ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรัก : โลกแคบและความเป็นจริงของใครบางคน (3)


การบอกรัก คือ วิธีหนึ่งในการแสดงความรัก และขอให้มีความสุขที่จะบอกรัก โดยไม่ขลาดกลัวต่อการได้รับผลตอบแทนจากการบอกรัก”

อันที่จริงผมเข้าใจว่าบันทึกที่เขียนเรื่อง โลกแคบและความเป็นจริงของใครบาง  ได้ปิดตัวลงไปนานแล้ว  แต่ไม่นานนักผมมีโอกาสได้อ่านบันทึก วันนี้คุณบอกรักใครหรือยัง ของคุณ sompornp  (http://gotoknow.org/blog/sompornpcmu/74206)  กอปรกับล่าสุดวันนี้เอง  ผมได้พบปะกับนิสิตท่านเดิมที่เคยมาปรึกษาเรื่องชีวิตและความรักกับผม...ทำให้ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน  ผมจำต้องย้อนกลับมาอ่านบันทึก โลกแคบและความเป็นจริงของใครบางคน  อีกครั้ง..

 

เขาบอกกับผมว่า, บัดนี้ได้รู้แล้วว่านิสิตหญิงที่เขาตกหลุมรักทั้งตัวและหัวใจนั้นเป็นใคร ? เรียนคณะอะไร ?  ชั้นปีไหน ? และพักที่หอพักใด ?  อันเป็นความกรุณาที่เพื่อนพ้องได้ช่วยลงแรงใจในการสืบเสาะให้

เมื่อความรักมาเยือนเช่นนี้  ด้วยความที่ตลอดห้วงชีวิตที่ผ่านมาเขายังไม่เคยมีคนรัก  และยังไม่เคยถูกรักโดยผู้หญิงคนใดเลย  จึงย่อมไม่แปลกที่ขณะนี้เขาจะยังรู้สึกร้อนรุ่มใจและขบคิดอย่างไม่รู้จบว่าจะทำเช่นไรดีเพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นได้รับรู้ถึงความรักที่เขามีต่อเธอ

 

เขาบอกกับผมว่าตอนนี้  มีความสุขที่ได้รัก  แต่ในขณะเดียวกันก็จ่อมจ่มอยู่กับความไม่สบายใจกับอาการ  ทุกข์ใจที่ไม่กล้าบอกรัก”  ซึ่งผมก็ยิ้ม ๆ ด้วยความรู้สึกว่าเป็นธรรมดาแหละ โลกและชีวิตมีสองมุมเสมอ

เขาเปรยกับผมอย่างราบเรียบว่านี่ใช่ไหมที่โบราณพูดไว้ว่า " ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์  

ผมบอกว่าโบราณกล่าวไว้เช่นนั้นจริง  แต่สำหรับผมกลับมองว่าแท้ที่จริงความรักเป็นสิ่งงดงามเสมอ  เป็นยิ่งกว่าแดดอุ่นยามเช้าในสายลมหนาว  เป็นยิ่งกว่าฝนแรกแห่งวสันตฤดู  และเป็นยิ่งกว่าลมเย็นกลางห้วงเดือนเมษายน

ผมย้ำกับเขาอย่างหนักแน่นว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีรัก  แต่ที่เขากำลังทุกข์ร้อนอยู่นั้นเป็นผลพวงของการไม่กล้า บอกรัก  ..

แต่เขาก็สวนกลับด้วยคำถามที่ทำเอาผมต้องต้องตะลึง แน่นิ่งว่า ถ้าบอกรักแล้ว  หากผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธความรักของเขา จะถือว่าเป็นความรักได้หรือไม่

ได้สิ !  การได้รัก ก็มิได้หมายความว่าจะต้องถูกรับรักเสมอไป  สำคัญที่หัวใจของเราเข้าใจคำว่ารักสักแค่ไหน  ผมอธิบายราวกับนักรักผู้จัดเจน (ทั้ง ๆ ที่ชั่วโมงบินของผมไม่เคยโบยบินออกไปไกลกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่)  การได้รักก็ย่อมแสดงให้เรารู้ว่าความรักมีอยู่จริง  และมีอยู่ในทุกสถานที่  โดยเฉพาะมีอยู่อย่างเต็มล้นในหัวใจของคนเรา  การได้รักใครสักคนถึงแม้อาจจะไม่สมหวังในความรัก  แต่อย่างน้อยการได้รักก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า  เรายังมีชีวิตอยู่และมีจิตใจอันงดงามที่จะแบ่งปันความดีงามให้กับคนอื่น  

ก่อนแยกออกจากกัน  ผมนึกขึ้นได้ว่ามีหนังสือกวีนิพนธ์เล่มหนึ่งที่ชื่อว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรัก  ของคุณไพวรินทร์  ขาวงาม  จึงได้เอ่ยปากชวนให้เขามายืมไปอ่าน  มิหนำซ้ำยังแซว ๆ  หยอก ๆ ว่า วันนี้งดอ่านหนังสือธรรมะสักวันนะ  แล้วหันมาอ่านหนังสือว่าด้วยรักจากทางโลกสักวันเถอะ   ... เขายิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะถีบจักรยานตามรถเก๋งผมมาอย่างไม่รู้จักหอบเหนื่อย

ผมให้หนังสือกับเขาไป  ย้ำว่ารักษาให้ดี เพราะมีเหลือเพียงเล่มเดียว และอวยพรให้เขามีความสุขกับการอ่านหนังสือเล่มนี้  พร้อมทั้งย้ำเตือนว่าวันหลังอ่านเสร็จแล้วค่อยมาสนทนาแลกเปลี่ยนกันว่าเขาเชื่อเหมือนที่ผมเชื่อว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรัก หรือไม่ ?  รวมถึงการวกกลับไปกล่าวย้ำกับเขาอีกหนว่า การบอกรัก คือ วิธีหนึ่งในการแสดงความรัก  และขอให้มีความสุขที่จะบอกรัก  โดยไม่ขลาดกลัวต่อการได้รับผลตอบแทนจากการบอกรัก

  

ผมอยากให้ท่านทั้งหลายได้อ่านบทกวีที่ชื่อ ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรัก  เหมือนนิสิตท่านนี้บ้าง  เผื่อบางทีท่านอาจได้หวนรำลึกขบคิดถึงประเด็นที่ผมได้กล่าวไว้ในทำนองว่า  แม้บรรพชนจะพร่ำสอนเตือนสติเรามายาวนานว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์  ซึ่งผมก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน หากแต่ก็ยังเชื่อและศรัทธาไม่น้อยไปกว่ากันว่า  ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีรัก   เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ที่ จะรัก  และ ถูกรักอย่างมีเหตุมีผล 

(ลองอ่านดูนะครับ)  เผื่อเราและเราจะได้ต่อยอดทัศนะที่ว่าด้วย รัก  กันสักยก..

  

ที่ใดมีรัก ที่นั่น  ย่อมมีทุกข์ !

 

ที่ใดมีสุข  ที่นั่น  มีรักไหม ?

 

หมื่นคำถาม  แสนคำถาม  ก็ถามไป

 

โลกมิเคยแล้งไร้ซึ่งความรัก

 

ยังสุขทุกข์ ทั่วทุกหัวระแหง

 

ต่างตำนานอันแสดงแจ้งประจักษ์

 

บางตำนาน เบิกบานหวานชื่นนัก

 

บางตำนานสำลักแต่น้ำตา

 

รักเช่นใด ?  คือรักที่ก่อทุกข์

 

รักเช่นใด ?  ก่อสุขเสน่หา

 

รักเช่นใด ?  รุ่งโรจน์แล้วโรยรา

 

รักเช่นใด ? ปรารถนาชั่วฟ้าดิน

 

ปริศนา  ปรารถนา  คะนึงนับ

 

ปวงปราชญ์เอย  เฉลยสดับ  มิเคยสิ้น

 

ถามยิ่งถาม  ตอบถาม  ยิ่งย้ำยิน

 น้ำตารัก  ยังรดริน  รอยยิ้มรัก   

คำสำคัญ (Tags): #โลกและชีวิต
หมายเลขบันทึก: 74825เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2007 18:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 20:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (33)

หวัดดีคะ....ไม่เคยอ่าน หนังสือที่แนะนำนี้หรอกคะ....แต่สนับสนุนเรื่อง

" การบอกรักกับคนที่เรารัก " คือ ถ้าเราได้บอก / ได้แสดงความรู้สึก   เราก็จะไม่ต้องอึดอัด...พอบอกไปแล้ว เขา ไม่รักตอบ

 ก็ แนะนำว่าให้ทำความเข้าใจ สภาวะนั้น ให้ได้....แต่ถ้า น้องนักศึกษา เขามีทุนเดิม ในตัวเอง ก็จะดีมาก

    คือ จะไม่เศร้า นานเกินไปนัก.....

    ทุนเดิมในตัวเอง คือ การเข้าใจตัวเอง มีความมุ่งมั่น

ม ีความสุขกับสิ่งที่เราค้นพบและกระทำ.....

    ถ้าจะให้ดี  ก็คบเป็นเพื่อน ดูแลกันไป เรียนรู้กันไป

น่าจะดีกว่า.....

    

คุณแผ่นดิน.....

  • บล็อกนี้เหมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านความรักเลยนะคะ 
  • เห็นด้วยค่ะการบอกรัก คือ วิธีหนึ่งในการแสดงความรัก  และขอให้มีความสุขที่จะบอกรัก  โดยไม่ขลาดกลัวต่อการได้รับผลตอบแทนจากการบอกรัก
  • โรแมนติกจังเลยค่ะ  
สวัสดีครับคุณPดอกแก้ว
  • ขอบคุณครับที่ทัศนะเกี่ยวกับทุนเดิมในตัวเอง
  • ปัญหาสำคัญคือเด็กคนนี้มีทุนเดิมในตัวเองน้อย...ช่วงหลังผมพาไปพบนักจิตวิทยา และยังติดตามดูแลเขาเป็นระยะ ๆ 
  • และอันที่จริงผมก็บอกกับเขาว่า  หากได้รับการปฏิเสธก็ขอให้เรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และดูแลกันไปเรื่อย ๆ 
  • ขอบคุณมากครับ

ผมเห็นด้วยว่าคุณแผ่นดิน โรแมนติค ละเอียดอ่อนเรื่องของความรู้สึก

และบางครั้งก็จริงจังดูดุดัน เด็ดเดี่ยว

 

  • สวัสดีครับ
    P
  • ขอบคุณนะครับที่แวะมาทักทาย
  • จริง ๆ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรักเลย ถึงแม้จะต้องทำหน้าที่ให้คำปรึกษาอยู่ถี่ครั้ง ประสบการณ์ก็มาจากการสังเกตจากแวดล้อมเป็นหลัก
  • ส่วนโรแมนติคนั้น...พอดีบ้างครับ
  • กระนั้นก็แสดงออกไม่ค่อยเก่ง

โรแมนติกแมน

หาคนมาเทียบชั้น หนุ่มหล่อเมืองปายได้แล้ว

สาวๆ บล็อก คงต้องตามติด 2 หนุ่มนี้แน่ๆ เลย

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรักจริงๆ ค่ะ....พี่จะบอกรักลูกก่อนนอนทุกวันว่า  "แม่รักหนูนะคะ"...จนวันหนึ่งแกสงสัย ถามว่า...."แม่ทำไมแม่ต้องบอกรักลูกทุกวัน....."  แม่แก้เขินเลยจึงบอกไปว่า....แม่จะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้พูดอะไรกับลูกก่อนนอน....แม่ก็อยากนอนเร็ว...จึงอยากพูดสั้นที่สุดไง....ถ้าพูดเรื่องอื่นต้องพูดนาน...ไม่รู้คิดได้ไงวันนั้น...อิ...อิ...

  • สิ่งที่ทุกคนปรารถนาคือความรักต่อตัวเอง  ต่อคนอื่น  ต่อสิ่งรอบตัว 
  • เมื่อให้ย่อมมีรับ  เมื่อรับย่อมมีให้ 
  • โรงเรียนกับชุมชน ก็หลีกไม่พ้นสิ่งนี้  ครับ
  • สวัสดีครับคุณเอก จตุพร  
    P
  • ขอบคุณครับที่ช่วยเป็นเสมือนกระจกเงาส่องสะท้อนตัวตนของผมให้ผมได้รับรู้ รับฟังเกี่ยวกับตัวตนของตนเอง
  • ผมอาจเป็นเช่นนั้นจริงกระมัง,  สันโดษ แต่ทำงานเพื่อสังคม, ใจดี แต่โมโหร้าย ,  บางทีก็จุกจิกราวกับผู้หญิง , ละเอียดอ่อน จนดูเหมือนอ่อนไหว, แกร่ง จนดูแข็งกร้าว ฯลฯ
  • นั่นแหละครับ คือ ภาพสะท้อนตัวตนของผมที่คนเขามองมายังเรา
  • สวัสดีครับคุณ  
    P
  • ผมยังเทียบชั้นเทียบเชิงคุณเอกไม่ได้กระมัง, ชั่วโมงบินห่างกันเยอะเลย
  • แต่ก็ถือเป็นเกียรติกับที่มีบางส่วนละม้ายคล้ายเหมือนกับคุณเอก...ที่ใครต่อใครก็ชื่นชม ยกย่อง
  • มีความสุขครับ...ขอบคุณล้นใจ ...
  • และเป็นกำลังใจ เสมอไป...
  • แวะมาชื่นชมค่ะ...ทำให้บรรดาผู้สูงวัยได้ย้อนกลับคิดถึงอดีต...
  • ขออนุญาตที่จะไม่คุยด้วยมาก...เพราะถ้าคุยเรื่องรักนี้...รับรองดิฉันจะคุยยาวมากๆค่ะ...เพราะ....ฉันเกิดความรักได้ตลอดเส้นทางชีวิตเลย...
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกที่สุดยอดนี้ค่ะ....
  • ...จงอิ่มเอมกับความรักที่เพื่อนๆแวะเวียนมาให้นะคะ.....
  • เยี่ยมเลยครับ
  • ตาม สว จากข้างบนมา
  • ชื่นชอบบันทึกที่เข้ากับบรรยากาศ เดือนแห่งความรัก ของคุณแผ่นดินมากค่ะ
  • อ่านแล้วได้ข้อคิดดี ๆ แม้ว่า"วันนี้บอกว่างดอ่านหนังสือธรรมะสักวัน" แต่ดูเนื้อหาแล้วเชื่อมโยงกันได้อย่างดีค่ะ
  • เมื่อไรที่รัก เพราะอยากให้เขารักตอบเรา แสดงว่าเรารักตัวเองค่ะ ไม่ได้รักคนอื่น อย่างที่พร่ำบอกว่า "ฉันรักเธอ" เพราะแท้ที่จริงคือ "ฉันรักตัวฉันเอง"
  • การบอกรักผู้อื่นจะสร้างสุขได้ ต้องไม่คาดหวังว่าอีกฝ่ายต้องรักตอบ คุณค่าของความรัก คือการได้รัก ไม่ใช่การได้รับรัก
  • ขอให้รักอย่างที่เขาเป็น อย่าคิดรักโดยหวังให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น
  • ความรู้สึกอยากครอบครอง เป็นเจ้าของ ไม่ใช่ความรู้สึกรักอย่างแท้จริง
  • หากวันนี้นิสิตชายคนที่อาจารย์พูดถึง บอกรักเพื่อนหญิงไปแล้ว เพื่อนหญิงไม่รักตอบ ก็ใช่ว่าหัวใจของเขาจะต้องหมดรักในวันนี้
  • ฝากบอกเขาว่า อาจเป็นเพราะไม่ใช่บุพเพสันนิวาส เนื้อคู่ตุดาหงันยังไม่ได้มาบรรจบพบกัน เก็บหัวใจเราไว้รอคอยคู่แท้ของเราเถอะค่ะ สำหรับคนนี้ถึงไม่ได้เป็นคู่รักกัน ก็เป็นเพื่อนกันได้นี่คะ
  • ที่สำคัญช่วงที่เขา "ตกหลุมรัก" นี้ก็ขอให้ระวังอย่า "ตกหลุมชีวิต" ไปด้วย เดี๋ยวจะพาลเสียการเรียน และขออย่าได้ทำลายเกียรติของผู้หญิงค่ะ
  • วันนี้สีชมพูทั้ง blog เลยนะคะ
  • มีความกันถ้วนหน้าค่ะ
  • ในทัศนะของดิฉัน ที่ผ่านความร้าวราญมา 1 ครั้ง  ก็ยังเห็นว่า ความรักเป็นสิ่งสวยงามค่ะ
  • ความรักก็เหมือนใบไม้ ใบเก่าตาย ใบใหม่ก็ผลิมาแทนค่ะ (ไม่มีใครรัก ก็รักตัวเองค่ะ)

Life cannot be without.......LOVE

  •  มีคนบอกอยู่เสมอค่ะ  จึงต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า การบอกรักเป็นสิ่งที่ดีงาม....บอกน้องเค้าเถอะว่า....รักเป็นสิ่งสวยงาม 
  • การบอกรักผู้อื่นจะสร้างสุขได้ ต้องไม่คาดหวังว่าอีกฝ่ายต้องรักตอบ คุณค่าของความรัก คือการได้รัก ไม่ใช่การได้รับรัก (คุณปวีณา)

We have only one life to live, so enjoy it every moment you can.

  • ที่สำคัญช่วงที่เขา "ตกหลุมรัก" นี้ก็ขอให้ระวังอย่า "ตกหลุมชีวิต" ไปด้วย เดี๋ยวจะพาลเสียการเรียน และขออย่าได้ทำลายเกียรติของผู้หญิงค่ะ (คุณปวีณา)

We have only one life to live, so enjoy it every moment you can.

  • ชแว๊ปมาชอบประโยคนี้ค่ะ คุณสมพร
แวะมาสนับสนุนสิ่งที่คุณสมพรเขียนค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตัวเองก็ยังมองว่า"ความรักเป็นสิ่งสวยงาม" ถึงแม้ว่าจะไม่สมหวังในความรัก
  • เขากำลังทุกข์ร้อนอยู่นั้นเป็นผลพวงของการไม่กล้า บอกรัก  ..  >> ใช่ค่ะ
  • คนเราทำอะไรขัดกับหัวใจ เพราะความ ไม่กล้านี่เอง
  • ยังไม่อ่านค่ะ จะเข้าไปอ่านดูนะคะ
  • ขอบคุณพี่ค่ะสำหรับบันทึกนี้
  • สวัสดีครับอาจารย์เมตตา
    P
  • ขอบคุณครับ..กับเรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยความหมาย และเป็นรักในอีกมิติหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ในความเป็นแม่
  • ผมชอบถ้อยคำและอารมณ์นี้จังครับ...แม่จะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้พูดอะไรกับลูกก่อนนอน....แม่ก็อยากนอนเร็ว...จึงอยากพูดสั้นที่สุดไง....ถ้าพูดเรื่องอื่นต้องพูดนาน.
  • เพราะอาจารย์ด้วยย้ำเตือนให้รู้สึกอีกครั้งว่า  "รัก"   เพียงคำเดียวนี้...ไม่จำเป็นต้องมีคำอื่นใดมาขยายความหมายใด ๆ อีกแล้ว
  • ชัดเจน...ลงตัว และยิ่งใหญ่เสมอ
  • ชอบคุณอีกครั้งครับ
  • สวัสดีครับอาจารย์
    P
  • วันนี้เดินทางไกลทั้งวันตั้งแต่ตี 4 ยัน 4 ทุ่ม
  • ขอบคุณนะครับที่แวะมาเป็นกำลังใจอยู่เสมอ
  • และขอบคุณที่นำวาทะแห่งชีวิตมาแลกเปลี่ยน  ซึ่งประทับใจมาก.. เมื่อให้ย่อมมีรับ  เมื่อรับย่อมมีให้ 
  • สวัสดีครับอาจารย์
    P
  • ยังไงเสียก็ยังอยากฟังเรื่องราวดี ๆ โดยเฉพาะมุมมองความรักจากอาจารย์บ้างนะครับ
  • คลับคล้ายว่าอาจารย์ก็มีตำนานรักดอกจำปีใช่หรือเปล่าครับ
  • ขอบคุณอาจารย์มากครับ..

สวัสดีครับคุณ

P
  • ขอบคุณครับกับการมาทักทาย
  • การตาม สว มาเป็นธรรมเนียมไทยแท้เลยนะครับ..เด็กเดินตามผู้ใหญ่ อีกนานมั๊ยอาจารย์ขจิต จะเป็น "สว"  
  • ถึงอีกนาน, ผมก็ยินดีเดินตามนะครับ
  • สวัสดีครับอาจารย์
    P
  • ถ้าไม่ทักว่าเป็นเดือนความรัก ผมก็ลืมไปเลยว่ากำลังเข้าสู่เดือนแห่งความรัก..ขอบคุณครับ
  • เด็กคนนี้อยู่ในมุมอับของตนเองมานาน ไม่ค่อยพบพานโลกภายนอก จึงค่อนข้างไม่มีประสบการณ์โลกและชีวิตภายนอกเท่าที่ควร
  • ขยันอ่านหนังสือธรรมะ แต่ก็วิเคราะห์ไม่แตก เลยวก ๆ วนอยู่ร่ำไป
  • เป็นห่วงเขามาก  เพราะเขามีต้นทุนชีวิตน้อยมาก  แต่ก็เชื่อว่า  เมื่อเขาตัดสินใจลองผิด ลองถูก  เขาจะเติบโตและเข้มแข็งขึ้นมาได้ในไม่ช้า

ขอบคุณครับอาจารย์ปวีณา P

  • ผมจะย้ำกับเขาอีกครั้งในการ "ตกหลุมรัก"  แต่ต้องไม่ "ตกหลุมชีวิต"
  • และเช่นเดียวกันก็จะนำประโยคนี้ขออาจารย์ไปบอกกล่าวกับเขา... คุณค่าของความรัก คือการได้รัก ไม่ใช่การได้รับรัก
  • ผมเชื่อว่าไม่นานเขาจะเรียนรู้และเข้าใจอะไรมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่..ขอบคุณครับ

  • สวัสดีครับ
    P
  • อันที่จริงผมเคอะเขินกับสีชมพูมากเลย..ไม่รู้เป็นไง หรือเพราะชื่อตนเอง (พนัส) แปลว่า ป่า, คนป่า เลยดูเคอะ ๆ เขิน ๆ กับสีแห่งความรัก
  • ผมชอบประโยคนี้จัง..ความรักก็เหมือนใบไม้ ใบเก่าตาย ใบใหม่ก็ผลิมาแทน...มันมุมมองชีวิตที่เข้าใจชีวิต เข้าใจโลก และเข้าใจรักอย่างลึกซึ้งและเป็นการเข้าใจในแง่งามของความรัก
  • ขอบคุณครับที่ศรัทธาต่อความงดงามของความรัก

 สวัสดีครับคุณสมพร

P
  • ขอบคุณครับกับวาทะต่างภาษาประโยคนี้
  • We have only one life to live, so enjoy it every moment you can.
  • และขอบคุณที่เป็นแรงสะกิดเตือนให้เขียนบันทึกเรื่องนี้เช่นกัน
  • แต่วรรคทองจริง ๆก็ต้องยกให้อาจารย์ปวีณานะครับมีวาทกรรมที่ชวนคิดและชวนให้ท่องขึ้นใจเป็นอย่างยิ่ง

  • P
    เดินทางอยู่บ่อยครั้ง ก็คงมีโอกาสได้เห็นเรื่องราวความรักทีงดงามอยู่เสมอ ๆ  ใช่ไหมครับ
  • จริงดังว่าแหะครับ...ความรัก เติบโต และงอกงาม เหมือนใบไม้ ผลิบใบ ร่วงโรย และผลิใบออกมาใหม่อย่างไม่รู้จบ
  • ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม
  • งามรักผู้อื่น
  • งามรักตัวเอง
  • งามรักสังคม
  • งามรักสิ่งแวดล้อม
  • สวัสดีครับอาจารย์
    P
  • ใช่ครับ "ความรักงดงามเสมอ"
  • ผมเองก็ชอบนะครับเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐศาสตร์กับความรักที่อาจารย์เคยเขียนไว้ในบันทึกที่ผ่านมา
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับ
    P
    Rin
  • เป็นธรรมดานะครับอึดอัดเมื่อไม่กล้าพูด หรือไม่มีโอกาสที่จะพูด  เหมือนถูกกดทับด้วยภูเขา
  • แต่เมื่อเอ่ยพูดแล้ว  โล่งสบาย และเหมือนเราหลุดพ้นออกมาจากภูเขาที่ทับเราอยู่นั่นเอง
  • เป็นกำลังใจให้..เสมอไป นะครับ

 

 

 

  • สวัสดีครับอาจารย์
    P
  • ขอบคุณในทัศนะของ "ความงาม" ที่ว่าด้วน "รัก"  และรักนี้ดูจะเป็นรักที่กว้างใหญ่และเป็นรักที่มีมติเพื่อสังคมอย่างชัดเจน...
  • เป็นรักที่ไกลออกไปจากการรักแต่เฉพาะตัวเอง
  • และที่ประทับใจก็คือ ความรักที่มีต่อสิ่งแวดล้อม...ซึ่งไม่แปลกและไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ต้องยอมรับว่า..เป็นความรัก ความงามที่ใคร ๆ ต่อใครมองข้าม หรือไม่ก็ให้ความสำคัญน้อยมาก
  • ขอบคุณครับ

   บทหนึ่ง..ฝากไว้ให้พิจารณา 

   หนึ่งความรักมีให้ใครด้วยใจรัก

เฝ้าฟูมฟักรักษาใจไม่แปรผัน

แต่สิ่งที่ได้รับหากกลับกัน

คือแปรผันเปลี่ยนไปไม่แน่นอน

สวัสดีครับ

P

หนึ่งความรักมีให้ใครด้วยใจรัก

เฝ้าฟูมฟักรักษาใจไม่แปรผัน

แต่สิ่งที่ได้รับหากกลับกัน

คือแปรผันเปลี่ยนไปไม่แน่นอน

....

บทกวีข้างต้นสะท้อนให้เห็นสัจจะที่น่าสนใจมาก  นั่นคือ  ความไม่เที่ยงแท้ของวิถีชีวิต หรือแม้แต่ความรัก

แต่สำคัญ  ผมว่าคนเราต้องตระหนักถึงความรักที่แท้จริงว่าเป็นการให้หรือไม่ ..

ถ้าเราคิดว่าใช่ ... การให้  จึงกลายเป็นหัวใจหลักของการมีความรักของคนเรา ..

...

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท