บนโลกใบนี้ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ฉันยังไม่รู้ และฉันก็พร้อมเปิดใจที่จะเรียนรู้ไปกับมัน...
เรามิอาจหนีพ้นธรรมชาติไปได้
หายใจเข้าคือพลังของจักรวาล หายใจออกคืนพลังให้จักรวาล
ขอจงเบิกบานรับอรุณ
| อนุทิน ... ๕๐๐๘ |
"จงจิตว่าง"
ฝนตกหนักในตอนเย็นเมื่อวานจนถึงค่ำมืด
เช้านี้อากาศดีแสนดีเหมือนมีลมหนาวพัดผ่าน
ยามเช้าเรามักจะ "จิตว่าง"แต่ยามเย็น เรากลับตรงกันข้าม คือ "จิตไม่ว่าง"
การผ่านกิจกรรมประจำวันมามากมาย
ทำให้เรา "ปรุงแต่ง" จิตของตัวเองให้ยุ่งเหยิง
ทางที่ดีที่สุด คือ ทำจิตเหมือนยามตื่นนอนตอนเช้า
จะได้สดชื่นทุกวัน ไม่ต้องเคร่งเครียด
ไปกับสิ่งที่ปรุงแต่งเองคนเดียว
กิจกรรมยามว่างของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มารับการรักษาที่wardในช่วงนี้
แกนกระดาษชำระนำมาใช้ประโยชน์ใหม่ ทุกชิ้นงานสวยงาม ใจก็ผ่อนคลายตาม
ทำไปหัวเราะไปเพราะพูดคุยกันสนุกสนานในกลุ่ม "ยายไล กินลำไย น้าลายยายไหลย้อย"
โรคซึมเศร้าดีจากยาส่วนหนึ่งอีกส่วนที่สำคัญคือผู้ป่วยเอง ช่วยตัวเองด้วยการหากิจกรรมทำยามว่าง มีสังคม ไม่แยกตัวหรือจมกับความคิดลบ มีมุมมองทางบวก คิดบวก เสริมความเข้มแข็งทางจิตใจ บุคลากรเองนอกจากจะช่วยโดยดูแลให้ยาตามแผนการรักษาแล้วต้องกระตุ้นและเป็นผู้นำทำกิจกรรม พูดคุยเปิดโอกาสให้ระบาย ให้กำลังใจ ช่วยให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองเพิ่มขึ้น ให้สุขภาพจิตศึกษา (psychoeducation) เสริมพลังอำนาจของผู้ป่วยและญาติ...โรคซึมเศร้ารักษาได้
อ่านหนังสือ“เห็นทุกข์ สนุกดี”โดยพระดุษฎี เมธังกุโร ในตอนสมาธิลัด..ขจัดมาร เรื่อง“สมาธิมีดสั้น" มีว่า
สมาธิทำให้เกิดสติ ทำให้เกิดความเพียร การมีสติเตรียมพร้อมอยู่เสมอไม่ประมาท เหมือนมีมีดสั้นเป็นอาวุธสำหรับระวังและต่อสู้กับข้าศึกที่รุกรานใจเรา เพื่อต่อสู้พญามารทั้ง 5 คือมัจจุมาร (ความตาย) ขันธมาร (ความเจ็บไข้) อภิสังขารมาร (ความคิดปรุงแต่ง) เทวปุตตมาร (มารที่ทำให้เรารักสบาย ไม่สู้ชีวิต)และกิเลสมาร (โลภะ โทสะ โมหะ) พกติดตัวไว้ยามคับขันช่วยเราได้ แต่สำคัญ มีดสั้น…ต้องคม
อ่านแล้วได้คิด ได้สติ จะพยายามลับคม...ฝึกจิต ฝึกสติ เราเองในการทำงานต้องเกี่ยวข้องกับสติอย่างมาก เพราะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นตลอดเวลาหากขาดสติและประมาท
เพิ่มสติ...ลดrisk
ผมพบข้อความนี้จากสถานที่ใดสักแห่งหนึ่ง จำไม่ได้แต่ได้จดบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัว ขออภัยเจ้าของ หากจะกรุณาแจ้งมาจะเป็นพระคุณยิ่ง แต่ชอบใจข้อความนี้เลยนำมาเผยแพร่ต่อ
ความสุข.......อยู่ที่เราคิด
ชีวิต...........อยู่ที่เราปั้น
ความฝัน.......อยู่ที่เราสร้าง
ทุกสิ่งทุกอย่าง........อยู่ที่เราเอง.
17-09-2556
เก็บดอกผักขู่หมัก มาฝาก
กำลังรวบรวมข้อมูลไว้เขียนบันทึกค่ะ
ภาพ : ดอกผัก "ขู่หมัก" ที่ ชาวเบตง/ยะลา เรียกว่า " หมั๊กฉ่อย"
จาก : หน้าบ้านพี่สาว(เจ้ยา) @มุมหนึ่งของหาดใหญ่
ช่วงเช้า ว่าจะได้ทำเรื่องแผนบริหารทรัพยากรบุคคล...แต่เปล่า? มีแขกขอเข้าพบตั้งแต่เช้า คนแล้วคนเล่า เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับคนในการทำงานร่วมกัน ฉันหาสาเหตุ หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จทุกราย...แม้แต่ทางโทรศัพท์ เมื่อเจอแบบนี้แล้ว ผอ.กบค.จะให้แก้ไขอย่างไร? ฉันก็แนะนำไป จนเจ้าของปัญหา Happy ในการแก้ปัญหา...เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่ฉันต้องตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาทางด้านงานบุคคล
สำหรับช่วงบ่าย เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารระดับสูง เกี่ยวกับการขึ้นเงินค่าจ้างให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยใหม่...(ปัญหาที่ภาครัฐผลักไว้ให้กับมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งต้องแก้ปัญหาในเรื่องของการขึ้นค่าจ้างตามมติ ครม.)...และการกำหนดกรอบอัตรากำลัง ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ - ๒๕๖๐ เพื่อเตรียมวางแผนอัตรากำลังคนที่จะต้องดำเนินการจ้างในแต่ละปี ร่วมกับกองนโยบายและแผน
"ทุกคนร้องเพลงลูกทุ่งได้จริง แต่จะมีสักกี่คนที่จะกลายเป็นตำนาน
นั่นแสดงว่าคนคนนั้นจะต้องมีดีในตัว ที่ทำให้ประชาชนร้องไห้ให้เขาได้ แม้กระทั่งวันตาย"
ครูชลธี ธารทอง กล่าวถึง สายัณห์ สัญญา (ราชาเพลงลูกทุ่งผู้ล่วงลับ)
บนเส้นทางที่ทุกคนอยากเดิน...มันไม่ใช่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป...บางแห่งจะต้องฟันฝ่ากับขวากหนาม นานาชนิด ขึ้นอยู่กับว่า "ตัวเราจะอดทนที่ยอมให้ขวากหนามเกี่ยวตัวเราบ้างหรือไม่?" เช่นเดียวกับการทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น ย่อมเป็นธรรมดาที่ผู้อื่นเห็นแล้วคิดอิจฉาที่พร้อมจะผลักหรือเลื่อยขาเก้าอี้...แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้านทานสิ่งเหล่านั้นได้ นั่นคือ "คุณธรรม ความดีในการทำหน้าที่ของเราเอง จะเป็นเกราะคุ้มครองปกป้องตัวเราไว้ได้...
ช่วงเช้าที่ผ่านมายุ่งกับคะแนนเก็บของนักศึกษาท่ามกลาง อากาศร้อน ^!^
เมื่อเช้าฟังข่าว มีพายุดีเปรสชันอาจทำให้ฝนตกได้ ตามนี้คะ กรมอุตุนิยมวิทยา
เดินทางระมัดระวังด้วยนะคะ
| อนุทิน ... ๕๐๐๙ |
"วิถี"
กรุงเทพฯ เป็นบ้านพ่อ แม่ น้องชาย
และในอดีต ผมก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
เชียงใหม่ เป็นบ้านปัจจุบันของผม
มีบ้านปลายดง ณ หางดอยตั้งอยู่
การกลับมากรุงเทพฯ คิดถึงแค่อดีต
รถติดและความเสื่อมโทรม
ยังคงฝังใจจำ
โชคดีที่ผมสามารถเลือกเส้นทางชีวิตได้
ความมั่นคงของอาชีพการงานก็ระดับหนึ่ง
หากย้อนกลับไป หากได้งานทำที่กรุงเทพฯ
เงินเดือนสูงลิ่ว แต่ยังไงผมก็คงไม่อยู่อยู่ดี
ผมกลายเป็นคนบ้านนอกไปแล้ว
ชีวิตที่ราบเรียบ สุขสงบ คือ สิ่งที่ต้องการ
เข้าวัดเข้าวาบ้างเป็นระยะ
ศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์ให้ดีกว่านี้
มีใครสักคนที่รู้ใจ อยู่ด้วยแล้วอุ่นใจ
คงจะดีไม่น้อย
ชีวิตนี้สั้นนัก
เราประมาณความสุขของตัวเองได้
ถึงแม้ไม่รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม
แต่มีความเพียรดั่งพระมหาชนกก็พอ
โอกาสยังคงมีต่อไป
ตราบเท่าที่หัวใจยังคงเดินทาง
ฉันคิดถึงเธอ
วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย..
มีพม่าสองคนแม่ลูกมาหายายแต่เช้า.มาขอข้าวกินอีกแล้ว..
ใจหนึ่งก็สงสาร ลุกเล็กๆ อายุ 2 ขวบ แม่็็ก้อยังเด็กอยู่..เหมือนคนใจดำ..แต่ก็กลัว..
แฟนของพม่าคนนี้..กินเหล้าหนัก..ทำงานเงินไม่ค่อยเหลือให้ลุกเมีย ปากจัด..อารมณ์รุนแรง
ถ้าเรารับเมียเขาไว้ ถ้าแฟนเขากลับมา..ก็จะสร้างปัญหาอีก..บ้านยิ่งมีแต่ผู้หญิง..และเด็กๆ..
เฮ็อ?...
ได้แต่บอกยายว่า..ให้ข้าวกินไป..แต่ไม่รับไว้ในบ้าน...เพราะตอนนี้ก็รับเลี้ยงเด็กผู้หญิง ลูกหลานหลายคนแล้ว..กลัวปัญหาที่จะตามมา..ให้ที่พักพิงคนต่างด้าวอีก..หาเงินคนเดียว..เหนื่อย..
...เหมือนคนใจดำ...เลยเรา...แย่จัง..ความรู้สึกแบบนี้
๑๗/๐๙/๒๕๕๖
อนุทิน ๓๙.
"หลากอารมณ์"
ตอนเช้า ครึ้มฝนออกจากบ้านแม่ยายมาที่ร้านแต่เช้า แต่ก็ยังไม่ทันแม่ตัวที่ตื่นก่อนทุกเช้า เอาตังค์ใบละร้อยไปแลกใบละพันกับพี่สาว เพื่อเอาเงินพันเตรียมไว้ซื้อตัวเงินสำหรับใช้เติมโทรศัพท์ พบแม่ยืนอยู่หน้าบ้าน แม่พูดว่า “ไอ้หนาน...ไอ้หวีลูกป้าเนียงมันต๋ายไอ้...ฮู้เรื่องก็เหลาะ?”
ผมถามแม่ว่า “ป้าเนียงไหนเหลาะ?” ใจก็คิดถึง ป้าเนียง...พี่สาวพ่อที่บ้านน้ำอ่างซึ่งก็ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว และลูกของท่านก็ไม่ได้ชื่อ “ไอ้หวี” แต่ชื่อว่า “น้องโต้”
แม่ตอบว่า “กะป้าเนียงเอ้ยหนานกรข้างบ้านเฮานี่ดุ” ผมรู้สึกขนลุก “อ้าว...มันเป๋นหยังต๋ายเหยาะ” ใจก็คิดไปถึงเรื่องการขับขี่มอเตอร์ไซค์ของวัยรุ่นไปโน่น น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ รถคว่ำรถชน
แม่ตอบว่า “มันล้มในห้องน้ำ...เขาว่ามันเจ๊บอ๊กมาก่อนหน้านี่ ๒ วันแล่ว...ตะคืนมันเข้าห้องน้ำ...แม่มันว่าได้ฮยินเสียงคะลึก ๆ แล้วกะเงียบไป...พอออกไปผ่อหยั่ง...มันเงียบไปเหียแล้ว...เขาสันนิษฐานกั๋นว่า หัวใจ๋ล้มเหลวเฉียบพลัน...ก่อนหน้านั่นแม่มันว่า...มันไปแข่งกีฬาตี่อุตรดิตถ์มา...แล้วมันจ่มเจ๊บอก เจ๊บมาสองวันแล้ว...ไปหาหมอ เขากะว่าบ่อเป๋นอะหยังหลาย...น่าจะเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหน้าอ๊กมันฉีกอี้หนะ” แม่เป็นนักข่าวเช้านี้ได้ดีมาก แม้ผมจะถามสถานการณ์บ้านเมืองเกี่ยวกับเรื่องอะไร แม่ก็จะรู้เรื่องทุกอย่าง เพราะแม่ชอบดูข่าวและมักจะฟังข่าวตอนตีห้าของกำภูและรัชนีเป็นประจำ
ผมถามว่า “มันอายุเต่าฮือหนึ่งหั้นเหลาะ?” แม่ตอบว่า “มันกะบ่อ ๑๔-๑๕ นี่กะเหลาะ บ่าเด่วมันก๋ำลังอยู่ ม.๒ หนึ่งหลุ” ผมพูดว่า “โอ่วว...หยังมาดีเอ็นดูมันแม่ใจ๋เหนาะ อายุยังหน้อยอยู่เลย...บ่อน่าเจื่อ...หู้สึกว่าบ้านเฮาบะเด่วนี่ต๋ายกั๋นกำกู่เลยเหนาะ...หยังมาแปลกเอาแต๊เอาว่าหนะ” สักพักพี่สาวเดินมาจากบ้านน้าผู้ชายก็เอาเงินไปให้เขาแลก แล้วก็เดินกลับมาที่บ้าน(ร้าน)ของตน ใจก็คิดไปว่า
“คนเรานั้น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็มีสิทธิ์ตาย และตายโดยไม่คาดคิดได้ด้วยกันทั้งนั้น แต่โดยทั่วไปแล้ว เราก็คิดเข้าข้างตัวเองกันลึก ๆ ว่า...ปู่ย่า ตายาย ตายก่อน ต่อมาก็พ่อและแม่ของเราตาย ถึงจะมาเป็นคิวเราตายมั่ง จากนั้นก็ลูกของเราตาย ต่อไปก็หลานเราตาย เหลนเราตายไปตามลำดับ...ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่”
อย่างกรณีน้องหวีที่เสียชีวิตในครั้งนี้ อายุ ๑๕ เอง ตายก่อนย่าที่กำลัง “โซ”(ป่วยเรื้องรังเป็นระยะเวลานาน) อยู่ก่อนหน้านี้ และตายก่อนแม่ซึ่งป่วยเป็น “โรคลมชัก” (บ้าหมู) ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของเธอเสียอีกด้วย...รู้สึกหดหู่ใจแต่เช้าเลย
| อนุิทิน ... ๕๐๐๓ |
"The Voice"
ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=WjHasuNkKvw
คลิปนี้แรงสุดวันเดียว ๓ แสนกว่าวิว คนร้องน่ารัก กรรมการน่ารัก ตลก ดูแล้วมีความสุขดี
ดีจังน้องอาจารย์ขจิตมาเชิญชวน ปลูกผักกินได้ เป็นสิ่งที่ดีมากต่อพี่ดาจะได้ตั้งใจจริงๆจังๆเสียทีกับการปลูกผักกินได้ในกระถาง พี่ชายมาเคยมาเห็นต้นไม่ที่เชียงใหม่ บ่นปลูกต้นอะไรกินไม่ได้ ทำไมไม่ปลูกที่กินได้ ก็เล่นบอนไซเสียจนไม่มีที่ปลูกต้นที่กินได้ (ข้ออ้าง) เคยตั้งใจบ่อยๆแต่ล้มทุกที พอดีกับปีนี้ตังใจเขียนเรื่องต้นไม้ดอกไม้ให้มากขึ้น จากเมื่อปีที่ผ่านมาเขียนอาหารมาก ก็คงปลูกแล้วก็ต้องทำอาหาร ดีมากๆเลยมีเรื่องให้เขียนบันทึกเพิ่มขึ้นได้ปลูกดูแลต้นไม้มากขึ้น ความสุขก็เพิ่มขึ้น......
http://www.gotoknow.org/posts/548440 อย่างเช่นเมื่อปลูกแล้วมีลูกเรื่อยๆก็ได้คิดอะไรใหม่ๆขึ้นได้อีกที่เขาไม่ทำกัน
วันนี้ ได้สร้างสมุดขึ้นมาใหม่เพื่อแยกบันทึกต่างๆจากสมุดที่ชื่อลมหายใจ ศิลปะ/วรรณกรรม เพื่อให้เป็นหมวดหมู่ ดังนี้
บทกวี --> ลมหายใจแห่งบทกวี
เรื่องสั้น-->ลมหายใจแห่งเรื่องสั้น
บทรำพึงรำพัน-->ลมหายใจแห่งตัวตน
ถอดบทเรียนหรือความนิยมจากหนังสือที่อ่านและผ่านพบ--->ลมหายใจแห่งหนังสือ
ร่วมรำลึกถึง ๑๒๑ ปี วันศิลป์ พีระศรี
"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ
เพราะ ฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ
บางสิ่งที่เป็นประโยชน์
ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย
ในงานศิลปะของฉัน
ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว"
(ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี)
http://hilight.kapook.com/view/28448
คิดถึงศิลปากร คิดถึงศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
-เย็นนี้ได้รับแจ้งข่าวจาก"คุณอักขณิช"ว่าจะนำทีมงาน G2Kจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นตัวแทนมอบดอกไม้ให้กับผมที่ได้รับรางวัลสุดคะนึงประจำเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาครับ...รู้สึีกยินดีและถือว่าได้รับเกียรติมากๆครับ..เบื้องต้นนัดกันไว้ว่าคงจะต้องรอประมาณออกพรรษาโน่นน่ะครัีบผมจึงจะได้ขึ้นไปจังหวัดเชียงใหม่ เพราะว่าช่วงนี้ขอปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน..ขอบคุณมิตรภาพจากที่แห่งนี้มาก ๆครับ...
๑๖/๐๙/๒๕๕๖
อนุทิน ๓๘.
"งานเข้า"
ตอนเช้าขณะที่เปิดร้านมีผู้สูงวัยคนหนึ่งขี่จักรยานผ่านหน้าบ้าน ท้ายรถมัดเสียมติดไว้หนึ่งอัน มีน้าหญิงคนหนึ่งอยู่ที่สามแยกใกล้กับร้านของน้า ตะโกนถามว่า “ฮย่าจะไปตังใด?” ผู้สูงวัยตอบว่า “จะไปขุด จิ๊กุ่งคันนาปุ๊นหน่ะ” เธอถามต่อ “ตะวาได้หลายก่อ?” ผู้สูงวัยตอบว่า “ตะวาได้ได้ ๓๐๐ กว่าตั๋ว” เธอร้อง “โอ่...ได้หลายหน่าเฮา” จิ๊กุ่ง ๓๐๐ กว่าตัว คิดเป็นเงินก็ได้ ๓๐๐ กว่าบาทแล้ว ตอนนี้จิ๊กุ่งตัวละ ๑ บาท
สักพักก็มีคนมาซื้อของที่ร้านน้าคุยกับป้าพันว่า มีแกงอะไรขายมั่ง ป้าพันก็บอกมีหลายอย่างดูเอาเถอะ เขาบอกจะเอาไปทำกับข้าวเลี้ยงคนที่ไปช่วยงานจัดสถานที่ ที่บ้านงานศพของคนที่แขวนคอตายเมื่อวานนี้ ป้าพันพูดว่า “มันอยากไค่ต๋าย...มันกะได้ต๋ายสมใจ๋มันละ...เพราะว่ามันพยายามกิ๋นยาพ่อง... แขวนคอพ่องดุ...หม๊ดก๋ำหม๊ดเวรไปเหีย...จ่ามมันหยัง...มีแต่หมู่เฮานี่กะแม่ใดกะบ่อหู้”เสียงพูดคุยลอยมาจากร้านขายกับข้าวบ้านน้า เดี๋ยวก็ดัง เดี๋ยวก็เบา พอสักพักมีมีรถอีแต๋นลากเต็นท์ผ่านหน้าบ้านไป
สรุปว่าน้องชายของป้าที่มาเติมเงินที่แขวนคอตายและญาติพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์เมื่อวานนี้ เสียชีวิตแล้ว คืนนี้ก็คงจะมีการสวดพระอภิธรรมกันเป็นคืนแรก อาจจะมีการสวด ๒ คืน จากนั้นวันเผาก็คงจะเป็นหน้าที่ของ “โฆษกประจำงานศพ” อีกแล้วสินะ...งานเข้าอีกแล้วเรา
ทุกวันนี้...มีใครทราบบ้างว่า "ความสุขที่แท้จริง คืออะไร? และความสุขที่ไม่แท้จริง คืออะไร?" ที่เห็น ๆ ส่วนมากหลงระเริงอยู่กับความสุขในกลุ่มหลังมากกว่า คริ ๆ ๆ...