ผมไม่ค่อยได้พบเห็นโรงนาของภาคกลางนัก แต่ตอนนี้มีกล้องติดตัว ไปไหนมาไหนก็คงสะดวกที่จะบันทึกภาพตามอำเภอใจของตนเองแล้ว..
เถียงนา, เป็นหนึ่งในความทรงจำอันมากมายที่เกิดขึ้น และดำเนินไปอย่างไม่รู้จบในชีวิตของผม ซึ่งในช่วงหน้าแล้งนั้น ผมมีโอกาสได้สัญจรไปยังที่ต่าง ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง และไม่หลงลืมที่จะแวะลงบันทึกภาพของ “เถียงนา” มาเก็บไว้เป็นภาพเตือนใจ – เตือนชีวิตของตนเอง
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมไม่เคยลืมความเป็น “เด็กบ้านนอกขอบชนบท” ของตนเอง ชีวิตของผมวิ่งเล่นและเติบโตมาจากทุ่งนาป่าโคก </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ในสมัยที่เรียนมัธยมต้นนั้น ในทุกวันศุกร์และวันเสาร์ผมจะไปนอนค้างคืนที่เถียงนาของตนเองซึ่งตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน โดยมีภารกิจหลักคือการนอนเฝ้าฝูงวัวในคอกที่อยู่ใต้ถุนของเถียงนาหลังใหญ่ บางค่ำคืนผมพามิ่งมิตรมานอนค้างเป็นเพื่อน เราก่อไฟทำอาหาร, ตำส้มตำ, ตำแตง กินกันอย่างเอร็ดอร่อย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แรกเริ่มก็รู้สึกกลัวต่อความมืดอยู่มาก ครั้นผ่านพ้นค่ำคืนนั้นไปได้ ความกลัวดังกล่าวก็มีอันมลายหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ… </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">จะว่าไปแล้ว, เถียงนา ก็เป็นเสมือนงานสถาปัตยกรรมอย่างหนึ่งของชาวนาก็ว่าได้ หากแต่เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ไม่มีต้นทุนในการปลูกสร้างที่มากมายนัก วัสดุเศษไม้ หรือท่อนไม้เนื้อแข็งหยาบ ๆ ที่หาได้ตามหัวไร่ปลายนาก็สามารถนำมาทำเป็นเสาได้ ขณะที่หลังคาก็มุงด้วยฟาง, ใบไม้, หญ้าคา หรือไม่ก็สังกะสีเก่าโทรมสนิมเกรอะที่ปลดระวางแล้ว ก็ถือว่าเป็นวัสดุหลังคาชั้นเยี่ยมของเถียงนาเลยทีเดียว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>ในอีกมุมหนึ่งของชีวิต, เถียงนาก็เป็นเสมือนบ้านอีกหลังของชาวนาเหมือนกัน ชาวนาจะสร้างเถียงนาเป็นที่พักพิงชั่วคราวในห้วงของฤดูกาลแห่งการไถหว่าน … </p><p></p><p></p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมจำได้อย่างแจ่มชัดว่า เถียงนาในหน้าฝนดูจะมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ ข่า, ตะไคร้, ผักอีตู่, กระถิน, มะเขือ , พริก, มะละกอ, สะเดา, ชูช่อใบออกหมากออกผลรายรอบเถียงนา กองไฟถูกก่อขึ้นเพื่อการหุงหาอาหารยังคงโชยเปลวแสงวูบวาบอยู่ใต้ถุน ผ้าขาวม้าผืนยาวผูกโยงจากเสาหนึ่งสู่อีกเสาหนึ่งเป็นเปลให้ลูกตัวน้อยได้นอนพัก – หลับรอ พ่อและแม่ที่กำลังก้มหน้า หลักขดหลังแข็งปักดำอยู่กลางสายฝน …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่เถียงนาในหน้าแล้งที่ผมพานพบกลับมีสภาพที่แตกต่างไปจากเถียงนาในหน้าฝนอย่างสิ้นเชิง แต่นั่นก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมดาสามัญที่พบได้ เพราะหน้าแล้งเช่นนี้ ชาวนาแทบไม่มีกิจวัตรใดจะลงทุ่งไปประกอบการกสิกรรม เถียงนาจึงเหมือนถูกปล่อยทิ้งให้เคว้งคว้าง, ต้านแดดลมอย่างเปลี่ยวดาย หลังคาถูกเปลวแดดอันเริงแรงบดขยี้จนแห้งกรอบ บางส่วนแหว่งโหว่ไปตามแรงลมพัด, เสาหลายต้นเอนโอนโยกคลอน, บันไดทรุดพัง, ตุ่มน้ำบนเถียงแห้งขอดและแตกกระจาย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เถียงนาในหน้าแล้งจึงเป็นแค่ที่พักริมทางของคนสัญจรผ่าน เป็นที่พักหลบแดดของเด็กเลี้ยงวัวเลี้ยงควายเท่านั้นเอง หรือแม้แต่กลายเป็นที่มั่วสุมของบรรดาหนุ่ม ๆ ที่คะนองเดชเสพยาและของมึนเมา ก็มักยึดเอาเถียงนาเป็นฐานที่มั่นประกอบกิจอันไม่สร้างสรรค์ โดยไม่ยินดียินร้ายต่อสายตาอันดีงามของสังคม</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p></p><p>ครั้งหนึ่งในวัยแรกหนุ่ม, ก่อนที่พ่อ, พี่ชายและเพื่อนบ้านจะยกเสาเถียงนาหลังใหม่ที่เคลื่อนจากหัวนามาสู่ปลายนา ผมได้ยินพ่อบอกเล่ากับพี่ชายว่า การสร้างเถียงนาต้องไม่หันหน้าไปยังทิศตะวันตก เพราะถือว่าเป็นทิศ “ผีตาย” เป็นข้อขะลำเตือนใจให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตและท้องทุ่ง เพาะปลูกคราใดก็จะเป็นผลบุญหนุนส่งให้สามารถเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ได้อย่างอุดมสมบูรณ์ </p><p></p><p>เถียงนาในหน้าแล้ง, ยังคงหยัดยืนอยู่กลางทุ่งโล่งอันแห้งแล้ง เถียงนาหลายหลังตั้งอยู่บนพื้นที่สูง (อีสานเรียก “โนน”) หรือไม่ก็ตั้งแนบแอบชิดกับต้นไม้ใหญ่ พึ่งพิงกิ่งก้านใบของต้นไม้เป็นร่มเงาอีกชั้นของหลังคาอันกร้านแดด </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เถียงนาในหน้าแล้งของวันนี้ยังคงดูเงียบเหงาเหมือนที่เคยเป็นมาอย่างยาวนาน .. เป็นความเงียบเหงาที่คงอยู่และดำเนินไปอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อถึงหน้าฝนโน่นแหละ ความเปลี่ยวเหงาเหล่านี้จึงจะบอกลาไปจากเถียงนาและทุ่งแล้ง พร้อม ๆ กับการมาเยือนของฤดูกาลแห่งชีวิตและการปักดำอย่างหนักหน่วงของผู้คน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">พนัส ปรีวาสนา,</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นฤดูฝน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สารคาม, 50</p>
เมื่อต้องเดินทาง มักจะชอบดูเถียงนาค่ะ เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของแต่ละท้องถิ่น เพิ่งทราบว่าเค้าไม่ให้หันหน้าไปทิศตะวันตก แต่ด้านไหนเป็นด้านหน้าของเถียงนาละคะ ที่พักชายนา เอ ภาคอื่นๆ เค้าเรียกที่พักแบบนี้ว่าอะไรกันบ้างคะเนี่ย
สวัสดีครับ
ด้านหน้าของเถียงนาก็คือด้านที่มีบันไดพาดผ่านนั่นแหละครับ , แต่ช่วงหน้าแล้ง ส่วนใหญ่ที่บันทึกภาพมาได้ บันไดจะชำรุดเสียหายไปหมดแล้ว ซึ่งเชื่อว่า ตอนต้นฝนเช่นนี้ เจ้าของที่นาคงซ่อมแซมแล้วกระมัง เพราะไหน ๆ ก็ย่างเข้าฤดูการทำนาอย่างเต็มตัวแล้วนะครับ ขืนปล่อยไว้ก็ไม่มีบันไดให้ไต่ขึ้นไปบนเถียงนาเป็นแน่
ส่วนกรณีชื่อของเถียงนานั้น ผมก็ไม่ใคราแน่ใจนัก ภาคใต้เรียก ขนำ, ภาคกลางเรียกโรงนา หรือเปล่าครับ แต่คำว่าเถียงนาก็ใช้กันกว้างขวางเลยทีเดียวนะครับ
สวัสดีค่ะ
ใช่ค่ะ ทางภาคกลาง ใช้ว่า โรงนาค่ะ เคยไปคลุกคลีกับชาวนาสุพรรณอยู่พักหนึ่ง ได้ความรู้อะไรอยู่บ้างต่ะ
ผมไม่ค่อยได้พบเห็นโรงนาของภาคกลางนัก แต่ตอนนี้มีกล้องติดตัว ไปไหนมาไหนก็คงสะดวกที่จะบันทึกภาพตามอำเภอใจของตนเองแล้ว..
แวะมาเพิ่มเติมเรื่องชื่อของเถียงนา อีกสัก 2 ชื่อครับ
- ห้างนา
- กระท่อมปลายนา
ตอนนี้นึกออกแค่นี้แหละครับ
ไปหลายคน, พอมีคนเถียงก็คงนอนไม่หลับกระมัง...
ตามที่ศึกษามา การสร้างเถียงนา ต้องแกล้งให้คนสองคนไปยืนเถียงกันเสียงดัง ๆ อยู่บริเวณที่จะปลุกสร้างนะ ... เขาบอกว่าภูตผี ที่อยู่ตรงนั้นจะได้ตกใจเตลิดหนีไปไกล ๆ จากนั้นจึงจะสามารถขุดหลุมลงเสาและปลูกสร้างเถียงนาได้ตามที่ต้องการ
สวัสดีครับ คุณแผ่นดิน
การบรรยายถ้อยคำประกอบภาพพื้นถิ่น ท้องนาของคุณแผ่นดินเห็นแจ่มชัดดีจัง ชอบครับ
แต่"เถียงนา"ที่เห็นในภาพ แถวถิ่นบ้านผมเขาเรียกกันว่า"ขนำ" ..คงไม่ต้องบอกนะว่าผมอยู่ถิ่นไหน...แหะๆ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยือน ครับผม
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนเช่นกันนะครับ ...
ขนำ ที่ภาคใต้รูปทรงเป็นยังไงบ้างครับ ... ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสไปภาคใต้เลย นับครั้งได้ก็ราว ๆ 3 ครั้ง ส่วนใหญ่เห็นแต่สวนยาง..และท้องทะเล ..
ขอบคุณครับ
มุมหนึ่งของสังคม ณ มุมนี้..ถ้าจะดิ้นรน ก็คงแต่เฉพาะการดิ้นรนต่อสู้กับดินฟ้าอากาศเป็นสำคัญ
เสียดายจัง... ห้าง (นา) ไม่มีของขาย แต่มีน้ำใจแบ่งปัน , กันฟ้ากันฝนได้เป็นอย่างดี ครับ..
น่าอิจฉาเวลาคุณภาพในพื้นที่คุณภาพเช่นนั้นจังเลย สำหรับพี่นานและนานมากแล้วที่ไม่เคยได้ไปกินข้าวบนเถียงนา..เฮฮา ตามประสาคนคุ้นเคยกับผองเพื่อนและญาติมิตร
ช่วงฝนนี้ เชื่อว่าเถียงนาหลายที่กลับมามีชีวิตชีวาอย่างมากมาย กระนั้นพี่เองก็ยังไม่ได้ลงทุ่งเลยนะครับ
พอพูดถึงเถียงนาก็อดคิดถึงสมัยเด็กๆไม่ได้ สิ่งที่ปรารถนาที่สุดคือได้นอนนา ในช่วงเวลาเย็นๆ จะเป็นเวลาที่ชอบมากๆ พอแสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง ความร้อนเริ่มหดหายไปและมีความเย็นเข้ามาแทนที่ ความเงียบสงบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่มันไม่น่ากลัวเลยสักนิดสำหรับผม มันกลับดีซะอีก อากาศกำลังสะบาย มีเสียงกบ เขียดและแมลงร้องแข่งกันให้ฟัง ไม่ผิดอะไรกับการฟังเพลงโอเปร่าของคนไฮโซ แต่ผมโชคดีกว่า ที่ไม่ต้องไปซื้อตั๋วราคาแพงๆทุกสิ่งทุกอย่างที่ฟรีหมดเถียงนาเปรียบดั่งโรงละคร สัตว์ทั้งหลายเสมือนนักร้องนักดนตรี เราคือแขก VIP.จะนั่งฟังนอนฟังก็ได้ บรรยากาศก็แสนหวานอาหารก็เลิศรส ฝีมือกุ๊กมือ 1 ของโลก(แม่ผมเอง) ว่าแล้วก็อยากจะกลับบ้านไปนอนนาซักคืนสองคืนเน๊าะ ....แต่หน้าที่การงานบังคับทนอีกหน่อยละกันต้องมีสักวันที่ผมจะกลับไปนออนนาให้ได้...................สายเลือดชาวนา
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ มาเขียนไปแล้วรอบนึง แต่เน็ตรวน นึกว่าบล็อกนี้มีอาถรรพ์ อิๆ เห็นเถียงนาก็ยิ่งคิดฮอดบ้านค่ะ คิดถึงบรรยากาศที่สุดคลาสิคนั้น
ประโยชน์ของเถียงนา
หน้านาเอาไว้ทานเข้าเช้า เที่ยง และ นอนกลางวันก่อนจะลงนาในตอนบ่าย
หน้าฝนหลังปักดำเอาไว้นอนใส่เบ็ดในนาข้าว
หน้าเก็บเกี่ยว เอาไว้นอนเฝ้าลอมข้าว นอนนา ใต้หนู เล่นว่าวธนู
หน้าแล้ง เอาไว้พักเวลาออกไปเลี้ยงควาย
เอาไว้เก็บค่าตํง เมื่อมีผีการพนันมาเล่นโบก
แล้ว เป็นที่เอาผู้สาวออกยามมีหมอลำ
ฯลฯ
สวัสดีค่ะ
*แวะมาเยี่ยมทุ่งนา
* เห็นภาพนี้แล้วคิดถึงวัยเด็กค่ะ
* ต้นไม้ใหญ่ๆ ชอบปืนขึ้นไปกินนอนบนนั้น หิวก็ลงไปงมหอยในหนองน้ำมาย่างกินกัน...บ่ายๆ เย็นๆ ก็ได้เวลากลับบ้าน...หนีโรงเรียนไปเที่ยวทุ่งนากันค่ะ..
* สุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีครับ... yamol
ในช่วงเวลาเย็นๆ จะเป็นเวลาที่ชอบมากๆ พอแสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง ความร้อนเริ่มหดหายไปและมีความเย็นเข้ามาแทนที่ ความเงียบสงบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่มันไม่น่ากลัวเลยสักนิดสำหรับผม มันกลับดีซะอีก อากาศกำลังสะบาย มีเสียงกบ เขียดและแมลงร้องแข่งกันให้ฟัง ไม่ผิดอะไรกับการฟังเพลงโอเปร่าของคนไฮโซ แต่ผมโชคดีกว่า ที่ไม่ต้องไปซื้อตั๋วราคาแพงๆทุกสิ่งทุกอย่างที่ฟรีหมดเถียงนาเปรียบดั่งโรงละคร สัตว์ทั้งหลายเสมือนนักร้องนักดนตรี เราคือแขก VIP.จะนั่งฟังนอนฟังก็ได้
ผมอ่านข้อความเหล่านี้ในระยะแรกๆ ประทับใจและอึ้ง จนไม่รู้จะเขียนตอบด้วยถ้อยคำใดดี จึงทิ้งเลยให้ล่วงมาจนบัดนี้เลยทีเดียว...
ผมชอบคำเปรียบที่ว่าเถียงนา..เป็นดั่ง "โรงละคร" ..มาก มันชัดเจนและเปรียบเปรยได้อย่างมีชีวิต และสื่อให้เห็นสัมพันธภาพ และเรื่องราวอันงดงามที่ปราศจากการปรุงแต่ง และสิ่งเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องแลกซื้อด้วยเงิน
ในช่วงที่เรียนมัธยมต้น..
ทุกวันศุกร์-เสาร์ ผมกับเพื่อนจะนอนเฝ้าฝูงวัวที่เถียงนาปลายทุ่ง ห่างหากครัวเรือนหลังสุดท้ายพอสมควร ปลายทุ่งใกล้ๆ เถียงนา เคยเป็นที่เผาศพคนมาก่อน-บรรยากาศวังเวงจับใจ
เรามีกิจกรรมกันต่อเนื่อง ทั้งตำแตง, ตำส้ม, ร้องเพลง, บันทึกเสียงเอง รวมถึงทำการบ้านกันที่นั่น ไม่เคยหลบไปมั่วสุมกันที่ไหน ถึงแม้วัยรุ่นส่วนใหญ่จะตระเวนไปจีบสาวตามหมู่บ้านต่างๆ ..พวกเราก็ไม่ใคร่สนใจเท่าไหร่..
ยิ่งเป็นหน้าหนาว,
บรรยากาศยิ่งประทับใจ กองฟางและกองไฟ เป็นทางออกที่ดีของการ "นอนนา" ยิ่งได้ไก่มา "อบฟาง" สักตัว ยิ่งช่วยเติมสีสันให้กับชีวิต
ทุกวันนี้ ภาพชีวิตเหล่านี้ ชัดเจนเสมอ...
ในฤดูฝน นอนฟ้าเสียงฟ้าคำรามลั่นทุ่ง.. กบเขียดร้องระงมอย่างครึกครื้น เสียงฝนกระทบหลังคาเถียงนาราวกับดนตรีร็อคก็ไม่ปาน
ทั้งหมดนั้น ผมยืนยันได้ว่า ผมเติบโตมาจากท้องไร่ท้องนา, โดยแท้..
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ narumon6
สวัสดีครับ..ลูกอีสาน
ประโยชน์ของเถียงนา
หน้านาเอาไว้ทานเข้าเช้า เที่ยง และ นอนกลางวันก่อนจะลงนาในตอนบ่าย
หน้าฝนหลังปักดำเอาไว้นอนใส่เบ็ดในนาข้าว
หน้าเก็บเกี่ยว เอาไว้นอนเฝ้าลอมข้าว นอนนา ใต้หนู เล่นว่าวธนู
หน้าแล้ง เอาไว้พักเวลาออกไปเลี้ยงควาย
เอาไว้เก็บค่าตํง เมื่อมีผีการพนันมาเล่นโบก
แล้ว เป็นที่เอาผู้สาวออกยามมีหมอลำ
ยอมรับเลยว่า ทั้งหมดนั้น ถอดบทเรียนจากชีวิตจริงโดยแท้กระมังครับ โดยเฉพาะ...เรื่องหลังนั้น มีหลายคู่เลยแหละที่ลงท้ายด้วยการต้องขอขะมาลาโทษผู้ใหญ่ ตบแต่งกันตามครรลอง...
จะให้เรียกว่า ประโยชน์ของเถียงนา..ก็ไม่ผิดจริงๆ...
ยิ้มๆ..
สวัสดีครับ..นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)
ไม่ว่าวันนี้ทุ่งนาจะดูเงียบเหงาและแห้งโหยไปบ้าง
แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังเคารพต่อทุ่นาเสมอ
อย่างน้อยก็เคารพในมุมคิดที่ว่า
ทุ่งนา...คือ...ห้องเรียนที่ทรงคุณค่าของมนุษย์ ...
ขอบคุณครับ
จากบ้านมากะหนาวหัวใจ มื่อนี่ได้มาเรียนยู่มหาสารคาม ยามขี่รถเมียบ้าน แนมลงไปกลางโท่งนา เห็นเถียงนาน้อย แห่งคิดฮอดบ้านแฮง แฮง
"เถียงนา"นิยามและเหตุผลทำใมจึงตั้งชื่อว่าเถียงนา ความเป๊นมาในแต่ละภาคหรือพื้นที่มีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร โครงสร้างหลักในการสร้างและระบบนิเวศเถียงนา(ฮวงจุ้ย) คุณค่า ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมปรัชญาคู่เคียงเถียงนามีหรือไม่เป็นอย่างไร มีข้อจำกัดเฉพาะชาวนา ท้องทุ่งทำนาเท่านั้นหรืออย่างไร น่าศึกษาและบันทึกอย่างยิ่งเพราะคติและวถีชีวิตที่เถียงนากล่อมเกลาให้บทเรียนชี้บอกสำหรับข้าพเจ้าเอนกอนันต์จริงๆ.......โณทัย/กาฬสินธ์
ชอบมากที่คนแผ่นดินเล่า...มันตรงกับชีวิตผมเลย...ลูกอีสานรุ่นก่อนๆ มักจะคลุกคลีอยู่กับ ทุ่งนา เถียงนา วัว ควาย ...ช่วยพ่อแม่ทำงาน...เรียนไปด้วยช่วยพ่อแม่ทำงานไปด้วย...ทุกวันนี้หาแทบไม่เจอแล้ว ลักษณะนี้...เด็กทุกวันนี้...แทบจะไม่เคยเดินลงทุ่งนา. มีแต่ขี่มอไซด์ เข้าร้านเน็ต...ตั้งวงกินเหล้าหรือเม้ากันตามศาลา.............อยากบอกว่า....คิดถึงทุ่งนา...และบรรยากาศในอดีตมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ