เก็บตกงานมหกรรม KM (5) : Best practice ของการกิน "กระเพราหมูราดข้าว"


จานไหน เป็นของใคร ??

นี่ก็เป็นอีกเรื่องค่ะ    ที่เก็บไว้เขียนได้อีกน๊าน..นาน   เก็บตกงานมหกรรม KM  เก็บได้เรื่อยๆ ค่ะ   แล้วแต่ว่าจะนึกได้ตอนไหน    เรื่องนี้นึกได้ตอนกินผัดกระเพราราดข้าว  (ไม่ใช่ข้าวผัดกระเพรา   ต่างกันนะ)

เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากงาน งานมหกรรม KM ครั้งที่ 3 จบลง    สี่สาวหลายวัยแต่ใจตรงกัน   อันประกอบด้วย  อ.ปารมี   พี่เม่ย  คุณศิริ  และ nidnoi   ก็ได้เวลายกพลกลับหาดใหญ่  (พี่โอ๋  ดังแล้วแยกวงไปกับ อ.จันทวรรณ  อ.ธวัชชัย)    ระหว่างที่รอเวลาเครื่องออก       ได้ออกตระเวนหาร้านอาหารในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมินั่นแหละ   กวาดสายตาเห็นร้านที่พอจะรับไหว (ไม่แพงมาก)     ราคา/ จาน อยู่ที่ 90 บาท  ขึ้นไป  ชื่อร้าน goodies     บรรยากาศดูดี  ตกแต่งสวย  มีลูกค้านั่งอยู่หลายคน (แสดงว่ารสชาติพอไปวัดไปวาได้)   

 ร้าน goodies



 นี่คืออาหารที่พวกเราสั่งค่ะ "กระเพราหมูราดข้าว"  
สั่งเหมือนกันทั้งสี่จาน   เพราะ...มีอยู่แค่นั้นค่ะ
(สงสัยขายดีมาก ?)  ขนาดจะสั่งไข่ดาว  ยังไม่มีเล๊ย



ถึงจะสั่งเหมือนกัน  แต่..ไม่เหมือนซะทีเดียวสามจานแรก  
ใบกระเพราจะถูกผัดรวมมากับหมู   แต่จานสุดท้ายเป็นใบกระเพราทอดโปะหน้าหมูผัด   จานสุดท้ายเป็นของ nidnoi เอง   แบบว่าถูกใจมากเพราะอาหารดู "สวย"  น่ากิน   แต่จะอร่อยกว่าจานอื่นหรือเปล่า      ไม่อาจบอกได้   เพราะไม่ได้ลองชิมจานอื่น (เกรงใจค่ะ)



สุดท้าย...เหลือแต่จานแบบนี้ค่ะ  
โปรดสังเกตความแตกต่างของแต่ละจาน
  • สองจานบน   ทานจนเกลี้ยง 
  • จานซ้ายล่าง   เหลือกระเพราและพริก  
  • จานขวาล่าง  เหลือข้าวและพริกอีกเล็กน้อย 
        
    เอ๊ะ...ทำไมเป็นแบบนั้น   เป็นเพราะแต่ละคนมีวิธีกินที่แตกต่างกัน   คุณศริ      
    วิเคราะห์ไว้ในนี้ว่า     best practice  ของการกินกระเพราราดข้าวคือต้องคลุกๆๆๆ   ผัดกระเพราและข้าวรวมกัน   จะได้อร่อยเท่ากันหมด   และจะได้กินให้หมดจานไปพร้อมกัน    ส่วนอีกคนบอกว่า best practice   คือต้องตักผัดกระเพราและข้าวกินเป็นคำๆ ไป   เพราะจะได้ความอร่อยที่แตกต่าง   แล้วแต่ว่าจะตักอะไรใส่ไปในช้อนเท่าไหร่   ส่วนกับจะเหลือหรือข้าวจะเหลือ...อันนี้แล้วแต่ชอบกินอะไรมากกว่ากัน
เห็นมั๊ยคะว่า...แม้แต่การกินของง่ายๆ
อย่างกระเพราราดข้าวก็ยังมีวิธีการที่แตกต่าง   
แต่จะเป็น best practice หรือเปล่า ? 
อันนี้ไม่แน่ใจ
ว่าแต่ว่า...ลองทายดูมั๊ยคะว่า  
จานไหน  เป็นของใคร ??

หมายเลขบันทึก: 74822เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2007 17:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
  • มาทักทายครับ
  • อยู่กับครูบาสุทธินันท์ครับ
แต่ที่แน่ ๆ หนึ่งในสอง ของจานเกลี้ยงแถวบน เป็นของ nidnoi อยู่หนึ่งจานแน่นอน  อิ อิ

ผมกำลังเดาว่าภาพล่างสุดใบไหน  ของคุณนิดหน่อย

  • ตามไปทักและทาย   แล้วค่ะ  คุณขจิต
  • คุณรัตติยาคะ   ขอบอกว่า  ผิดค่ะ
  • คุณไม่แสดงตนครับผม...เกือบถูกแล้วค่ะ   ขอทราบเหตุผลด้วยนะคะว่า  ทำไมถึงเลือกจานนั้นๆ
  • ลองทายดูมั๊ยคะว่า  จานไหนเป็นของ  อ.ปารมี  พี่เม่ย  และคุณศิริ

 

  • เป็นเรื่องกินอีกเรื่องหนึ่งที่ผมตามมาอ่าน
  • บรรยากาศแตกต่างจากบันทึกที่แล้วมาก แต่คราวนี้ได้เห็นวิถีและเทคนิคการรับประทานอาหารที่หลากมุมขึ้น
  • อย่างน้อยจะได้กลับไปสังเกตพฤติกรรมตนเองบ้างว่ามีเทคนิคการกินกระเพราะราดหน้าอย่างไร
  • (ไม่เคยสังเกตตัวเองจริง ๆ )
  • ขอบคุณครับ
มีหลายๆที่เป็นกระเพราะ ไม่ใช่กระเพรา นะคะ กับมีตระเวน นี่น่าจะ น หนูไหมคะ แก้แล้วเอาออกเลยนะคะ

ขอทายว่า 2 จานบนเป็นของคุณศิริ กับอ.ปารมี ส่วน 2 จานล่างเป็นของคุณนิดหน่อยกับพี่เม่ย เหตุผลเอาไว้บอก f2f นะคะ (ส่วนตั๊ว ส่วนตัว....ไม่ได้มีหลักการอะไรเล้ย...ก็เลยไม่อยากชี้แจงน่ะค่ะ)

เสียดายไม่น่าโดนแยกวงเลย ไม่งั้นได้กินข้าวบ้าง เรา 3 คน (ไม่ดูเหมือนดังเลยน่ะ คุณ nidnoi...มันเป็นสำนวนใช่มะ....) กินอาหารฝรั่งกล่องๆของ S&P กันตามที่นั่งรอของสนามบินนั่นเอง (หาว่างยาก....ซะไม่มี แถมเดินแบกป้ายโปสเตอร์ KM BIO award อันเป้งอีกด้วย ว่าแล้วก็ยังเข็ดสุวรรณภูมิไม่หายอยู่เลยค่ะ)

  • โอโหยามภาษามาเอง
  • อึ้งครับอึ้ง
  • ร้าน goodies   กำลังนั่งทบทวนความจำว่าร้านไหน ?
  • ดูภาพแล้ว คิดว่าจะเป็นร้านที่มีหนุ่มหล่อชาวญี่ปุ่น นั่งทานอยู่วันก่อนแน่เลย
  • กับ..กำลังนึกถึงตนเองว่า ถ้ากินข้าวผัดกระเพราจะกินแบบไหน .. คิดว่าจะกินแบบแยกข้าวแยกกับ.. เพราะลิ้นจะได้สัมผัสความหอมนุ่มของข้าว กับความหอมร้อนแรงและผัดหวานมันเค็มของผัดหมูกระเพราะ มันคงกลมกล่อม อร่อยกว่ากินแบบที่คลุกรวมกัน
  • เข้ามาเสนอความคิดเห็น แล้วก็ชิ่งออกอ่านไปบันทึกอื่นต่อ
  • ^_____^

แสดงว่า แผ่นดิน เป็นคนที่ไม่ให้ความสำคัญกับการกินมากนัก  ( เลยไม่เคยสังเกตวิธีกินของตัวเอง)  ซึ่งนั่นน่าจะดีนะคะ   เพราะเป็นการกินเพื่ออยู่    แต่สำหรับดิฉัน   ตอนนี้กลายเป็นอยู่เพื่อกินไปแล้วค่ะ   นับวันจะสรรหาแต่ของอร่อย

อิอิ ขอมาร่วมขบวนอยู่เพื่อกิน  ด้วยคนค่ะ แต่เฉพาะวันหยุดค่ะ ว่างๆทีไร  หาเรื่องกิน(อร่อย)ทุกทีเลย

ขอบคุณพี่โอ๋ค่ะ  สำหรับหน้าที่ยาม   แก้ไขแล้วค่ะ   เห็นคำว่า "ผัดกระเพราะหมู"   แล้วนึกถึงกระเพาะหมูผัดเกี้ยมฉ่าย    อร่อยเหาะ   นะจะบอกให้ (นึกถึงแต่เรื่องกิน)

คำว่าดังแล้วแล้ววง   เป็นสำนวนพูดให้เก๋เท่   ไปอย่างนั้นเองค่ะ   

คุณ k-jira คะ
  • ร้าน goodies  เป็นร้านใด   อยู่ตรงไหนของสุวรรณภูมิ   จำไม่ได้หรอกค่ะ    เพราะเดินไปเดินมาจนงง
  • จำได้ว่า  วันนั้นไม่มีหนุ่มหล่อญี่ปุ่น   มีแต่หนุ่มหล่อหน้าฝรั่ง  คนละชาติกันค่ะ  ที่เหมือนกันคือ "หล่อ"
  • คุณ  k-jira  มีสุนทรีย์  ในการกิน  ไม่น้อยเลยนะคะ   สมแล้วที่เป็นนักเขียน
ไว้เรามาตั้งชมรม "คนชอบ (สรรหา)ของอร่อย"   ดีมั๊ยคะ คุณหนิง    เปิดทำการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการค่ะ
  • น่าสนใจครับ
  • สมัครด้วย
  • ช่วยสามบาท ยิ้ม ยิ้ม
สนใจก็ส่งใบสมัครและเงินมาได้เลยค่ะ   คุณขจิต   หุ..หุ..
  • ผมเป็นคนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องกินดังว่าครับ... ชีวิตกินแบบเดิม ๆ ได้เป็นหมื่วันพันปี..นั่งร้านเดิม ๆ  นั่งรถคันเก่า ๆ  คุยกับคนเก่า ๆ และรวมถึงคิดถึงคนรักคนเก่า...ที่ไม่สามารถกลับมาเป็นปัจจุบันได้ (.......)
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท