beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

อนุทินล่าสุด


beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๖๐)

  • วันนี้เป็นวันแรกที่รัฐบาล ขอความร่วมมือให้ข้าราชการ แต่งกายด้วยชุดสีเหลือง ตลอดเดือนธันวาคม..ซึ่งในหลวงของเรา พระองค์ท่านทรงพระชนมายุ ๘๗ พรรษา พระองค์ท่านประสูติในวันจันทร์ สีประจำพระองค์เป็นสีเหลือง
  • เมื่อตอนรัชกาลที่ ๕ ทรงประสูติวันอังคาร สีประจำพระองค์จึงเป็นสีชมพู
  • ปีก่อนๆ มีเรื่องการเมือง จึงไม่ได้มีการรณรงค์แบบปีนี้
  • บีแมนเป็นคนชอบสีเหลืองพอดี ดังนั้นต้องบริหารเสื้อสีเหลืองให้ได้ทั้งเดือน (วันหยุดก็พยายามใส่สีเหลืองด้วย)
  • พอนึกได้ดังนี้ ก็ไปค้นเสื้อสีเหลือง มีทั้งหมดประมาณ ๗ ตัว (รวมทั้งเสื้อใส่นอนด้วย) ได้เอาไปผึ่งแดด เพื่อให้กลิ่นอับจางลง


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๙-๔)

  • มาคุมสอบวิชาวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ตอน 12.00-14.00 น. ห้อง 4201 คุมสอบคู่กับอ.วิจิตร อุดอ้าย
  • มีเครื่องคอมฯ ว่าง เลยมาเขียนอนุทิน
  • คุมสอบ วิชา General Education ได้ค่าคุมสอบ 300 บาท ต่อกรรมการ 1 คน ห้องหนึ่งใช้กรรมการ 2 คน จ่าย 600 บาท ห้องหนึ่งคุมนิสิต 70 คน วันนี้มาครบไม่มีขาดสอบ
  • ข้อสอบมี 85 ข้อ ใช้กระดาษคอมพิวเตอร์ ผ่านไป 1 ชั่วโมง ยังไม่มีใครทำเสร็จเลย...ถ้าสอนห้อง 50 คน ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง
  • ขณะนั้นเวลาบ่ายโมง นิสิตก็เริ่มส่งกระดาษคำตอบและออกจากห้อง บ่ายโมงครึ่งเหลือผู้สอบแค่ 12 คน (ปกติจะออกจากห้องหมดแล้ว)
  • บ่ายโมง ๔๔ นาที ทุกคนออกจากห้องหมด ปิดไฟให้ แต่ไม่ปิดแอร์ และเปิดคอมฯ ทิ้งไว้ น่าจะมีคนมาสอบต่อ ตอน ๑๔.๓๐ น.
  • เอาข้อสอบไปส่ง พวกกรรมการกลาง ได้ค่าตอบแทนเหมาจ่ายวันละ ๕๐๐ บาท ส่วนบีแมน ทำงาน ๒ ชั่วโมง ได้ ๓๐๐ บาท ถ้าคิดเป็นตัวเงินแล้วกรรมการกลางได้ค่าตอบแทนมากกว่า แต่ถ้าคิดเป็นเวลาแล้ว บีแมนได้ค่าตอบแทนมากกว่า แม้ว่าตัวเงินจะน้อย แต่ถ้าบริหารเวลาดีๆ ก็ได้มากได้เช่นกัน


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๙-๓)

  • ถึงวันนี้ ใช้จ่ายผ่านบัตร First Choice เป็นเงินทั้งสิ้น 64,909.25 บาท ได้ใส่เงินในเดบิทไปอีก 5,300 บาท รวมจะมียอดใช้จ่ายที่เป็นไปได้ของเดือนพฤศจิกายน เท่ากับ 70,299.25 บาท ซึ่งอาจได้เครดิตเงินคืนถึง 2,970 บาท
  • แต่วันนี้จะไปลองใช้จ่ายเพิ่มสัก 2,280 บาท ซึ่งยอดรวมเครดิตเงินคืนจริงน่าจะอยู่ที่ 2,753 บาท คิดเป็นร้อยละ 4.1 ของค่าใช้จ่ายซึ่งก็ไม่เลวนัก
  • โครงการบริหารรายจ่ายให้เป็นรายรับ (ตอดเหยื่อโดยไม่ฮุบเหยื่อ-พล.อ.ต.นพ.บุญเลิศ จุลเกียรติ)
  • เพิ่มเติม ตอนเย็นไปใช้จ่ายเพิ่ม ๑๗๓ บาท..และเติมน้ำมันเต็มถังอีก ๘๐๐ บาท เท่ากับยอดใช้จ่ายผ่านบัตร เดือนพฤศจิกายน รวมเป็นเงิน 65,872.25 บาท จะได้เงินคืน ๒,๖๖๑ บาท หรือร้อยละ ๔.๐๔


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๙-๒)

  • วันนี้เปิดหน้าบล็อก beeman กลับไปขึ้นหน้า 1 หน้าปัจจุบัน เหมือนเดิมแล้ว (จากเดิมขึ้นหน้า ๗๓)
  • สถิติ มีผู้ติดตามเนื้อหาของ beeman ๔๗ คน แต่ที่ Active น่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 คน
  • ช่วงสอบ Final นี้บีแมนคุมสอบแค่ ๒ วิชา คือ ชีววิทยาเบื้องต้นและวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน
  • ยังคงดื่มน้ำตอนเช้า ก่อนอาหารเช้า ๕ แก้วทุกวัน..มีผลดี...และคิดว่าจะต้องนำไปเขียนในบล็อกวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวันเพื่อเตรียมเอาไว้ให้นิสิตอ่าน มีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ ที่ได้ทดลองปฏิบัติแล้วจึงนำมาเขียน


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๙)

  • เมื่อวันศุกร์มีนิสิตที่เรียนศึกษาศาสตร์นำข้อสอบ multiple choice มาให้วิพากษ์ หลังจากที่เพิ่งคุมสอบวิชา Introductory biology กลับมา
  • นิสิตพวกนี้อยู่คณะศึกษาศาสตร์ น่าจะเรียนเกี่ยวกับวิชาวัดผล ซึ่งมีนิสิตหลายเอกด้วยกัน นิสิตจะจัดกลุ่มกันไปออกข้อสอบ เมื่อออกเสร็จ ต้องไปหาอาจารย์ในสาขาที่เกี่ยวข้องช่วยวิพากษ์ให้ ซึ่งพวกอาจารย์ชีววิทยาคงมีหลายคน..แต่บีแมนไม่รับงาน เพื่อกดดันนิสิต ไปกดดันอาจารย์ผู้สอนอีกครั้งหนึ่ง ว่าการสอนในศตวรรษที่ ๒๑ นั้น ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีวัดผลกันใหม่แล้ว.. (แต่วิชา Introductory biology ก็ยังทำเหมือนเดิม) คนที่เปลี่ยนแปลงยากนั้นคือครู,แพทย์และหมอดู (เพราะเป็นซินแส ที่ยึดมั่นกับตำรา มากเกินไป)


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๘-๒)

  • ไปพบเทคนิค ที่จะรู้จักนิสิต โดยการเข้าไปดูประวัติที่หน้า REG. (ระบบลงทะเบียนมหาวิทยาลัยนเรศวร)
    1. เป็นเครื่องมือในการดูผลการเรียนของนิสิตแต่ละคน ซึ่ง เมื่อดูประวัติของผู้เรียนวิชา Taxonomy แล้วพบว่า คนที่ได้เกรดดี มีแนวโน้มเรียนดี และเมื่อสอนแบบ Teach less, Learn more แล้ว สามารถทำให้นิสิตพวกนี้ เกิด Change Agent และนิสิตพวกนี้มีแนวโน้มสูงที่เกิด Mastery Learning ทุกคน เข้าใจว่า นิสิตที่ได้เกรด ๒.๕ ขึ้นไป มีแนวโน้มเข้าใจวิธีการเรียนแบบนี้..น่าจะทำวิจัยได้ง่ายๆ โดยเที่ยบความสัมพันธ์ระหว่างเกรดนิสิต กับผลการเรียน ซึ่งอาจจะต้อง copy ผลการเรียนเอาไว้ ก่อนตัดเกรด แล้ว เอาผลการเรียนกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาทำวิจัย...
    2. สามารถ วิเคราะห์อุปนิสัย ของนิสิตที่ปรึกษาในแต่ละคนได้ เพราะเราสามารถ เห็นหน้านิสิตทุกคน และเราก็ได้สอนทุกคน (โดยเทียบกับผลการเรียนรู้ที่เป็น Reflection)
    3. ่ยิงปืนนัดเดียว ได้นก ๒ ตัว แต่อาจเป็น ๓ ตัว หรือ ๔ ตัว เพิ่มขึ้นอีกได้...มีความสุขจาก "วิธีคิด"
  • ดื่มน้ำทุกเช้า วันละ ๕ แก้ว ทำได้สำเร็จแล้ว พบว่า
    1. อุจจาระนิ่ม ถ่ายคล่อง คล้ายๆ ทำ detox. เลย ถ้าถ่ายดี สุขภาพดี เพราะไม่มีสารพิษตกค้าง
    2. ไปกระตุ้นระบบปัสสาวะ ทำให้ไตทำไตทำงานได้ดี มีผลต่อกระเพาะปัสสาวะทำให้มีแรงดันมากขึ้น บริหารกล้ามเนื้อหูรูดที่เป็นกล้ามเนื้อเรียบ (ทำงานโดยระบบประสาทอัตโนมัติ นอกอำนาจของสมองส่วนซีรีบรัม)
    3. น่าจะมีผลทำให้ต่อมลูกหมาก (ในผู้ชาย) เกิดการนิ่มขึ้น ไม่ขยายตัว ปัสสาวะจึงออกง่ายขึ้น (น่าจะมีผลที่กล้ามเนื้อเรียบบริเวณนั้นด้วย เป็นการบริหาร (่ต้องไปศึกษาเรื่องต่อมลูกหมาก)
    4. การทานซอสมะเขือเทศ ส่งผลต่อต่อมลูกหมากอย่างไร (หัวข้อ คำถามในวิทยาศาสตร์ ในชีวิตประจำวัน)


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๘)

  • บีแมน ชอบทำอะไรแปลกๆ เช่น
    1. ส่งไปรษณียบัตร ถึงตัวเอง เพื่อบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ เช่น ตอนไปพระราชวังวาติกัน ก็ส่งไปรษณีย์บัตร จากที่นั่น มาหาตัวเอง
    2. เมื่อเช้านี้ โทรมือถือ หาตัวเอง จากเบอร์ที่ ๑ ไปเบอร์ที่ ๒ โทร ๒ ครั้ง ใช้เวลา ๑ นาที และ ๕ นาที เพื่อใช้ค่าโทรฟรี ๕ ่บาท แลกกับโทรฟรีครั้งละ ๖๐ นาที ทั้งวัน (ดีแทค) เริ่มทำตั้งแต่เช้าๆ ถึงจะสุดคุ้ม
  • ไปเห็นข่าวมหาวิทยาลัย บอกว่า "คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยนเรศวรอนุมัติเงินตกเบิกปรับคุณวุฒิพนักงานตั้งแต่ 1 เมษายน 2556 – 31 มกราคม 2557 รวม 10 เดือน รวมเป็นเงิน 88,906,161.04 บาท"
    1. ใช้เงินเยอะเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเม็ดเงินที่ใช้ไป จะได้อะไรกลับมาบ้าง


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๗-๔)

อยากรู้ว่า ระหว่างบันทึก กับ อนุทิน อย่างไหนถูกเขียนมากกว่ากัน ลองไปดูสถิติ

  • บันทึกนั้น ถูกเขียนวันละ 67-89 บันทึกต่อวัน ตัวเลขบันทึกอยู่ที่ประมาณ 581,xxx
  • อนุทิน นั้น อยู่ราว 20-30 อนุทินต่อวัน ตัวเลขอนุทินอยู่ที่ประมาณ 138,xxx


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๗-๓)

หมอวัลลภ เขียนเรื่อง ความสุขไว้ว่า

คนเรา จะมีความสุข ในระยะยาว อย่างน้อยต้องมี ๒ เรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง

(1). เรื่องเงิน = อย่างน้อยมีเงินออม + ไม่เป็นหนี้เกินตัว

(2). สุขภาพ = การไม่ป่วยหนัก + ไม่มีโรคเรื้อรัง

แต่ของบีแมน เพิ่ม (3) สร้างความสุขจากวิธีคิด เมื่อคิดได้และลงมือทำ สำเร็จได้เหมือนกับที่คิดไว้ (เกินร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป)

ของ อ.จันทวรรณ และอ.ธวัชชัย (3) "เพียงแค่เราได้มีความสุขที่ได้ทำงานและสามารถช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่ดีขึ้น แม้อาจไม่มากมายแต่ก็ช่วยให้เราเข้าใจได้มากขึ้นว่า "ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง" ตามคำปณิธานของพระบิดาที่ดำรัสไว้นั้นทรงคุณค่าเพียงใด" อ้างอิงจากบันทึก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๗-๒)

  • เมื่อวานอีกเหมือนกัน อยากรู้ว่า สมาชิก Gotoknow เลขที่1-10 มีใครกันบ้าง แต่ความสามารถไม่มี หาได้ไม่ครบ ได้มาแค่ ๔ ท่าน ดังนี้
    1. เลขที่ ๑ อาจารย์จันทวรรณ
    2. เลขที่ ๒ อาจารย์ธวัชชัย
    3. เลขที่ ๓ ไม่พบ
    4. เลขที่ ๔ อาจารย์กรกฎ
    5. เลขที่ ๕ ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๗)

  • เมื่อวานดูฟุตบอลซูซูกิคัพ ไทยกับมาเลเซีย, ทีมไทยภาพรวมเล่นพอใช้ได้ แต่มาเลเซียได้ความเก๋า, มาเลเซียขึ้นนำ ๒ ครั้ง แต่สุดท้ายไทยก็ชนะได้
  • ปัจจัยความสำเร็จ คือ ตวามฟิต แรงดีตั้งแต่ต้นจนปลาย และไม่ยอมแพ้ เล่นอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งโค้ชก็มีส่วนสำคัญในการสร้างจินตนาการให้นักเตะ
  • เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ ซิโก้ เป็นโค้ชคนไทย ที่่มีความสามารถคนหนึ่ง เพราะทำให้ทีมบอลไทยได้แชมป์ ซีเกมส์ (ธรรมดา), ที่ ๔ เอเชียนเกมส์ (ไม่ธรรมดา), และ(แอบหวัง) ถ้าได้แชมป์ซูซูกิคัพ ก็จะเพิ่มความเชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรที่คนไทยทำไม่ได้ จงเชื่อมั่นและไว้ในคนไทยด้วยกัน..(ถ้าไม่ได้แชมป์ก็จะไม่โทษกัน)
  • การสร้างทีมนั้น สร้างยาก แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ถ้ามีเทคนิคดี ก็จะเกิด Synergy ภายในทีม
  • ซึ่งเมื่อวานอ่าน Journal ของนิสิต บอกว่า Synergy มาจาก Syn+Energy


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๖-๒)

  • จะสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน, ให้เริ่มเขียน Reflection ก่อนว่ามาเรียนวิชานี้กันทำไม
  • ตอนแรกจะต้อง ทดสอบนิสิต ๕๐ คน ให้ทำข้อสอบ ๕๐ ข้อ. (ทดสอบความจำ)
  • ใครทำได้คะแนนมากที่สุด ๑๐ คนแรก จะถูกคัดเลือกเพื่อสัมภาษณ์ และเลือก ๕ คน เพื่อช่วยเป็น TA
  • ต่อไปให้นิสิตแต่ละคนไปแนะนำตัว, ถ้าเป็นคณะได้ยิ่งดี
  • ต่อไปแบ่งทีม, ให้เช็คชื่อกันเอง, แต่ละทีมแนะนำให้รู้จักสมาชิกของกลุ่มตัวเอง และแนะนำการเขียน Journal
  • ต่อไปมีเวลาให้เขียน Reflection
  • ทำอะไรก่อนหลัง ค่อยมาเรียงลำดับ เขียน Idea ไว้ก่อน


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๖)

  • เมื่อวานก่อนได้ Bluetooth มา จากแรงยุของลูกสาว เมื่อวานลองใช้ดูก็ work ดี ของ Nokia รุ่น BH-110 ราคาเต็ม 790 บาท ลด 30% เหลือ 553 บาท
  • ใครชื่นชอบแบรนด์ Nokia ต้องรีบหน่อย เพราะต้นปีหน้า จะเปลี่ยนชื่อหน้าเป็น Microsoft
  • ไปได้ มือถือ Nokia Asha 230 มาอีกเครื่อง มี ๒ Simราคาเดิมประมาณ ๑,๒๙๐ บาท ราคาใหม่ 990 บาท ซึือรวมกับของอื่นๆ ที่ Lotus 1,600 บาท ได้ลดอีก 170 บาท
  • ตอนนี้สะสม มือถือเก่าๆ ของ Nokia ไว้ไม่ต่ำกว่า 10 รุ่น ต่อไปเก็บไว้เป็น พิพิธภัณฑ์มือถือ..ที่สำคัญทุกรุ่นยังใช้งานได้ (ถ้ามีแบตฯ)
  • ตอนนี้ได้ข่าวว่า เจ้าสัวธนินทร์ ซือ Lotus ในไทย มูลค่า ๑๐,๐๐๐ ล้านดอลล่าห์
  • Lotus อยู่ในมือคนไทย เช่นเดียวกับเซเว่น, แมคโคร, ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าท์,True และซีพี


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันอังคารที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๕-๓)

  • บีแมน จะเหมือนเตี่ย (พ่อ) ตรงที่มีจินตนาการสูง ชอบทำอะไรที่แปลกใหม่ ที่คนอื่นไม่ทำ มีวิธีคิดที่แตกต่างจากคนอื่นๆ
  • เตี่ยนั้น สมัยยังมีชีวิตอยู่ มีคนมาพึงพาความคิดหลายคน ซึ่งเตี่ยก็ได้แนะนำ "วิธีการทำมาหากิน" ไป ซึ่งเมื่อคนเหล่านั้นนำไปปฏิบัติ แล้วก็ร่ำรวย มีบางคนก็กลับมาตอบแทนบุญคุณ (ตรงนี้เตี่ยไม่เคยคิด)
  • บีแมนก็มีไอเดีย ทำมาหากินมาก แต่ไม่ไปทำ เพราะไม่อยากรวย (มันก็จะมีทุกข์ตามมาแบบหนึ่ง) ชอบชีวิตที่เป็น simple life ไม่อยากไปยุ่งเรื่องคนอื่น ไม่ไปกดดันคนอื่น
  • แต่ในบางเรื่องที่ชอบ (มีฉันทะ) ที่มีผลกระทบในด้านบวก ก็อยากให้คนอื่นเล่นตามเกมส์เราบ้าง อยากไปช่วย (ในเรื่องที่คนอยากให้ช่วย-ซึ่งถ้าไม่ขอมา ก็จะไม่ไป) จึงเหมือนหลักการตลาดเชิงรับมากกว่า
  • ในยุคปัจจุบัน ต้องเป็นการตลาดเชิงรุก ยิ่งเป็นตลาดที่เป็นแบบ delivery ยิงดี พูดแบบติดตลกว่า ต่อไปอาหารเรื่องอาหารไม่ต้องส่งถึงมือแล้ว ส่งถึงปากเลย แล้วต่อไปก็เคี้ยวให้เสร็จ เป็นอาหารเหลวป้อนสู่ปากเลย..อิอิ
  • ให้คนมีลิ้นอย่างเดียว...ใช้ลิ้นเสพ "ความอร่อย" ความอร่อย นั้น บีแมนตีความว่าเป็น ตัณหา (ความอยาก) ของเรา โดยมีกิเลส เป็นกองหนุน (หลงติดในรสชาติ)
  • สิ่งที่แตกต่างจากเตี่ย คือ หลายเรื่อง คิด และ ลงมือทำด้วย


ความเห็น (2)

ตอนนี้คนเก่า เริ่มมาเล่าใหม่ คึกคักขึ้นนะคะบ้านโกทูโน

บางทีไม่มีแรงกระตุ้นก็ไม่อยากทำ แต่ตอนนี้มีแรงกระตุ้นแล้ว จึงกลับมาเขียนใหม่

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันอังคารที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๕-๒)

  • วิเคราะห์ตัวเอง ได้รับอิทธิพลมาจากอาจารย์หมอวิจารณ์ แบบไม่รู้ตัว เป็น Mastery learning ในหลายเรื่อง
  • ด้านการสอนแบบไม่สอน...ที่ต้องมี ทักษะ, หลักการ และ เนื้อหา (การสอนที่ อิงการบรรยาย ครูผู้สอนอยู่หน้าชั้น) ในแต่ละวิชานั้น ก็เปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งที่ตนเองกำลังสนใจในขณะนั้น ซึ่งทำให้แต่ละรุ่นที่เรียน ได้รับส่วนที่เป็นสาระหรือเนื้อหานั้นแตกต่างกัน
  • วิธีสอนของแต่ละวิชา ที่มีธรรมชาติแตกต่างกัน แม้ว่าจะสอนในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็ทำไม่เหมือนกัน (ภาคปฏิบัติ) ดังนั้นไม่มีสูตรที่ตายตัว "กระบี่อยู่ที่ใจ" คือ "พริ้วไหว" ไปตามสถานการณ์ โอนอ่อนผ่อนตามเหมือนกับ "ต้นหญ้า" ที่ไม่ฝืนต้านแรง "พายุโหม"


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันอังคารที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๕)

  • เมื่อวันจันทร์ เขียน Essay ภาษาอังกฤษ ใช้เวลาไปครึ่งวัน
  • ไปรับ M2F ตอนเที่ยง ไม่มีแจก ทั้งที่วันนี้คนเยอะมา เพราะมีการสอบของ สทศ. และ ของมน.
  • ไปรับ Journal ของนิสิตที่ร้านถ่ายเอกสาร
  • ช่วงนี้ ตามล่า Power point ของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์มาเก็บไว้ Trend กำลังมา ในเรื่องของ 21th Century Skill ซึ่งต้องมี ครูเพื่อศิษย์ เป็นตัวเดินเรื่อง
  • โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะ Nokia มี Trend ที่เปลี่ยนแปลง เร็วมาก
    • เทคโนโลยี ที่มี series หลายรุ่น บนปฏิบัติการ window 8 และ Android
    • ราคาที่เริ่มต้นจากสูง แล้วก็ค่อยๆ ลดลงมา อย่างเร็ว ราคาที่ลด ลดทีละรุ่น ผ่านร้านค้าที่แตกต่าง
    • เปลี่ยนแปลง โดยการ Take Over จากเดิม Nokia (ของฟินแลนด์) เป็น Microsoft ของค่ายอเมริกัน
  • มองอีกแง่หนึ่ง น่าจะเป็นความโชคดีของคนยุคใหม่ ที่มองเห็น "ไตรลักษณ์" ได้อย่างชัดแจ้ง


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๔-๗)

  • หลังเที่ยง (เอาข้าวจากบ้านมาทานที่ห้อง) เกือบบ่ายโมง คุณประดับเดือนโทรมาหา (จากที่โทรไปบอกเจ้าหน้าที่ไว้ให้โทรกลับ) จะเอา "คำตอบ-กระดาษโรตี" ไปให้ดู ให้เตรียมกล้องถ่ายรูปไว้ และจะเอาหนังสือ ครูเพื่อศิษย์ไปให้ด้วย ๑ เล่ม (เล่มแรกปี ๒๕๕๓ ที่ ก๊อปปี้เอาไว้)
  • ลงไปข้างล่าง มีครูที่เชียงราย คุยกับรปภ. กำลังคุยกันเรื่องบีแมนพอดี เลยขอให้ถ่ายรูปกับกระดาษคำตอบ แล้วถามชื่อ "ชื่อว่า น.ส.ภารดี กุมารแก้ว" เป็นนิสิตชีววิทยา รหัส ๔๘ (เข้าเรียนปี ๒๕๔๘ และได้เรียนวิชา Apiculture ด้วย
  • ถ่ายภาพแล้วก็เดินไปตึกมิ่งขวัญ ระหว่างทางมีคนขับมอเตอร์ไซด์พาไปหอสมุด เป็นเหตุบังเอิญแท้ๆ เจอ "เม่น" เจ้าของกระดาษคำตอบพอดี เลยบันทึกภาพเอาไว้
  • ไปถึงตึกมิ่งขวัญ พบท่านอาจารย์ประจักษ์ สายแสง อายุกว่า ๖๕ ปี ยังสอนอยู่สัปดาห์ละ ๒๐ ชั่วโมง เงินเกษียณกับเงินค่าสอนรวมกันเดือนละ ๘ หมื่นบาท แกฟันหน้าหัก แต่ก็ยังงอกได้เล็กน้อย สอนถึงป.เอก เรื่องคติชนวิทยา เป็นเรื่องการตีความจากภายใน เช่น เด็กคนหนึ่งอกหักเพราะรักเขา เป็นเพราะว่าได้รับข้อมูลว่าอกหักเป็นอย่างไร ไปอยู่ใน memory ว่าอาการอย่างนี้เรียกว่า "อกหัก" น๊ะ ถ้าไม่เคยมีคนสอนเรื่องนี้ ใน memory ไม่มี ทุกเรื่ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสอนไว้หมดแล้ว
  • ไปพบคุณประดับเดือน ให้ถ่ายภาพกับข้อสอบแล้ว และมอบหนังสือ "ครูเพื่อศิษย์" แล้วก็กลับมาที่ทำงาน ก่อนกลับ คุณประดับเดือน ไหว้งามๆ ๑ ครั้ง ที่ช่วยทำงานดีๆ ให้กับนิสิต..
  • พบว่า เดินกลับมาที่ถึงทำงาน ตอนบ่าย ๒ โมงครึ่ง
  • รวมว่าวันนี้ ก่อน ๕ โมงเย็นเดินไปรวมทั้งสิ้นประมาณ ๓,๕๐๐ ก้าวแล้ว ขาดอีก ๑,๕๐๐ ก้าวจะถึง ๕,๐๐๐ ก้าว คาดว่าเย็นนี้หลังทานข้าว จะไปเดินให้ครบ...๕,๐๐๐ ก้าว วันนี้ทำได้แน่นอน


ความเห็น (2)

ชอบอาจารย์เขียนแบบนี้ครับ มีชีวิตจัง

ขอบคุณ ท่านทิมดาบมาให้กำลังใจ คล้ายๆ บ่นเหมือนกัน แต่ว่ามันภาคภูมิใจนะ ที่นิสิตได้เรียนแบบรู้จริง หรือ Mastery learning เอาข้อสอบไปทำตั้ง ๑๐ กว่าวัน และข้อสอบก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๔-๖)

เป้าหมายของการเดิน (สถานที่) เหมือนเดิม แต่จุดมุ่งหมายของการเดิน (แต่ละครั้ง) ย่อมเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

  • วันนี้เดินไปรับหนังสือพิมพ์เหมือนเดิม นับก้าวได้ ๙๙๔ ก้าว หรือ ประมาณ ๖๙๔ เมตร ไปกลับ ๑.๔ กิโลเมตร แต่ไปแวะที่อื่นด้วย คิดแล้วเป็นระยะทาง ๒ กิโลเมตร (ก่่อนเที่ยง)
  • ระหว่างเดิน จิตไม่ค่อยเป็นสมาธิเท่าไร เพราะคิดหลายเรื่อง เลยเดินหลงทางไปบ้าง
  • ที่เป็นการเดินหาความรู้คือ หลงเดินไปตึกอธิการบดี ระหว่างขึ้นลิฟท์ เห็นภาพถ่าย การยกพระรูปสมเด็จพระนเรศวร และรู้ว่า วันนี้มีการประชุม เรื่องแผนการรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ เนื่องในการเสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานปริญญา
  • ห้องสมุดเปิดให้บริการ ๒๔ ชั่วโมง ตั้งแต่ก่อนวันนี้จนถึงวันที่ ๔ ธันวาคม (ซึ่งบีแมนคิดว่าจะไปใช้บริการด้วย)
  • ที่ NUIC=Naresuan University International College, เขียนตอกย้ำว่า "คำว่า Freshy" ไม่มีใน Dictionary โดยเขียนว่า "Welcome all NUIC freshman"
  • ระหว่างเดินหลงเล็กๆ คิดถึงคำกล่าวที่ว่า..."หาก(เดิน)หลงทาง ให้(เดิน)กลับไปเริ่มต้นใหม่" เลยเดินไปจุดเริ่มต้นของทางเดินที่เป็น corridor ระหว่างตึกสำนักงานอธิการบดี กับ สำนักหอสมุด วัดระยะทางด้วยการ "ก้าวเดิน" เป็นระยะทาง ๓๗๐ ก้าว เท่ากับระยะทางประมาณ ๒๕๙ เมตร
  • ได้ความรู้เพิ่มเติมจากการไปสัมภาษณ์ พนักงานแจกหนังสือพิมพ์ M2F เพราะวันนี้ ไม่ค่อยมีนิสิตไปเรียน เลยแจกหนังสือพิมพ์ได้น้อยลง ตอนขากลับไม่พบพนักงานแจก คาดว่าจะไปแจกตามห้องเรียน...

วันนี้เขียนอนุทิน ๖ อนุทิน (รวมอนุทินนี้ )ได้หมายเลข 138585,138586,138588,138589,138590,138591..อิอิ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๔-๕)

ในหนังสือนวนิยายกำลังภายในจีน กล่าวไว้ว่า "กระบี่อยู่ที่ใจ" ณ ตอนนี้ บีแมนพร้อมแล้ว

  1. สอนวิชาอะไรก็ได้ ใน ม.นเรศวร และสอนคณะใดก็ได้ ยิ่งรายวิชา General Education ในมน.ยิ่งง่ายใหญ่ แต่ทุกวิชาต้องอยู่ภายใต้เงือนไข ๒ เรื่อง คือ จำนวนนิสิต ๕๐ คน และ แนวการสอนต้องเป็น Teach less Learn more
  2. เป็นวิทยากรเรื่องอะไรก็ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข "การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์" ในหัวข้อที่ฝึกกระบวนการคิด..หรือ คิดให้เป็นทำอย่างไร ภายใต้เงื่อนเวลาที่จะต้องมีการติดตามผลเป็นระยะ ถ้าทำครั้งเดียวแล้วเลิก ก็จะไม่รับงาน


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๔-๔)

ในสามก๊ก ฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) กล่าวไว้ว่า "สงครามสร้างวีรบุรุษ"

ซึ่ง บีแมน นำมาเปลี่ยนใหม่ว่า "สถานการณ์สร้างวีรบุรุษและวีรสตรี" คำว่า สถานการณ์ ก็คือ คำว่า condition นั่นเอง (ในการตีความของบีแมน) ซึ่ง ครูเพื่อศิษย์ ก็จะนำมาออกแบบเป็นบรรยากาศของการเรียนรู้

และ บีแมน ก็ Get ความหมายของคำว่า "Critical thinking" ซึ่งมันจะมีความหมาย (แต่ไม่เหมือน) คล้ายกับคำว่า "เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส" หรือ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "Our lose is our gain" นอกจากนั้น บีแมน ก็ยังพบ Know how ว่า how to ทำอย่างไรด้วย..



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๔-๓)

สงสัยศัพท์ ๓ คำ

  1. คำว่า Paradigm แปลเป็นไทยว่า กระบวนทัศน์ ตีความว่า จะต้องมีตัว Process ทำให้เกิดทัศนคติ หรือ ความเชื่อใหม่ และอาจเกิด ชุดความรู้หรือชุดความคิดใหม่ ที่เรียกว่า Mindset ซึ่งใน Mindset จะมีวิธีคิด วิธีการอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อลองเอาไปปฏิบัติจะเกิดประสบการณ์ และสามารถตอบได้ว่า Mindset ที่เข้าใจนั้นถูกหรือผิด (ภายใต้เงิื่นไขของเวลา หรือ Timeline ปัจจุบันขณะ)
  2. คำว่า "โยนิโสมนสิการ" ซึ่ง ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ บอกว่า เป็น คำเดียวกับ คำว่า AAR และ Reflection ซึ่ง บีแมนตีความว่า AAR กับ Reflection น่าจะตรงกับคำว่า "วิมังสา" มากกว่า ส่วนคำว่า "โยนิโสมนสิการ" นั้น มันต้องเลยไปอีกขั้นหนึ่งก่อน ต้องผ่านกระบวนการคิด และตกผลึกออกมา ตีความว่า ต้องผ่าน Critical thinking
  3. คำว่า "Critical thinking" แปลเป็นไทยว่า "คิดอย่างมีวิจารณญาณ" อ่านนิยามกี่ครั้งก็ยังไม่เข้าใจ และยิ่งงงใหญ่ว่า จะสอนนิสิตให้มี Critical thinking ได้อย่างไร และ ตอนที่ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ มาสอนการทำ workshop ที่คณะเภสัชฯ มน. นั้น ได้นำเรื่อง "ทฤษฏีหมวก ๖ ใบ" มาใช้เป็นเครื่องมือ ร่วมกับ กระบวนการ KM แต่บีแมนก็ยังไม่ Get


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๔-๒)

มี ๓ เรื่อง หรือ ๓ เหตุการณ์ มาพบกัน

  1. นอนประมาณ ๔ ทุ่ม ตื่นประมาณตี ๕ รวมเวลานอนไม่เกิน ๗ ชั่วโมง พอตื่นเช้าสมองสดใส
  2. ชงชา ดื่มชา มีสมาธิ (จิดจดจ่อกับการดื่มชา) และมีผลดีต่อสุขภาพ ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารเช้าให้ได้ ๕ แก้ว (ปัสสาวะก็จะใสเอาไปทำเป็นน้ำมูตรเน่า เป็น "ยารักษาสรรพโรค=Panacea")
  3. อ่านหนังสือพิมพ์ M2F เป็นตัวกระตุ้นความคิดดีๆ ที่มีอยู่ในตัวตน (วิเคราะห์ข่าว เกิดแรงกระตุ้น มีการเรียนรู้ บูรณาการความคิด จินตนาการ สังเคราะห์สิ่งใหม่ เกิดนวัตกรรมใหม่ มี Mind setting หรือ Mindset ใหม่ในตัว ซึ่งจะมีการเปลี่ยน Paradigm เล็กๆ


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๔-๑)

  • วันนี้ตื่นสายหน่อย หลัง ๖ โมงครึ่ง...แต่ยังคงปฏิบัติภาระกิจ ดื่มน้ำตอนเช้าให้ได้ ๔ แก้วเป็นอย่างน้อย โดยชงชาดื่ม ๔ แก้ว และดื่มเพิ่มอีก ๑ แก้ว ก่อนอาหารเช้า
  • ผลจากการดื่มผ่านไป ๓ แก้ว ก็ไปถ่ายอุจจาระ (น้ำช่วยทำให้อุจจาระนิ่ม จากการดื่มน้ำอุ่่นที่มีอุนที่มีอุณหภูมิใกล้กับอุณหภูมิของร่างกาย-เราดื่มก่อนยังไม่ต้องแปรงฟัน เพราะแบคทีเรียในปากจะเข้าไปสู่ทางเดินอาหาร เป็นแบคทีเรียดีที่จะไปสู้กับแบคทีเรียร้าย) ถ่ายได้คล่องดี นำของเก่าออกหมดเป็นผลดีต่อสุขภาพ..
  • พอมาเขียนอนุทิน-ใช้คำว่า "Journal" นึกถึงศัพท์ ๒ คำที่เขียนไปในหัวข้อย่อยก่อน คือ แบคทีเรียดี กับ แบคทีเรียร้าย....ศัพท์ภาษาอังกฤษ-ศัพท์ชีววิทยา น่าจะเรียกว่า "Benign-bacteria ฺ" และ " Malignant-bacteria"
  • ถ้าว่างๆ จะศึกษาตัวเองว่า ดื่มน้ำวันละ ๑๔ แก้ว แล้วได้เรียนรู้อะไร
  • ขณะดื่มน้ำก็จะ อ่านหนังสือพิมพ์ M2F ไปด้วย และได้ Idea ดีๆ จาก M2F
  • ความจริง M2F เป็นแค่ตัวกระตุ้น แต่สิ่งที่ค้นพบ มันอยู่ที่วิธีคิดของเราเอง


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

พฤหัสที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๓)

  1. เรียนรู้การดื่มน้ำวันละ ๑๔ แก้ว (๑ แก้วประมาณ ๒๕๐ ซีซี) ประมาณ ๓ ลิตรครึ่ง ซึ่งจะช่วยให้ไตทำงานได้ดี
    • เช้าขึ้นมา (ก่อน ๖ โมง) ชงชาดื่ม ๔ น้ำ คือ ๔ แก้ว ๑ ลิตร (ปฏิบัติแล้ว)
    • ก่อนทานอาหาร ๓ มื้อ ดื่มน้ำ ๑ แก้ว และ หลังอาหาร ๓ มื้อ ดื่ม ๑ แก้ว
    • ดื่มช่วง ๑๐,๑๔ และ ๑๖ นาฬิกา อีกช่วงเวลาละ ๑ แก้ว
    • ก่อนนอนอีก ๑ แก้ว รวมวันหนึ่งดื่ม ๑๔ แก้ว..สุขภาพจะดี
    • ที่เห็นได้ชัดคือ ตอนเช้า ดื่มสักพัก (ยังไม่ครบ ๔ แก้ว) จะปวดอุจจาระ และอุจจาระจะนิ่ม ไม่เป็นริดสีดวงทวารแน่นอน
  2. เรียนรู้ที่จะเดิน วันละ ๑๐,๐๐๐ ก้าว (พวกเดินในห้าง ในห้องแอร์) แต่ขอลดเหลือ ครึ่งหนึ่ง คือ ๕,๐๐๐ ก้าว เพราะเดินในที่โล่งแจ้ง
    • ทดลองก่อน โดยเดินนับก้าว จากภาควิชาชีววิทยา ไปตึก QS เพื่อไปรับหนังสือพิมพ์ M2F และเดินกลับ กะประมาณว่าจะได้ประมาณ ๑,๖๐๐ ก้าว
    • จากการปฏิบัติ นับก้าวตั้งแต่ออกเดินจากหน้าตึกชีววิทยา ไปจนถึงจุดรับหนังสือพิมพ์ที่ QS เดินเฉลี่ย ๙๘๐ ก้าว ไปกลับ ๑๙๖๐ ก้าว หนึ่งก้าวเฉลี่ย ๗๐ เซ็นติเมตร ไปกลับเดินได้ ๑,๓๗๒ เมตร ใช้เวลาทั้งสิ้น ๑๘ นาที ถ้าเดิน ๒ กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาที (อ.ประมวล น่าจะเดินวันละ ๘ ชั่วโมง ได้ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร)
    • ถ้าวันหนึ่งเดิน ไป-กลับ ๓ รอบ ก็จะเดินได้เกิน ๕,๐๐๐ ก้าว เป็นผลดีต่อสุขภาพ
    • มีคำแนะนำว่า เดินวันละ ๑๐,๐๐๐ ก้าว เผาผลาญพลังงาน ๕๐๐ กิโลแคลอรี่..ใช้เวลา ๔๕ นาที..ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ จากการคำนวณโดยตัวเอง ๑๐,๐๐๐ ก้าว คือ การเดินถึง ๗ กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งจะใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ๔๕ นาที แต่ถ้าวิ่งสลับเดิน ๑๐,๐๐๐ ก้าว ใช้เวลา ๔๕ นาทีน่าจะเป็นไปได้..
    • เสนอแนะว่า ถ้าที่ทำงานกับบ้านห่างกันไม่เกิน ๓,๕ กิโลเมตร ให้เดินไปทำงาน และเดินกลับบ้านทุกวัน
  3. เรียนรู้การประหยัดน้ำมัน โดยการนำสถิติ เติมน้ำมันรถยนต์ ปี ๕๓ ถึง ๕๗ มาวิเคราะห์ (เขียนเป็นบันทึก)


ความเห็น (2)

ขอให้สุขภาพแข็งแรงมากๆครับ

เริ่มเดินแค่ ๒ วัน มีอะไรให้น่าติดตาม “การเดิน” ให้อะไรมากกว่าที่คิด “การเดิน” ให้อะไรมากว่าเรื่อง “สุขภาพ”

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

พุธที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๒-2)

เติมน้ำมัน 1,000 บาท (ปั้ม Esso) จ่ายด้วยบัตรเครดิตใบไหนคุ้มค่าที่สุด? (จ่ายเงินน้อยที่สุด) มีคำตอบให้เลือก 4 choice

  1. บัตรเครดิต มาสเตอร์-Titanium ของธนาคารกสิกรไทย
  2. บัตรเครดิต Tesco Lotus Visa
  3. บัตรเครดิต ธนชาติ Visa
  4. บัตรเครดิตกรุงศรี First Choice Visa
ลองตอบกันดูครับ เป็นคำถามไม่มีรางวัล..หากมีคำตอบใน 24 ชั่วโมง จะมาเฉลยให้ครับ


ความเห็น (3)

ตอบข้อ 2 ครับ "บัตรเครดิต Tesco Lotus Visa"

ทุกการจ่ายเติมน้ำมันที่ปั๊ม Esso จะลด 3%

  • ขอบคุณท่านประสิทธิ์ครับที่ร่วมสนุก
  • บัตรเครดิต Tesco Lotus Visa ของผมได้ลดแค่ 2%
  • แต่บัตรเครดิต ธนชาติ Visa ของผมได้ลด 2.1% แถมเติม 1,000 บาท ได้แต้ม 40 แต้มด้วย
  • แต่นาทีนี้ ทั้ง 2 Choice ก็ยังไม่ถูกครับ (ตัดไป 2 Choice แล้ว)
  • คำตอบคือ บัตรเครดิต FirstChoice Visa ครับ
  • ซึ่งในโปรโมชั่นปัจจุบัน ที่ยอดการใช้ ส่วนที่เกิน ๖ หมื่นบาทขึ้นไป จะได้เครดิตเงินคืนถีง 7% ซึ่งเฉลี่ยทั้งยอดจะอยู่่ที่ ๓.๖๒ ถึง ๔.๒๔ เปอร์เซนต์
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท