ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมคร่ำเคร่งอยู่กับการตระเตรียมงานโครงการ "วันขอบคุณนักกิจกรรม" จนบางครั้งความมุ่งมั่นดังกล่าวกลับกลายเป็นแรงถมทับให้ตนเองเกิดความอ่อนล้าอย่างน่าใจหาย
แต่เมื่อตั้งสติคิดตรองอย่างใจเย็นก็พบว่า ความหนักเบาของงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่างานนั้นจัดยิ่งใหญ่อลังการสักแค่ไหน ? มีคนเข้าร่วมมากมายสักปานใด?, หากแต่อยู่ที่ว่าเรารักที่จะทำงานนั้นมากน้อยแค่ไหนอย่างไรเป็นสำคัญ
ถึงแม้งานวันขอบคุณนักกิจกรรมจะเป็น "งานใหญ่" ของชาวกิจกรรมทั้งหลาย มีรายละเอียดปลีกย่อยอย่างมากมาย และเป็นงานที่เราจะต้องแสดงให้เห็นถึงน้ำใสใจจริงของมหาวิทยาลัยที่ชื่นชมต่อนิสิตผู้ซึ่งทำประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยและสังคม
ผมและทีมงานในงานกิจกรรมนิสิตให้ความสำคัญต่อการนำเรื่องราวของนิสิตมานำเสนอให้หลากหลายมิติ ทั้งในรูปของวีดีทัศน์และนิทรรศการให้มีชีวิตชีวามากที่สุด โดยสิ่งที่คิดและทำนั้นป็นเสมือนการ "ขอบคุณ" แก่นิสิตที่ได้ทุ่มเทต่อวิถีกิจกรรมมายาวนานตลอดปีการศึกษา
งานใหญ่แต่กลับง่ายกว่าที่คิด เพราะเรามีความสุขกับการทำงาน, มีความสุขที่ได้ทำงานให้กับคนที่เรารัก... โดยถึงแม้ว่างานนั้นจะมีรายละเอียดปลีกย่อย และแตกต่าง ซับซ้อนกันแค่ไหน ทุกอย่างก็ง่ายเมื่อเรามี "ใจรัก" ที่จะทำให้สำเร็จ...บนพื้นฐานของการทำให้ดีที่สุด
และเราก็ได้เรียนรู้ดังที่ใครต่อใครก็กล่าวไว้ว่า "งานหนักไม่เคยฆ่าคน"
........
ความหนัก - เบาของงาน
หาใช่จะเป็นสิ่งชี้วัดความยากง่ายของงานเสมอไป
เช่นเดียวกันนี้
ความหนักเบาของงาน
ก็ใช่จะเป็นสิ่งชี้วัดความยาวนานในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ
การจะทำงานให้ประสบความสำเร็จ , หรือไม่นั้น
สิ่งที่ชี้วัดก็คือ
การมีใจรักมากน้อยในการทำงานเป็นสำคัญ
ฉะนี้แล้ว
การจะทำงานให้ประสบความสำเร็จได้นั้น
เธอต้องมีใจรักในงานที่ทำ -
พลีใจเป็นส่วนหนึ่งของงาน..
ประดุจเดียวกับจิตรกรผู้พลีใจเป็นหนึ่งเดียวกับพู่กันและสายสี
ซึ่งอุทิศวิญญาณให้กับการเขียนภาพอย่างไม่ลดละ
ความสุขแห่งงาน,
24 กุมภา 50
หลังกิจกรรมลานสะเดาปิดตัวลง
" มีความสุขที่ได้ทำงานให้กับคนที่เรารัก..."
เป็นนักกิจกรรม ก็ปลื้มมากเลยคะ
ผ่านไปอย่างชื่นมื่น พร้อมกับเสียงปรบมือแห่งความยินดีสำหรับนักกิกรรมในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในงานวันเชิดชูนักกิจกรรม ที่ผ่านมา....งานหยุดใช่ว่าวันเวลาจะหยุดด้วยครับ ทุกถ้อยคำทุกรางวัลที่เชิดชูเสมือนหนึ่งเชื้อเพลิงของพลังใจ ที่เพื่มความมุ่งมั่นรังสรรกิจกรรมสู่มวลมหาชนต่อไป และเป็นแบบอย่างสำหรับต้นกล้าของ"ปัญญาชน"ให้มีการต่อยอกในแง่มุมต่างๆพร้องกับวันเวลาที่หมุนก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในปีต่อไปคงได้ยินดีกันอีกครั้งครับ...และขอเป็นกำลังในให้กับนักกิจกรรมและพี่ๆกลุ่มงานกิจกรรมที่ทุ่มเทให้กับงานกิจกรรม ไม่น้อยกว่านักกิจกรรมแต่อยู่ในบทบาทของเจ้าพนักงานกิจกรรมนิสิตฯ คงไม่มีคำได้ดูดีกว่าคำว่า"ขอขอบคุณและให้กำลังใจกับทุกๆฝ่ายครับ"
ทำงานให้สนุก...แล้วจะมีความสุขกับงานที่ทำ
นักกิจกรรมอย่าลืมอ่านหนังสือสอบนะครับ
โก๊ะ |
ผมขอให้กำลังใจคนทำงานด้วยคนครับ
"งานหนักไม่เคยฆ่าคน" ครับ
สวัสดีครับ..สวัสดีตอนบ่าย
ทานข้าวเที่ยงหรือยังครับ
ช่วงเช้าผมไปทำ พาสสปอร์ต มามีคนบอกว่า ใช้เวลาไม่นานแต่ผมก็ใช้เวลาตรงนั้นร่วม ๒ ชม. อาจด้วยคนเยอะ
เดินออกมา หาซื้อกาแฟเขาบอกว่า(กาแฟโบราณ) ผมบอกว่า โบราณหรือสมัยใหม่ก็ได้ ขอเข้มๆหน่อยนะพี่ !!! ประทังความโหยที่เมื่อคืนหลับน้อยไปหน่อย
ขับรถมุ่งหน้าไป อ.แม่ริม อ. แม่แตง ชานเมืองเชียงใหม่ไปเยี่ยมญาติที่ไม่ค่อยสบาย ไม่เจอ แต่ก็ฝากของไว้กับคนข้างบ้าน
ขับรถกลับมาเชียงใหม่ แวะทานข้าว ผัดผักรวม ก็อร่อยดี เพราะหิวมากด้วยมั้งครับ
ขับรถออกจะง่วงๆเพราะเพลงช้าๆซึ้งๆทั้งนั้นเลย กลับที่พักขอพักนอนให้ได้สักตื่นก่อน ลุกมาเขียนต้นฉบับหนังสือให้เสร็จในวันนี้(ผมละเลยมานาน)
ดูเหมือนไร้สาระเลยครับวันนี้ แต่ก็กินเวลาผมไปครึ่งวันทีเดียว...
งานหนักหรือเบา...
อาจจะต้องใช้พลังในการทุ่มเทต่างกัน แต่เมื่องานสำเร็จความภูมิใจก็ต่างกันด้วย...
งานหนักเมื่อเราทำสำเร็จ สามารถเพิ่มคุณค่าในตัวเราได้ และที่สำคัญสามารถเพิ่มขีดความสามารถของเรา...
เมื่อเราทำงานที่ยากขนาดนี้ได้สำเร็จ มันก็ท้าทายที่จะทำงานที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ ได้...
งานหนักเมื่อเราทำสำเร็จ สามารถเพิ่มคุณค่าในตัวเราได้ และที่สำคัญสามารถเพิ่มขีดความสามารถของเรา...