พุธที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๒)

• ที่พิษณุโลก อากาศเริ่มมีความเย็นเล็กน้อยแต่ยังไม่หนาว...
• เมื่อวานสอนนิสิตวิชาผึ้ง มี meeting เล็กๆ ตอนเลิกงาน ท้า "เว" (นิสิตชื่อเวนิกา) ว่า บีแมนเป็นบุคคลเรียนรู้ สามารถดูดความรู้จากทุกที่ ให้ "เว" ลองชี้สิ่งไม่มีชีวิต เช่น ของที่นำมาเลี้ยงนี้
• เว ชี้ไปที่ไอศครีม wall 240 กรัม ราคา 69 บาท (แถมกระเป๋าผ้าเล็ก ๆ) 1 ใบ
• บีแมนบอกว่า ไอศครีม ซื้อมา 2 กล่อง มีถุงกันความเย็นไหลออก ตอนซื้อมาก็ให้นิสิตเลือกทานกันเอง อยากรู้ว่าจะทานทั้ง 2 กล่องไหม และจะเลือกรสชาติไหน แต่นิสิตเลือกมา 1 กล่อง ซึ่งย่อมไม่รู้ว่ารสชาติใด เพราะมีถุงหุ้มอยู่ และทานไปเพียง 1 กล่องเท่านั้น และก็ยังทานไม่หมด (บีแมนเลยเหมาส่วนที่เหลือ)..
• นอกจากนั้นได้เรียนรู้ว่า นิสิตบางคนก็เอาขนมปัง (ฟาร์มเฮ้าส์) ห่อกับไอศครีม รับประทานอร่อยมาก เรื่องของรับประทานนี้ไม่ต้องสอนเลยนิสิตเรียนรู้ได้เอง เพราะมันเป็นธรรมชาติ...นี่คือ "การเรียนรู้กับไอศครีม" (ซึ่งแต่ละคนจะมีมุมมองไม่เหมือนกัน)
• อีกเรื่องหนึ่ง ได้อ่านหนังสือพิมพ์ M2F ทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ จะเลือกมา 1 หัวเรื่อง ทุกวัน เพื่อเป็นแง่คิดมาเขียนบันทึก..ให้ได้อ่านกัน..(ของวันที่ 18 มีเรื่องหนึ่ง จะได้เล่าเรื่องในบันทึกต่อไป)
• ข่าวเมื่อวาน เรื่อง เครื่องบินของกองทัพภาคที่ 3 ตก เป็นข่าวใหญ่ ถึงการสูญเสียรองแม่ทัพภาคที่ 3 ศพตั้งรดน้ำที่วัดคูหาสวรรค์พิษณุโลก...วัดคูหาสวรรค์เป็นวัดหนึ่งที่ทั้งทหารและประชาชนใช้ในการจัดงานศพ..

อังคารที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๑)

• วันนี้เริ่มงานด้วยการ ทบทวน(=วิมังสา) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโทรศัพท์..(เปลี่ยนรายจ่ายให้เป็นรายรับ)..
• เตรียมน้ำผึ้งผสมมะนาว โดยนำมะนาวจากตู้เย็น มีมะนาวที่ข้างบ้านนำมาให้ ๒ ลูก ลูกใหญ่เท่าส้มเขียวหวาน เขาเรียกว่า "มะนาวควาย" เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน
• คั้นมะนาวครึ่งแก้ว ผสมน้ำผึ้ง (เก่า) ได้ประมาณ ๑ ลิตรกว่าๆ
• ไปซื้อน้ำแข็ง, ไอศครีม, ขนมปังต่างๆ มาเลี้ยงนิสิตที่เรียนวิชา Apiculture (เรียนเที่ยงถึงบ่าย ๓)
• รู้สึกผิดว่า เมื่อเลี้ยงนิสิตที่เรียน Taxonomy แล้วควรเลี้ยง Apiculture ด้วย
• สายไหม ให้หนังสือ เรื่อง "A world without BEES" มาให้เล่มหนึ่ง คงไปซื้อหนังสือลดราคามา ทีแรกซื้อให้ตัวเอง และไปเห็นอีกเล่มหนึ่งจึงซื้อมาฝาก beeman
• สายไหม เป็นคนที่เก็บรายละเอียดในวิชา Apiculture ได้มากที่สุด
• แปลกว่า จำชื่อจริง (ความจริงเป็นนามสกุล) ของนิสิตไม่ได้เพราะจำได้แต่ชื่อเล่น..
• วันนี้ตอนเที่ยงกว่าๆ มีโทรศัพท์จากร้านตั้งซุ่นฮวด บอกว่าส่งขวดมาให้เมื่อวาน พอสักครู่ พีแอล ขนส่งบอกว่า เอาขวดมาส่งให้แล้ว...สั่งขวด ๓ ครั้ง คิดราคาไม่เท่ากัน ครังที่ ๑ คิดกล่องละ ๑๐๐ ครั้งที่สองคิดกล่องละ ๖๐, ครั้งที่สามครั้งนี้คิดกล่องละ ๘๐ บาท..คนตีราคาอยู่ที่ต้นทาง..วิธีให้เก็บที่ปลายทางนั้นดีที่สุด
• ตอนเย็นขี่จักรยานไป update สมุด..ในมน.มีทางสำหรับจักรยานในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ทั่วมอ. ที่สมุทรปราการก็ได้เห็นมาแล้ว...และข่าวว่านายก (พลเอกประยุทธ์) ก็สั่งการให้ทำทางจักรยานในกทม.หลายสาย

จันทร์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๐-1)

• วันนี้ตั้งใจว่าจะไปเขียนบันทึก..เกี่ยวกับ Journal แต่ไปเจอโครงการ "ครูเพื่อศิษย์ในการสอนในศตวรรษที่ ๒๑" เป็นโครงการของกองบริการการศึกษา..มีรองฯรสรินเป็นคนต้นคิด และมีหัวหน้านุ่นเป็นคนชง..บีแมนทั้งโทรและนำหนังสือครูเพื่อศิษย์ไปให้คุณนุ่น เพื่อแลกกับไฟล์ แต่ก็ยังไม่ได้มา
• ไปรับหนังสือพิมพ์ M2F (monday to friday) ได้หนังสือเล่มละ ๒๐ มา ๑๑ เล่ม จ่ายไป ๒๐๐ บาท..
• ซื้อหนังสือแต่ละปี หลายเล่ม แต่อ่านไปเคยจบ เอาไว้อ่านเพิ่มเติมยามเกษียณ
• วันนี้ทำงานได้น้อยกว่าที่คาดไว้ แต่ก็มีแนวทางการทำงานในวันต่อๆ ไป

จันทร์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๕๐)

• เมื่อวานเดินทางไป "เมืองโบราณ" เปิดให้เข้าฟรี ซึ่งไปครั้งสุดท้ายเมื่อ ๔๐ กว่าปีที่แล้ว
• เดินทาง 4 ชั่วโมง เพราะรถติดมาก..ปกติค่าเข้าชม 350 บาท คนเลยขับรถไปกันมาก รถเลยติด
• แม้ว่าเข้าฟรี แต่คนไปมาก บริการต่างๆ เลยไม่ดี รถจักรยานเช่า 50 บาท คนรอกันต่อแถวยาว ประชาสัมพันธ์ให้ไปขึ้นรถรอบเมือง..แต่ก็คิวยาวเป็นร้อยคน..รอกัน ๒๐ นาที กว่าจะวนมา ๑ คัน..พนักงานก็ไม่อยากขับเพราะแต่ละรอบใช้เวลานาน..
• ที่กล่าวว่าของฟรีไม่มีในโลก คงเป็นความจริงวันยังค่ำ..แม้ค่าเข้าฟรี แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย...เปิดฟรีแค่ 3 วัน คือ 15,16, 17 พ.ย.
• ดีที่ว่าพื้นที่ใหญ่ 800 ไร่ เลยรับคนได้เยอะ...เดินได้ ๑ ชั่วโมงก็ต้องรีบกลับ...ขากลับใช้เวลา ๒ ชั่วโมง

ศุกร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๔๙-๓ ต่อ เนื่องจากคำเกิน ๒,๐๐๐ คำ)

• ตกลงวันนี้ได้เรียนรู้จักตัวเองในเรื่องการบริหาร (๑) เวลา (๒) น้ำมัน (๓) บริหารเงินเพื่อให้เงินทำหน้าที่ (จะได้เขียนเป็นบันทึกวิธีคิด ทึ่คิดว่ามันซับซ้อนและ win win ไม่เอาเปรียบใคร) (๔) บริหารจัดการ Logistic จัดลำดับก่อนหลัง (๕) บริหารร่างกาย เดินบริหารร่างกายวันละ ๒ กิโลเมตร (บริหารไขมัน) (๖) ได้ วิธีคิดบริหารอวัยวะ อย่างน้อย ๒ แห่ง คือ บริหารสมอง วิธีคิด และ บริหารไต (ดื่มน้ำมากๆ) สุดท้ายได้ความสุขจากวิธคิด มีวิธีการ และทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย (ตามที่คิด)
• สุดท้ายของสุดท้ายที่สอบตก คือ บริหารอนุทิน..อิอิ (ตั้งใจเขียน ๑ อนุทิน แต่กลายเป็น ๓ เพราะใช้คำเกิน ๔,๐๐๐ คำ)

ศุกร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๔๙-๒ ต่อ เนื่องจากคำเกิน ๒,๐๐๐ คำ)

• ตอนเช้า คิดว่าจะเข้าเมือง ๑ เรื่อง คือ ไปเคลียร์บัตรเครดิต ที่ UOB. แต่พอมีเวลาทบทวนคิดทบทวน (วิมังสา) ว่ามีธุระอะไรในเมืองบ้าง (ขับรถไป ๑ ครั้ง-ตรงนี้เป็นการบริหารค่าน้ำมัน และค่าบริหารเวลา) ตกลงมีเรื่อง งอกอีก รวม ๖ เรื่อง (๑) ไปซื้อขนมปีบที่ Makro (๒) ไปซื้อของเจที่ร้านเจริญธรรม (๓)ไปเบิกเงินที่ธนาคารทหารไทย (๔) ไปปิดบัญชีที่ ธ.กสิกรฯ (๕)ไปซื้อค่่าโทรที่ เอ็นเอ็น (คนขายออนไลน์) (๖) ไปทำเรื่องกู้เงินที่ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต โดยใช้เวลาส่วนนี้ไปทั้งหมด (๗) เรื่อง ๒ ชั่วโมง
• เมื่อกลับมาที่มน.ที่ภาควิชาไม่มีที่จอดรถ (คาดไว้แล้ว) จึงทำอีก ๓ เรื่อง (๑) บริหารที่จอดรถ คือ จอดรถในที่ร่มเงาตึก และคาดว่าเมื่อกลับมาตอนใกล้เที่ยงจะมีที่จอดรถในที่จอดรถ (เป็นไปดังคาด บริหารที่จอดรถ) (๒) เดินไปตึก QS เพื่อซื้อหนังสือ ๑ ชุด แต่ต้องไปคืนหนังสือห้องสมุดก่่อน (๓) ไปคืนและยืมหนังสือห้องสมุด (๔) ได้เรื่องแถมมา ๑ เรื่อง คือ ทราบว่า หนังสือพิมพ์ M2F มีคนแจกที่มน.๒ คน จำนวนรวม ๒,๔๐๐ ฉบับ แจกตั้งแต่ ๙ โมง แจกเสร็จหมดภายในเที่ยงครึ่ง...ทำอีก ๓ เรื่องใน ๑ ชั่วโมง
• และทานข้าวตอนเที่ยง ก่อนไปสอน Lab taxo..ไปฟังนิสิต ๑ กลุ่ม และฟังอีก ๑ กลุ่มที่ถูกคัดเลือกส่งมาจากอีกห้องหนึ่ง ซึ่งสนุกมาก เหมือนพูด นึกถึงบรรยากาศการพูดปาฐกถา เพื่อเป็นเกียรติให้คนใดคนหนึ่ง..สุดท้ายนึกว่าจะจบภายในบ่ายสองครึ่ง แต่ยืดเยื่อจนเกือบ ๔ โมงเย็น เพราะนิสิตมีการพูดเปิดใจถึงภาพรวมของวิชา Taxonomy..
• วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะสิ่งที่ทุ่มเทกับการสอนแบบ Teach Less, Learn More กับนิสิตมน. คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาชีววิทยา ได้เบ่งบานแล้วที่นี้ เป็นคณะวิทยาศาสตร์คณะแรกในมน.ที่่ใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบ...เปิดปากศิษย์ ปิดปากครู ได้ประสบผลสำเร็จอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะทำได้...มีการถ่ายวีดีโอที่นิสิตพูดเปิดใจไว้ (เป็นหลักฐาน) ด้วย..อิอิ (เป็นความลับ...เอาไว้ถอดบทเรียน ซึ่งจะต้องเรียบเรียงเอาไว้ในหน้งสือ..)

ศุกร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๔๙-๑)

• เมื่อวานนี้ตั้งใจว่าวันนี้จะเข้าเมืองไปทำธุระส่วนตัว ๑ เรื่อง
• แต่ว่าวันนี้ตื่นเช้ากว่าวันปกติ ชั่วโมงกว่าๆ จึงมาชงชาดื่ม ดื่มชาไป ๕ แก้ว ได้น้ำเข้าร่างกายไป ๑ ลิตร ในเวลา ๑ ชั่วโมง ผลก็คือ น้ำเข้าไปช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว เลยถ่ายอุจจาระตั้งแต่เช้าไปถึงก่อนเที่ยง ๓ ครั้ง. รู้เลยว่าน้ำนี้เป็นยาแก้โรคท้องผูกได้ชงัดนัก (ใช้ธรรมชาติบำบัด) ผลต่อมาก็คือ ถ่ายปัสสาวะสีใสเจือจางดี กระตุ้นให้ไตทำงานอย่างเต็มที่ทำให้ไตแข็งแรง (ทำงานเต็มศักยภาพ)
• การตื่นเร็วกว่าวันปกติ ๑ ชั่วโมงกว่าๆ (และเมื่อคืนนอนเต็มที่ ประมาณ ๖-๗ ชั่วโมง ถ้าถึง ๘ ชั่วโมงจะไม่ดี สมองจะเฉี่อย) ทำให้สมองปรอดโปร่ง (รู้เลยว่า ที่อาจารย์หมอวิจารณ์เขียนบล็อกได้เยอะ มาจากช่วงเวลาตอนเช้ามืดนี้แหละทำให้สมองโล่งคิดอะไรได้เยอะเลย) คิดอะไรได้เยอะ
• จากเรื่องที่จะไปทำ ๑ เรื่อง งอกกลายเป็น ๙ เรื่อง
• เรื่อง ๙ เรื่อง ทำเสร็จภายใน ๒ ชั่่วโมง แล้วขณะเดินผ่านสถานที่หนึ่งแห่ง (บริษัทประกันชีวิต) เรื่องที่ ๑๐ ก็งอกขึ้นมา
• ระหว่างไปซื้อของที่ Makro (ซื้อขนมมาเลี้ยงปิด Class Lab taxonomy) พบคนรู้จักคนหนึ่ง แกทำงานอยู่เทศบาล แฟนแกทำงานอยู่ในมน. ทักผมว่า "วันนี้ทำงานไหม" (ผมใส่ชุดหม้อห้อม) ผมตอบว่าทำ (เพราะในมน.แต่งกายยังไงก็ได้ ให้ดูสุภาพ) แกทำท่างงๆ (แต่งชุดสูท) ผมก็งงว่า "ตกลงผมแต่งตัวประหลาด อยู่ผิดประเทศหรือไง ถ้าแต่งชุดหม้อห้อม (ฮ่อม) แสดงว่าหยุดอยู่บ้าน ชุดทำงานต้องผูกเน็คไทด์"

๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๔๘)

• วันนี้เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา คือสอนวันละ 7 คาบเรียน เริ่มเช้า 9.00-12.00 น และบ่าย 13.00-16.00 น. สอนปฏิบัติการชีววิทยาเบี้องต้น
• ส่วน 12.00-13.00 น. สอนวิชาการเลี้ยงผึ้ง ทำให้ตอนเที่ยงต้องทานข้าวไปด้วยและสอนไปด้วย โดยต้องเอาข้าวมาทานจากบ้านไม่ต้องไปซื้อ (เป็นอาหารเจ/อาหารมังสะวิรัติมากกว่า) ประหยัดมากๆ
• วันนี้กับข้าวเป็นปลาทูเจ ราดพริกแกง+โปรตีนตัวหนอน
• ในวันนี้เหมือนกัน แม่ซึ่งเคยเลิกกินหมากมา ๒ เดือน (หลังจากเคยกินหมากมาเกือบ 85 ปี) เกิดนึกอยากกินหมากขึ้นมา..แสดงว่าสมองส่วนจำการกินหมากเริ่มกลับมาอีกครั้ง...ไม่รู้ว่าจะดีใจ, เสียใจ หรือ เฉยๆ อะไรจะเกิดก็เกิด..ดีกว่ากัน.
• อีกเรื่องหนึ่งคือ ญาติวัยรุ่นที่เป็นผู้หญิงเกิดตั้งท้อง, ฝ่ายชายก็เหมือนเดิม ยังไม่พร้อม ให้ฝ่ายหญิงเอาออก.., ผู้หญิงก็มีกรรมแบบนี้ ฝ่ายชายก็เป็นผู้เห็นแก่ตัวเหมือนเดิม..สังคมก็จะนินทา/ซ้ำเติม แต่ฝ่ายหญิง..
• ผู้ที่เป็นพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็จะมีความทุกข์มากกว่า...พ่อแม่ฝ่ายชาย..
• จะว่าคนเกิดเป็นหญิงลำบากกว่าผู้ชาย..ก็อาจจะไม่ใช่
• ในเมื่อฝ่ายหญิงรู้ว่าหากตัวเองไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันก็อาจจะตั้งท้องได้
• แต่พ่อแม่ก็ได้เตือนแล้ว ลูกไม่เชื่อเอง ต้องรอให้มีประสบการณ์ตรง และได้รับทุกข์ทางใจด้วยตัวเอง

๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (อนุทิน๑๔๗)

• วันนี้เป็นวันแรกที่จะมีงาน NU Book Fair ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ที่ตึก QS มีร้านหนังสือมาร่วมงานประมาณ 200 ร้าน, และมีของรับประทานมาขายด้วย ตาม Corridor ทางเดินเชื่อมระหว่างตึก
• หลังจากสอนวิชาอนุกรมวิธานจบแล้ว มีแรงบันดาลใจที่จะเขียนเรื่องราวของ การสอนโดยหลักการ Tess Less Learn More หรือ เปิดปากศิษย์ ปิดปากครู...
• โดยมี ๒ รายวิชาที่เกี่ยวข้องคือ...การจัดการการดำเนินชีวิต และ หลักอนุกรมวิธาน....รหัสวิชา 258201 และ 001136
• ด้วยเวลาที่จำกัด จะสามารถถอดบทเรียนได้หรือไม่...คงจะต้องใช้ Style ของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ คือ เขียนให้เสร็จใน word แล้วค่อยนำลงเป็นตอนๆ...
• เรื่องนี้ไม่เขียนเป็นทฤษฎี แต่เขียนเป็นแนวปฏิบัติ Active Learning
• โดยมีอ.บีแมนและอ.ปราณีเป็นผู้ร่วมสอน..
• และอ.บีแมนเป็นผู้สังเกตการณ์ โดยใช้ Journal ของนิสิตเป็น ตัวเดินเรื่อง...(Journal มีทั้งเดี่ยวและกลุ่ม)
• และเอาตัว Course Syllabus หรือ มคอ. หรือ TQF มาช่วยวิเคราะห์ โดยพยายามดูเรื่อง Learning Outcome ด้วย

๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗
(อนุทิน๑๔๖)

• เมื่อวานเดินมาทำงาน รู้สึกว่าดีตอนเดิน ทำให้เห็นอะไรและคิดอะไรได้หลายอย่าง
• คิดคำใหม่ได้ว่า "วิชาการเพื่อวิชาการ" กับ "วิชาการเพื่อชีวิต"
• วันนี้เดินไป เพื่อจะไปฟังบรรยายของ "ดร.สุกิจ" ในชั้นเรียน "การจัดการการดำเนินชีวิต" แต่ วันนี้ไม่มีบรรยาย
• เดินไปกลับ (รวมทั้งแวะที่ต่างๆ) น่าจะอยู่ราวๆ ๒ กิโลเมตร การเดินทำให้รู้ว่าสุขภาพยังดีหรือไม่ ถ้าไม่เหนื่อยก็ยังโอเค...ลองเดินดูแล้วจะรู้ว่า ที่ท่านอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ เดินวันละ ๒๐-๓๐ กิโลเมตรนั้น ทำได้จริงๆ....ชั่วโมงหนึ่งน่าจะเดินได้ ๓-๔ กิโลเมตร (ตอนยังไม่เหนื่อยน๊ะ)
• ระหว่างนั้นผ่านตึก QS มีร้านหนังสือมาตั้งหนังสือกันแล้ว กำหนดจัดงาน NU Book Fair พรุ่งนี้ (๑๒-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) ปีนี้จัดช้ากว่าปีที่แล้ว..

๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ (๒)
         (อนุทิน๑๔๕)

ปี ๒๕๕๗ ทำไมน้ำผึ้งจึงขายดี

• ปี 2557 น้ำผึ้งที่ฝากขายไว้ที่ "พิพิธภัณฑ์ผ้า" อยู่ข้ามปีจากปีใหม่ผ่านสงกรานต์มาแล้วกำลังจะหมด (ขายช้ามาก)
• ได้น้ำผึ้งใหม่มาเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2557 จำนวน 613 กิโลกรัม และขายหมดภายใน ๓ เดือน (เฉลี่ยเดือนละ 200 กิโลกรัม (โดยที่พิพิธภัุณฑ์ผ้า ขายได้เฉลี่ย เดือนละ 15-20 กิโลกรัม)
• เดือนกันยายน สั่งน้ำผึ้งคุณภาพดี (ฟาร์มผึ้งนางพญา) แต่ต้นทุนแพง มาอีก 100 กิโลกรัม และขายหมดภายในไม่ถึง 1 เดือน
• เดือนตุลาคม สั่งน้ำผึ้่งมาอีก 200 กิโลกรัม (เจ้าเดิม) และขายไป 170 กิโลกรัม (5 เดือนขายไป 900 กิโลกรัม)
• คาดว่าต้นเดือนพฤศจิกายน จะสั่งน้ำผึ้งเข้ามาอีก 200 กิโลกรัม  และตั้งใจจะขายให้ถึงปีใหม่ (แต่ก็อาจจะหมดก่อนสิ้นปี.)
• ที่ขายได้เยอะ เพราะเดี๋ยวนี้คนสั่งซื้อ ไม่ได้ซื้อทีละขวดเหมือนเมื่อก่อน แต่จะซื้อตุนไว้ (มีคนฝากซื้อด้วย) ครั้งละ 1-5 โหล อาจเป็นเพราะน้ำผึ้งคุณภาพดีหายาก...
• คนที่รับฝากซื้อ เมื่อต้องรับฝากมากๆ ต่อไปเลยสั่งไปขายด้วยตาม Order แม้ว่าจะได้กำไรไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นการให้เงินทำงานเหมือนกัน..อิอิ

๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
        (อนุทิน๑๔๔)

• ห่างหายจากการเขียนมานาน..มีหลายสาเหตุ..เหตุหนึ่งคือสอน ๗ วิชา ใน ๑ เทอม
• วิชาหนึ่งคือ Principle Taxonomy ที่แยกวิชา Lecture ออกจาก Lab 
• ว่าด้วยวิชา Principle Taxonomy ที่เป็นบรรยาย ได้ลองระบบการสอนแบบไม่สอน "Teach Less Learn More" เต็มรูปแบบ โดยมีผู้สอน ๒ คน เข้าสอนร่วมกันทุกคาบเรียน (ทดลองระบบพิธีกรคู่ หรือ ผู้สอน ๒ คน ตามที่เคยฝันไว้)
• คิดว่าทำงานสำเร็จ (ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้อย่างหลวมๆ) คือ ทำให้อาจารย์ปราณีไม่ต้อง Lecture และสามารถเปิดปากศิษย์ได้ โดยปิดปากครูได้สำเร็จ
• ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์บอกว่า ให้มีการบันทึกเทปไว้ (อันนี้ไม่ได้ทำ) แล้วมาเปิดฟังดูว่า คาบการเรียนนั้น อาจารย์พูดมากหรือเปล่า...เท่าที่จำได้ มีคาบเรียนแรก ที่ผมพูดมาก และต้นชั่วโมงที่นิสิตยังไม่พร้อม ก็เล่าเรื่องต่างๆ ที่พบมาให้ฟัง....นอกนั้นเป็นหน้าที่ของนิสิต...
• เป็นอันว่าติดค้างผู้อ่านไว้ก่อน...แล้วจะมาเล่าเรื่อง  "Teach Less Learn More" "เปิดปากศิษย์ ปิดปากครู" ในหมวดวิชาวิทยาศาสตร์ (ตอนแรกคิดว่าทำยากกว่า วิชา GE และนิสิตอาจจะไม่ยอมรับ แต่ว่าผิดคาดมาก)

๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ 

         (อนุทิน๑๔๓)

• วันนี้ เป็นวันที่ทำงานมาครบรอบ..๒๗ ปี และเป็นไท แก่ตัว คือ มีอิสระภาพทางการเงิน (ไม่ต้องทำงานอาชีพแต่ยังมีสตางค์ให้ใช้)
• วันนี้ เดินทางจากพล.ไปกทม. ไปเผาศพพี่ชาย..คนที่ ๓ ซึ่งเสียชีวิตจากหัวใจวาย (จะว่าเฉียบพลันก็ไม่เชิง เพราะมีอาการของโรคหัวใจมา ๓๐ กว่าปีแล้ว..และมากำเริบเอาช่วงนี้) เมื่อตอนเช้าของวันจันทร์ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗
• ที่ยังไม่รีบเดินทางเข้ากทม.เพราะมีชั้นเรียนที่ต้องสอน summer ไม่อยากให้นิสิตต้องพลาดโอกาสการเรียนรู้เพราะผู้สอนติดภาระกิจและงดสอน เราเป็นครูต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่าง..ไม่ใช่เอะอะ อะไรก็งดสอน ถ้าอย่างนั้นขอค่าตัวตามความเป็นจริงได้ไหม..อิอิ
• และไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ ที่จะได้ไปสังเกตดูกระบวนการถ่ายทอดความคิด ของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ ซึ่งได้มาเป็นวิทยากรให้คณะเภสัชศาสตร์ ในช่วงเช้าของวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เรื่องของ critical thinking หรือการคิดแบบมีวิจารณญาน โดยการสวมหมวก ๖ ใบ สีขาว,สีแดง,สีดำ,สีเขียว,สีเหลือง และจบลงด้วยสีฟ้า

๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗
       (อนุทิน๑๔๒)

  ช่วง ๒๓-๒๕ มีการประชุมเกี่ยวกับ "อนุกรมวิธานและซิสเทมาติกส์ในประเทศไทยครั้งที่ 4" ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร..ผศ.ภูพงษ์ พงษ์เจริญ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยมาเปิดงาน ภายใต้สถานการณ์ การดูแลความสงบเรียบร้อยของฝ่ายทหาร จากกองทัพภาคที่ ๓...งานดำเนินการผ่านไปตามวัตถุประสงค์ด้วยดี..มีเรื่องที่ควรบันทึกไว้เป็นการส่วนตัวดังนี้

1. งานนี้ได้กอด ศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา
2. ได้ของฝากจากโจม.ปรียาวุฒิ จากขอนแก่น เป็นถั่วกระจก..
3. ได้พบกับ "คำหล้า อินควิไล" จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ สปป.ลาว โดยมิคาดฝัน เขามาทำ ป.เอกกับศ.ดร.สมศักดิ์
4. ได้พบ "อ้อม" หนึ่งในคณะ "หญิง อ้อ อ้อม" ใน สคส.เดิม..ตอนนี้ติดตามสามี ซึ่งอยู่ที่มอ.มานำเสนอผลงานที่นี่่ โลกก็กลม แบบนี้..
5. รู้สึกว่า งานนี้ ได้มองเห็น ความก้าวหน้าของการทำวิจัย และการนำเสนอที่มีวิวัฒนาการอันดียิ่ง
6. ฟัง ศ.ดร.สุจินดา พูดจุดประกายความคิด งานวิจัย..มองเห็นความฉลาดหลักแหลม การเชื่อมโยง และการสร้างเครือข่าย อันยอดเยี่ยม..
7. สรุปว่า มีความสุขกับงานนี้ตามอัตภาพ..ขอขอบคุณ อ.ดร.สุนีย์ ที่จัดการจ่ายค่าลงทะเบียนให้ 1,700 บาท ซึ่งได้เงินคืนมาและฝากส่งคืนให้เจ้าของแล้ว
8. เสียดายว่า ช่วงนี้ไม่มีน้ำผึ้งใหม่ไปฝากใครเลย

๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ 
       (อนุทิน๑๔๑)

• เปิดดู youtube เกี่ยวกับธนบัตรไทย...นึกถึง "สารคดี ธิราชเจ้าจอมสยาม" เลยลองค้นดู มีผู้นำมาลงมีทั้งหมด ๗๒ ตอน เล่นไปเรื่อยๆ ถ้ามีเวลาค่อยๆ ดู..ทำ Link เอาไว้ เผื่อมาดูให้ครบทั้ง ๗๒ ตอน..เป็นสารคดีที่ดีมาก
• ธิราชเจ้าจอมสยาม ๗๒ ตอน
• เผยแพร่ในปี 2553 มีทั้งหมด ๑๘ ตอน อ่านความเป็นมาได้ที่ วิกิพีเดีย "ธิราชเจ้าจอมสยาม" (ไม่สามารถทำ ลิงค์ได้) ขอคัดลอกข้อความเป็นมาดังนี้
• ธิราชเจ้าจอมสยาม เป็นละครโทรทัศน์กึ่งสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เนื่องในวโรกาสครบรอบ 100 ปีการสวรรคต ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553 โดยได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นับเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติเรื่องที่สามนับจาก (๑) สารคดีชุด 100 ปี ไกลบ้าน ตามเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง ในปี พ.ศ. 2551 และ (๒) เสด็จประพาสต้น ในปี พ.ศ. 2552

๒๖ เมษายน ๒๕๕๗ 
     (อนุทิน๑๔๐)

    วันศุกร์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๗ ไปเล็งดูเครื่องปรับอากาศ (ให้เอ็ม-คนเช่าคอนโดฯ) ที่เพาเวอร์บาย เซ็นทรัลพลาซ่าพิษณุโลก ถูกใจเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีโคโน รุ่นประหยัด ขนาดเกือบ ๑๘,๐๐๐ บีทียู ราคาเดิม ๓๐,๓๐๐ บาท จัดลดราคา (เกิน ๓ เดือนขายไม่ได้จัดรายการ) เหลือ ๒๕,๗๔๔ บาท (ลงท้ายด้วย ๔ หากเสียต้องเข้าศูนย์ซ่อมอย่างเดียว)

    วันเสาร์ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๗ โทรหาเอ็มตั้งแต่เช้า กว่าจะรับสายใกล้เที่ยง จะชวนไปดูแอร์ที่เซ็นทรัล พอดีเขาจะพาเพื่อนไปร้านโทรศัพท์ที่เซ็นทรัลเหมือนกัน นัดเจอกันหลังบ่ายโมง..

     พอดีลูกสาว นัดไปดูคอมพิวเตอร์เหมือนกัน ตอนบ่าย ๒ เลยพาไปที่เซ็นทรัลด้วย ไปเจอเอ็มมากับเพื่อน พาไปดูแอร์..ให้ดู ๒ ยี่ห้อ...เอ็มก็ใช้เวลาตัดสินใจไม่ถึง ๑๐ นาที เลือกยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นจัดรายการ แล้วก็ไปจ่ายเงิน พร้อมทั้งนัดช่างไปติดแอร์ (เขียนแผนที่ด้วย) แอบตกใจเล็กๆ ว่าทำไมรวดเร็วปานนั้น

    บีแมนสบายเลยไม่ต้องทำอะไร ก็ขอตัวพาลูกไปที่อื่นต่อ..อิอิ

๒๔ เมษายน ๒๕๕๗ 
    (อนุทิน๑๓๙)

• วันนี้ (๑๘.๒๖น.)เอ็ม-ที่เช่าบ้านอยู่เมอซิเดชคอนโด โทรมาขออนุญาต ติดแอร์ยี่ห้อมิตซูบิชิ 
• บอกอนุญาตไป เพราะเป็นผู้เช่าชั้นดี
• พื้นที่ ๓๒ ตารางเมตร แต่พื้นที่ติดแอร์น่าจะไม่เกิน ๓๐ ตารางเมตร (สูง ๓ เมตร)
• ปีนี้อากาศร้อนเป็นพิเศษใครๆ ก็อยากติดแอร์
• แต่ผู้ให้เช่ายังไม่มีแอร์ติดเลย เพราะอยู่ในหอพักมน.เหมือนกัน ไม่อยากติด
• เพราะต้องเสียค่าช่างติด แล้วอีกพักก็ต้องถอดออก..
• เล็งๆ เอาไว้ว่าจะขอเซ้งต่อจากเอ็ม เมื่อเขาออกจากห้องเช่าในอีก ๕-๖ ปีข้างหน้า

เวลาผ่านไป ไม่ถึง ๑ ชั่วโมง

•  เอ็มโทรมาบอกว่า ไปดูแอร์มิตซูบิชิ อินเวอร์เตอร์ ที่ไทยมาร์ท เขาบอกว่าต้องใช้ ๒๔,๐๐๐ บีทียู ราคา ๔๘,๐๐๐ บาท อาจารย์ช่วยออกให้ก่อนได้ไหม แล้ว เอ็มค่อยเพิ่มค่าเช่ารายเดือนให้..เอ็มมีเงินแค่ ๒ หมื่นกว่าบาท

๑๙ เมษายน ๒๕๕๗ 
    (อนุทิน๑๓๘)

• เมื่อวานพบนิสิตชีววิทยาปี ๒ กำลังเตรียมงานถ่ายทำวีดีโอ วิชาภาษาอังกฤษกันอยู่
• มีนิสิตหลายคนติดตามบันทึกของบีแมนใน Gotoknow และถามคำถามว่าทำไมบีแมน ไม่ค่อยupdate บันทึกใหม่ๆ เลย..
• ทำให้ต้องทบทวนตัวเอง กลับมาเขียนอีกครั้ง (แบบต่อเนื่อง)
• จากสถิติ เคยมีคนอ่านบันทึกวันละ ๒๐๐ กว่าๆ เหลือแค่วันละ ๑ คน..อิอิ

๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ 
    (อนุทิน๑๓๗)

• วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตรงกับวันเกิดแม่...อันที่จริงนับตามปฏิทินของจีน แต่ถ้านับตามปีปฏิทินสากลแล้ว แม่เกิดวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๕๙
• ดังนั้นจะครบ ๙๘ ปี ย่าง ๙๙ ปี วันอาทิตย์นี้
• วันนี้พวกพี่ๆ เดินทางมาเยี่ยมแม่เพื่อฉลองวันเกิดให้ ไล่ตามอายุดังนี้
1. พี่สาวคนโต อายุน่าจะใกล้ ๘๐ แล้ว
2. พี่ชายคนโต อายุน่าจะเกิน ๗๒ ปีแล้ว
3. พี่สาวคนเล็ก อายุน่าจะ ๖๕ ปีแล้ว
4. พี่ชายคนเล็กที่ติดกัน (ขับรถ) อายุ ๕๗ ปีแล้ว และพี่สะใภ้

๗ มกราคม ๒๕๕๗ 
    (อนุทิน๑๓๖) 

• วันนี้ปกติต้องสอนวิชา general education ๒ วิชา แต่ไปสอนเพียงวิชาเดียว เพราะอีก ๑ วิชา ผู้จัดการให้งดสอน เพื่อตกลงกติกากันตอนบ่าย ๓
• ตอนเย็นนัดสอนนิสิต หมู่เรียน ๕๐๑ ซึ่งเรียนภาคเรียนที่ ๓ วิชาการจัดการการดำเนินชีวิต
• ไปสอน ๒ ชั่วโมง แต่ใช้เวลาบันทึกถอดบทเรียนถึง ๒ ชั่วโมงครึ่ง ท่านผู้ใดเข้ามาอ่านอนุทิน ช่วยไปอ่านและช่วยแสดงข้อคิดเห็นในวิธีการสอนแบบไม่สอนด้วยครับ ที่นี่ 

๖ มกราคม ๒๕๕๗ 
    (อนุทิน๑๓๕) 

• เปิดเรียนวันแรก มีตารางสอนเช้า-บ่าย แต่ยังไม่ได้สอนเพราะยังไม่ถึงคิว
• วิชาการเลี้ยงผึ้งมีสอน ๑๐ โมง แต่ไม่มีคนมาเรียน ขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไป..แต่คาดว่าน่าจะมีนิสิตมาติดต่อเรียนภายในวันพุธ
• มีสอนภาคเรียนที่ ๒ (ภาคปกติ) มี ๕ รายวิชา และ ภาคเรียนฤดูร้อน กลุ่ม ๕๐๑ การจัดการการดำเนินชีวิต จากเดิม ๖ คน เพิ่มเป็น ๗ คน นัดเรียนตอนเย็น ๔ วันต่อสัปดาห์ ต้องจบภายในวันที่ ๗ เดือนมีนาคม ๒๕๕๗
• ยังไม่ได้ตัดเกรด ๕ รายวิชา..อิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิอิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิ

๕ มกราคม ๒๕๕๗ 
  (อนุทิน๑๓๔) 

• อนุทินแรกของปี ๒๕๕๗
• วันนี้หลังจากเขียน ธรรมปฏิบัติ ๔ ไปแล้วสักพักใหญ่ ไปกด Keyword กลับไปกลับมา ตัว counter นับตัวเลขผู้อ่านขึ้นครั้งละ ๑-๓ ตัวเลขผู้อ่านขึ้นจาก ๑๐ กว่าๆ ขึ้นไปถึง ๑๐๐ จึงบันทึกไว้เป็นข้อสังเกต

 7 november 2013 : วันคล้ายวันเกิด beeman
  (อนุทิน๑๓๓)  

• ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้ช่วยคนที่มีปัญหาด้านการเงินไป ๒ ราย
• เป็นหัวหน้าทีมเตรียมงานจัดนิทรรศการทำดีมีจิตอาสาให้นิสิต ๙๕๐ คน ในรายวิชาการจัดการดำเนินชีวิต (จัดอาทิตย์ที่ ๑๐ พ.ย.๕๖)
• มีนิทรรศการ ๑๘ บูธ ทำเรื่องยืมโต๊ะจากหอสมุด, เก้าอี้จากกองอาคารฯ และบอร์ดจากกองบริหารงานวิจัย
• สอนวันละ ๖ ชั่วโมง ไม่ค่อยมีเวลาเตรียมงาน จึงให้กองศึกษาทั่วไป ช่วยทำเอกสารไปยืมของ และขอแรงนิสิตและคนงานช่วยขนของ โดยบีแมนคุมงาน..และต้องยืมรถกระบะอาจารย์ภูคามาช่วยขนบอร์ดในวันศุกร์..ชีวิตล้วนต้องพึ่งพาอาศัยกัน
• เมื่อวานสอนแค่ ๓ ชั่วโมง แต่มีประชุมอีก ๓ ชั่วโมง เหลือเวลาทำหนังสือกับยื่นเอกสารแค่ ๒ ชั่วโมง แต่ก็ทำเสร็จก่อนเวลาเพราะไปยื่นหนังสือด้วยตัวเอง นับว่าทำงานเร็วมาก (ถ้ามีคนอื่นช่วย..แบบนี้เหมาะสำหรับเป็นผู้บริหาร-แต่ไม่อยากเป็นผู้บริหารเพราะต้องคอยไปตัดสินคนอื่น)
• ยกตัวอย่าง..เมื่อวานได้รางวัล ตัดเงินผู้ประสานงานรายวิชา เนื่องจากผู้บริหารเข้าใจว่าผู้บริหารรายวิชาไม่ได้ทำอะไรคอยรับเงินอย่างเดียว..อันนี้ถ้าคิดบวกก็เป็นข่าวดีเพราะว่า อาจมีผู้อิจฉาผู้ประสานงานอยู่ เมื่อมีข่าวเช่นนี้เขาก็จะเลิกอิจฉา
• สรุปว่า เดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายนนี้ มีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาในชีวิตมากพอสมควร (อย่างน้อยก็มีเงินทำโครงการมาผ่านมือ และก็ผ่านเลยไป เกือบครึ่งแสน และก็ได้เลี้ยงนิสิตและอาจารย์จากเงินของพวกเขาเอง..
• เพิ่มเติม ให้ของขวัญตัวเองเป็น window surface เมื่อ ๑๖ ตุลาคม ๕๖ และ Note book ของ sumsung เมื่อ ๓๐ ตุลาคม ๕๖ แบบพื้นๆ ราคา ๖,๙๙๐ บาท เท่านั้นเอง (แบตฯ ๓ พันกว่า) ไปเสียค่าลงวินโดว์สและโปรแกรมอีก ๓๐๐ บาท แถมผ่อนได้อีก ๖ เดือน เดือนละ ๑,๑๖๕ บาท... รวมจ่ายค่าเทคโนโลยีไปประมาณ ๑๔,๐๐๐ บาท และเมื่อปีก่อนมหาวิทยาลัยจ่ายค่าคอมพิวเตอร์มาให้ ๒๐,๐๐๐ บาท ยังไม่ได้เอามาใช้เพื่อการนี้ (ยืมไปใช้อย่างอื่นก่อน..อิอิ) สรุปว่ายังเหลือเงินอีก ๔,๐๐๐ บาท (ซื้อที่หลังได้ version สูงกว่า)
• เพิ่มเติม ตอนก่อน ๕ โมงเย็นขี่รถวนเพื่อจะไปสั่งข้าวงานจิตอาสาแต่เขาปิดร้านแล้วเลยโทรศัพท์ไปบอก พบลุงคนแก่ขายขนมปังใหม่สดจากบางระกำ ราคาแพคละ ๒๐ บาท...ตอนนั้นขับรถคันใหญ่ จึงขับมาเปลี่ยนรถเป็นรถเครื่อง..ตรงนั้นเป็นสระน้ำที่ทำประปาเก่า เรียกว่าโรงประปา ๑ มีนิสิตมาปล่อยปลาทุกวันพฤหัสบดี ปล่อยเป็นถังเล็กๆ ประมาณ ๑๐ ถังได้..ลุงขายขนมปังมา ๒-๓ ปี เห็นจะได้ แต่ไม่เคยได้อุดหนุน มีอันต้องผ่านไปทุกครั้ง..ครั้งนี้ตั้งใจไปทำบุญกับลุง เพราะว่าลุงเอาเงินกำไรที่ขายได้ ไปฟอกไตให้ภรรยา ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย ไปฟอกครั้งละ ๕๐๐ บาท...ช่วยลุงซื้อ ๕ แพค ลุงแถมเม็ดอาหารปลาดุกมาให้ด้วย ๑ ถุง ทีแรกไม่รับ แต่มีสตางค์ไป ๒๐๐ กว่าบาท เลยควักให้แก ๒๐๐ บาท รับของมา ๑๒๐ บาท ที่เหลือก็ทำบุญให้ป้าไปฟอกไต...ความจริงจะบริจาคเงินให้แกก็ได้ แต่แกอาจจะไม่รับ อยากให้อุดหนุนขนมปังมากกว่า พอช่วยแกซื้อแกก็ดีใจ...ตกลงวันนี้ก็ได้ทำบุญกำลุงช่วยซื้อขนมปัง เพื่อให้ลุงมีสตางค์ไปฟอกไตให้ป้า และยังได้ไปเลี้ยงปลาที่สระน้ำใหญ่หลังมอ. อันที้่จริงที่สระใหญ่ (มากๆ) นี้คงห้ามเลี้ยงปลา เพราะน้ำในสระนี้ ผลิตน้ำประปาเลี้ยงทั้งมอ. แต่พอเราให้ขนมปัง ปลาก็กินหมด ไม่เหลือซากให้เป็นน้ำเสีย ก็พอใช้ได้..ได้บุญ ๒ ต่อ ช่วยลุงซื้อขนมปัง และปลาได้อาหารว่าง..ความจริงปลาในสระน้ำมีมากๆ เข้า และตัวใหญ่ๆ เคยได้ข่าวว่า ได้เป็นอาหารของรปภ.ด้วย...แต่ว่าก่อนตายก็ได้กินอิ่มพอสมควร..เรียกว่าตายแบบไม่อดอยากและได้ช่วยให้มนุษย์ขี้เหม็นได้กินอิ่มท้องไปด้วย แต่ว่าจะมีเศษกรรมติดไปให้ได้ทนทุกข์ทรมานจากเจ้ากรรมนายเวร..

 21 ต.ค. 2556 : วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จย่า
  (อนุทิน๑๓๒)  

• 18 ต.ค.56 ซื้อหนังสือ Biology edition 9 ของ campbells ให้ลูกชายอ่าน และไปหาหมอฉุกเฉิน เพราะเป็นหลอดลมอักเสบ หมอใจดีมาก เป็นหมอกระดูก
• 19-20 ต.ค. ไปศูนย์ประชุมสิริกิติ์ งานสัปดาห์หนังสือ ซื้อหนังสือ 2 กล่องส่งทางไปรษณีย์ ปีนี้จ่ายไม่มากเท่าไร แ่ต่ค่าส่งแพงขึ้นมากกล่องใหญ่ัตั้ง 220 บาท
• เจอหนังสือกฏแห่งกรรมของท.เลียงพิบูลย์ ชุดใหญ่ พิมพ์โดยธรรมสภา ราคา 2,300 บาทเอง อยากได้แต่เอาไว้อีกคราวค่อยซื้อ
• กลับรถ 6 โมงเย็น ถึงพิษณุโลกยังไม่ 5 ทุ่ม
• เช้าไปสอน 1 วิชา นิสิตนำเสนอเรื่องแรงบันดาลใจ ภาพรวมทำได้ดี แต่กลุ่ม 9 ไม่มีใครมานำเสนอ การสอนแบบไม่สอน สำหรับนิสิตที่ยังไม่พร้อมก็มีสภาพแบบนี้
• กลับมาดูแลแม่ แม่ก็คือแม่ ถึงดื้อลูกก็ทำอะไรไม่ได้..อิอิ ต้องทำใจ ทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด (ดุสไลด์ของนิสิตวันนี้แล้วเข้าถึงเรื่องนี้ได้ดี นี่คือความสำคัญของการทบทวนตัวเอง หรือ วิมังสา)

  16 ต.ค. 2556 
   (อนุทิน๑๓๑)  

• ไปรับเครื่อง windows surface RT ที่ IT city ท็อปแลนด์เก่า (ที่จองผ่าน citcoms ไว้ 2 เดือน)
• ราคาเต็ม 11,500 บาท ซื้อได้ ในราคา 6,581 บาท รูดบัตรเครดิตเพราะไม่มีเงินสด
• ติดฟิล์มกันรอย ราคา 300 บาท จากราคา 250 บาท รวมเป็น 6,881 บาท
• ความจริงรับเครื่องได้ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. แต่ไม่มีใครโทรมาบอก
• ซื้อหมึกปริ้นตอร์ไปอีก 4 ขวด ราคา 69 บาท (วันก่อนซื้อมา 150 บาท 100 ml. เท่ากัน)
• ไปรับ Note book ที่ central plaza ด้วย Harddisk พัง ส่งไปเคลม. ได้ 1 เดือนพอดี ไปรับกลับมาบ้านพร้อมกัน
• ได้พบลูกศิษย์ที่ปรึกษารุ่นที่สอง บ้านอยู่ปลักแรด แต่มาสอนอยู่ที่วัดคูหาสวรรค์ (ตอนแรกอยู่ผดุงราษฎร์ รุ่นนี้ก็สอนมาตั้งแต่ปี 2535)...จะมีงานศิษย์เก่าวิทยาศาสตร์ม.น. ในวันที่ 9 พ.ย.นี้