beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

อนุทินล่าสุด


beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๙> : วันอังคารที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • ไปเยี่ยมกองการศึกษาทั่วไป วันนี้กำลังจัดกระเช้าผลไม้กัน จะไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ บ้านเราผู้น้อยให้ของขวัญผู้ใหญ่..คนมีน้อยให้คนมีมาก ก็แปลกดี
  • ระหว่างทางเจอคนในกองบริการการศึกษา ถือกล่องเรี่ยไร จะเอาเงินไปซื้อของให้ผู้ด้อยโอกาสในสถานสงเคราะห์วังทองในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ นี้ น่าอนุโมทนา (แต่ว่าไม่ได้พกสตางค์ไปสักบาท-เลยขอเอาไปให้วันที่ ๒๖ ถ้าไม่ลืม)
  • ไปเยี่ยม กบศ. หาคุณบาส ผู้ดูแลโครงการ "ครูเพื่อศิษย์" ซึ่งมีท่านศ.ระพี สาคริก เป็นวิทยากรนำ
  • จากเป้าหมายที่ต้องการผู้เข้าร่วม ๒๖๐ คน แต่ตอนนี้ได้เพียง ๑๔๕ คน ไม่นับผู้บริหาร, วิทยากร และผู้สนับสนุน
  • โครงการนี้ อาจจะไม่ประสบความสำเร็จทางด้านปริมาณ แต่ค่อยๆ มาดูด้านคุณภาพว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง คอยเอาใจช่วยอยู่
  • งานนี้จัดพรุ่งนี้ (๒๔ ธันวาคม) จัดตั้งแต่ ๙ โมง และเลิกประมาณบ่าย ๒ ครึ่ง
  • ขี่รถจักรยานกลับมาเจออ.โอ๊ต อาจารย์สายเสมอ..กำลังเดินไปร่วมงานกีฬา
  • กลับมาที่ภาคฯ เกสรที่สั่งส่งมาถึงแล้ว
  • โทรไปหาลุงบรรจงที่สั่่งเกสร โทรไป ๒ นาที ใช้เงินไป ๒.๑๔ บาท บวก ๒๖ สตางค์
  • ทำโทรฟรี โดยโทรอีก ๓ นาที ใช้เงินไป ๒.๑๔ บาท บวก ๕๒ สตางค์ รวมค่าโทร ๕.๐๖ บาท ได้โทรฟรีดีแทคทั้งวัน ไม่เกินครั้งละ ๖๐ นาที
  • โทรไปหาพี่ชายผ่านเบอร์พี่สะใภ้ (พี่ชายใช้วันทูคอล พี่สะใภ้ใช้ไตรเน็ท) คุยกันเรื่องโปรแกรมปีใหม่ และสั่งน้ำผึ้ง ๓ กล่อง คุยกันเกือบ ๕๐ นาที


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๘> : วันอังคารที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • วันนี้ตื่นหลัง ๖ โมง เมื่อคืนนอนก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย
  • ดื่มชา ๔ แก้ว ทานข้าวเช้า ทานยา ๒ ตัว คือ ที่หมอให้มาเมื่อวาน คือ metFORMIN 500 mg. tab ตัวนี้เป็นยาลดน้ำตาลในเลือด และอีกตัวหนึ่ง เพิ่งขอหมอมา เป็น ASPIRIN 81 mg. Tablets ยาเม็ดเล็ก (สงสัยว่าทำไมไม่ใช้เลขกลมๆ) ต้องทานหลังอาหารทันทีเพราะมีฤทธิ์กัดกระเพาะ ตัวนี้ไม่ได้ทานแก้ปวดหัวตัวร้อน แต่ทานเพื่อหวังผลว่า จะไปละลายลิ่มเลือด ทำให้เลือดไหลคล่อง อันนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดเป็นลิ่มแล้วไปอุดตันที่เส้นเลือดฝอยในสมอง อาจทำให้สมองขาดเลือด
  • ออกจากหอพักก่อน ๘ โมง ขี่จักรยานไปรวมตัวที่หน้าตึกมิ่งขวัญ เพื่อรวมตัวเดินขบวน (ไม่ได้ประท้วงใคร) กีฬาคณะ ระหว่างสีฟ้า กับสีม่วง (ผมอยู่สีม่วง เป็นภาควิชาเคมีกับชีววิทยา)
  • ราวๆ ๘ โมงครึ่งก็พร้อมจะเดินขบวน เดินไปที่โดมกลางเพื่อแข่งกีฬาที่นั่น ตอนเย็นก็จะมีทานเลี้ยงกัน
  • ๙ โมง ภาระกินเรียบร้อย เดินไปพิพิธภัณฑ์ผ้า เพื่อตรวจสอบน้ำผึ้งว่าพร่องไปเท่าไร
  • แล้วก็กลับมาเอารถจักรยานที่จอดไว้มิ่งขวัญ แต่ก่อนเอารถก็พบท่านอาจารย์ม่ามี้ บอกว่าตัดเกรดวิชาการจัดการดำเนินชีวิตแล้วพอใจมากับการเรียนรู้ของนิสิตแพทย์และนิสิตวิทยาศาสตร์การแพทย์ มี เอ,บี และ เอฟ


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๗> : วันจันทร์ที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

ค่า Lipid profile

  • Triglyceride 103 mg/dl (ค่าดี คนปกติน้อยกว่า 150)
  • Cholesterol 197 mg/dl (ค่าตำกว่า 200 ถือว่าพอทน ไม่ต้องใช้ยาใดๆ)
    • LDL= 127.4 mg/dl (พอทนได้ คือ มากกว่าค่าปกติ100 แต่ยังน้อยกว่าพวกที่มีความเสี่ยงค่า 130 อยู่เล็กน้อย)
    • HDL = 49 mg/dl (ค่าอยู่ระหว่าง 40-60 ถือว่าใช้ได้้)

รุปผลการตรวจครั้งนี้คือ

  1. ค่าต่างๆ อยู่ในระดับที่พอใจได้
  2. ยกเว้นค่าน้ำตาลในเลือด ต้องคุมเข้มให้อยู่ในระดับไม่เกิน ๑๒๖ mg/dl


ความเห็น (2)

ว้าว..สุดยอดจังครับ ผมเยอะกว่าอาจารย์มากๆ ครับ บางตัวเกินเกณฑ์เยอะมากๆ…ชื่นชมอาจารย์ครับ

  • เห็นหน้าทิมดาบยังเอาะอยู่เลย ไม่น่ามีอะไรเกิน..อิอิ
  • ไปหาหมอครั้งต่อไป เขาจะดูค่าต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานของตับ, และไต จะตรวจสลับกันในรอบ ๔ เดือน วนอยู่ ๒ Loop ใหญ่ๆ
  • เราก็ได้เรียนรู้และอยู่กับโรคอย่างมีความสุข
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๖> : วันจันทร์ที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

ขี่จักรยานกลับไปหาหมอ ใกล้ถึงคิวพยาบาลเรียกพอดี (ความจริงเรียกก่อนหน้านั้น) ลองไปวัดความดันในขณะยังเหนื่อยอยู่ผลปรากฏดังนี้

  • Systolic : 124 mmHg
  • Diastolic : 72 mmHg
  • Pulse : 86

หมอเอกอมร เทพพรหม (เป็นผศ.แล้ว) เป็นหมอใจดีมาก ชมคนไข้ อย่างผมน้ำตาลเกินไปมากก็ยังชม ลองดูตัวเลขค่าน้ำตาลของผม
ระดับน้ำตาลในเลือด (FBS=Fasting blood sugar)

  • ในเลือด 137 mg/dL (สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ค่าเป้าหมาย FBS ในการรักษาช่วงระหว่าง 70 ถึง 130 mg/dL) ค่านี้เกินต้องไปปรับปรุงเรื่องการควบคุมอาหาร

ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด (HbA1c=Hemoglobin A1c)

  • 6.8 mg% [น้อยกว่า 7 mg%-หากเป็นไปได้ควรน้อยกว่า 6.5 mg%] ค่านี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ (ในรอบ ๒-๓ เดือนที่ผ่านมา)


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๕> : วันจันทร์ที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • วันนี้ตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง เตรียมตัวไปหาหมอ หมอเอกอมรนัด
  • ไปรพ.มน.ตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง ขี่จักรยานไปจะได้ไม่มีภาระที่จอด
  • จับบัตรคิดตอน 6.31 น. ได้คิวที่ 58 และต้องรอคิว 57 คิว เพราะห้องเจาะเลือดเริ่มงาน 7.00 น.
  • เขาจะให้บริการรถเข็นก่อน (พวกคนสูงอายุ) หมายเลขบัตรคิวพวกนี้เริ่มต้นด้วยเลข 5 เช่น 5058
  • ตกลงจะมีคิวธรรมดา และคิวผู้สูงอายุ...ผมเดินเล่นในโรงพยาบาลและใช้เวลารอนั้นอ่านไลน์
  • ราวๆ 7.50 น. ผมได้เจาะเลือด ถามคนเจาะว่าเลือดเหนียวไหม เขาบอกว่าเหนียว แสดงว่าน้ำตาลท่าจะเยอะ
  • เจาะเลือดเสร็จเอาบัตรนัดมายื่นที่ห้องผู้ป่วยนอก ชั่งน้ำหนักได้ 77.60 กก. น้ำหนักเพิ่มราวๆ กิโลครึ่ง อาจเป็นเพราะเมื่อวานพาแม่ไปทานอาหารเจที่เขาสมอแครง
  • ลองวัดความดันเองด้วยเครื่องอัตโนมัติ เครื่องรายงานว่า Systolic : 116 mmHg, Diastolic : 75 mmHg, Pulse : 68 bpm น่าจะปรกติดี แต่รู้สึกว่าหัวใจอาจเต้นผิดปกติไปบ้าง แต่ไม่บ่อย และไม่มีอาการอย่างอื่น
  • กลับมาทานข้าวก่อนไปหาหมออีกทีตอน 10.30 น.
  • ช่วง 9.30 น.-11.00 น. ช่อง 7 นำ สกุ๊ปข่าว ที่ทีมบอลไทยเล่นรอบแรกถึงรอบชิง ซูซูกิคัพ 2014 มาให้ชมกัน ประทับใจมาก


ความเห็น (1)

JJ ตื่นตีห้า หนาวมากมาก ไปเดินออกกำลังกาย และ ส่งกำลังใจให้ ชาว G2K ครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๔> : วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

ต่อจากอนุทิน 139025

  • คลิปฟุตบอล ซูซูกิคัพ2014 นัดชิงชนะเลิศที่มาเลเซีย ช่อง 7 สี 4+5 คลิป
  • http://sports.bugaboo.tv/suzukicup.html
  • ทีมไทยกลับมาชนะได้ เพราะใจสู้ และการสนธิพลัง synergy
  • ความจริงนัดนี้ มาเลเซียชนะ 3-2 แต่ไม่ได้แชมป์ เพราะประตูรวมแพ้อยู่ 3-4 มันจึงเป็นความเจ็บปวด
  • เพราะเล่นไป 79 นาที เขาเป็นแชมป์อยู่ มาเสียแชมป์ใน 10 นาทีหลังสุด
  • ในทัวร์นาเมนส์นี้ ไทยยิงมาเลเซียไป 7 ลูก ส่วนมาเลเซียยิงไทยไปได้ 5 ลูก
  • นับเป็นแชมป์หน 4 เท่าสิงคโปร์ แต่ใน 3 ครั้งแรกไทยมีดาวซัลโว แต่ครั้งนี้ไม่มี ช่วยกันยิงประตู
  • และโคัชซิโก้ทำได้อีกแล้ว ในฐานะนักเตะที่ได้แชมป์ และในฐานะโคัชที่ได้แชมป์


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๓> : วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • การคว้าแชมป์ของทีมชาติไทยในครั้งนี้ ได้รับเงินรางวัลจากเอเอฟเอฟ จำนวน 200,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,400,000 บาท (ขณะที่มาเลเซียได้เงินรางวัล 75,000 เหรียญสหรัฐ)
  • ขณะที่"เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ผู้ที่ซัลโวประตูที่ 2 ในเกมนี้ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น "นักเตะทรงคุณค่าเอ็มวีพี" ประจำทัวร์นาเมนต์ โดยเจ้าตัวได้รับเงินรางวัล 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 320,000 บาท
  • ชนาธิปเปิดเผยว่า เป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่ตนขอมอบให้เป็นของขวัญของชาวไทยทั้งประเทศ และเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่คืนก่อนนัดชิงชนะเลิศ ตนฝันว่ายิงได้ 1 ประตู และทีมชาติไทยเป็นแชมป์ ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
  • ส่วน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมช้างศึก เปิดเผยว่า ขอชื่นชมลูกทีมทุกคนที่มีสมาธิกับเกม สวมหัวใจสิงห์เข้าสู้ และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ส่วนตัวแล้วแม้ว่าโดนนำ 3-0 แต่ก็นึกอยู่ในใจเสมอว่าจะทำประตูได้
  • ทั้งนี้ ซิโก้-เกียรติศักดิ์เปิดเผยว่า หลังจบเกมได้รับโทรศัพท์จากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความยินดีกับชัยชนะถือเป็นการสร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศ และการคว้าแชมป์ครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก


ความเห็น (2)

ค่าแรงที่ได้จากทุ่มเทไม่ใช่น้อย แต่ หากใครฟังข่าว ว่าแรงพลังใจ มาจากที่ใด จะรู้ว่า สิ่งที่ได้รับ เหนือกว่า เงิน สามสิบกว่าล้าน ครับ

แบ่งกันทั้งทีม แต่ละคนคงได้ไม่ถึงล้าน..แต่เงินไม่สำคัญเท่ากับที่ได้ทำให้คนไทยมีความสุข ซึ่งเงินเท่าไรก็หาซื้อไม่ได้

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๒> : วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

ต่อจากอนุทิน 139023

  • นาทีที่ 80 ไทย ได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา นอกกรอบเขตโทษ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ วิ่งข้ามหลอกให้ สารัช อยู่เย็น ปั่นโค้งข้ามกำแพง นายทวาร มาริฮัส ฟาริซาล ปัดบอลได้จังหวะแรก แต่ชาริล ชัปปุยส์ วิ่งตามซ้ำเปรี้ยงเดียวตุงตาข่ายให้ไทยไล่มา 1-3 ประตูรวมเสมอ 3-3 แต่ทีมไทยได้เปรียบอเวย์โกลทันที (ชาริล ทำประตูได้ถึงนาทีนี้เป็น 4 ประตู ทำได้มากที่สุดในบรรดานักฟุตบอลไทยในทัวร์นาเมนท์นี้-ชาริล คือ 1 ใน 3 ของผู้เล่นไทยที่ผู้สื่อข่าวมาเลเซียบอกว่าน่าจับตามอง)
  • จากนั้นนาทีที่ 86 กองเชียร์ไทยได้เฮกันทั้งประเทศ เมื่อศราวุธ มาสุข ได้บอลลุยมาจากริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจ่ายให้อดิศักดิ์ ไกรษร ดึงบอลหนึ่งจังหวะ แล้วไหลให้ "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ แต่ง 1 จังหวะ ก่อนกดซัดเปรี้ยงเดียวด้วยเท้าซ้ายนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด ให้ไทยไล่มา 2-3 ประตูรวมไทยนำ 4-3 ก่อนจะหมดเวลาด้วยสกอร์นี้
  • ส่งผลให้ทีมชาติไทย แม้จะบุกแพ้ 2-3 แต่ประตูรวม เฉือนเอาชนะ "เสือเหลือง" มาเลเซีย ไปได้ 4-3 คว้าแชมป์เอเอฟเอฟซูซูกิคัพมาครองได้เป็นครั้งแรก ในรอบ 12 ปี และเป็นแชมป์ถ้วยอาเซียนรายการนี้เป็นสมัยที่ 4 สูงสุดเท่ากับทีมชาติสิงคโปร์
  • ลองดูคลิปไฮไลท์กัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๑> : วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • เมื่อวาน (20 ธันวาคม 2557) ตอน 1 ทุ่ม ดูฟุตบอลเอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2014 คัพ
  • ก่อนดูคิดว่าผลคู่นี้น่าจะจบลงที่เสมอกันแบบมีสกอร์ และคิดว่ามาเลย์จะยิงก่อน แล้วไทยตามตีเสมอ
  • แต่หวั่นใจว่าจะมีลูกพิเศษ ที่คาดคิดไม่ถึง
  • และแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ใน 5 นาทีแรก ไทยเสียจุดโทษ ทั้งๆ ที่ลูกนั้นไทยควรได้ฟาล์ว
  • เป็นจังหวะที่ สุทธินันท์ พุกหอม พยายามจะเข้าสกัดบอล แต่ถูก ตาลาฮา นอร์ชาห์รุล ยกขาบังบอลจนล้มไปด้วยกัน ผู้ตัดสิน ฟากานี ชาวอิหร่าน ชี้เป็นลูกจุดโทษให้เจ้าถิ่นหน้าตาเฉย ท่ามกลางความงุนงงของนักเตะช้างศึก ก่อนที่บินราฮิม ซาฟิค จะสังหารผ่านนายทวาร กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นประตูให้มาเลเซียขึ้นนำไทย 1-0
  • ผู้บรรยาย ทั้ง Fox Sport และช่อง 7 สี บอกว่า ลูกนี้ไทยต้องได้ฟาล์ว (แอบคิดเล่นๆ ว่าน่าจะเปลี่ยนผู้ตัดสินในครึ่งหลัง..อิอิ)
  • ช่วงทดเวลาเจ็บ 2 นาทีในครึ่งแรก...มาเลเซียขึ้นนำ 2-0 จากลูกที่ถูกโยนมาแล้วมาฮายุดดิน อินดรา สอดมากระโดดโขกจากด้านหลังบอลเข้าประตูไป ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ (สกอร์รวม 2-2)
  • เริ่มครึ่งหลัง มาถึงนาทีที่ 57 ทีมเสือเหลือง ได้ประตูเพิ่มอีก จากลูกฟรีคิก บินราฮิม ซาฟิค ปั่นบอลโค้งข้ามกำแพง บอลฮุกเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวย มาเลเซียนำไทย 3-0 ประตูรวมแซงนำ 3-2 ไปแล้ว
  • ถึงตอนนี้ แอบหวังลึกๆ ว่า หลังนาที 70 ไป ไทยจะทำประตูได้


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๕๐> : วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

ต่อจากอนุทิน ๒๔๙

  • คำพูดหนึ่งของเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โคัชทีมชาติไทยชุดซูซูกิคัพ ซึ่งให้สัมภาษณ์หลังเกมที่ชนะมาเลเซีย 2-0 ที่โดนใจผม คือ "ให้บอลทำงานแทนเรา" (ดูคลิปที่แนบมาให้ ประมาณนาทีที่ 1.47)

  • ลองดู Titi kaka play



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๙> : วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • วันนี้ตอนทุ่มหนึ่ง จะมีถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนหรือ เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2014 คู่ชิงชนะเลิศ นัด ๒ ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติมาเลเซีย
  • จะแข่งขันกันที่ สนามกีฬาแห่งชาติบูกิตจาลิล (Bukit Jalil National Stadium) ซึ่งตั้งอยู่ที่บูกิตจาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สนามแห่งนี้จุคนได้ถึง 100,000 คน สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน 1 มกราคม 1996 ด้วยงบประมาณก่อสร้าง 800 ล้านริงกิต
  • เมื่อปี 2012 ไทยได้พบกับมาเลเซียในฟุตบอลรายการเดียวกันนี้ โดยพบกันในรอบรองชนะเลิศ ผลลงเอยด้วยการเสมอกันไป 1-1
  • คาดหวังว่าไทยจะไม่แพ้ในวันนี้ และอาจเสมอกันแบบมีสกอร์ ด้วย
  • พูดถึงนัดที่พบกันในไทย ช่วงท้ายเกมส์ (ซึ่งมาเลเซียเริ่มหมดแรง) ไทยเล่นชิ่งกัน 27 ชิ่ง โดยที่ผู้เล่นมาเลเซีย ไม่มีโอกาสได้สัมผัสบอลเลย และมีการพูดถึง วิธีการเล่นที่เรียกว่า Tiki-Taka(ติกี-ตากา)
  • (ติกี-ตากา) เป็นการเล่นฟุตบอลแนวใหม่ ของเปป กวาดิโอล่า ซึ่งเคยเป็นโคัชทีมบาร์เซโลน่า แต่เดี๋ยวนี้เป็นโคัชทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค หลักการเล่นคือ ขณะที่เราครองครองบอล หลังจากที่เราส่งบอลไปให้เพื่อนร่วมทีมคนใด ให้ทำท่าวิ่งไปทิศทางอื่น(วิ่งหลอก) จากนั้นจึงวิ่งไปยืนแทนตำแหน่งที่เพื่อนคนรับบอลยืน เป็นการทดแทนกันตำแหน่งได้เป็นอย่างดี
  • โคัชเกียรติศักดิ์ เรียกการเล่นแบบนี้ว่า "การเล่นบอลจังหวะเดียว" ถือเป็นกติกาของทีมไทย ที่เขาเป็นโคัชว่า ให้เล่นบอลจังหวะเดียว หากจำเป็นอาจเล่น 2 จังหวะได้ (สูงสุด 2 จังหวะ)
  • คำพูดหนึ่งที่โดนใจผมคือ "ให้บอลทำงานแทนเรา"


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๘> : วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • ตื่นมาตอน 6 โมงเศษ ไปแอบมองดูแม่ นอนใส่เสื้อกันหนาวกอดอก มีผ้าห่มพับเป็นระเบียบอยู่ข้างๆ
  • ก่อนเข้านอนเช็คแล้วว่า แม่นอนห่มผ้า แต่แม่ชอบลุกขึ้นมาพับผ้าห่ม พับอย่างเป็นระเบียบม้วนไว้ข้างๆ ตัว
  • สมองคนแก่ทำงานสับสน ไม่เรียงลำดับขั้นตอน บางครั้งวนเป็นลูป ย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งต่อไปถ้าเราแก่ก็คงทำอย่างนี้เหมือนกัน
  • ทุกวันเฝ้าดูแม่ ลุ้นทุกวันว่า "วันนี้ยังตื่นและลุกจากที่นอนได้โดยที่ไม่มีใครช่วย"
  • วันนี้วันหยุด ตั้งใจจะพาแม่ไปทานเจที่มูลนิธิฯ เขาสมอแคลง.


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๗> : วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • ดูบอลซูซูกิคัพรอบรองนัดสองที่เวียดนามแพ้มาเลเซียคาบ้าน 2-4
  • มาเลเซียมาพบไทยนัดชิง นัดแรก ผลไทยชนะ 2-0


ความเห็น (2)

ตกใจกบัเสียงวันนั้น…เสียงกระหึมรอบๆ หมู่บ้าน…ยอดเยี่ยมมากครับ Thailand

ได้ยินแต่ในทีวี..อิอิ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๖> : วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

วันนี้เป็นวันพระ

  • ตื่นสายหน่อย 6 โมงเช้า มีอาการเจ็บคอ เป็นมา 3 วันแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากอากาศเปลี่ยน..
  • วันนี้มีแผนเข้า กทม. นัดกับครูนเรศไว้วันที่ 15 จะไปช่วยทำงาน "ส่งเข้าประกวด" เป็นการทำงานเป็นทีมร่วมกัน
  • ครูนเรศ เป็น "ครูเพื่อศิษย์" ในสายเลือด "เป็นโค้ชผู้เรียน" ที่มี "ทักษะ" การทำทีมสูงมาก
  • อีกนัดหนึ่ง คือ ท่านพี่ "รัตนา" ขรก.บำนาญ ท่านโทรศัพท์มาหาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2557 บอกว่าน้องท่านซื้อน้ำผึ้งมาฝาก จากแจ้งวัฒนะ, ท่านทานดูแล้วมันดีมาก อยากซื้อ 6 ขวด คุยกันไป-มา ชอบใจเลยขอซื้อ 12 ขวด เผื่อไปแจกญาติมิตร,ท่านมี Line ด้วย บอกว่าถึงอายุมากก็เล่นคอมฯเหมือนกัน ค้นหาเป็นเพื่อนใน Line เมื่อวันที่ 9 และตกลงจะนำน้ำผึ้งไปส่งแถวสะพานควาย โดยไปส่งให้หลานของท่านซึ่งอยู่แถวนั้นในวันที่ 15 ธันวาคม โดยท่านมีธุระไปที่ทำงานเก่าของท่านเช้าวันที่ 15 พอดี..


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๕> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอบรองชนะเลิศนัดแรก ทีมชาติมาเลเซีย 1-2 ทีมชาติเวียดนาม
  • Malaysia vs Vietnam, Semifinal AFF Suzuki Cup 2014, 7/12/2014
  • Hilights ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอบรองชนะเลิศนัดที่สอง ทีมชาติเวียดนาม 2-4 ทีมชาติมาเลเซีย วันที่ 11/12/2014


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๔> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอบรองชนะเลิศนัดที่ 2 ทีมชาติไทย 3-0 ทีมชาติฟิลิปปินส์
  • ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอบแรกนัดที่ ๒ กลุ่มบี ( 26/11/57 ) มาเลเซีย 2-3 ไทย
  • คลิปไฮไลท์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ทีมชาติไทย 3-2 มาเลเซีย Thailand 3-2 Malaysia


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๓> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

การพัฒนาคุณธรรมในศตวรรษที่๒๑ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช (ถอดคำบรรยายตอนที่ ๔)
อธิบาย HPA Axis (ต่อ)


  • HPA axis เป็นส่วนที่ทำให้ร่างกายของเราตอบสนอง (response) ต่อสิ่งที่มากระตุ้น (Stimuli) อย่างรุนแรงทางอารมณ์ (Stress) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาตกใจ เวลากลัว
    • ปรากฏการณ์นี้ ถ้ามันเกิดขึ้นเรื้อรัง มันก็จะกระตุ้นเรื้อรัง ซึ่งทำให้ร่างกายลำบากมาก ก็ต้องหาทางแก้ไข เป็นกลไกทางธรรมชาติ ซึ่งเราไม่รู้ตัว เรื้อรังอันที่พูดนี้ ก็หมายถึงตั้งแต่เด็กอยู่ในท้องแม่
    • ความเครียดเรื้อรังนี้ อาจจะเกิดจากการขาดอาหาร แม่อาจจะอยู่ในภาวะการเครียด รวมทั้งตอนที่เด็กคลอดออกมาใหม่ๆ จนถึงวัน ๓,๔ ขวบ จะมีเด็กจำนวนหนึ่งขาดความรัก ขาดความอบอุ่น (๑ ใน ๓ ของเด็กไทย เสี่ยงต่อภาวะเครียดเรื้อรัง)
    • ความเครียดเรื้อรังนี้ จะทำให้ร่างกายทนไม่ไหว ก็จะต้องปิดสวิทซ์ของ HPA axis พอปิดสวิทซ์แล้วต่อไป มันก็ทำหน้าที่ไม่ค่อยได้ ทำหน้าที่ไม่ค่อยได้ ก็หมายความว่า การที่จะฝึกความสามารถทางสมองอีกหลายๆ อย่างนี้ก็จะอ่อนแอหรือทำได้ไม่ดี


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๒> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
การพัฒนาคุณธรรมในศตวรรษที่๒๑ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช (ถอดคำบรรยายตอนที่ ๓)
อธิบาย HPA Axis

  • HPA Axis ทั้ง ๓ ส่วน จะมีความสัมพันธ์กันผ่านทางฮอร์โมน มีการกระตุ้นและยับยั้ง โดย Hypothalamus ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมที่เชื่อมต่อกับระบบประสาทกับระบบต่อมไร้ท่อ จะสร้าง peptide hormone ที่ชื่อว่า corticotropin-releasing factor (CRF) ส่งไปที่ต่อมใต้สมองส่วนหน้า (Anterior pituitary gland) ให้สร้างฮอร์โมนที่ชื่อ adrenocortico trophic hormone เรียกย่อว่า ACTH ซึงจะไปกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตชั้นนอกหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า Cortisol ออกมา คอร์ติซอล เป็นฮอร์โมนที่จำเป็น (essential hormone) ที่มีความสำคัญต่อชีวิต ถ้าขาดจะมีผล อย่างมากต่อเซลล์ของร่างกาย


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๑> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

การพัฒนาคุณธรรมในศตวรรษที่๒๑ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช (ถอดคำบรรยายตอนที่ ๒)

ภาพใหญ่ ในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ต้องดำเนินการในเชิงระบบ

  1. ลดความเหลื่อมลำในสังคม (เพราะเป็นรากเหง้าของศีลธรรมเสื่อมทราม) ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และตอนเป็นเด็กเล็ก (ทำให้เด็กๆ ด้อยโอกาส ในการพัฒนาคุณธรรม)
  2. (มิจฉาทิฏฐิ-เป้าหมายที่ผิดทางการศึกษา) การฝึกฝนคุณธรรมต้องเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา อยู่ในทุกกิจกรรมเรียนรู้ทุกวิชา ทุกห้องเรียน และเป็นส่วนหนึ่งของ Active Learning ที่เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติ ตามด้วยโยนิโสมนสิการ (Reflection)

อธิบายเรื่อง "เด็กด้อยโอกาส จากความเหลื่อมล้ำทางสังคม"

  • เด็กด้อยโอกาสอาจจะมีความอ่อนแอ จากความเครียดเรื้อรัง อันนี้เป็นงานวิจัยที่ลึกซึ้งมาก มันมี "กลไกทางสมอง" ที่เรียกว่า HPA Axis
    • H=Hypothalamus
    • P=Pituitary (ต่อมใต้สมอง-มี ๒ ส่วนใหญ่ๆ คือ ต่อมใต้สมองส่วนหน้า และต่อมใต้สมองส่วนหลัง)
    • A=Adrenal Gland (ต่อมหมวกไต-มี ๒ ส่วน คือ Adrenal cortex, Adrenal medulla)
  • มีปฏิสัมพันธ์กันผ่านทางระบบต่อมไร้ท่อ โดยฮอร์โมน (Hormone)
    • มีการกระตุ้น (stimulate)
    • และ Feedback (การควบคุมป้อนกลับ-มีทั้งแบบกระตุ้น- positvie และยับยั้ง-negative)


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๔๐> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

การพัฒนาคุณธรรมในศตวรรษที่๒๑ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช (ถอดคำบรรยายตอนที่ ๑)

หลักสำคัญ คือ เรื่อง "คุณธรรม" เป็นเรื่องของทุกคน เป็นสิ่งที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของคนทุกคน ดังนั้น
ตัวเป้าหมายคือ "คนทุกคน"

การพัฒนาคุณธรรม

๑. พัฒนาทุกคน

๒. พัฒนาได้ทุกอายุ เริ่มตั้งแต่ครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน

๓. พัฒนาได้ทุกสถานะ ทุกเวลา ทุกกิจกรรม ไม่เฉพาะคนที่เป็นเด็ก หรือในโรงเรียนเท่านั้น

๔. และที่สำคัญอีกอันหนึ่ง "ต้องไม่แยกจากชีวิตจริง"

ศตวรรษที่ ๒๑

  1. เป็นสังคมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว เปลี่ยนไปจากสังคมเดิม (ศตวรรษที่ ๑๙,๒๐) อย่างมากมาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้า ทำให้วิถีชีวิตคนเปลี่ยน
  2. ยุคนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วหมด สังคมเปลี่ยนแปลงเร็ว เร็วขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ศตวรรษที่ ๒๑ ต้องมีมนุษย์ที่ต่าง (จากศตวรรษที่ ๒๐,๑๙,๑๘) ออกไปด้วย
  3. ในยุคอุตสาหรรม (ศตวรรษที่ ๒๐,๑๙,๑๘) ต้องการมนุษย์ที่มีระเบียบแบบแผน คิดอะไรเหมือนๆ กัน ทุกอย่างมี "มาตรฐาน-Standardization"

สมัยศตวรรษที่๒๑

  • ไม่ใช่แล้ว "เราต้องสร้างคนให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" แปลว่า-
    • กล้าเป็นตัวของตัวเอง
    • กล้าที่จะแตกต่าง แต่ก็ต้องเคารพคนอื่นด้วยน๊ะ
    • เรียกว่าเป็นมนุษย์คนละ species เลย


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๓๙> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • ทดลอง เอา วีดีโอมาใส่ ของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์
  • "การพัฒนาคุณธรรมในศตวรรษที่ 21"
  • ทำ "สำเร็จ" ได้ง่ายๆ


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๓๘> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

อยากรู้คำว่า "บ๋อย" มาจากไหน

  • เหมือนมีคนเคยถามใน web แล้ว แต่ไม่มีคำตอบ
  • ลองค้นดู

ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร

บ๋อย(อก. boy) น. เด็กรับใช้.

  • ดังนั้น "บ๋อย" มีที่มาจากภาษาอังกฤษ จากคำว่าบอย เป็นคำนาม แปล "boy" ในความหมายว่า "เด็กรับใช้"
  • ถ้าเป็นภัตตาคาร หรือ ร้านอาหาร "บ๋อย" แปลว่า เด็กเสริฟ (อาหาร)
  • ถ้าเป็นวงการสนุ๊กเกอร์ "ใช้บ๋อย" คือ การยิงลูกขาวไปโดนลูกแดงแล้วลูกแดงไปโดยลูกแดงลงหลุม..อย่างนี้เรียกว่า "ใช้บ๋อย" (น่าจะมีความหมายว่าใช้คนอื่นไปทำงานแทน)
  • บีแมน เอามาใช้กับ วงการ "โทรศัพท์มือถือ" คือ ใช้เครื่องที่ ๑ ส่งสัญญานไปที่เครื่องที่ ๒ ให้เครื่องที่ ๒ คุยกับเครื่องที่ ๓ โดยที่เครื่องที่ ๑ เป็นตัวเชื่อม และเป็นเครื่องที่จ่ายค่าโทร โดยใช้หลักการประชุมสาย แต่ในที่นี้ เครื่องที่ ๑ ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาด้วย


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๓๗> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

เรียนรู้จาก "แม่" ที่อายุเกือบร้อย

  1. แม่มีลูกหลายคน-เห็นตอนโต คือ มีลูกชาย ๖ คน และ ลูกสาว ๓ คน ตามธรรมดา ธรรมเนียมคนจีน แม่ต้องไปอยู่กับลูกชายคนโต...ตอนนั้นแม่อายุ ๖๐ กว่า...แม่ไปอยู่กับพี่ชายคนโตและพี่สาวคนเล็ก ไปๆ มาๆ อยู่ราว ๒๐ ปี แล้ววันหนึ่ง แม่ก็มาอยู่กับ บีแมน...แม่มาอยู่ด้วยตอนอายุ "94 ปี"
  2. ใครคนหนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้ว ที่มูลนิธิ ฉือจี้ในประเทศไทย บอกว่า "เป็นบุญหนักหนาแล้วที่ได้เลี้ยงแม่" เพราะเราเป็นคนสุดท้อง มีโอกาสเป็นลำดับที่ ๙ ซึ่งนับว่าโอกาสน้อยมาก แต่แม่ก็มาอยู่กันเรา (ไม่มีคนแย่ง)
  3. คิดเล่นๆ ถ้าแม่มีมรดก ไม่ต้องเยอะ แค่พันล้าน..อิอิ คงมีคนแย่งแม่ไปเลี้ยง...
พฤติกรรม "แม่" ที่เปลี่ยนไป จากการสังเกต
  • สังเกตว่า เมื่ออายุ ๙๐ ปี ก็ยังปกติดี
  • พออายุ ๙๔ ร่างกายทรุดโทรมเร็ว (อาจจะอยู่กับเราทำให้สังเกตได้)
  • หลังอายุ ๙๕ เริ่มถักลายโครเช ไม่ได้ดังใจนึก
  • อายุ ๙๘ หยุดกินหมากได้ และหยุดถักโครเช และตอนนี้เริ่มหาของเล่น
  • ตีความเอาเองว่า พอคนเราอายุเกิน ๘๐ หรือ ๘๕ สัญญา (จำได้หมายรู้) กลับลดน้อยลง คราวนี้ก็ลดอายุ ความคิดเริ่มกลับกลายเป็นเด็ก
  • แม่เริ่ม "เล่นน้ำ" ดื่มน้ำ เทน้ำ กรอกน้ำ..สารพัดเรื่องน้ำ
  • แม่เริ่ม "เล่นผ้า" จับชายผ้า พับผ้า ลูบชายผ้า เหมือนเด็กติดผ้าขนหนู
  • คงต้อง หาของเล่นให้แม่ เหมือนหาของเล่นให้เด็กๆ
  • พอเล่นแล้วเพลินไป ไปห้องน้ำไม่ทัน ก็ฉี่ราด..
  • เขียนแบบบ่นๆ แต่ก็เห็น "สัจธรรม" ของชีวิต...ถ้าเราเกิดอายุยืนแบบแม่ เราก็ต้องเป็นแบบนี้..ต้องเตรียมการให้พร้อม ขอบคุณแม่ที่มาบอกเรา โดยไม่ได้เอ่ยปากบอก




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๓๖> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

อนุทินนี้มีแปดสี่ตัว

อยากรู้ว่า คำว่า "เพียวๆ" นั้นมาจากคำว่าอะไร

  • เดาว่ามาจากคำว่า "Pure"
  • ลองค้นดู ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
  • จะทำ Link ถ้ามีภาษาไทยอยู่ด้วยก็ลิงค์ไม่ได้
  • ลองคัดลอกมาดู จาก sanook.com

เพียว

เพียว[adj.] pure

[syn.] บริสุทธิ์

หมายเหตุ

ที่ไม่มีสิ่งใดผสมหรือเจือปนอยู่

ตัวอย่างประโยค

เขาเปิบเนื้อหมาล้วนๆ อัดไปด้วยเหล้าขาวเพียวเต็มแก้ว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
beeman 吴联乐
เขียนเมื่อ

<อนุทิน ๒๓๕> : วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

  • เมื่อคืนมีอาการเจ็บคอ (เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องอากาศเปลี่ยน) นึกว่าวันนี้ต้องไปหาหมอฉุกเฉิน
  • ตื่นมา ไปดื่มชา ๔ แก้วเหมือนเดิม แล้วก็ผ่ามะนาว ๓ ลูก จะทำน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง
  • เคยผ่ามะนาวแบบผ่ากลาง แล้วก็คั้น จะมีเม็ดมะนาวอยู่ด้วย ตักเอาเม็ด (เมล็ด) มะนาวออก แต่ก็ตักไม่หมด เพราะเม็ดมะนาวจมอยู่ที่ก้นแก้ว
  • พอใส่น้ำผึ้งลงไปครึ่งหนึ่งของน้ำมะนาว แล้วก็คนให้ละลาย สักพักเม็ดมะนาวลอยได้ (แต่ก่อนไม่เคยสังเกต)
  • คิดหาคำตอบ แสดงว่าตอนแรกเม็ดมะนาวหนักกว่าน้ำมะนาวจึงจม พอใส่น้ำผึ้งลงไป เม็ดมะนาวเบากว่าน้ำผึ้งผสมมะนาว (ตอนนั้นยังไม่ไ้ดผสมน้ำ เป็นน้ำผึ้งกับมะนาวเพียวๆ)
  • คิดถึงเรื่อง มะนาว กับความเป็นด่างที่ มีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่่หลายแห่ง และใน G2K ก็มีคนเขียนเรื่องนี้


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท