ผมลังเลอยู่นานกว่าจะหันหลังกลับมาคัดลอกงานเขียนที่ปรากฏในหนังสือทำมือของชมรมวรรณศิลป์ทั้ง 2 เล่ม เพราะเดี๋ยวบันทึกต่อไปก็จะเขียนถึงกลุ่มวรรณกรรมป่งใบที่ถือเป็นกลุ่มแรกที่สร้างประวัติศาสตร์หนังสือทำมือใน มมส ได้อย่างน่าทึ่ง ..เป็นหนังสือทำมือที่ทำด้วยมือขนานแท้ ไม่ว่าจะเป็นเขียนด้วยมือ ตัดแปะด้วยมือ ถ่ายเอกสารด้วยมือ เย็บเล่มก็ด้วยมือเช่นกัน ที่สำคัญคือ... คนที่ทำก็คือกลุ่มคนวรรณกรรมนั้น ๆ โดยตรง ไม่มีการจ้างวานเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
ผมเลือกบทกวีบางตอนที่ปรากฏในหนังสือทำมือมาให้ท่านได้อ่าน เพราะผมไม่อยากให้ท่านผ่านล่วงไปโดยไม่ได้เสพสัมผัสถ้อยคำเหล่านี้ เพราะเมื่อเข้าสู่กลุ่มวรรณกรรมอื่น ๆ อาจมองเห็นความแตกต่างและพัฒนาการด้านการเขียนของแต่ละกลุ่ม แต่ละวัยได้บ้าง
ผมเปิดบันทึกนี้ด้วยบทกวีชื่อ “เขาใหญ่” ของอาจารย์ธัญญา สังขพันธานนท์ (ไพฑูรย์ ธัญญา) ที่เขียนไว้ในหนังสือวรรณกรรมสัญจร (ตอนไปเขาใหญ่) ระหว่างวันที่ 7 – 9 กุมภาพันธ์ 2546
เขาอยู่ เขาใหญ่ ใครก็รู้
ใครใหญ่ ใครอยู่รู้ร้อนหนาว
สร้างชีวิต สืบสานตำนานดาว
สร้างเรื่อง เป็นเรื่องเล่าแห่งพงไพร
เขาใหญ่ เขาเหยียด ขึ้นเสียดฟ้า
หลั่งน้ำ เทมาเป็นธารไหล
พุ่มพฤกษ์ซึมซับได้สร้างใบ
ส่ำสัตว์น้อยใหญ่ได้อยู่กิน
เขาใหญ่ เขาอยู่ รู้ไหมเล่า
เราใคร จึงกล้าก้าวมาเยือนถิ่น
รอยเท้าใครทิ้งบนลานดิน
มือใดกระซากสิ้นมวลพืชพันธุ์
เขาใหญ่ ใครใหญ่ ให้รู้บ้าง
เรา-เขา แตกต่าง ณ ความฝัน
แผ่นดินผืนนี้ของใครกัน
เขา-เรา แท้นั้น ใครยิ่งยง ?
และปิดบันทึกด้วยลำนำ “ฤดูกาลที่..ที่จากไป” ของราตรี กานต์ อันเป็นผลงานของนิสิตที่ร่วมวงไพบูลย์ในวรรณกรรมสัญจร ครั้งที่ 7 ตอนเพลงภูพาน..
ฝนทิ้งเม็ดสุดท้ายลง
ฤดูกาลที่รัก...เป็นอดีตไป
วันเก่า ๆ ผ่านไป..
การเดินทางของเธอ
เส้นทางของฉัน
ดอกหญ้าสีม่วงดอกสุดท้ายร่วงลง
ลมหนาวที่หงอยเหงาจากไป
เราต่างเดินทางไกล
ตอซังข้าวตอสุดท้ายเน่าสลาย
ระยิบแดดฤดูร้อน
ถูกขับไล่ด้วยเมฆฝน
วันพรุ่งนี้มาถึงเสมอ
เราต่างต้องดินทางไกล...
มาเยี่ยม...
ขอชื่นชมมุมคิดนี้ เก็บสิ่งดี ๆไว้เชยชมทำอารมณ์สุขสบายนะครับ
ผมเห็นหนังสือทำนองนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแล้วเห็นกลุ่มนักเขียนรวมตัวมาปรากฎกายในวันหนังสือจัดที่ มอ. หาดใหญ่ ผมยืนนิ่งอ่านอยู่สักพักด้วยความชื่นชม...ครับ
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
อาจารย์ปวีณา
|
อาจารย์ ขจิต
|
สวัสดีครับอาจารย์