อ่านใจคนด้วยจริตสุดท้าย ...พุทธิจริต


จริต มี 6 ศาสตร์คือ ราคะ โทสะ โมหะ วิตก ศรัทธา...และพุทธิจริต
จากการที่ได้เขียนบันทึกเรื่องเกี่ยวกับการอ่านใจคนนั้นต้องเรียนรู้นิสัยของคน  หัดสังเกตคนให้เป็น  คนเหล่านั้นจะมีจริตที่แตกต่างกัน  จริตดังกล่าวมี  6 ศาสตร์คือ  ราคะ  โทสะ  โมหะ  วิตก  ศรัทธา...และพุทธิจริต    ซึ่งได้เขียนไว้ในบันทึก เรื่อง  หัดอ่านใจคนด้วย....จริต 6 ศาสตร์   โทสะจริต..คืออะไร   คุณเป็นคนที่มีลักษณะนิสัย..โมหะจริต..หรือไม่    ท่านเป็นคนที่...วิตกจริต บ้างไหม  และ  ท่านมี..ศรัทธาจริต..หรือยัง...
คราวนี้มาถึงบันทึกสุดท้ายของเรื่อง...จริต..พุทธิจริต...
ก่อนอื่นมารู้จักคนที่มีลักษณะของพุทธิจริต...คือเป็นคนที่มองสิ่งต่างๆ ด้วยเหตุและปัจจัย และมองอะไรได้ตรงตามความเป็นจริง    ชอบนิ่งสงบ รู้และเลือกได้เสมอ เป็นนักอ่าน เป็นคนช่างสังเกต ทำให้เป็นคนฉลาด มีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา.....มีจิตเปิดกว้างรับฟังความคิดที่หลากหลาย มีอัตตาน้อยกว่าจริตอื่น จึงพร้อมที่จะเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมของตนเอง เมื่อมองเห็นว่ามีความจริงอื่นที่เหนือกว่า   ...มักอยู่กับปัจจุบัน อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ตรงประเด็นไม่สนใจรายละเอียดปลีกย่อย มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนในชีวิต  
ส่วนจุดแข็งของพุทธิจริต.....ได้แก่...เป็นคนใจกว้าง รับฟังได้ทุกเรื่อง เข้าใจความเป็นจริงของโลกได้ชัดเจนกว่าคนจริตอื่นๆ.....มีคุณสมบัติเหมาะกับการเป็นผู้นำ.....ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น เข้าใจวัฏจักรของชีวิต  .....
จุดอ่อนของพุทธิจริต...มีลักษณะบางครั้งอาจเกิดการวิเคราะห์ที่ผิดพลาด หากมีความยึดมั่นถือมั่นในตัวกูของกูมากเกินไป.....บางครั้งมุ่งแต่แสวงหาความรู้เพียงอย่างเดียวจนลืมนำความรู้ที่มีมาประยุกต์ใช้  .....
หากท่านเป็นพุทธิจริตจะแก้ไขจุดอ่อนอย่างไร......คนจริตนี้ส่วนใหญ่พบแต่ความสุข สมหวัง ทำให้เกิดแรงเฉื่อยในชีวิต จึงควรสร้างพลังให้กับชีวิตให้มากขึ้น   หรือเพิ่มเติมพลังสมาธิให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เพราะบางครั้งคนจริตนี้ไปเจอพลังทางด้านลบแล้วทำตัวไม่ถูก แก้ไขปัญหาไม่ได้.....
ฝึกอย่างไรให้ลูกเป็นพุทธิจริต.....คือสอนให้ลูกคิดอย่างมีเหตุผลตั้งแต่ยังเด็ก และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกอย่าสอนเพียงวาจาอย่างเดียว   ต้องรับฟังความคิดเห็นของลูก หากจะห้ามไม่ให้ลูกทำอะไรต้องบอกเหตุผลอย่างชัดเจน มิฉะนั้นแล้วลูกจะเรียนรู้ผิดๆ ว่าอำนาจและอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล.....รวมทั้งให้ลูกเล่นกีฬาเพื่อพัฒนา EQ.....
วิธีปฏิบัติหากพ่อแม่เป็นพุทธิจริต.....ก็คือพ่อแม่ที่เป็นพุทธิจริตกลุ่มอัตตาสูง ลูกจะเครียดเพราะมีการตั้งมาตรฐานต่างๆให้ลูกมากมาย แต่ให้ลูกทำตามท่านไปก่อน และบอกท่านตรงๆ เราก็อยากเก่งเหมือนท่าน แต่คงต้องค่อยเป็นค่อยไป  .....พ่อแม่ที่เป็นพุทธิจริตแบบอัตตาต่ำ นับว่าโชคดีมาก พ่อแม่ประเภทนี้จะเป็นแสงสว่างนำทางให้ลูก  .....
วิธีปฏิบัติหากหัวหน้าเป็นพุทธิจริต.....ถ้าท่านเป็นคนดี และฉลาด ให้รีบไปทำงานกับเขา และขยันทำงาน แล้วท่านจะสอนงานให้เรามากมาย.....
วิธีปฏิบัติหากลูกน้องเป็นพุทธิจริต  ลูกน้องประเภทนี้มักจะอยู่กับเราไม่นาน เพราะเขามีเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง และเขาจะไปทันทีหากท่านเป็นหัวหน้าที่ใช้อำนาจ และอารมณ์เหนือเหตุผล ดังนั้นถ้ามีลูกน้องเป็นพุทธิจริตเราจะต้องพยายามรักษาเขาเอาไว้ให้ทำงานกับเราไปนานๆ ..
คงเข้าใจ..และรู้ตนเองแล้วนะคะ.....ว่ามีจริตในตนเองแบบใด
คำสำคัญ (Tags): #diary#kruooy#siriporn#ครูอ้อย
หมายเลขบันทึก: 87787เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2007 21:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 19:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • เห็นด้วยอย่างยิ่ง
  • ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องทั้งหมดเป็นบทพิสูจน์สาวเจ้าเท่านั้น คือการลองใจสาวเจ้า....
  • เรื่องจริงคือ ผมกับกะมอมยังเป็นแฟนกันเหมือนเดิม เรารักกันดี
  • แม่อ้อยว่างเมื่อไรบ้างครับ ชวนไปเดินงานกาชาด กัน
  • อยากไปมากๆๆ อยากไปกับแม่อ้อย

สวัสดีค่ะคุณจ๊อดMr_Jod

  • ครูอ้อยต้องทำรายงานภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการอ่าน journal   IS  และค้นคว้าหลายๆเรื่องค่ะ  
  • คงไปไหนไม่ได้ในระยะนี้ค่ะ  ขอบคุณมากที่เชิญชวน 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท