เปลือยความสุข (2) : เมื่อปู่กับย่าส่งต่อม้าก้านกล้วย..ม้าแห่งชีวิตสู่หลานรัก


แม่ยังคงทำม้าก้านกล้วยตัวสวยให้หลานรักทั้งสองได้ควบเล่น ท่องทะยานไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน ส่งเสียงร้อง ฮิ ๆ อย่างน่าชัง




บุญผะเหวดของหมู่บ้านเพิ่งผ่านพ้นไปไม่ถึงสามวัน แม่มีเวลาได้พักผ่อนจากการงานแห่งหมู่บ้านเล็กน้อย แต่วันนี้แม่กลับตื่นนอนเร็วกว่าปกติ ... ตื่นมาคัดแยก “ใบตอง” (ใบตองกล้วย) เพื่อที่จะนำมาทำพานบายศรีชุดใหญ่ไว้รอรับการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้


ทุก ๆ งานของหมู่บ้านที่เกี่ยวข้องกับงานฝีมือจากใบตอง… บ้านของผมจะกลายเป็นที่นัดหมายของคนแก่เก่าที่ช่ำชองงานหัตถกรรมจากใบตองทุกครั้งไป ซึ่งแม่จะเป็นหัวเรือใหญ่ในการลงงานเหล่านี้ รวมถึงการรับผิดชอบเครื่องเสบียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมากพลู, น้ำท่า และข้าวปลา รวมถึงเหล้ายาดอง…ของชอบของบรรดายาย ๆ ทั้งหลาย

หลังการเตรียมข้าวปลาให้พ่อไปถวายพระที่วัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (อันที่จริงตอนเช้าพ่อก็พาลูก ๆ หลานๆ ตักบาตรที่หน้าบ้านแล้ว) แม่ปลีกตัวออกจากห้องครัวสู่ลานหน้าบ้านเพื่อจัดการกับใบตองที่ก่อนหน้านี้ถูกนำมาวางซ้อนทับไว้แล้วจำนวนหนึ่ง




นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มีโอกาสได้เห็นวิถีแห่งการงานและการเย็บใบตองจากฝีมือของแม่

ไม่เพียงแต่งานของหมู่บ้านเท่านั้นที่แม่ลงแรงเย็บใบตองด้วยมือของตัวเอง งานบวช, งานแต่ง, งานสู่ขวัญของลูก ๆ หลาน ๆ แม่ก็จะลงมือด้วยตัวของท่านเอง โดยไม่ให้เป็นภาระของใครอื่น กระนั้น, บรรดาคู่หูหลากวัยของแม่ก็สัญจรมาช่วยกันอย่างพร้อมพรั่งทุกครั้งไป

ผมมีโอกาสได้รำลึกห้วงแห่งความสุขในวัยเด็กที่เคยได้เห็นและสัมผัสกับนานาชีวิตที่เกี่ยวพันกับใบตองกล้วยเหล่านี้อีกครั้ง

ผมมีปืน, และม้าก้านกล้วยที่พ่อกับแม่ทำให้ และใช้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน บางครั้งผมกับเพื่อนเล่นเป็นตำรวจขี่ม้าไล่ยิงกันสนั่นหวั่นไหว บางทีขี่ม้าฟันดาบกู้เมืองกันอย่างสนุก บางครั้งก็กี่ม้าชมเมืองคนเดียวอย่างไม่เงียบเหงา… หลายครั้งได้กิน “ข้าวต้มมัด”ที่ห่อด้วยใบตองกล้วย… ครั้นโตขึ้นเมื่อต้องต้อนวัวออกไปเลี้ยงที่ชายทุ่งท้ายหมู่บ้าน ก็เคยได้ปั้นข้าวเหนียวห่อใส่ใบตองกล้วยคล้องมัดด้วยผ้าขาวผ้าผูกเอวติดตัวออกไปยังชายทุ่งทุกครั้งไป

ผมจำได้ติดตาและความทรงจำเหล่านั้นฉายชัดและมีชีวิตอยู่เสมอ… หรือแม้แต่บางครั้งโดนเฆี่ยนด้วยก้านกล้วยผมเองก็เคยมาแล้ว และยังจดบทเรียนชีงิตเหล่านั้นมาจนบัดนี้อย่างไม่รู้ลืม



วันนี้ผมหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตอย่างมีชีวิตหากแต่วันนี้เจ้าแดนและเจ้าดินกลายเป็นตัวละครใหม่สวมบทบาทที่ผมเคยเล่นในวัยเด็กอย่างแม้นเหมือนโดยแม่ยังคงทำม้าก้านกล้วยตัวสวยให้หลานรักทั้งสองได้ควบเล่น ท่องทะยานไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน ส่งเสียงร้อง ฮิ ๆ อย่างน่าชัง


อันที่จริงก่อนหน้านี้ไม่นานนัก “เพื่อนชีวิต” ของผมได้ทำ ม้าก้านกล้วย (ยุคใหม่) ให้เจ้าตัวซนทั้งสองแล้ว แต่ดูเหมือนว่าม้าตัวนั้นหน้าตาไม่ค่อยเหมือนม้าสักเท่าไหร่ เลยไม่ต้องตาต้องใจ พาลไม่ชอบใจและไม่มีแรงกระตุ้นให้คึกควบตะบึงออกท่องเที่ยวเท่าใดนัก !

จะว่าไปแล้ว มันก็จริงดังที่ตัวเล็กทั้งสองว่านั่นแหละ ผมเองยังอดขำกับรูปลักษณ์ม้าก้านกล้วยที่เธอทำขึ้นไม่ได้ มันแปลก ๆ แปร่ง ๆ ยังไงพิกล ซึ่งเจ้าตัวก็พลอยรู้ในอารมณ์คิดของผม ส่งสารค้อนและออกอาการงอน ๆ (อย่างน่าง้อ) มายังผม




วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงสังคมเปลี่ยนผัน ชีวิตเติบโตไปตามยุคสมัย

นักเขียนท่านหนึ่ง กล่าวไว้ในทำนอง “ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลงและเต็มไปด้วยความผันผวนรวนเร” (Life is uncertain and full of changec) และใบตองกล้วยก็กลายเป็นปรากฏการณ์หนึ่งของสังคมไทยที่สะท้อนให้เห็นวิถีความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอย่างเด่นชัด ม้าก้านกล้วยหายไปจากหมู่บ้าน ถุงพลาสติกเข้ามาทำหน้าที่เป็นภาชนะห่อข้าวและอาหารแทนใบตองกล้วยอย่างภาคภูมิ แต่ไม่วายลืมที่จะทิ้งขยะพลาสติกไว้เกลื่อนตาและเกลื่อนเมือง

นี่คือความทรงจำที่เป็นปัจจุบันและเปี่ยมสุขของผมที่เกิดขึ้นในวันหยุดในพื้นที่คุณภาพของความรัก



และกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…ผมเคยได้ควบ ม้าก้านกล้วย ที่พ่อและแม่ทำให้ออกจากบ้านไปท่องโลกอันกว้างใหญ่

หากแต่กาลครั้งนี้ ผมได้ควบ ม้ายนต์ กลับมาบ้านอีกครั้งแต่พ่อกับแม่ก็ยังคงทำหน้าที่ส่งต่อ ม้าก้านกล้วย ..ม้าแห่งชีวิตไปยังหลานชายทั้งสอง เพียงหวังว่าม้าชีวิตที่บริสุทธิ์นี้ จะช่วยให้หลานรักได้ใช้เป็นพาหนะคู่ชีพควบตะบึงไปสู่โลกกว้าง (แห่งจินตนาการ) เหมือนที่กาลครั้งหนึ่ง พ่อของเขาได้เที่ยวท่องอย่างรื่นรมย์มาแล้



หมายเลขบันทึก: 87941เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2007 22:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 ธันวาคม 2015 08:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (27)

ตอนเด็กๆ น้าทำให้เล่นเหมือนกันครับ

แต่ชอบเล่นว่าวมากกว่า จำได้ว่าที่บ้าน มีไม่กี่ครั้งที่ทำให้ว่าวขึ้นไปลอยได้สำเร็จ 

พอโตขึ้นมาสักหน่อยได้มาเล่นที่สนามหลวง (ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทีเดียว) ซื้อว่าวงู (เป็นครั้งแรกที่ซื้อ) แค่ปล่อยมือ ว่าว ก็ขึ้นไปลอยแล้ว :-P  

ตั้งแต่นั้นมาสิ่งที่ผมส่งสัยเรื่องเทคนิคการทำให้ว่าวลอยก็หมดไป (ไปหาที่ลมแรงๆ :-P) 

สวัสดีครับ...(บ่าววีร์)...
P

อีสาน..เล่นว่าวหน้าหนาว  กรุงเทพเล่นว่าวหน้าร้อน...

สิ่งเหล่านี้สะท้อนภูมิปัญญาทั้งนั้นเลยครับ...ม้าก้านกล้วย...หายไปจากหมู่บ้านจริง ๆ แล้วนะครับ...เด็ก ๆ มีรถขนาดเล็ก ๆ เป็นเครื่องเล่น...สนุกไปอีกแบบ

ขอบคุณครับ

ตอนเด็กๆ ไม่เคยเล่นม้าก้านกล้วยค่ะ... เคยแต่เป่าปี่จากตอซังข้าว ...
เหมือน อ แป๋ว เลย เราเป็นหญิง ไม่เคยเล่นม้าก้านกล้วย แต่เคยเป่าปี่ตอซังข้าวเช่นกัน แต่กัลยา บู๊กว่า อ แป๋วหน่อยนึง เคยยิงปีก้านกล้วยด้วย ชอบมาก เสียงปีนก้านกล้วย ดัง ตับ ตับ (ประมาณ 5-6 ที)สนุกดี

อ.แป๋วครับ

P

วันนี้เล่าให้แม่ฟังว่า..ที่ขอนแก่น มีอาจารย์ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านที่ผมรู้สึกเหมือนญาติผู้ใหญ่ซึ่งแวะมาทักทายเป็นกำลังใจต่อผมเสมอ

ผมยังไม่ได้เล่าว่าผมเขียนเรื่องราวของแม่หลายเรื่อง..อยากให้ลูกชายอ่านหนังสือได้เร็ว ๆ จะได้ให้แกอ่านบันทึกของผมให้ท่านฟัง  (ผมเขินที่จะอ่านให้ท่านฟัง)...

หรือบางทีคิดว่าจะปริ๊นไปใส่กรอบกระจกเป็นของขวัญให้ท่านดีนะ...

ผมคิดอยู่เสมอ...และบอกกับตัวเองว่า  ทำซะทีสิ...เขินอะไรอยู่ได้

เด็กๆ รถผมก็เล่นด้วยนะครับ ม้าก้านกล้วยก็เล่น เกมส์คอมฯ ก็เล่น เล่นกันจนพังเป็นอย่างๆ ไป :-P
ระยองไม่รู้เล่นหน้าไหน ตอนเด็กจำได้ ว่าวิ่งแทบแย่ -_-!

คุณกาเหว่า...ครับ

เล่าได้อย่างมีมีรสชาติ เห็นภาพที่ชัดมากเลยครับ...แสดงว่าเป็นหญิงห้าวเลยนะเนี่ย...

ปี่ตอซังข้าว...เคยเล่นและชอบเล่น  และเคยตั้งใจว่าจะเขียนบันทึกถึงเรื่องนี้ จนแล้วจนรอดหน้าหนาวก็ล่วงไปแล้วยังเขียนไม่ได้เลย  เพราะไม่มีเวลากลับบ้านไปสัมผัสทุ่ง...จินตนาการเลยไม่เกิด  ...เขียนไม่ออก

ขอบคุณครับ

 

บ่าววีร์ ครับ
P

สมัยเด็ก - ผมไม่ค่อยได้เล่นรถเข็นพลาสติกเลย...แต่เห็นชัดว่ามีอิทธิพลต่อหลาน ๆ มาก  ส่วนลูกชายก็ไม่เท่าไหร่นัก  แกชอบเล่นเครื่องดนตรีประเภทแคน  โหวดซะมากกว่า

ตอนนี้เริ่ม ๆ เล่นเกมส์จากคอมฯ บ้างแล้ว  แต่ก็มีข้อตกลงบ้าง  คือเล่นเป็นเวลา  ...

ส่วนเรื่องว่าวที่ระยองนั้นผมไม่ทราบเลยว่าเล่นกันตอนไหนครับ..

การจะเลี้ยงลูกหลานให้ดีมันยากเหลือเกิน จะเก็บเข้าไว้ในกรอบเก่าๆ พอออกไปโลกภายนอกก็จะอยู่ไม่ได้  จะปล่อยไปตามกระแสก็จะเสียผู้เสียคน

แทนที่จะเป็นกรอบคงต้องมีหลักยึดอะไรบางอย่างแทน ( การพิมพ์ๆ นี่มันง่ายเหลือเกิน ) ... ผมหละกลัว

  • "ม้าก้านกล้วย"เคยเล่นค่ะ
  • แล้วโตขึ้นก็ทำให้เด็กๆเล่นด้วยค่ะ
  • อยู่ที่เชียงใหม่ทุกครั้งที่มีเทศกาลสำคัญ...
  • เราจะทำอาหารและขนมกันทุกครั้ง - -นึกถึงก็สุขใจค่ะ

สวัสดีตอนเช้าครับ

P

เช้านี้อากาศค่อนข้างดีกว่าทุก ๆ วันที่ผ่านมา

ตอนนี้เพื่อนในวัยเดียวกับลูกชายคนโตก็เรียนพิเศษในช่วงปิดเทอม  แต่สำหรับลูกชายผมยังไม่รีบร้อน...  ในวัย 5 ขวบเขาควรได้มีอิสระเที่ยวเล่นในช่วงปิดเทอมอย่างเต็มที่...

ขอบคุณครับ

ดูแล้ว happy ทั้งคุณย่า คุณหลาน ดีนะครับ เรียกว่ามีความสุขแบบ 2G-two generation

  • คุณย่าน้องแดนไทกับม้าก้านกล้วยน่ารักมากนะคะ  อบอุ่นแบบธรรมชาติ
  • พี่เพิ่งกลับสัมมนาที่เกาะสุกร จ.ตรังเมื่อคืน เหนื่อยทั้งสัมมนา และดำน้ำดูปลานิโม ปะการัง
  • แล้วจะนำภาพบรรยากาศท้องทะเลมาฝากค่ะ อดใจรออีกหนิ๊ด........ด   นะคะ กล้องถ่ายรูปมีปัญหา โหลดภาพไม่ได้ค่ะ
เคยเล่นค่ะขี่ม้าก้านกล้วยและก็ปืนด้วย...แต่ม้าที่เคยขี่เล่นสมัยเด็กไม่สวยเท่าของน้องแดนเลยอ่ะ..หวนคิดถึงสมัยเด็กที่เวลาซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้งแม่ค้าก็จะใช้ใบตองห่อให้..ซื้อกล้วยปิ้งและขนมอีกหลายๆอย่างล้วนใช้ใบตองทั้งนั้นและความรู้สึกคือว่ามันหอมน่ากินกว่านะ...อยากกลับเป็นเด็กอีกครั้งที่ได้มีวิถีชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติจริงๆ
  • เด็กๆก็เคยเล่น ก็สนุกตามประสาเด็ก
  • แต่ทุกวันนี้ สิ่งเหล่านี้ขาดหายไป
  • ขอบคุณ

P
 ที่นำสิ่งที่บรรยากาศที่ขาดหายไปกลับคืนมา

 

  • เด็กๆๆสมัยนี้ไม่ค่อยเล่นอะไรดีๆๆแบบนี้
  • ผมชอบวิถีชีวิตแบบนี้จังเลยครับ
  • ขอบคุณครับผม
สวัสดีตอนเที่ยงครับ คุณพิชชา
P

เชียงใหม่เป็นเมืองวัฒนธรรมที่ไม่สิ้นมนต์ขลัง  ใคร ๆ ก็ปรารถนาไปเยือนกันทั้งนั้น  โดยเฉพาะผม...

โดยส่วนตัวผมว่าม้าก้านกล้วยเป็นการละเล่นที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ออกกำลังกายอย่างดียิ่ง  มีจินตนาการที่น่าตื่นเต้น  

ส่วนใบตองนั้น...ยังจำภาพในอดีตที่ตัวเองเคยรักใคร่และได้ใช้สอยอย่างไม่รู้เลือน...

ว่าง ๆ ....ทำม้าก้านกล้วยเสร็จแล้ว  อย่าลืมเก็บภาพมาฝากด้วยนะครับ...แต่สำหรับผม..คุณแม่เป็นเซียนทำม้าก้านกล้วยเสมอนะครับ....ตัวใหญ่ ๆ   แข็งแรง ๆ ...ยากที่ใครจะมาต่อกร

ขอบคุณครับ..แจ๊ค

นี่ก็ถือว่าเป็นคู่หูต่างวัยที่ขับเคี่ยวกันอย่างน่าเอ็นดู  พี่ไม่เคยหวั่นกับการที่เด็กต้องอยู่กับปู่ย่าเลยนะ  เพราะเราก็เติบโตมาจากมือของท่าน  ,  เราก็เชื่อว่าลูกของเราก็ควรได้รับการดูแลจากท่านเช่นกัน

และการที่เด็กอยู่กับท่านที่บ้าน ข้อดีคือเด็กมีพื้นที่ในการเล่นและมีอาณาเขตของจินตนาการที่แสนจะกว้างไกล  ไม่จำกัดแต่เฉพาะอยู่ในห้องซีเมนต์แคบ ๆ  แต่ที่บ้านมีถนนหนทางที่กว้าง..มีทุ่งนา  มีลานดิน  และอื่น ๆ ...อีกมากมายที่พร้อมให้เขาได้ลงมือเล่น ลงมือทดลอง

.....

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ พี่อัมพร
P

คุณแม่ของผมชอบทำของเล่นเหล่านี้ให้หลานเสมอ (เมื่อมีโอกาส)  บางวันท่านพาพวกเขาทอเสื่อกกอย่างเอาจริงเอาจังจนผมงงไปเลย...

ยินดีกับวันพักผ่อนที่มีคุณภาพของพี่อัมพรนะครับ  และจะรอดูภาพที่สวย ๆ และมีชีวิตเหล่านั้น

ขอบคุณอีกครั้งนะครับ...สำหรับมิตรภาพที่มีต่อผม

 

สวัสดีครับ คุณโก๊ะ

ขอบคุณมากครับที่กรุณาแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผมอย่างต่อเนื่อง  รวมถึงการเติมเต็มให้บันทึกมีความสมบูรณ์อย่างน่าประทับใจ...

ผมเห็นภาพเหล่านี้จัดเจนจากคำบอกเล่าของคุณโก๊ะ

หวนคิดถึงสมัยเด็กที่เวลาซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้งแม่ค้าก็จะใช้ใบตองห่อให้..ซื้อกล้วยปิ้งและขนมอีกหลายๆอย่างล้วนใช้ใบตองทั้งนั้นและความรู้สึกคือว่ามันหอมน่ากินกว่า

....

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ  ครูเสือ

P

การได้หวนรำลึกถึงอดีตอันดีงามของชีวิตไม่ใช่การผลักให้ตนเองจมลงห้วงทุกข์เป็นแน่  โดยเฉพาะในกรณีของผม  ตรงกันข้าม  คือ การแวะกลับไปเติมกำลังใจให้กับชีวิตของตนเอง.....

บางอย่างเลือนหายไปเกือบสิ้นจากสังคม  แต่แจ่มชัดเหลือเกินในความทรงจำ ....

 

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ อ.ขจิต

P
  • จริงดังอาจารย์กล่าวไว้ว่าทุกวันนี้เด็ก ๆ  ไม่ค่อยได้เล่นแบบนี้กันแล้ว
  • ความเป็นไทยก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
  • ผมมีความสุขเสมอที่ได้หวนรำลึกถึงเรื่องเหล่านี้
  • ขอบคุณครับ

 

สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน เห็นแล้วยิ้มเลยค่ะที่เห็นน้องอยู่บนม้าก้านกล้วย แอบยิ้มเลยค่ะ แต่ไม่เคยเล่นเพราะราณีอยู่แต่ในเมือง (ไม่ได้ดัดจริตนะค่ะ) น่ารักจังเลยค่ะ
สวัสดีครับ...
P

ดีใจครับ...ดีใจที่ท่านอาจารย์แวะมาแลกเปลี่ยนในบันทึกเหล่านี้ของผม ... ไม่แปลกเลยครับที่คนเมืองจะไม่คุ้นชินกับการเล่นเช่นนี้   ผมคนบ้านนอกขอบชนบทจนบัดนี้ยังซื้อไก่ KFC  ไม่เป็น,  ใช้ตะเกี๋ยบไม่เก่,  ร้องคาราโอเกะไม่ได้  ,  และอื่น ๆ จิปาถะ

เพียงเพราะเราเติบโตมาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน  แต่ยังไงก็มีความเป็นไทยเต็มล้นในหัวใจ ..ใช่ไหมครับ

ส่วนม้าก้านกล้วยเหล่านี้เสียดายที่ไม่ได้ทำเชือกกล้วยคล้องให้ลูกชาย...

ขอบคุณอาจารย์มากครับ

คุณแผ่นดินค่ะ

         ไม่น่าเชื่อ ก็ต้องเชื่อ  เมื่อวานตอนเย็น คุณพ่อของเด็ก ๆ ทำปืนก้านกล้วย ให้ลูก ๆ เล่น เสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพตอนคุณพ่อเขาทำ

         ถึงแม้จะอยู่ในเมือง แต่ก็ทำให้เด็ก ๆ ระลึกถึงสิ่งดี ๆ ในอดีตได้จริงไหมค่ะ

        ขออนุญาต นำเศษปืนก้านกล้วย ที่ยังคงหลงเหลือสภาพเดิมอยู่ มาฝากนะคะ

  

สวัสดีครับ พี่แป๊ด

P

คุณพ่อของเด็ก ๆ ..ช่างเก่งจริง ๆ นะครับ...ผมเองยังหลง ๆ ลืม ๆ กับวิธีการทำของเล่นเหล่านี้ไปมากแล้ว...

ไอเดียกระฉูดมากเลยครับสำหรับการนำเสนอภาพ  ..ผมประทับใจจริง ๆ ....ประทับใจพอ ๆ กับถ้อยคำแห่งพันธะทางสังคมนี้มาก

ถึงแม้จะอยู่ในเมือง แต่ก็ทำให้เด็ก ๆ ระลึกถึงสิ่งดี ๆ ในอดีตได้

ขอบคุณพี่แป๊ดมากครับ,

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท