พี่สอนน้อง :: ตอน 1 บทบาทของพี่


ช่วงนี้ที่วอร์ดที่มีนักศึกษาพยาบาลขึ้นฝึก elective (เป็นการฝึกปฏิบัติงาน 1 เดือนก่อนที่จะจบออกไปเป็นพยาบาลเต็มตัว)

ปกติที่วอร์ดก็จะรับน้องนักศึกษามาขึ้นฝึกทุกปี  ทำให้พี่ๆมีโอกาสได้เป็นครูพี่เลี้ยงกันปีละ 1 ครั้ง

ก็สนุกดีค่ะ  เพราะน้องๆเขาจะใสๆน่ารัก

1440*900 宽屏CG设计壁纸 32 - Quiet_Morning_by_dimage.jpg

ฝึกน้อง..อาจจะเหนื่อย แต่ถ้าทำได้ดี พี่ก็จะหายเหนื่อย เพราะช่วงสัปดาห์หลัง..พอน้องเก่งขึ้น ก็สามารถเข้ามาช่วยแบ่งเบางานพี่ได้ วอร์ดพิเศษมีอัตรากำลังคนน้อย  คนทำงานอยู่กันบางตา ในขณะที่งานเต็มมือ  การมีคนเพิ่มมาในเวรคนหรือสองคน แม้จะทำงานได้ไม่ "เต็มคน" แต่ก็ช่วยแบ่งเบาไปได้พอสมควรเหมือนกัน อย่างน้อยก็ช่วยเป็นหูเป็นตา เป็นมือ เป็นปาก แทนพี่ในบางครั้ง

ดังนั้นต้องยอมเหนื่อย ที่จะสอนในช่วงแรก เพื่อที่จะได้คนที่ "เป็นงาน" เร็วเท่าไหร่  พี่ก็จะหายเหนื่อยเร็วเท่านั้น

น้องขึ้นมาปฏิบัติงานวันแรก  พี่คอแห้งเลย  ไหนจะงานในภาระงาน แล้วไหนจะงานที่ต้องติดตามน้อง และคอยสอนคอยแนะนำน้อง

 韩国插画名家 - Saram 插画(第二辑) 22 - [wallcoo.com]_painter_illustration_Untitled-20.jpg

การสอนน้องช่วยฝึก "พี่"  ได้มากๆ

หนึ่งนั้นเป็นการทบทวนความรู้ ความคิด และกระบวนการทำงานของตนเองที่ผ่านมาไปในตัว   เพราะการจะสอนคนอื่นได้นั้น เราต้องเอาความรู้ที่เรามี มาเรียบเรียงจัดการให้เป็นระบบก่อน จึงสามารถที่จะถ่ายทอดให้คนอื่นได้  

เราต้องรู้ว่างานที่เราทำอยู่นั้น ทำอย่างไร ทำทำไม และทำเพื่ออะไร ต้องการอะไร ให้เกิดอะไร มีขั้นตอนอย่างไร จะประเมินผลความสำเร็จของงานอย่างไร  เพราะถ้าตัวเองไม่รู้.. ก็จะถ่ายทอดสอนคนอื่นไม่ได้


1440*900 宽屏CG设计壁纸 24 - Island_Boat_II_by_dimage.jpg

 

การสอนน้อง ไม่เพียงช่วยจัดระบบองค์ความรู้ในตัวของพี่แล้ว  ยังเป็นการช่วยฝึกพี่ในหลายๆอย่าง  ประการสำคัญที่สุด..คือการได้ฝึกควบคุมสติ และอารมณ์

เพราะการอยู่กับน้อง พี่ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา  ต้องรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ และอยู่กับใคร

ต้องสวมบทบาทเป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อน และอาจารย์

  • เป็น "พี่" ที่จะเป็นที่พึ่งที่ปรึกษา ให้น้องได้รู้สึกอบอุ่น  .... 
  • เป็น "เพื่อน"  เพื่อให้น้องรู้สึกสนุก เป็นกันเองในการทำงาน ไม่เกร็ง ไม่เครียด ไม่โดดเดี่ยว  ....
  • เป็น "อาจารย์" คอยชี้แนะถ่ายทอดความรู้ต่างๆให้

การสวมสามบทบาทในเวลาเดียวกันนั้น  ถ้าพี่ไม่ตั้ง "สติ"  ให้ดีๆ ก็จะโอนเอนไม่สามารถปฏิบัติตามบทบาทได้

  • ถ้าโอนเอนไปทาง "พี่"  มากเกินไป ...น้องก็จะ "ไม่โต" เป็นเด็ก ไม่รู้จักการช่วยตัวเอง
  • ถ้าโอนเอนไปทาง "เพื่อน"  มากเกินไป....  น้องก็จะไม่รู้จักการเกรงใจ
  • ถ้าโอนเอนไปทาง "อาจารย์"  มากเกินไป .... น้องก็จะไม่เป็นตัวของตัวเอง คอยเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว

 

 

2006年12月壁纸酷月历  1280*1024 5 - [wallcoo.com]_EA52028kite3.jpg2006年12月壁纸酷月历  1280*1024 3 - [wallcoo.com]_EA52028kitc.jpg

 

นอกจากนี้ ก็ต้องวางตัวเป็น "แม่พิมพ์" ที่ดี เพื่อให้น้องได้เลือกสิ่งดีๆ เอาไปปฏิบัติ

ระหว่างอยู่กับน้อง อารมณ์ก็ยิ่งสำคัญ  แม้จะเหนื่อย หรือขัดใจ ที่สอนแล้วน้องลืม ไม่รู้เรื่อง หรือทำไม่ได้  ก็ต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจ  ต้องใจเย็น ไม่แสดงอารมณ์ออกไป ณ ตรงนั้น  เพราะเขาไม่รู้ เพราะเขาไม่เป็น  ถึงทำพลาด ถึงทำไม่ได้  มันก็ไม่ใช่ความผิดของน้อง 

 

แต่มันคือสิ่งที่พี่ต้องค้นหา.... ว่าน้องทำอะไรไม่ได้ ทำไมถึงทำไม่ได้

และต้องหาทางว่าจะสอนอย่างไร ....จึงสามารถทำให้น้องรู้   ให้น้องทำเป็น

 

^___^

 2007年2月月历壁纸  1280*1024 14 - 1280x1024_2007_February_calender_gunbang_1280x1024.jpg

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

"ตอน 2 เมื่อน้องทำพลาดหรือทำไม่ได้ "

หมายเลขบันทึก: 76721เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2007 19:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

เป็นงานที่ยากเหมือนกันนะค่ะ

เพราะจะสอนใครสักคน ต้องเข้าใจก่อนว่าพื้นฐานของคน คนนั้นเป็นอย่างไร

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

  • เป็นพยาบาลงานหนักจังครับ
  • คาดว่าหนังสือคิดถึงไม่เกินวันพฤหัสบดีครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • เป็นเทคนิคการ coaching ที่แนบเนียนจังค่ะ
  • พี่เม่ยฝากคาถาเด็ด ให้น้องๆของคุณ  k-jira ท่องไว้ให้ติดปากด้วยค่ะ ว่า..."หนูทำได้..."

ขอลอกความเห็นพี่เม่ยนะคะ "เป็นเทคนิคการ coaching ที่แนบเนียน" มาก

  • ณ ฝั่งฝัน แม้เส้นทางยาวไกลสักแค่ไหน
  • ขอเพียงมีลมหายใจที่ไม่ท้อ
  • ณ  ฝั่งฝันก็ไม่ไกลเกินใจจักโบยบิน

 


สวัสดีค่ะ  ขอโทษจริงๆ ที่มาตอบคอมเม้นต์ในที่นี่ช้ามากๆ

ทั้งหมดโบ้ย ความผิดไปให้กับ blog tag นะคะ อ ิอิ  ก็เพราะความแรงและกระแส ที่ยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ของ  blog tag ทำให้ต้องเก็บบันทึกเหล่านี้ไว้ก่อน

วันนี้มีเวลามาตอบแล้วค่ะ ^__^

 

สวัสดีค่ะน้อง มะปรางเปรี้ยว

งานสอนคนนี่ยากจริงๆค่ะ โดยเพาะคนที่เราไม่เคยรู้จัก ไม่เคยรู้พื้นฐานมาก่อน ทั้งนิสัยใจคอ ความรู้เดิมของเขา แต่ต้องมารับดูแล ให้ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะต้องถ่ายทอดเทคนิคการทำงานให้เขา

แม้แต่น้องพยาบาลใหม่ ที่จบออกมา ยังต้องใช้เวลาเป็นปีเลยค่ะ จึงจะสอนน้องเขาให้เรียนรู้งาน

แต่นี่.. น้องนักศึกษา มีเวลามาแค่ 1 เดือนเอง  เป็นเวลาที่น้อยมากๆ อีกทั้งเขาไม่ได้อยู่ในความนิเทศน์ของเราคนเดียว ยังมีพี่คนอื่นๆในวอร์ดอีก แล้วแต่ว่าวันนั้นเขาจะขึ้นเวรกับใคร

วันนี้พี่คนนี้สอนแบบนี้ อีกวันพี่อีกคนสอนอีกแนว (ความรู้ และงานเดียวกัน แต่สไตล์ต่างกัน)  พอเวียนกลับมาที่เราอีกครั้ง บางทีก็พบว่า น้องบางคนเหมือนต้องตั้งต้นใหม่ทุกวันเลย

มันไม่เหมือนกับการมีอาจารย์พยาบาลคุมสอน เพราะอาจารย์สอนอยู่คนเดียว

แต่พอให้พี่สอน สิ่งสำคัญอยู่ที่ผู้เรียนแล้วว่า มีความสามารถในการรับ และเลือก และดัดแปลง ได้แค่ไหน

และเพราะพี่สอนกันหลายคน วันหนึ่งมีพี่คนนี้คุม อีกวันเป็นพี่อีกคน  คนเป็นพี่ก็ต้องใจกว้าง จะ fixed idea ว่าต้องทำแบบของพี่อย่างเดียวไม่ได้ จึงต้องเปิดใจรับเทคนิค และวิธีการทำงานของคนอื่นด้วย

สิ่งนี้จึงยิ่งยากค่ะ

เวลาพี่คุมน้อง จะบอกกับน้องเลยว่า นี่คือโอกาส ทีน้องจะได้เรียนรู้เทคนิควิธีการทำงานของพี่หลายคน หลายสไตล์ ขอให้น้องพิจารณาตามเหตุผลและความถนัดของน้อง ว่จะเลือกเอาเทคนิคของพี่คนไหน  แต่ที่สำคัญ.. อย่า fixed  เพราะการทำงาน เพื่อให้สู่เป้าหมาย มันมีทางเดินไปหลายทาง

ดังนั้น อย่าอ้างว่า พี่คนโน้นบอกว่าให้ทำแบบนี้ แล้วทำไมพอมาอยู่กับพี่ ต้องทำแบบนี้  สำหรับพี่.. น้องแค่ต้องบอกเหตุผลมาให้ได้ ว่าทำไมถึงต้องทำ และทำเพื่ออะไร จากนั้น น้องจะเลือกทำแบบไหน มันไม่มีผิดมีถูก ขอเพียงมีหลักการ และงานสำเร็จสู่เป้าหมายเดียวกัน  เท่านั้นก็เป็นพอ

 

 

สวัสดีค่ะ น้อง ขจิต

  • เพราะพยาบาลมีหลายบทบาทมากเวลาทำงานน่ะค่ะ
  • เป็นทั้งผู้ให้การพยาบาล นักจิตวิทยา เป็นทั้งอาจารย์ เป็นทั้งแม่ เป็นทั้งผู้จัดการ เป็นทั้งตุลาการ เป็นทั้งเลขา ผู้ประสานงาน ฯลฯ เป็นทุกอย่างที่ประดังเข้ามาให้ทำในงาน
  • บางครั้งหลายบทบาทมันก็ขัดแย้งกัน และเกิดความสับสน ถ้าเจ้าตัวผู้ปฏิบัติ มีสมาธิ ความหนักแน่นในจิตใจ ความรู้ และไหวพริบปฏิพานไม่พอ ก็เกิดปัญหาได้เหมือนกัน
  • พี่ทำงานมา เกือบจะยี่สิบปีแล้ว ก็ยังรู้ตัวว่า ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ด้วยนิสัยบางอย่างของเรา บางทีทำให้ทำในบทบาทหนึ่งได้ดี แต่ด้อยในอีกบทบาทหนึ่ง

ชีวิต.. ก็คงต้องเรียนรู้กัน ไม่สิ้นสุด ตราบจนไปถึงปลายทางละนะ

และมันก็คงเป็นเช่นนั้น  ^__^

 

สวัสดีค่ะ พี่เม่ย

  • ขอบคุณสำหรับคาถา "หนูทำได้" นะคะ
  • มันก็คือคาถา ที่ดึงศักยภาพที่มีของคนผู้นั้นออกมาสร้างเป็นพลัง หรือเรียกว่า empower รึเปล่าคะ
  • คงใช่นะ
  • เท่าที่ลองทำมา.. พบว่ามันเป็นวิธีการที่ดีจริงๆค่ะ
  • ^___^

 

สวัสดีค่ะ คุณหมอ  ปารมี 

  • ขอบคุณมากค่ะ
  • ได้รับคำชมจากคุณหมอ ทำเอา k-jira ปลื้มจนตัวลอยเลย
  • แต่อย่างไรก็ตาม เป็นแค่ผู้ฝึกสอนสมัครเล่นเอง จะอย่างไร ก็ต้องขอคำแนะนำจากอาจารย์ด้วยนะคะ

^__________^

 

สวัสดีค่ะคุณ แผ่นดิน 

 

  • ฝั่งฝัน...แม้ยาวไกล
    แต่ไม่มีอะไร ไกลเกินฝัน
    อุปสรรคมากมาย มาขวางกั้น
    มุ่งจิตมั่น ฝ่าฟันไป
  •  หลายดวงใจและหลายมือ
    หลายคนคือ พลังใจ
    กุมให้มั่น พร้อมกันก้าวไป
    สู่จุดหมาย โดยพร้อมเพรียง

^__________^

 

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท