สวัสดีครับ
ถามกันเลยครับ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ มีแสงไฟส่องมาทางซ้าย แล้วดูภาพต่อเนื่องเหล่านี้นะครับ
คุณเห็นอะไรบ้างครับ
รบกวนอธิบายในสิ่งที่เห็น ตามด้วยปรัชญาคมๆ (หากคุณคิดว่าเชื่อมได้) แล้วหากเป็นไปได้ลองเทียบกับสิ่งที่เป็นจริงในโลกใบนี้ด้วยนะครับ เผื่อได้ต่อยอดครับ
กราบขอบพระคุณงามๆ ครับ
สมพร ช่วยอารีย์
รอบแรกขอ เคาะผ่าน ก่อนนะคะ คุณเม้ง
ไปหาปรัชญาดี ๆ ก่อน เดี๋ยวมาตอบค่ะ
เจ้าถั่วงอกรู้จักวิถีแห่งการดำรงชีวิต ตั้งแต่แรกเกิด เหมือนเด็กทารก ที่รู้ว่าจะต้องเอาปากของเขา จู๊บกับนมแม่
สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตมีสัญชาติญาณในการอยู่รอดทุกสรรพชีวิต
แม้แต่ถั่วเขียวเม็ดเล็ก ๆ ยังรู้จักดำรงชีวิตอยู่ แม้จะอยู่ในกะบะใบเล็ก ๆ ขอเพียงเจ้ากล้าผจญกับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา
แล้วมนุษย์เราหละ มีหนทางให้เลือกตั้งมากมาย ไฉนเลย เมื่อพบกับปัญหา จะยอมจนตรอกเชียวหรือ หันหน้าเผชิญกับแสงแดด เช่น ถั่วงอกสิ แล้วท่านจะพบอะไรมากมายภายใต้แสงแดดนั้น
เฮ้อ คิดได้งัยเนี่ย เม้งจ๋า
"ในความไม่เปลี่ยนแปลง จะแฝงไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและในความเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ ...สุดท้ายก็ยังคงความเป็นตัวตน"
ภาพสุดท้าย
เจ้าถั่วตัวเล็ก พึ่งตื่นลืมตา
เจ้าถั่วที่เป็นรุ่นพี่ หันมามองเจ้าถั่วตัวเล็ก /// อาจบอกว่า
ไอ้น้อง อย่าพึ่งลุกขึ้นมานะ พี่ๆทั้ง 8 กำลังเป็นพระเอก ถ่ายหนัง กำกับโดย อ.เม้งอยู่ //// คัท
555
หนูขอตอบมั่งค่ะอาจารย์ขา....ต้นไม้น้อยๆ เหล่านี้เอนลำต้นปทางซ้ายเพื่อหาแสงแดด เพื่อให้ใบได้รับแสงแดดจึงจะทำให้มันสังเคราะห์แสงสร้างอาหารให้ตัวต้นเพื่อการเจริญเติบโตต่อไป
แล้วจะเป็นปรัชญาอย่างไรดีหนอ......
มนุษย์ มีสมอง มีปัญญา ฉะนั้น เมื่อรู้ว่าสิ่งใดมีประโยชน์ก็ย่อมจะแสวงหาสิ่งที่ก่อประโยชน์ให้กับตัวเอง เพื่อความอยู่รอดต่อไป.....
มนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ประหนึ่งทำลายชีวิตตนเอง แสดงถึงความโง่เชลาเบาปัญญา หรอมีปัญญาน้อยกว่าต้นไม้......
ต้นไม้หัวเอียงซ้าย....ปรัชญากวนๆๆ...อิอิอิ
หนูจะได้คะแนนมั้ยค่ะ คุณครูขา....
สรรพสิ่งในโลกย่อมต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด...
ดังเช่นตันไม้ย่อมพยายามเอนลำต้นไปหาแสงสว่าง แต่บังเอิญเป็นต้นถั่วที่ลำต้นขาดความแข็งแกร่ง เลยต้องเสียการทรงตัวที่ดี หากเป็นต้นไม่ใหญ่แค่แตกกิ่งก้าน สาขาไปก็อยู่รอดได้ ยังคงยืนลำต้นได้ตรงดังเดิม....
เปรียบเหมือนมนุษย์ แม้เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเองบ้างเพื่อการอยู่รอด แต่ต้องไม่ทิ้งจุดยืนหรืออุดมการณ์ของตัวเองครับ...
สำหรับต้นนี้คือ ต้นทานตะวันครับ แต่ถั่วงอกก็มีพฤติกรรมเช่นเดียวกันครับ
5555 เป็นมุมมองที่เห็นครั้งแรกโดยไม่ได้คิดจริงๆ ถั่วงอก / ทานตะวัน
นุชทำงานเรื่องสัญชาติ สอบตกเลยข้อนี้
นุชไม่คิดว่าเขาจะเป็น ทานตะวัน
( ตำรวจตรวงคนเข้าเมืองคนหนึ่ง พูดกับนุชว่า "น้องๆ กะเหรี่ยง เนี่ย; เป็นชาวเขา เหรอ " )
อืม ................ โอละหนอ ลอยทะเล
มองย้อนกลับนุชไม่โกรธ พี่ตำรวจเลยซักนิด เพราะนุชก็ไม่คิด เหมือนกัน 555
พี่เม้งมาเฉลย ซะแล้ว ยิ่งทำให้อยากรู้ เกิดกิเลสสงสัยมากขึ้นอีกว่า
ถ้าเป็นเจ้าถั่วงอก ชีวิตจริงของเขา เขาจะหันหน้าเข้าหาแสงตะวัน เฉกเช่นเจ้าทานตะวันหรือเปล่าหนอ
พฤตกรรม ของเจ้าถั่วงอก กับ เจ้าทานตะวัน เนี่ย ชอบกินน้ำเหมือนกันใช่ไหม
มนุษย์ เกิดมาก็ต้อง ก็ต้องชอบที่จะเลือกได้ใช่ไหม เพราะรู้ว่ามีสิทธิที่จะเลือกได้
มนุษย์ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ดัน ไม่มีสิทธิที่จะเลือกเดินตามเส้นทางของตัวเอง เลย แย่จัง
ดันโดน ตรวจคนเข้าเมืองจับ เนี่ย
สับสนเลย อะ พี่เม้ง
เพราะเค้าก็คือคนเหมือนกับคนที่ครบร่าง และมีสัญชาติครับ จริงๆ แล้วมีสัญชาติหรือไม่มี ไม่ได้สำคัญหรอกครับ คนมีศาสนาหรือไม่มีก็ไม่ได้สำคัญหรอกครับ สำคัญที่ว่าค่าของคนมีแค่ไหนมากกว่าครับ หรือใช้โอกาสที่ได้มีโอกาสเกิดเป็นคนให้เกิดประโยชน์มีคุณค่าแค่ไหนมากกว่า
ขอนำข้อนี้ไป กระจายมุมตอ่ๆไปนะคะ
โป๊ะเชะ โดนใจ /// ขอบคุณคะ
--------------------------------------------------------------
เมื่อหันหน้าเข้าหาแสงแล้ว อย่าได้กลัวที่จะเป็นฝ้า
โดนใจอีกแล้ว
สุดท้าย อ.เม้งก็เฉลยมุมของตัวเอง ออกมาทีละนิด 555
บอกตรงๆคะ ทีแรกนุชเมื่อนุชหันหน้าเข้าหาแสง ไม่เคยกลัวเลยที่จะเป็นฝ้า แต่เมื่อนานเข้า ก็ต้องมาชำระตัวเอง เพราะฝ้าเกร่อหน้า อืม......เศร้า เศร้า
------------------------
ไม่เกี่ยวกับน้องๆ ถั่วด้านบนนะครับ
สงสัย อีก แล้ว อ.เม้ง
ตกลงเป็น เจ้าถั่ว หรือ ทานตะวัน งง อะคะ
ก็พี่บอกว่า สำหรับต้นนี้คือ ต้นทานตะวันครับ แต่ถั่วงอกก็มีพฤติกรรมเช่นเดียวกันครับ
เข้ามาเยี่ยม รอบที่สองแล้ว...
ก็เพียงสิ่งถูกเห็น ส่วนเราเองเป็นผู้เห็น....
ความเจริญเติบโต หรือ สันตติ จัดเป็นสุขุมรูป คือ รูปละเอียดอ่อน จัดเป็นธรรมารมณ์ ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยด้วยประสาทสัมผัสธรรมดา (ที่คิดถึงประเด็นนี้ เพราะเพิ่งบรรยายมาเมื่อสองวันก่อน) ...
มองเห็นความงามของภาพ และย้อนนึกไปถึงวิชาสุนทรียศาสตร์ตอนหนึ่ง ความงามเป็นอารมณ์ของพระเจ้า ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถสัมผัสได้ ศิลปินมีพรสวรรค์พิเศษสามารถสัมอารมณ์นั้นได้แล้วก็นำมาถ่ายทอดให้คนทั่วไปได้รับรู้ (ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นแนวคิดของโชเปนเฮาเออร์ ....
ตอนเข้ามาครั้งแรก หลวงพี่คิดได้ ๓ เรื่อง
เจริญพร
กะว่ากินข้าวอิ่มๆ ตอนเที่ยงๆ ขอพักสมองหน่อย เข้าเวบหาไรอ่านเพลินๆ ดีกว่า
ไม่น่าเผลอเปิดเข้ามาเลย เลยอดไม่ได้ที่จะต้องลับสมองหน่อย ก้อมันท้าทายดีหน่ะ
เรื่องที่มีปัญหาให้คิดชอบอยู่แล้ว คำถามนี้ชอบนะ .... พี่เม้งคิดคำถามนี้ได้งัยเนี่ย ทึ่ง
เท่าที่มองนะ "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการอยู่รอด ทำงัยให้มีชีวิตรอดอยู่ได้"
ทีนี้ถ้าดูจากรูปแล้วคิด แล้วเอามาเชื่อมโยงกับคนเราก้อคง โจทย์คือ ต้นถั่วเอนเข้าหาแสง
แสงเป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งที่พืชต้องใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง......เพื่อสร้างอาหาร ใช้ในการเจริญเติบโต
ไม่มีแสงพืชก้อไม่มีอาหารและก้อต้องตายในที่สุด
ดังนั้นเพื่อการอยู่รอด ..... จึงจำเป็นต้องหันใบของมันเข้าหาแสง
ถ้าเปรียบกับมนุษย์เรา เราจะมีชีวิตอยู่ได้ก้อต้อมีปัจจัยสี่ อาหาร ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค
ทีนี้การที่จะได้มาซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก้อคือ ต้องเอาเงินซื้อ
ดังนั้นที่ไหนเป็นแหล่งที่ทำให้เราหาเงินได้ ที่นั้นก้อจะเห็นคนเราไปกระจุกกันอยู่
ออ ข้อคิดอีกอย่าง ถ้าอยากผ่อนคลายสมอง หลังจากพักเที่ยง ให้ไปเว็บอื่น อย่าเข้าบลอกนี้ หุๆๆๆๆๆ
สวัสดีครับ พี่อัมพร
สวัสดีครับ คุณย่ามแดง
ตอนนี้นุชต้องการแสงอย่างมากเลย
คิดเสมอว่า ความพอเพียง นั้น ถ้ามีความจำเป็น แต่ต้องพอเเพยง ต้องทำอย่างไร
เศร้ามากเลยตอนนี้ เฮ้อ
อยากเป็นเจ้าถั่วงอก ซะงั้นตอนนี้ จะได้รับแสงอาทิตย์เพื่อความอยู่รอดได้บ้างในขณะนี้
บอกอย่างไรดีอะคะ รู้แต่ว่าความรู้ของตัวเอง เมื่อไม่มีการจัดการ
เลยตอบสนองคำพูดที่ว่า มีความรู้แต่เอาตัวไม่รอด กระมังคะ (หิวข้าว..เฮ้อ) 5555จจ
ความพอเพียง กับ ความจำเป็น ทำอย่างไรคะ
ถ้าเมื่อมีเมื่อมีความจำเป็น แต่ต้องพอเพียง
ขอบพระคุรมากๆเลยคะ (นุชไม่มีลำโพง ฟังไม่ได้แต่อ่านได้ ...น้ำตากราวแล้ว อะคะ จริง จจ)
หิว หิว ตอนนี้ไม่อยากกินความรู้ ไม่อยากกินการเรียนรู้ ........
ขออภัยด้วยคะ
ขอบพระคุณอีกคร้งคะ
ประเด็นชวนให้คิดดีครับ...อิสระดี...เลยอดใจไม่ไหว...ก็เลยเอาสั้น ๆ ว่า
ยินดีต้อนรับเลยครับ
เห็นการเติบโต...แล้วก็คิดไปถึงว่า "ต้นที่เกิดก่อนก็คงทยอยตายตามกันไป"
ตอนแรกที่คิดถึงการเติบโต...มีความสุข
แต่พอคิดถึงการจากไป.........ก็เครียด...ด...
มองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่าคะ ...แต่นี่ก็คือความจริงที่เราหลีกเลี่ยงกันไม่ได้..นะคะ
ขอบคุณ คุณชล มากครับ
สวัสดีครับคุณ Som o way
ขอบคุณสำหรับกำลังใจคะ อาจารย์
เมื่อนึกได้ นุชเลยรีบไปรื้อมาม่าในกล่องมาประทังความกระหาย และก็ผ่านพ้นไปได้กับความหิว เมื่อครู่นี้
แต่ตอนนี้อยากให้เจ้าต้นถ้วข้างบน รีบโตไว ไว จะได้กินเสียที 555 คงไม่ได้โหดร้ายนะคะที่จะกินเจ้าถั่วเสียแล้ว
ชอบมากๆเลยคะ เพราะอีกไม่นานนัก เจ้าถั่วก็จะต้องโดนกินเสียแล้ว
และแล้วก็จักเป็น วัฏจักรของสิ่งมีชีวิต
อีตาเม้งเอ๊ย มาหาเรื่องให้คิดดีแท้ๆ..
อีตาเม้งเอ๊ย
ทุกเรื่องมันมีจุดพอดี ต้นถั่วก็เช่นเดียวกับ วิทยุ ทีวี ถ้าจูนคลื่นไม่ตรงกันมันก็รับไม่ได้
ถ้าพ่อเม้งไปจูนใจ ตรงกับสาวไหน ก็ได้แอ้ม
ถ้าพ่อเม้ง ตอบข้อสอบได้ ก็จบ กลับบ้าน
ถ้าพ่อเม้ง หาจุดพอดีได้ช้า ทุกอย่างก็ช้า
การเจริญเติบโตของถั่วจึงไม่เหมือนกัน มีโตดี โตช้า โตแบบแคระแกร็น
นั่นก็แสดงว่าในจุดพอดีก็ยังมีหลายมาตรฐาน ดีน้อย ดีพิเศษ ดีเด่ ดีแต่ขี้คุย วุ๊ย!! แค่นี้นะเดี๋ยวจะลามปามไปถึง..
ถั่วพ่อเม้ง น่าจะมี 2 ลักษณะ
ถามว่า ถั่วได้ประโยชน์อะไรจากการเติบโตของตนเอง ประโยชน์อยู่ตรงไหน มีอะไรบ้าง แล้วเกี่ยวข้องกับสรรสิ่งในโลกอย่างไร เขาเรียกว่าอะไรนะ..ห่วงโซ่ของระบบนิเวศโลกรึเปล่า
ขอบคุณพี่บางทรายมากครับ
หวัดดีครับ อ.ลูกหว้า
เบื้องหลังการงอก
เบื้องหลังกระบวนการงอก ไม่รู้ว่าจุลินทรีย์กี่ล้านตัวต้องทำงาน
ต่อๆไปไม่ทราบว่าจะผ่าDNA.ได้รึเปล่า กลุ่มงานนี้น่าจะเรียกว่า "งานภายใน"
แต่ที่ท่านบางทรายทำ น่าจะเป็น"กลุ่มงานระบบภายนอก" ซึ่งสำคัญเท่าเทียมกัน อยู่ที่เราเลือกเล่นอะไนตามศักยภาพและปัจจัยของเรา
หากผมถามท่านครูกลับครับ หากผมให้ท่านครูมองว่า ต้นถั่วนั่น คือนักวิจัยไทย แล้วแสงนั่นท่านครูจะเทียบให้เป็นอะไรครับ
แสงรึ ไม่ทราบว่าจะถูกหรือผิดนะ แสงน่าจะเป็นชุดความรู้ งานวิจัยต้องเล่นกับความรู้หลายชุดมันถึงจะเจ๋ง
เม็ดถั่วที่ไม่มีน้ำ ไม่มีแสง ในที่สุดมันก็จะเป็นถั่วเน่า สูญเสียอัตราความงอก ก็เหมือนนักศึกษาที่เรียนเล่นๆจะเอาแต่กระดาษ อย่างที่อาจารย์จันทรัตน์บ่นๆๆๆๆ
สมัยพุทธกาลได้วางรากฐานเรื่องนี้ไว้อย่างดี
เรากำลังตัดต่อพันธุกรรมธรรมชาติอยู่ครับพี่
ความรู้ขี้ปะติ๋วนี่รึ จะไปตัดต่อพันธุกรรมโลก
ตัดหำตัวเองยังจะง่ายกว่า
มันมีคนคิดเรื่องนี้ไว้อย่างดีและสมบูรณ์ที่สุดแล้ว เรื่องธรรมชาติ ไปอ่านคู่มือมนุษย์สัก100 เที่ยว อ่าน การศึกษาฉบับง่าย ของท่านพระธรรมปิฎกสัก 10 เที่ยว จะได้ไม่ไปหักหาญทำอะไรถ้ายังโง่อยู่ เรียนผูกแล้วเรียนแก้ไม่ได้เสียด้วยสิ
ความรู้ตะวันตกทำให้โลกวิบัติขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่มันไม่ยกมาพูด ภูเขาขั่วโลกละลายเพราะใคร มันน่าให้ฟ้าผ่าหัวกะโหลกจริงๆ โง่แล้วไม่เจียมบอดี้ ยังจะไปยุ่งกับธรรมชาติในเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร
ถามว่ายุ่งได้ไหม
ยุ่งได้ถ้ามีความรู้ที่ถูกต้องพอที่จะไปยุ่ง ดอกไม้ดอกเดียวเจ้ายังรู้ไม่หมดเลย แล้วจะไปทะลึ่งยุ่งเรื่องที่ใหญ่ ลึก และกว้าง ถ้าอยู่เฉยๆป่ามันก็งอกเองเหมือนในหลวงตรัส แต่นี่มันปลูกต้นไม้แล้วรดด้วยกิเลศ มันจึงตายๆๆๆ
จะหาวิธีบรรเทาโง่ คลายโง่ได้อย่างไร นี่คิอโจทย์โลกแตก รึคิดว่ามนุษย์รู้แล้ว เจริญแล้ว ทำให้ตดตัวเองหอมยังไม่ได้เล๊ย!!
(ขอโทษด้วยครับ กลอนมั่วบทนี้มั่วตามที่สมองสั่งปลายนิ้ว สดๆ ไม่สวยไม่เพราะเสนาะหู หยุดๆ เดี๋ยวจะเป็นกลอนทั้งข้อความ นิ้วนี้ชักพิมพ์ไปเรื่อย)
กราบขอบพระคุณมากๆนะครับ
ตาเม้ง