เรื่องนี้ สำหรับบางคน อาจดูไกลตัว แต่ดิฉันว่า อย่าประมาท ดีที่สุด บางคนอาจถูกเกษียณก่อนกำหนดโดยไม่ทันตั้งตัวก็ได้ เพราะมันจะส่งผลลบอย่างรุนแรงมาก กับปัญหาการเงินและการนับถือตัวเองของเรา ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ
ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 น่ะ ล้าสมัยแล้ว ไม่มีใครรู้ลิขิตแห่งฟ้า วันนี้ยังไม่สายที่เราจะวางแผนการออม ลองวางแผนไปด้วยกันไหมคะ อย่าเครียดค่ะ เรื่องการเงินสำคัญและจำเป็นสำหรับชีวิตมากที่สุดอย่างหนึ่งค่ะ เราควรวางแผนชีวิตไว้ตั้งแต่อายุเท่าใด จึงจะอยู่อย่างสบายพอสมควรเมื่อเราอายุ 60 ปี
คำตอบสำหรับผู้มีความรอบคอบสูงคือ ตั้งแต่เมื่ออายุได้ 20 ปีเศษถึง 30 ปี คือเมื่อจบการศึกษาเลย ไม่ใช่มาวางแผนเมื่อ อีก 5 ปี จะเกษียณ ก็ไม่ทันการแล้วค่ะ มีอีกหลายคนมากที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย คิดแต่จะใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยงเมื่อตอนทำมาหาคล่อง และหวังว่าลูกๆหลานๆ คงจะเลี้ยงเราได้ตอนแก่
ตอนนี้ ศตวรรษที่ 21นี้ ไม่ง่ายแล้วค่ะ การเปลี่ยนแปลงมีมากจนเราตามไม่ทัน เศรษฐกิจเดี๋ยวดี เดี๋ยวไม่ดี เร็วๆนี้ 4 มิ.ย. 50 มีการประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีแนวโน้มขยายตัวไม่เกิน4-4.5% ลดลงจากประมาณการเดิม 4-5% สถานการณ์การขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาภาคใต้ ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้สถานการณ์อาจพลิกผันได้เสมอ
ทางภาคธุรกิจเอง เพื่อความอยู่รอด สิ่งที่ง่ายที่สุดคือ การลดพนักงานลง ส่วนรัฐวิสาหกิจ อาจพยายามให้มีการ early retirement plan ตามความจำเป็น
เป็นเรื่องน่าเครียดที่จะนึกถึงค่ะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะคะ ในช่วงชีวิตที่ทำงานอยู่ อาจต้องเผชิญวิกฤติทางการเงินอย่างกระทันหันขึ้นมาก็ได้ และถ้าเราไม่มีเงินออมเพียงพอล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น พอจะนึกภาพออกไหมคะ
แล้วเราควรจะเริ่มต้นกันที่ตรงไหนดี ดิฉันขอนำcaseส่วนตัวมาเล่า เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ท่านใดได้บ้างค่ะ เรื่องนี้ เป็นการวาดภาพล่วงหน้าค่ะ
1. ประเมินตัวเองว่า น่าจะมีอายุยืนสักเท่าใด โดยดูจากคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อเสียเมื่ออายุ 87ปี และดิฉันมั่นใจว่ามีพันธุกรรมจากคุณพ่อแน่นอน (ขอข้ามรายละเอียดไปนะคะ)รวมทั้งlife styleที่ค่อนข้างดูแลตัวเองได้ดีระดับหนึ่ง ในการนี้ ต้องบวกเวลาเพิ่มไว้อีก 5 ปี เป็น 92 ปี ( เพราะเราต้องเผื่อเงินเฟ้อที่อยู่ในอัตรา3-5 %ต่อปี แค่นี้ คำนวณแล้ว อาจต้องนั่งงงๆไปพักหนึ่ง ลองเข้าไปดูที่ www.livingto100.com แนวโน้มต่อไปคนเราจะมีอายุยืนยาวถึง 90 ปีโดยเฉลี่ยทีเดียวค่ะ
2. พยายามไม่สร้างหนี้สินใดๆทั้งสิ้น หรือล้างหนี้ให้หมดก่อนเกษียณ โดยความเป็นจริง ดิฉันเป็นคนโบราณเรื่องนี้ ไม่ค่อยมีเจ้าหนี้
แม้แต่การทำธุรกิจ เมื่อได้จังหวะกิจการอยู่ในระยะ peak นานพอควร นำหุ้นเข้าตลาดหลัทรัพย์แล้ว และทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เข้าระบบดีแล้วดิฉันจะขายหุ้นบางส่วนออก ให้ได้กำไรเป็นที่พอใจ คุ้มกับความเหนื่อยอย่างมากมาตลอดหลายปี ไม่เคยมีความคิดว่า จะต้องทำธุรกิจอะไรไปไม่มีวันจบ เพราะทุกอย่างในโลกมีวงจรชีวิตของตัวเอง มี sun rise /sun shine/sun set จริงๆธุรกิจยังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ณ ปัจจุบันนี้ แต่เราก็อิ่มตัวเสียเอง บุกเบิกมาตั้งแต่เป็นวุ้น ตั้งแต่ไปซื้อที่มาทำโรงงาน พอรุ่งมากๆ เราขายหุ้นบางส่วนออก จะได้capital gain ตรงนี้ดี จะส่งต่อให้ลูกๆก็ไม่สนใจ เขาชอบทำงานแบบอื่นมากว่า
3. สมมุติปัจจุบันอายุ 30 ปี เงินเดือน 20,000.00และมีการขึ้นเงินเดือน 3%/ปีทุกปี เราจะรู้ว่า ตอนเกษียนจะมีเงินเท่าใด
4. ตอนเกษียณจริงๆต้อง ปรับระดับlife styleของตนเองลงมาให้เหมาะสม พอดีกับเงินที่สะสมเอาไว้ เพราะ เราอาจมีเงินใช้ต่อเดือน แค่ 70%-80% ของเงินเดือนล่าสุดที่เคยได้ อาจมีมากกว่านี้ แต่ต้องคิดมีน้อยๆไว้ก่อนเพื่อความไม่ประมาท ตอนนี้ภาษีเงินได้ ไม่ต้องจ่าย ประหยัดไปอีกหน่อย
5. ช่วงนี้ ควรถอนเงินออม มาใช้ได้ ไม่เกิน 5%/ปี ของเงินออม
6. ถ้าทำธุรกิจส่วนตัวเบาๆได้ ก็ต้องทำ อย่าอยู่เฉยๆ เพราะเงินออมจะหมดเร็วมาก ตัวดิฉันเองทำธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ไม่มีเวลาว่าง ซึ่งเป็นความเคยชินและความสุข เพื่อนๆอาจารย์มีหลายคน แต่ละคน วางแผน รับทำงานวิจัย หรือรับสอนตามมหาวิทยาลัยเอกชน
ส่วนคนที่ทำงานราชการอื่นๆ ก็พยายามขอเกษียณ 65 ปีเข้าไว้ ยืดไปอีกหน่อย แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสำเร็จ มีเพื่อนเป็นนายทหารหญิงหลายคน เขาได้ยศนายพลหญิงกันทุกคน แต่มีข้อแม้ ว่าต้องเกษียณเมื่ออายุ 59 ปี เด็กรุ่นน้องมาดันหลังอยู่แล้ว
7. บางท่าน อาจจะมีเงินบำนาญใช้สม่ำเสมอ ไม่ต้องถอนเงินออม ตอนนี้ จะรู้สึกปลอดภัยไร้กังวล มีความสุขพอควรค่ะ แต่จริงๆ ยังไม่สุขแท้จริงค่ะ
เพราะ ยังมีปัญหาด้านสุขภาพ และปัญหาบุพการีที่เรายังต้องรับผิดชอบ ซึ่งเพื่อความไม่ประมาท ต้องมีประกันสุขภาพทุกคนด้วยค่ะ ที่บริษัทของดิฉัน เราประกันสังคมให้พนักงานทุกคน ถ้าคนใดออกไป ดิฉันรีบให้เขาไปประกันตัวเองภายใน 6 เดือน แม้กระทั่งแม่บ้านหรือคนขับรถ ก็ให้ประกันตัวเอง โดยดิฉันออกเงินให้ ทุกคนต้องมีหลักประกันในชีวิตค่ะ
ตัวดิฉันเอง มีหลักประกันตรงนี้แล้ว แต่ลูกก็ยังห่วง ไปทำประกันสุขภาพเพิ่มให้แม่อีกส่วนหนึ่ง เลยตอนนี้ มีหลายหลักประกันหน่อย พออุ่นใจ
เรื่องนี้ สำหรับบางคน อาจดูไกลตัว แต่ดิฉันว่า อย่าประมาท ดีที่สุด บางคนอาจถูกเกษียณก่อนกำหนดโดยไม่ทันตั้งตัวก็ได้
เพราะมันจะส่งผลลบอย่างรุนแรงมาก กับปัญหาการเงินและการนับถือตัวเองของเรา ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ
สวัสดึต่ะ
ดิฉันกำลังจะลาออกจากงาน ว่าจะเปิดร้านขายของที่บ้าน ตอนนี้ กังวลใจอยู่นิดหน่อยว่า เงินออมที่มีอยู่จะหมดเร็ว
เห็นพูดประเด็นนี้ขึ้นมา เลยอยากคุยให้ฟัง และขอความเห็นค่ะ