หน้าแรก
สมาชิก
ครูอ้อย แซ่เฮ
สมุด
การสอนภาษาอังกฤษร...
การประเมินทักษะทา...
ครูอ้อย แซ่เฮ
สิริพร กุ่ยกระโทก
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การประเมินทักษะทางภาษา (8)
แนวคิดและความสำคัญของการประเมินทางภาษา ในการจัดการเรียนการสอนภาษาตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร
กรอบแนวคิดในการทดสอบสมรรถภาพในการสื่อสาร (Communication Competence)
มีประเด็นที่เป็นกรอบแนวคิด ในการทดสอบสมรรถภาพในการสื่อสารที่ครูผู้สอนควรรู้ และควรทำความเข้าใจหลายเรื่อง
ประเด็นต่างๆได้แก่ การทดสอบสมรรถภาพในการสื่อสาร ซึ่งท่านสนใจและอ่านได้ในบันทึกนี้ค่ะ
การประเมินทักษะทางภาษา (7)
บันทึกที่ผ่านมา ครูอ้อยได้กล่าวถึง ลักษณะการทดสอบที่ใช้ในการประเมินตามสภาพจริง ต้องประเมินการสื่อสารในชีวิตจริง โดยจะต้องมีภาระงานเหมือนในชีวิตจริง ซึ่งแบบทดสอบทางภาษาแบบเก่า ไม่สามารถนำเอาลักษณะต่างๆของการสื่อสารในชีวิตจริงมาเป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบได้
ครูอ้อยศึกษามาว่า จะต้องทำรายการบ่งชี้ถึงการประเมินตามสภาพจริงของทักษะทางภาษาของนักเรียน ในรูปแบบของภาระงานที่มีลักษณะ 7 ประการ ดังนี้
1. ลักษณะเป็นภาระงานที่ยึดการมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นหลัก (Interaction - Based)
2. ลักษณะภาระงานที่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ( Unpredictability)
3. ภาระงานต้องมีบริบท (Context)
4. จุดมุ่งหมาย (Purpose)
5. การปฏิบัติจริง (Performance)
6. ความเป็นจริงแท้ (Authenticity)
7. การยึดพฤติกรรมที่คาดหวังเป็นหลัก (Behavior-Based)
พอมาถึงบันทึกนี้ ครุอ้อยจะแทรกรายละเอียดเพิ่มเติมให้เข้าใจยิ่งขึ้น มาทำความเข้าใจไปพร้อมๆกันกับครูอ้อยเลยค่ะ
1. ลักษณะเป็นภาระงานที่ยึดการมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นหลัก (Interaction - Based)
เป็นภาระงานที่ต้องคำนึงถึง ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ส่งสารและผู้รับสาร แม้แต่ภาระงานอย่างการเขียนจดหมาย ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นกิจรรมที่โดดเดี่ยว แต่ผู้เขียนต้องคำนึงถึง ความคาดหวังของผู้รับจดหมาย ในขณะที่เขียน และความคาดหวังเหล่านี้ จะมีผลต่อเนื้อหาในจดหมาย และวิธีการแสดงออกถึงสิ่งที่ต้องการสื่อไปถึงผู้รับ หรือในการสัมภาษณ์นักท่องเที่ยว ผู้สัมภาษณ์ก็ต้องคำนึงถึง ความคาดหวังของนักท่องเที่ยว ในขณะที่เตรียมคำถาม ซึ่งจะมีผลต่อรูปแบบภาษาที่ใช้ในการสัมภาษณ์ และต้องสัมพันธ์กับหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
2. ลักษณะภาระงานที่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ( Unpredictability)
เป็นภาระงานที่ต้องคำนึงถึงผลที่จะได้รับเหมือนการสนทนาในชีวิตจริง ที่ไม่อาจทำนายได้ว่า ผู้ตอบจะตอบได้อย่างไร ควรมีการจำกัดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้ภาษาต้องคิดหาวิธีการจัดการกับข้อมูลโดยเร็ว และคิดวิเคราะห์หาคำตอบที่เหมาะสมเหมือนในสภาพชีวิตจริง
3. ภาระงานต้องมีบริบท (Context)
ควรมีการกำหนดบริบท หรือสถานการณ์ที่จะต้องใช้ภาษา เพราะรูปแบบของภาษาที่ใช้ตามโอกาสต่างๆ จะแปรเปลี่ยนไปตามบทบาท สถานภาพและระดับความเป็นพิธีการ การทดสอบการสื่อสารจึงควรคำนึงถึง ภาษาที่เหมาะสม และวิธีการที่ใช้ภาษาตามสถานการณ์
4. จุดมุ่งหมาย (Purpose)
องค์ประกอบหนึ่งที่เห็นได้ชัดของการสื่อสาร คือ ทุกข้อความที่สื่อออกไป ต้องมีจุดหมาย ต้องมีเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น ในการทดสอบการสื่อสารใดๆก็ตาม ควรวัดความสามารถของนักเรียน จดจำและเลือกใช้ภาษาตามหน้าที่ทางภาษาของข้อความที่สื่อออกไปนั้นได้
5. การปฏิบัติจริง (Performance)
การทดสอบทางภาษาเกี่ยวข้องอย่างมากกับสมรรถภาพภายในตน (Competence) จึงต้องคำนึงถึงเงื่อนไขต่างๆ ที่ไม่สัมพันธ์กันทางด้ายไวยากรณ์ เช่น ข้อจำกัดด้านความจำ สิ่งที่หันเหความสนใจต่างๆ การบ่ายเบนความสนใจ และความตั้งใจ ข้อผิดพลาดต่างๆ เงื่อนไขเหล่านั้น ต้องมีอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้น ในสถานการณ์การใช้ภาษาแต่ละสถานการณ์ นักเรียนต้องสร้างยุทธศาสตร์ของตนขึ้นมา เพื่อที่จะจัดการกับเงื่อนไขเหล่านั้น ซึ่งเป็นการแสดงออก ถึงความรู้ความสามารถ หรือสมรรถภาพภายใน ตัวอย่างเช่น การใช้ข้อความเทียบเคียง (Paraphrase) เมื่อไม่สามารถนึกหาคำอธิบายโดยตรงได้
6. ความเป็นจริงแท้ (Authenticity)
ภาษาที่ใช้ในการทดสอบคววรเป็นภาษาที่ใช้อยู่จริงและเป็นธรรมชาติเท่าที่จะเป็นได้ ภาษาไม่ควรถูกปรับเปลี่ยนให้ง่ายขึ้น โดยคำนึงถึงแต่เพียงความสามารถทางภาษาของนักเรียน เพราะรูปแบบหรือองค์ประกอบที่สำคัญของความสามารถในการสื่อสารที่เห็นได้ชัดคือ ความสามารถในการเผชิญกับสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งเป็นความจริงแท้ที่ต้องพบในชีวิตประจำวัน นิทาน หรือ นิยาย ที่ถูกปรับภาษาให้ง่ายขึ้น (Simplified) จะขาดความเป็นจริงแท้ไปเลย เพราะขาดสุนทรียภาพหรือความงามทางภาษา (Aesthetic)
7. การยึดพฤติกรรมที่คาดหวังเป็นหลัก (Behavior-Based)
ความสำเร็จ คือ ความล้มเหลวของการมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ จะถูกตัดสิน โดยมีผู้มีส่วนร่วมในการสร้างปฏิสัมพันธ์ ทั้งนี้โดยยึดผลที่คาดหวังเป็นพื้นฐาน ดังนั้น พฤติกรรมการมีปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ในการที่เราเชิญใครมาสักคนหนึ่ง มาทางอาหารเย็น 2 ทุ่มวันเสาร์ จะตัดสินใจได้จากความสำเร็จที่ว่า บุคคลที่ได้รับเชิญมา ตรงตามเวลาที่เชิญและมีอาการหิว หรือไม่ ทั้งนี้ไม่น่าจะมีเกณฑ์อื่น ที่นำมาใช้ในการตัดสินไปมากกว่านี้ ดังนั้น ในการทดสอบความสามารถในการสื่อสาร ก็ไม่จำเป็นต้องนำเกณฑ์อื่นใดมาใช้อีก ถ้าเกิดพฤติกรรมตรงตามที่คาดหวังแล้ว
ครูอ้อย คงจะต้องขอจบเรื่องนี้เพียงเท่านี้ ต่อไปจะเป็นเรื่อง
วิธีการทดสอบทักษะทางภาษา
หากสนใจติดตามได้ในบล็อก
เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา
ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่าน
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ครูอ้อย แซ่เฮ
ใน
การสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา
คำสำคัญ (Tags):
#diary
#kruooy
#siriporn
#การประเมินผล
#การวัดและประเมินผล
#สุดคะนึง
#โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย(กระจ่าง.สิงหเสนี)
หมายเลขบันทึก: 75874
เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2007 06:16 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2014 15:23 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ครูอ้อย แซ่เฮ
สมุด
การสอนภาษาอังกฤษร...
การประเมินทักษะทา...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท