อนุทินล่าสุด


ยูมิ
เขียนเมื่อ

ให้น้ำใจให้น้ำคำจำจ่อจิต

 ชุบชีวิตชนชาวเขาเฝ้าห่วงหา

 มอบสิ่งของให้เป็นทานท่านให้มา

 น้อมวันทาแด่นักบุญขุนเขาเอย.

กรณีพระจูเลี่ยน อาภาธโร ในชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร : นักบุญแห่งขุนเขา ( ดูใน Youtube ) 

ช่วงเตรียมเรื่องนี้เอาไว้ประกอบการสอนวิชาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

หอมอะไรในรั้วบ้านสำราญจิต
ชื่นชีวิตรุ่งอรุณอุ่นเกสา
เดินเลาะเล่นรอบหมู่บ้านรติมา
ได้เวลาหวนกลับคืนถิ่นบ้านตน
แวะข้างเรินเพลินคำชวนคู่ชีวิต
ดมสักนิดมะลิซ้อนบานหน้าฝน
หอมระรื่นชื่นนาสาครายืนยล
เราสองคนยิ้มระรื่นชื่นชีวี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ยามเย็นย้ำสนธยาอีกคราแล้ว
ไร้วี่แววว่านกกาถลาว้อน
ลืมแล้วหรือรวงรังครั้งเคยนอน
ปล่อยให้คอนคอยเก้อเธอไม่มา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ขับรถมาติดไฟแดงมองเห็นคำ
นึกขันขำจำมาเล่าเราแลหัน
ขำในใจเดินผ่านไปอย่าทักกัน
เพราะทุกวันรักคนง่ายเสียจริงเอย.
มุมคิดติดท้ายรถตู้ว่า
...เดินผ่านอย่าทักเพราะรักคนง่าย...
ฮา ๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ความเชื่อใด ๆ ที่มีพลังต่อการดำรงชีวิตของคนนั้นมักจะยืนยงอยู่ได้นานหลายพันปี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ความโศกเศร้าเสียใจในประวัติศาสตร์ของคนนั้นมักมาจากความเชื่อในพลังของอารมณ์ความรู้สึก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันว่าความรักถือว่าเป็นต้นตอของงานวรรณคดีและศิลปะ  บทกลอนที่ไพเราะสวยงามนั้นกวีมักแต่งมาจากความรักไม่ใช่มาจากเหตผล



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

แท้จริงแล้วหัวใจของคำสอนทางพระพุทธศาสนานั้นคือ  สอนคนให้ใช้ชีวิตอย่างไรจึงไม่มีความทุกข์นั้นเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันคนเรานี้ถ้าคิดอะไรเบลอ ๆ เป็นลาง ๆ ก็ไม่มีทางที่จะพูดหรือเขียนอะไรออกมาชัดเจนได้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ศาสนาเปรียบเสมือนศาลาริมทางเป็นที่พักอาศัย  ผู้คนที่นับถือศาสนาเปรียบเหมือนมาคอยหลบแดดฝนและเพื่อเดินทางชีวิตต่อไป



ความเห็น (1)

มากกว่าศาลาริมทางหรือเปล่า…หนอ…

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันความรู้นั้นมีคุณสมบัติคือความจริง  ความจริงนี้ละถ้าเรารับรองได้ด้วยประสาทสัมผัสนั้นคือข้อเท็จจริง  และตราบใดถ้ายังมีความสงสัยได้ก็ยังไม่ถือว่าเป็นความรู้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ในบรรดาหลักคำสอนทางศาสนาที่ผู้นับถือมีความเห็นแตกต่างกันนั้นมักจะเป็นฝ่ายความเชื่อไม่ใช่ฝ่ายความรู้  และความเชื่ออย่างนั้นทำให้เกิดขัดแย้งกัน  ทะเลาะกันได้  เพราะเชื่อต่างกันไงละ 



ความเห็น (2)

ความเชื่อ..ถ้าเป็นความเชื่อในหลักสัจธรรม..คงไม่มีปัญหากระมัง

ขอบคุณครับ  น่าสนใจคิดต่อนะครับ  ที่คุณ 

prayat duangmala  ว่าความเชื่อในหลักสัจธรรมนั้นเป็นอย่างไร  กรุณาช่วยยกตัวอย่างชัด ๆ หน่อยครับ  ขอบคุณหลาย ๆ 
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

กรณีโลกแห่งแบบตามมุมมองของพลาโต้นั้นก็เป็นเพียงโลกในจินตนาการเท่านั้นเอง  ซึ่งเป็นความเชื่ออันเป็นเรื่องเฉพาะตัว  ส่วนตัว  เหมือนกับการนับถือศาสนา  ที่ไม่มีที่สิ้นสุด  แต่โลกกลมนี้สิได้มาจากความรู้เป็นสากล  ข้ามพรมแดน  เป็นส่วนรวม  และมีที่สิ้นสุด



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ในแนวคิดที่ลุ่มลึกพยายามบอกอะไรเราว่าความจริงที่เป็นแก่นแท้นั้นคืออะไรซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้ดวงตาปัญญาเท่านั้นละจึงมองมุมลึกอย่างนี้ได้นี่ละคือ อภิปรัชญา  ( Metaphysics )



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

คนเรานี้มีคุณสมบัติอยู่ 2 อย่างคือ  ทางรูป  สสาร  ได้แก่รูปร่าง  หน้าตา  มักมีข้อสงสัยน้อยกว่า  ทางนาม  จิต  ได้แก่  ความคิด  อารมณ์  ความรู้สึก  ที่มักมีปัญหามากเพราะไม่รู้ว่าใครคิดอะไรอยู่  เป็นต้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักปรัชญานั้น  เขาจะมีคุณสมบัติชอบคิดชอบสงสัย  เช่น การเห็นพระจันทร์เต็มดวงในยามค่ำคืน เกิดมุมคิดเช่น  ภาพที่ตนเองเห็นนั้น  กับ  ความเป็นจริงของสิ่งนั้นเป็นอย่างไร



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

กฎแห่งกรรมถ้าจะว่าไปแล้วคือข้อตกลงหรือกติกาแห่งความเที่ยงธรรม  หรือความสมดูลแห่งการกระทำของคนนี่เอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

อันชีวิตครอบครัวเหมือนเปลือกไข่ไก่ที่มีวันแตกถ้าดูแลไม่รักษาไว้ให้ดีแค่แวบเดียวอาจสูญเสียไม่มีวันจะหวนกลับคืนมาได้  เราต้องประคองถนอมรักไว้ให้ตราบนานเท่านาน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

งานใด ๆ ที่ยิ่งใหญ่ต้องค่อยคิดค่อยทำไปทำอย่างรอบคอบมีสติอยู่ตลอดเวลาดีที่สุด  เพราะงานใหญ่ ๆ มักมีสิ่งที่เกินคาดเดาเกิดขึ้นได้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ความสมบูรณ์ของการดำเนินชีวิตคือการยอมรับตนเองได้ในทุกเรื่องราวซึ่งจะทำให้จิตใจมีความกล้าหาญเดินทางชีวิตต่อไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ความสงบใจในตนเองได้ไม่ไหวหวั่นไปสถานการณ์ใด ๆ นั้นคือวิธีเตรียมพร้อมรับกับความจริงอย่างดีทีเดียว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ความเชื่อมั่นในตนเองต้องรักษาไว้เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ  และจะได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้อีก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

ในทุกเส้นทางมีความหลุมพรางมีบ่อให้ตกเป็นอุปสรรคมาก ที่สำคัญเราจะเรียนรู้จากหลุมพรางนี้เพื่อข้ามพ้นไปได้อย่างไร  ถ้าใจยังสู้ยังมีช่องทางชนะแน่ ๆ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

การเรียนรู้ด้วยตนเองนั้นมีแง่คิดอยู่ว่าจะทำอะไรขอให้รู้จริงรู้ลึกและสามารถทำต่อยอดได้ก็นับว่าเพียงพอละ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ยูมิ
เขียนเมื่อ

โลกความคิดมีอยู่จริงในทุกคนสิ่งนี้เป็นนามธรรม  คนแสดงโลกความคิดออกมาทางงานหนังสือและงานศิลปะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท