อนุทินล่าสุด


ยูมิ
เขียนเมื่อ

คำสอนทางพุทธศาสนานั้น ต้องการสอนให้เรามีปัญญาก่อนแล้วจึงมีศรัทธา ด้วยพุทธศาสนานั้นไร้บังคับให้เชื่อ นี่คือความพิเศษสุดจึงมีคำกล่าวว่า พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งเสรีภาพ ซึ่งทำให้คนรู้พุทธธรรมไม่ต้องตกเป็นเหยื่อทางมิจฉาทิฐิของคนใด



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

การทำงานไม่รู้เหนื่อย ยิ่งทำยิ่งพอใจอิ่มใจอยู่ทุกขณะจิตตลอดวันคืนนี่คือความลับสุดยอดของธรรมคือหน้าที่



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ในโลกนี้ไม่มีจอมยุทธใดที่ไร้บาดแผล แต่ศิลปะสุดยอดของการต่อสู้นั้นคือการไร้อาวุธในการต่อสู้เพราะเป็นการชนะในการต่อสู้ด้วยจิตที่เด็ดเดี่ยวดุจพระอรหันต์นั้นแล



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

คนเราเหมือนตะเกียงมีไส้มีน้ำมันพร้อมเมื่อจุดไฟใส่ก็ติดเกิดแสงได้เลยแสงคือดวงปัญญาที่มีในตัวคน เติมจุด 2 สิ่งทำให้ปัญญาเจริญงอกงามได้คือ1.การเล่าเรียนหนังสืออย่างจริง ๆ จัง ๆ 2.การนั่งคิดพิจาณณาอย่างใคร่ครวญให้ถ้วนถี่นั้นแล



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันว่าความคิดของมนุษย์เราดุจดังสายน้ำที่ไหลไปตลอดเวลา ใครรู้จักวิธีที่จะตักเอาเพชรอันล้ำค่ามหาศาลที่ไหลไปกับกระแสน้ำนั้นและเรียนรู้จักนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้ถือว่าท่านผู้นั้นคือปราชญ์ของแผ่นดินโลกนี้แล



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ข้อคิด

โดย อุทัย เอกสะพัง

เมื่อฉันมองฟ้าเหมือนจะเข้าใจฟ้าแต่แท้จริงแล้วฉันไม่เข้าใจเลยว่าแท้จริงแล้วฟ้าเป็นเช่นใด แม้ว่าฉันจะขึ้นเครื่องบินไปดูฟ้าใกล้ ๆ แต่เปล่าเลยเพราะฉันเห็นแต่ก้อนเมฆลอยผ่านไปแล้วไหนละฟ้า โอ้ฟ้าเอ๋ย ฉันชั่งเข้าใจฟ้ายากจริง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันคุณค่าของคู่ควรมวลมนุษย์

ที่สิ้นสุดมีคุณค่าว่าตรงไหน

ต้องการรู้เป็นอยู่คือถือสิ่งใด

อยากเข้าใจในคุณค่าของคู่คน

เกิดมาแล้วได้พบธรรมนำชีวิต

ธรรมลิขิตตนตามถามเหตุผล

ไม่หยุดคิดมุ่งค้นคว้ามาคู่ตน

นี่ละคนมีคุณค่าราคางาม

ถ้าหยุดคิดเมื่อใดไร้คุณค่า

หมดราคาหมดความหมายหมดคำถาม

หมดหายใจคือสิ้นลมหมดความงาม

หมดช่วงยามหมดคุณค่าว่ามนุษย์



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

หลักสูตร ป. ตรี ม. ทักษิณ ทุกสาขาวิชา ( ศาสนาในประเทศไทย ทุกกลุ่ม , วิชาจริยศาสตร์ , วิชาพระพุทธศาสนา ทุกกลุ่ม, วิชาหลักปรัชญาและศาสนาเพื่อการพัฒนาชีวิต , วิชาศาสนศึกษา )ได้ใช้เกณฑ์การประเมินนี้ตลอดมา

เกณฑ์การประเมิน

80 - 100 คะแนน ระดับ A 60 - 64.99 ระดับ C

75 - 79.99 คะแนน ระดับ B+ 55 - 59.99 ระดับ D+

70 – 74.99 คะแนน ระดับ B 50 – 54.99 ระดับ D

65 – 69.99 คะแนน ระดับ C + - 1 – 49.99 ระดับ E



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ได้เวลาพาร่างกายถ่ายเททิ้งล้วนสิ่งจริงหญิงชายทั้งหลายหนาเห็นหลายคนทนป่วยด้วยวิญญาเราต่างมาหาคุณหมอรอตามกันผมนั้นหรือคือหมอนัดให้มาดูจะได้รู้อาการธรรมเสกสรรกรรมลิขิตชีวีนี้ทุกวันจึงแบ่งปันเรื่องราวเช้านี้เอย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

กลอนวันเกษียณอายุ

ถึงเวลาวันเปลี่ยนแปลงแห่งชีวิตได้ลิขิตวันเกษียณเวียนมาหาให้พี่ต้อยและพี่อิงค์ต้องอำลากล่าววาจาลาจากกันแสนอาลัยด้วยหน้าที่ทุกการงานทำดีเยี่ยมใจเต็มเปี่ยมประสบการณ์งานน้อยใหญ่ขอให้พี่ทั้งสองพ้นผองภัยแต่สายใยใจผูกพันยังคงเดิม.



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

มุมมองทางสังคมศาสตร์ การที่คนในกลุ่มประเทศอาเซียนจะเดินทางไปมาหาสู่กันได้แบบสบายใจนั้น อาจจะผิดก็ได้คือผมว่าต้องก้าวข้ามมุมคิดความเป็นส่วนตัวลง 3 ข้อใหญ่ ๆ คือ
1.ก้าวข้ามความเป็นชาตินิยม
2.ก้าวข้ามความเป็นประวัติศาสตร์ของชาติ
3.ก้าวข้ามความเป็นเขตแดนคือมองโลกแบบไร้พรมแดน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันเรื่องกินถิ่นความหลังยังจำมั่น

ในวันจันทร์พลันตื่นตามาเล่าขาน

เพื่อเรียงร้อยรอยที่เห็นเป็นตำนาน

เพื่อผู้อ่านตริตรองมองตามตรง

เช้าวันหยุดมีตลาดตะลุยเล่น

ของร้อนเย็นหาซื้อได้ดังประสงค์

พลันมองเห็นสาวน้อยนิ่มอนงค์

จับเอวองค์แม่ผู้เฒ่าแล้วเดินตาม

ตาเธอมองมือถืออยู่ไม่ห่าง

เดินนำทางคือแม่เฒ่าไม่ต้องถาม

เกิดมุมคิดเฒ่าจูงเด็กออกเขตคาม

มองแง่งามผู้เฒ่าแล้วเด็กควรจูง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันที่จริงสิ่งที่เห็นเป็นความคิด
แล้วลิขิตเขียนอักษรกลอนภาษา
ดุจหิ่งห้อยค่อยน้อยแสงส่องนภา
เพียงแววตาข้ารักใคร่ในกวี
แลเล่าเล่นพอเขียนเป็นเห็นช่องว่าง
เดินตามทางสุนทรภู่ประเสริฐศรี
นามอุกโฆษหนึ่งในพันล้านกวี
เพียงพอดีข้าพอใจเช่นนั้นเอย...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

พึ่งเลิกอ่านงานจากการตรวจข้อสอบนิสิต( 22.30 น. 8/5/61  ) เรื่องความเชื่อของคนเรานี้นานาจิตตัง ผมอาจคิดผิดนะที่ว่าคนทั้งโลกถ้ามีอยู่ 10 คน
มีถึง 7 คนที่เชื่อว่า ความจริง สิ่งจริง ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด
ผู้มีปัญญามากที่สุดนั้นอาศัยอยู่นอกโลกใบนี้
และสิ่งนั้นยังมีพลังอำนาจควบคุมทุกอย่างในโลกนี้
หากตัดสินโดยยึดหลักเน้นคนเอาเสียงส่วนใหญ่แล้ว..เราคงเดาออกสินะ..ว่าฝ่ายไหนกำชัย...ฮาๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

คุณค่าของคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนอื่นมองเห็นหรือไม่  หากแต่ขึ้นอยู่กับตนเอง  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

The  Time  is  The  Dhamma  or  The  Time  is  The  God.



ความเห็น (2)

หากแปลตามแนวคิดท่านพุทธทาส เวลาเป็นธรรมะ และพระเจ้าครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

คนที่ประมาทคือคนที่มีลมหายใจทิ้งเปล่า ๆ ไม่ลงมือทำอะไรให้มีคุณค่าควรแก่การมีชีวิตอยู่เลย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ชีวิตที่หยุดนิ่งคือชีวิตที่ตายแล้วทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

เพลงอินเดีย

บินลีเน  โขลา  สกุล.  ไบตักกรี  เลกัน  เอกรูล

มาปกรี  โจปุรี  ฝีส.  อาเอจูบิส  ปัจจิส.

อุลตาสีธาปาน  ปะดายะ.  จุ๊บเกเสเอก  จูหาขายา.

จายน  กีสเน  โขลีโปน.  โสระกียา  เอาระ  ปีตา  โทล.

ดฺขาเจเมตาลาฬาล.  จูโหงเนกันดี  หะสตาล.

.................................

ผู้ใดแปลได้บ้างครับ  ผมลืมแล้วเพียงแต่อยู่ในความทรงจำช่วงเรียนอยู่อินเดียแล้วได้จดจำไว้...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

วันนี้ได้อ่าน คห.ของเพื่อนทางเฟสที่ส่งมา ว่าขอบคุณที่รับเป็นเพื่อนกับเขา เขาเป็นชาวอินโดนีเซียไปอยู่อังกฤษ์สามีตายแล้วและเขากำลังเป็นโรคมะเร็งซึ่งหมอบอกว่าเขาจะมีอายุอยู่ไม่กี่เดือน..?  เลยตอบไปว่า ...คุณโชคดีนะครับ อดีตมันก็ผ่านไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึงอย่าไปกังวลกับมัน ขอให้คุณทำใจให้มีความสุขในปัจจุบันขณะนี้นะครับ ด้วยความปรารถนาดี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ธรรมชาติมอบเครื่องเล่นมาให้มนุษย์อย่างหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน  สมมุติชายกับหญิงพบกันต้องตาพาต้องใจและตกลงเป็นสามีภรรยากันแล้ว  ด้วยทุกสิ่งในโลกธรรมนี้ล้วนตกอยู่ใต้กฎไตรลักษณ์ซึ่งไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน  กาลต่อมาสามีและภรรยาเกิดปัญหาความขัดแย้งกัน  การจะแก้ไขปัญหานี้ประการหนึ่งเพื่อก่อเกิดรักกันเหมือนดังเดิมก็ต้องใช้เครื่องเล่นที่ธรรมชาติให้มานี้นั่นคือการสัมผัสเสพกามคุณอันเป็นสิ่งหล่อหลอมรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียวนั้นแล.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

เช้าวันนี้มีสอนนิสิต ป. โท  สาขาวิชาไทยคดีศึกษา ณ ม.ทักษิณ  ต้องเดินฝ่าสายฝนที่ตกลงมาพรำ ๆ แวบไปเห็นคนสวนหลบฝนอยู่ใต้ตึก  บอกคนสวนว่า..วันนี้เทวดารดน้ำต้นไม้ให้แล้วเลยไม่ต้องรดน้ำเหมือนวันก่อนที่แสงแดดเจิดจ้า  ...มีเสียงหัวเราะชอบใจตามมา...

...สำหรับเรา...Just  walking  in  the  rain.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

วันนี้ทราบข่าวการจากไปเป็นคุณพ่อของเพื่อนอาจารย์ในคณะเดียวกัน  มีเพื่อน ๆ กล่าวว่า...ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ.. สำหรับผม  มองในมุมใหม่ว่า..ผู้ที่ล่วงลาลับไปก็ขอให้ท่านไปสู่สุคติ  โดยผมให้ความสำคัญผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่กำลังเกี่ยวข้องกับผู้จากไป  โดยแสดงออกว่า...ขอให้กำลังใจ...ให้มีพลังใจที่เข้มแข็งเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป  ท่านผู้จากไปขอให้ได้ไปสู่สุคติ..เทอญ.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ช่วง 19.35 น. วันนี้  ขณะกำลังขับรถกลับบ้านเส้นทางข้างหน้าเป็น 3 แยกมีสัญญาณไฟกำลังจะแดงขึ้น  ผมจึงลดเกียร์เพื่อหยุดรถ  แต่มีรถคันหลังวิ่งตามมากดแตรดัง ๆ เหมือนต้องการให้ผมขับรถฝ่าไฟแดง   อะไรกัน..?  ผมหยุด  มองกระจกหลังเห็นรถคันนั้นเลี้ยวซ้ายมาจอดเยื้อง ๆ รถผม ที่จริงเขาขับขึ้นมาเทียบกับรถผมได้  จะได้เปิดกระจกด้านซ้ายคุยกันหน่อย  ว่าผมจะจอดรถที่ติดไฟแดงนี้ผมทำไม่ถูกหรือ  หรือว่ามีเหตุผลใดทำไมคุณจึงกดแตรอย่างนั้น.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ตามความฝันให้มุมคิดอะไร  ฝันว่าตนเองเข้าไปในวัดพุทธสายมหายานแห่งหนึ่ง จำได้ว่าสถานที่แห่งนี้เคยฝันไปเที่ยววัดแห่งนี้แล้วครั้งหนึ่ง  ในฝันครานี้มีคนแนะนำว่าคุณควรเปลี่ยนชุดเป็นพระแล้วจึงขึ้นไปตึกสูง ๆ หลายชั้นนั้นเพื่อไปไหว้พระ  เมื่อกลับลงมาแล้วก็ถอดชุดพระออกได้นะ  แล้วก็ตื่นจากหลับนั้นเอง  ที่น่าคิดคือทำไมเราฝันไปยังที่เดิมแห่งนี้  แต่ไม่รู้ว่าอยู่แห่งใดในโลกนี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท