขนมจีน หรือ "ขนมเส้น" หรือแม้แต่ "ข้าวปุ้น" จึงเป็นอาหารที่ปรากฏในงานมงคลเสมอ /// แต่ทุกวันนี้ วิถีสังคมเปลี่ยนแปลงไป ขนมจีนปรากฏอยู่ในงานต่าง ๆ ทั้งมงคลและไม่มงคล../// ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ อ.ลูกหว้า ../// เจ้าจุกของผมเป็นคนชอบทานขนมจีนมาก คืนนั้นแกทานกับน้ำปลาซะเค็มเลย /// ให้แกทานเยอะ ๆ เถอะครับ ต่อให้อ้วนเป็นตุ่มก็น่ารักเสมอแหละครับ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท