ชื่อบันทึกนี้ คือข้อความที่พิมพ์ตัวโตๆ แล้วปรินซ์ติดไว้ที่หน้ากุฏิเพื่อนสหธัมมิกของอาตมา ในวัดหงษ์ประดิษฐาราม (วัดคอหงษ์) อ.หาดใหญ่ จ. สงขลา...
สัปดาห์ก่อน มีงานเทวาภิเษกจตุคามที่วัดคอหงษ์ หาดใหญ่ ... คิดว่าหลายท่านคงจะพอทราบข่าว (แต่อาตมาไม่ได้ไป)... ฟังว่า คนมาแน่นวัด ประตูวัดต้องปิด เพื่อแจกจตุคามแล้วให้ออกไปจากวัด แต่บางคนก็ปีนกำแพงวัดเข้ามาเพื่อจะเอาซ้ำอีก... สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้เจ้าหน้าที่อย่างมาก.. ขณะที่งานศพภายในวัดก็เดือดร้อน เพราะทำให้พวกเค้าไม่สะดวก...ประมาณนี้
วันนี้ผู้เขียนไปคุมนิสิตมจร.สอบปลายภาคที่วัดคอหงษ์... เมื่อไปถึงเพื่อนของผู้เขียนรูปนี้ก็เข้ามาหาพลางแปมือ พูดว่า มีจตุคามมั้งมั้ย ?... ซึ่งเป็นการพูดหยอกล้อตามประสาเพื่อนคุ้นเคย..ครั้นแล้วก็นั่งคุยกัน..
เค้าถามว่า เจอ... (ญาติของเค้า) บ้างหรือไม่ ? ผู้เขียนก็บอกว่า ไมเจอหลายวันแล้ว... แล้วเค้าก็เล่าว่า วันก่อนมาขอจตุคาม ผมกำลังยุ่งอยู่ก็เลยตวาดไป ...เค้าน้อยใจ...ฯลฯ
เค้าปรารภว่า พระใหม่ตอนนี้ถามนวโกวาท เรื่องวินัยหรืออาบัติ ไม่รู้เรื่อง แต่ถามเรื่องจตุคามรู้เรื่อง สามารถอธิบายได้เป็นตุเป็นตะ...ฯลฯ คุยกันเล็กน้อย ผู้เขียนก็ขอตัวเพราะได้เวลาคุมสอบ...
คุมสอบเสร็จ ผู้เขียนก็ไปเยี่ยมที่กุฏิไม่เจอ เจอแต่กระดาษติดอยู่หน้ากุฏิบอกว่า
เพื่อนของผู้เขียนรูปนี้ก็คัดค้านเรื่องวัตถุมงคลมาตลอด แต่ญาติบางคนของท่านกลับชอบเรื่องทำนองนี้ (หัวอกเดียวกับผู้เขียน)...
คิดว่าจะกลับก็เจอเพื่อนคุ้นเคยหัวอกเดียวกันอีกรูป ก็เลยชวนกันไปชงกาแฟสนทนากัน เพื่อนรูปนี้ก็เล่าเรื่องนี้อีกครั้ง เค้าให้คุณ....(พระเจ้าหน้าที่) มาแจกผมด้วย ผมว่าไม่เอา คุณ.... ก็บอกว่า อาจารย์ไม่เอาก็ให้ผม ...ผมก็บอกว่า ผมไม่เอา แสดงว่ายังไม่เป็นของผม จะให้คุณได้ยังไง...ทำนองนี้
ส่วนฝ่ายที่ดำเนินการจัดสร้างจตุคามก็กล่าวได้ว่าเป็นเพื่อนของผู้เขียนเช่นเดียวกัน เพียงแต่บวชนานพรรษาเยอะ บางทีความคิดเห็นก็แตกต่างกันไป... ประมาณนี้
ตามที่เล่ามานี้ เป็นปรากฎการณ์หนึ่งของกระแสจตุคาม ซึ่งมีสงฆ์บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย แต่ไม่สามารถต้านกระแสได้...
ผู้เขียนเคยเสนอไปแล้ว จะขอเสนออีกครั้ง ว่าให้ สื่อไปสัมภาษณ์พระเถระระดับกรรมการเถรสมาคมเพื่อจะได้ช่วยยับยั้งเรื่องนี้
ผู้เขียนรับปากเพื่อนว่าจะเขียนเรื่องนี้คืนนี้ ก็เขียนแล้ว....
เพื่อนสมาชิกในโกทูโน มีความเห็นอย่างไร ?
อ่านข่าวเมื่อสองสามวันก่อนที่ว่าจะมีการปล้นบ้านคนอื่นเพื่อเอาจตุคาม..อ่านแล้วก็อ่อนใจ/สังเวชใจ..แถวที่ทำงานของโยมตอนนี้กำลังมีการปลุกเสกขัตุคาม.ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร...แต่สังเกตว่าเขาติดประกาศป้ายไว้ใหญ่โตและมีการสร้างปะรำพิธีอย่างหรูหรา.ยามไร้ศรัทธาอย่างมีปัญญาประกอบขนาดต้นไม้ริมทางมีคนเอาของแตกหัก/พวงมาลัยเก่าๆไปวางทิ้งไว้ก็ยังมีกลุ่มชนดั้นด้นไปกราบไหว้ตั้งร้านรวง/ขายของบูชาจนคนเคยทิ้งของและพวงมาลัยทิ้งไว้ชักเริ่มไม่แน่ใจว่าตกลงต้นไม้นี้มีเทพมาอยู่แล้วจริงๆหรือ
..แต่ส่วนตัวโยมไม่คิดจะทำเพราะนึกถึงความหมายของบทสวดสรณคมนปาฐะ,บทอริยธนคาถาและบทเขมเขมสรณทีปีกคาถาซึ่งที่บ้านจะสวดมนต์จากหนังฉบับที่มีแปลความหมายของสวนโมกข์..ท่องจำจนรู้สึกว่าละอายแก่ใจหากจะทำไม่ตรงกันกับสิ่งเราพูด/สวดมนต์ออกไป...
กระแส + ความเชื่อ + ความอยาก + โปรโมท = ธุรกิจ >>
ทุกวันนี้หนังสือพิมพ์ , โรงงานผลิต ,ร้านอัดกรอบ รวยกันถ้วนหน้าครับ
ท่านคะ ดิฉันก็เพิ่งเถียงกะเพื่อนทิดเมื่อดึกๆ นี่เอง เรื่องพระเครื่องนี่ล่ะ อดคันๆ หัวใจไม่ได้จริงๆ เลยค่ะ เลยออกมาเขียน blog ระบายความในใจ
http://gotoknow.org/blog/moui/88407
(มันหมิ่นเหม่ไปไหมคะ)
เข้าไปอ่านแล้ว คิดว่าจะทิ้งร่องรอยไว้ ก็ไม่ได้ทิ้งไว้....
เรื่องความเชื่อแก้ยาก... ดังใครว่า ศาสนา การเมือง ชนชาติ ความเห็นต่างกัน ก็มักจะทะเลาะกัน ..ประมาณนี้
มีความเห็นเรื่องนี้ ดู สมบัติบ้าในวัด : ชุดเครื่องสังฆทาน (เฉพาะที่ความเห็นด้านล่าง)
เจริญพร
กราบสามครั้งครับ
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
เข้ามาฮาค่ะ ถึงขนาดติดป้ายบอกเลยหรือค่ะ คนเรายังยึดติดกับวัตถุนิยมค่ะ (ไม่รู้ใช้คำถูกหรือไม่ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยถ้าผิด) คนเราจะเป็นคนดีหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการห้อยพระอะไร แต่ที่ห้อยเพื่อให้เป็นเครื่องเตือนสติ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่คนสมัยนี้ตีค่าเป็นเงินเสมอ เฮ้อ....ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
หดหู่ครับ วันก่อนลูกศิษย์คนหนึ่งมาคุยกับผมไม่พ้นเรื่องจตุคาม แกเล่าใหเฟังว่า มีเพื่อนคนหนึ่งโทรศัพท์มาคุยบอกว่า ขอยืมเงินสักเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว ลูกศิษย์คนนี้ ก็ถามว่าเอาไปทำไม เจ้าเพื่อนคนนั้นก็บอกว่า แม่ป่วยจะพาไปรักษา ลูกศิษย์คนนี้ก็ถามว่า ที่บ้านได้เช่าจตุคามมาเยอะไม่ใช่หรือ ปล่อยไปเสียบ้างก็ได้แล้ว เพื่อนก็บอกว่า โหรุ่นนี้หายาก เสียดาย ลูกศิษย์ผมก็บอกว่า อ๋อ แม่เป็นรุ่นที่หาง่ายกว่าใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยแม่แกเถอะ เก็บจตุคาไว้
ผมหัวเราะแล้วบอกว่า เจ๋งมาก
เข้ามาเล่าให้ฟังเล่น ๆ
สรุปว่า อาจารย์ไม่เห็นด้วย....
ตอนนี้ อาตมาเจ็บนิ้วมือ พิมพ์ไม่ค่อยถนัด และไข้หวัดด้วย....
น้องชายมาเยี่ยมวันนี้ บอกว่า สงสัยเพราะหลวงพี่ต่อต้านจตุคาม พวกไม่เห็นด้วยจึงรุมกันแช่ง.... ประมาณนี้
เจริญพร
พระมหาสุพจน์ สิทฺธิญาโณ |
ผมก็เพิ่งรู้ว่า...
.......................... ..................... .................. (สงวนความเห็น)
ครับผม...
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
ไม่ใช่ราณีไม่เห็นด้วย แต่คนเดี๋ยวนี้อยากได้มาไว้ประดับเพราะเห็นว่าเป็นกระแสเท่านั้น ไม่ได้บูชามาจากการนับถือค่ะ เพราะเห็นเขาว่าดี ก็ดีตามเขานั่นแหละค่ะ ราณีก็มีค่ะ แต่น้องสาวเช่ามาให้ได้สักพักแล้วค่ะ แต่อยากให้คนนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หรือสนใจในสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าวัตถุเท่านั้น ถ้าจะห้อยก็ให้ห้อยด้วยความศรัทธาจริง ๆ ยึดมั่นในคุณธรรมค่ะ ขอให้พระคุณเจ้าหายเร็ว ๆ นะค่ะ ขอบคุณค่ะ
อาตมาก็มิใช่ว่าจะ คัดค้าน สำหรับความเชื่อหรือความนิยมทั่วๆ ไป....
แต่ กระแส ที่ก่อให้เกิดความหลงเชื่อและงมงายในสังคมนั้น.. อาตมาจะมีคำถามอยู่ในใจเสมอว่า....
ทำไม ?
ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองและในคณะสงฆ์
จึงไม่ออกมาสยบปัญหาทำนองนี้
...ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองและคณะสงฆ์มักจะเล่นตามสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้ตนเองอยู่ได้และเป็นที่นิยมของสังคมในกลุ่มนั้นๆ...
อาตมาว่า นี้แหละ เป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่หยั่งรากลึกในสังคมไทย...
รู้สึกมีอารมณ์ พิมพ์ไม่รู้สึกเจ็บ...
คงจะได้กำลังใจจากอาจารย์ราณี... ก็อนุโมทนาในเมตตาจิตรของอาจารย์ด้วย...
เจริญพร
หนูเป็นคนประเภทไม่เชื่อเรื่องของขลังแบบนี้เสียด้วย เพราะเชื่อว่าชีวิตเรา เราลิขิต เหมือนกับที่ลูกชายของขุนพันธรักษ์ บอกว่า จตุคามคงไม่คุ้มครองใคร ถ้าเอาจตุคามไปแล้วไม่ทำดี..
รับจตุคามมาแล้วทำดีปฏบัติดี ถือศีล ชีวิตเราก็จะมีแต่ความดี
แต่ถ้ารับมาแล้ว ไม่ทำดี ขี้โกงชาวบ้าน ก็ไม่มีดี
เพราะฉะนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่จิตใจ ที่แขวนคอนั้นคือแค่เครื่องหมายเท่านั้น เพราะบุคคลมีระดับจิตไม่เท่ากัน เขาเลยต้องการมีที่พึ่ง พระคุณเจ้าต้องหาวิธีว่า ทำอย่างไรเขาจึงจะศรัทธาให้ถูกวิธี ในวิธีพุทธ