บุญผะเหวดของหมู่บ้านเพิ่งผ่านพ้นไปไม่ถึงสามวัน แม่มีเวลาได้พักผ่อนจากการงานแห่งหมู่บ้านเล็กน้อย แต่วันนี้แม่กลับตื่นนอนเร็วกว่าปกติ ... ตื่นมาคัดแยก “ใบตอง” (ใบตองกล้วย) เพื่อที่จะนำมาทำพานบายศรีชุดใหญ่ไว้รอรับการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
ทุก ๆ งานของหมู่บ้านที่เกี่ยวข้องกับงานฝีมือจากใบตอง… บ้านของผมจะกลายเป็นที่นัดหมายของคนแก่เก่าที่ช่ำชองงานหัตถกรรมจากใบตองทุกครั้งไป ซึ่งแม่จะเป็นหัวเรือใหญ่ในการลงงานเหล่านี้ รวมถึงการรับผิดชอบเครื่องเสบียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมากพลู, น้ำท่า และข้าวปลา รวมถึงเหล้ายาดอง…ของชอบของบรรดายาย ๆ ทั้งหลาย
หลังการเตรียมข้าวปลาให้พ่อไปถวายพระที่วัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (อันที่จริงตอนเช้าพ่อก็พาลูก ๆ หลานๆ ตักบาตรที่หน้าบ้านแล้ว) แม่ปลีกตัวออกจากห้องครัวสู่ลานหน้าบ้านเพื่อจัดการกับใบตองที่ก่อนหน้านี้ถูกนำมาวางซ้อนทับไว้แล้วจำนวนหนึ่ง
นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มีโอกาสได้เห็นวิถีแห่งการงานและการเย็บใบตองจากฝีมือของแม่ …
ไม่เพียงแต่งานของหมู่บ้านเท่านั้นที่แม่ลงแรงเย็บใบตองด้วยมือของตัวเอง งานบวช, งานแต่ง, งานสู่ขวัญของลูก ๆ หลาน ๆ แม่ก็จะลงมือด้วยตัวของท่านเอง โดยไม่ให้เป็นภาระของใครอื่น กระนั้น, บรรดาคู่หูหลากวัยของแม่ก็สัญจรมาช่วยกันอย่างพร้อมพรั่งทุกครั้งไป
ผมมีโอกาสได้รำลึกห้วงแห่งความสุขในวัยเด็กที่เคยได้เห็นและสัมผัสกับนานาชีวิตที่เกี่ยวพันกับใบตองกล้วยเหล่านี้อีกครั้ง
ผมมีปืน, และม้าก้านกล้วยที่พ่อกับแม่ทำให้ และใช้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน บางครั้งผมกับเพื่อนเล่นเป็นตำรวจขี่ม้าไล่ยิงกันสนั่นหวั่นไหว บางทีขี่ม้าฟันดาบกู้เมืองกันอย่างสนุก บางครั้งก็กี่ม้าชมเมืองคนเดียวอย่างไม่เงียบเหงา… หลายครั้งได้กิน “ข้าวต้มมัด”ที่ห่อด้วยใบตองกล้วย… ครั้นโตขึ้นเมื่อต้องต้อนวัวออกไปเลี้ยงที่ชายทุ่งท้ายหมู่บ้าน ก็เคยได้ปั้นข้าวเหนียวห่อใส่ใบตองกล้วยคล้องมัดด้วยผ้าขาวผ้าผูกเอวติดตัวออกไปยังชายทุ่งทุกครั้งไป
ผมจำได้ติดตาและความทรงจำเหล่านั้นฉายชัดและมีชีวิตอยู่เสมอ… หรือแม้แต่บางครั้งโดนเฆี่ยนด้วยก้านกล้วยผมเองก็เคยมาแล้ว และยังจดบทเรียนชีงิตเหล่านั้นมาจนบัดนี้อย่างไม่รู้ลืม
วันนี้ผมหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตอย่างมีชีวิตหากแต่วันนี้เจ้าแดนและเจ้าดินกลายเป็นตัวละครใหม่สวมบทบาทที่ผมเคยเล่นในวัยเด็กอย่างแม้นเหมือนโดยแม่ยังคงทำม้าก้านกล้วยตัวสวยให้หลานรักทั้งสองได้ควบเล่น ท่องทะยานไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน ส่งเสียงร้อง ฮิ ๆ อย่างน่าชัง
อันที่จริงก่อนหน้านี้ไม่นานนัก “เพื่อนชีวิต” ของผมได้ทำ ม้าก้านกล้วย (ยุคใหม่) ให้เจ้าตัวซนทั้งสองแล้ว แต่ดูเหมือนว่าม้าตัวนั้นหน้าตาไม่ค่อยเหมือนม้าสักเท่าไหร่ … เลยไม่ต้องตาต้องใจ พาลไม่ชอบใจและไม่มีแรงกระตุ้นให้คึกควบตะบึงออกท่องเที่ยวเท่าใดนัก !
จะว่าไปแล้ว มันก็จริงดังที่ตัวเล็กทั้งสองว่านั่นแหละ ผมเองยังอดขำกับรูปลักษณ์ม้าก้านกล้วยที่เธอทำขึ้นไม่ได้ มันแปลก ๆ แปร่ง ๆ ยังไงพิกล ซึ่งเจ้าตัวก็พลอยรู้ในอารมณ์คิดของผม ส่งสารค้อนและออกอาการงอน ๆ (อย่างน่าง้อ) มายังผม
วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงสังคมเปลี่ยนผัน ชีวิตเติบโตไปตามยุคสมัย
นักเขียนท่านหนึ่ง กล่าวไว้ในทำนอง “ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลงและเต็มไปด้วยความผันผวนรวนเร” (Life is uncertain and full of changec) และใบตองกล้วยก็กลายเป็นปรากฏการณ์หนึ่งของสังคมไทยที่สะท้อนให้เห็นวิถีความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอย่างเด่นชัด ม้าก้านกล้วยหายไปจากหมู่บ้าน ถุงพลาสติกเข้ามาทำหน้าที่เป็นภาชนะห่อข้าวและอาหารแทนใบตองกล้วยอย่างภาคภูมิ แต่ไม่วายลืมที่จะทิ้งขยะพลาสติกไว้เกลื่อนตาและเกลื่อนเมือง
นี่คือความทรงจำที่เป็นปัจจุบันและเปี่ยมสุขของผมที่เกิดขึ้นในวันหยุดในพื้นที่คุณภาพของความรัก
และกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…ผมเคยได้ควบ ม้าก้านกล้วย ที่พ่อและแม่ทำให้ออกจากบ้านไปท่องโลกอันกว้างใหญ่
หากแต่กาลครั้งนี้ ผมได้ควบ ม้ายนต์ กลับมาบ้านอีกครั้งแต่พ่อกับแม่ก็ยังคงทำหน้าที่ส่งต่อ ม้าก้านกล้วย ..ม้าแห่งชีวิต…ไปยังหลานชายทั้งสอง เพียงหวังว่าม้าชีวิตที่บริสุทธิ์นี้ จะช่วยให้หลานรักได้ใช้เป็นพาหนะคู่ชีพควบตะบึงไปสู่โลกกว้าง (แห่งจินตนาการ) เหมือนที่กาลครั้งหนึ่ง พ่อของเขาได้เที่ยวท่องอย่างรื่นรมย์มาแล้
ตอนเด็กๆ น้าทำให้เล่นเหมือนกันครับ
แต่ชอบเล่นว่าวมากกว่า จำได้ว่าที่บ้าน มีไม่กี่ครั้งที่ทำให้ว่าวขึ้นไปลอยได้สำเร็จ
พอโตขึ้นมาสักหน่อยได้มาเล่นที่สนามหลวง (ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทีเดียว) ซื้อว่าวงู (เป็นครั้งแรกที่ซื้อ) แค่ปล่อยมือ ว่าว ก็ขึ้นไปลอยแล้ว :-P
ตั้งแต่นั้นมาสิ่งที่ผมส่งสัยเรื่องเทคนิคการทำให้ว่าวลอยก็หมดไป (ไปหาที่ลมแรงๆ :-P)
อีสาน..เล่นว่าวหน้าหนาว กรุงเทพเล่นว่าวหน้าร้อน...
สิ่งเหล่านี้สะท้อนภูมิปัญญาทั้งนั้นเลยครับ...ม้าก้านกล้วย...หายไปจากหมู่บ้านจริง ๆ แล้วนะครับ...เด็ก ๆ มีรถขนาดเล็ก ๆ เป็นเครื่องเล่น...สนุกไปอีกแบบ
ขอบคุณครับ
อ.แป๋วครับ
วันนี้เล่าให้แม่ฟังว่า..ที่ขอนแก่น มีอาจารย์ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านที่ผมรู้สึกเหมือนญาติผู้ใหญ่ซึ่งแวะมาทักทายเป็นกำลังใจต่อผมเสมอ
ผมยังไม่ได้เล่าว่าผมเขียนเรื่องราวของแม่หลายเรื่อง..อยากให้ลูกชายอ่านหนังสือได้เร็ว ๆ จะได้ให้แกอ่านบันทึกของผมให้ท่านฟัง (ผมเขินที่จะอ่านให้ท่านฟัง)...
หรือบางทีคิดว่าจะปริ๊นไปใส่กรอบกระจกเป็นของขวัญให้ท่านดีนะ...
ผมคิดอยู่เสมอ...และบอกกับตัวเองว่า ทำซะทีสิ...เขินอะไรอยู่ได้
คุณกาเหว่า...ครับ
เล่าได้อย่างมีมีรสชาติ เห็นภาพที่ชัดมากเลยครับ...แสดงว่าเป็นหญิงห้าวเลยนะเนี่ย...
ปี่ตอซังข้าว...เคยเล่นและชอบเล่น และเคยตั้งใจว่าจะเขียนบันทึกถึงเรื่องนี้ จนแล้วจนรอดหน้าหนาวก็ล่วงไปแล้วยังเขียนไม่ได้เลย เพราะไม่มีเวลากลับบ้านไปสัมผัสทุ่ง...จินตนาการเลยไม่เกิด ...เขียนไม่ออก
ขอบคุณครับ
สมัยเด็ก - ผมไม่ค่อยได้เล่นรถเข็นพลาสติกเลย...แต่เห็นชัดว่ามีอิทธิพลต่อหลาน ๆ มาก ส่วนลูกชายก็ไม่เท่าไหร่นัก แกชอบเล่นเครื่องดนตรีประเภทแคน โหวดซะมากกว่า
ตอนนี้เริ่ม ๆ เล่นเกมส์จากคอมฯ บ้างแล้ว แต่ก็มีข้อตกลงบ้าง คือเล่นเป็นเวลา ...
ส่วนเรื่องว่าวที่ระยองนั้นผมไม่ทราบเลยว่าเล่นกันตอนไหนครับ..
การจะเลี้ยงลูกหลานให้ดีมันยากเหลือเกิน จะเก็บเข้าไว้ในกรอบเก่าๆ พอออกไปโลกภายนอกก็จะอยู่ไม่ได้ จะปล่อยไปตามกระแสก็จะเสียผู้เสียคน
แทนที่จะเป็นกรอบคงต้องมีหลักยึดอะไรบางอย่างแทน ( การพิมพ์ๆ นี่มันง่ายเหลือเกิน ) ... ผมหละกลัว
สวัสดีตอนเช้าครับ
เช้านี้อากาศค่อนข้างดีกว่าทุก ๆ วันที่ผ่านมา
ตอนนี้เพื่อนในวัยเดียวกับลูกชายคนโตก็เรียนพิเศษในช่วงปิดเทอม แต่สำหรับลูกชายผมยังไม่รีบร้อน... ในวัย 5 ขวบเขาควรได้มีอิสระเที่ยวเล่นในช่วงปิดเทอมอย่างเต็มที่...
ขอบคุณครับ
ดูแล้ว happy ทั้งคุณย่า คุณหลาน ดีนะครับ เรียกว่ามีความสุขแบบ 2G-two generation
เชียงใหม่เป็นเมืองวัฒนธรรมที่ไม่สิ้นมนต์ขลัง ใคร ๆ ก็ปรารถนาไปเยือนกันทั้งนั้น โดยเฉพาะผม...
โดยส่วนตัวผมว่าม้าก้านกล้วยเป็นการละเล่นที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ออกกำลังกายอย่างดียิ่ง มีจินตนาการที่น่าตื่นเต้น
ส่วนใบตองนั้น...ยังจำภาพในอดีตที่ตัวเองเคยรักใคร่และได้ใช้สอยอย่างไม่รู้เลือน...
ว่าง ๆ ....ทำม้าก้านกล้วยเสร็จแล้ว อย่าลืมเก็บภาพมาฝากด้วยนะครับ...แต่สำหรับผม..คุณแม่เป็นเซียนทำม้าก้านกล้วยเสมอนะครับ....ตัวใหญ่ ๆ แข็งแรง ๆ ...ยากที่ใครจะมาต่อกร
ขอบคุณครับ..แจ๊ค
นี่ก็ถือว่าเป็นคู่หูต่างวัยที่ขับเคี่ยวกันอย่างน่าเอ็นดู พี่ไม่เคยหวั่นกับการที่เด็กต้องอยู่กับปู่ย่าเลยนะ เพราะเราก็เติบโตมาจากมือของท่าน , เราก็เชื่อว่าลูกของเราก็ควรได้รับการดูแลจากท่านเช่นกัน
และการที่เด็กอยู่กับท่านที่บ้าน ข้อดีคือเด็กมีพื้นที่ในการเล่นและมีอาณาเขตของจินตนาการที่แสนจะกว้างไกล ไม่จำกัดแต่เฉพาะอยู่ในห้องซีเมนต์แคบ ๆ แต่ที่บ้านมีถนนหนทางที่กว้าง..มีทุ่งนา มีลานดิน และอื่น ๆ ...อีกมากมายที่พร้อมให้เขาได้ลงมือเล่น ลงมือทดลอง
.....
ขอบคุณครับ
คุณแม่ของผมชอบทำของเล่นเหล่านี้ให้หลานเสมอ (เมื่อมีโอกาส) บางวันท่านพาพวกเขาทอเสื่อกกอย่างเอาจริงเอาจังจนผมงงไปเลย...
ยินดีกับวันพักผ่อนที่มีคุณภาพของพี่อัมพรนะครับ และจะรอดูภาพที่สวย ๆ และมีชีวิตเหล่านั้น
ขอบคุณอีกครั้งนะครับ...สำหรับมิตรภาพที่มีต่อผม
สวัสดีครับ คุณโก๊ะ
ขอบคุณมากครับที่กรุณาแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเติมเต็มให้บันทึกมีความสมบูรณ์อย่างน่าประทับใจ...
ผมเห็นภาพเหล่านี้จัดเจนจากคำบอกเล่าของคุณโก๊ะ
หวนคิดถึงสมัยเด็กที่เวลาซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้งแม่ค้าก็จะใช้ใบตองห่อให้..ซื้อกล้วยปิ้งและขนมอีกหลายๆอย่างล้วนใช้ใบตองทั้งนั้นและความรู้สึกคือว่ามันหอมน่ากินกว่า
....
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ ครูเสือ
การได้หวนรำลึกถึงอดีตอันดีงามของชีวิตไม่ใช่การผลักให้ตนเองจมลงห้วงทุกข์เป็นแน่ โดยเฉพาะในกรณีของผม ตรงกันข้าม คือ การแวะกลับไปเติมกำลังใจให้กับชีวิตของตนเอง.....
บางอย่างเลือนหายไปเกือบสิ้นจากสังคม แต่แจ่มชัดเหลือเกินในความทรงจำ ....
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ อ.ขจิต
ดีใจครับ...ดีใจที่ท่านอาจารย์แวะมาแลกเปลี่ยนในบันทึกเหล่านี้ของผม ... ไม่แปลกเลยครับที่คนเมืองจะไม่คุ้นชินกับการเล่นเช่นนี้ ผมคนบ้านนอกขอบชนบทจนบัดนี้ยังซื้อไก่ KFC ไม่เป็น, ใช้ตะเกี๋ยบไม่เก่, ร้องคาราโอเกะไม่ได้ , และอื่น ๆ จิปาถะ
เพียงเพราะเราเติบโตมาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน แต่ยังไงก็มีความเป็นไทยเต็มล้นในหัวใจ ..ใช่ไหมครับ
ส่วนม้าก้านกล้วยเหล่านี้เสียดายที่ไม่ได้ทำเชือกกล้วยคล้องให้ลูกชาย...
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
คุณแผ่นดินค่ะ
ไม่น่าเชื่อ ก็ต้องเชื่อ เมื่อวานตอนเย็น คุณพ่อของเด็ก ๆ ทำปืนก้านกล้วย ให้ลูก ๆ เล่น เสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพตอนคุณพ่อเขาทำ
ถึงแม้จะอยู่ในเมือง แต่ก็ทำให้เด็ก ๆ ระลึกถึงสิ่งดี ๆ ในอดีตได้จริงไหมค่ะ
ขออนุญาต นำเศษปืนก้านกล้วย ที่ยังคงหลงเหลือสภาพเดิมอยู่ มาฝากนะคะ
สวัสดีครับ พี่แป๊ด
คุณพ่อของเด็ก ๆ ..ช่างเก่งจริง ๆ นะครับ...ผมเองยังหลง ๆ ลืม ๆ กับวิธีการทำของเล่นเหล่านี้ไปมากแล้ว...
ไอเดียกระฉูดมากเลยครับสำหรับการนำเสนอภาพ ..ผมประทับใจจริง ๆ ....ประทับใจพอ ๆ กับถ้อยคำแห่งพันธะทางสังคมนี้มาก
ถึงแม้จะอยู่ในเมือง แต่ก็ทำให้เด็ก ๆ ระลึกถึงสิ่งดี ๆ ในอดีตได้
ขอบคุณพี่แป๊ดมากครับ,