ตอนแรกว่าจะตั้งชื่อว่า "ถล่ม 3 ด่านอรหันต์ทองคำ" แต่ไปๆมาๆกลัวจะมีคนคิดว่าผมกำลัง suggest วิธีเป็นอรหันต์ (ทั้งๆที่ตัวเองอาจจะค่อนไปทาง "อรหัน" ไม่มี "ต์" ซะมากกว่า) เลยเอาแค่ด่านมนุษย์ท่อนไม้พอ
เริ่มจากนิยามก่อน "มนุษย์ท่อนไม้" ในที่นี้หมายถึง คนที่ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวท่ามกลางสังคม ไม่เห็นความต่อเนื่อง หรือเห็นแล้วก็ตามก็ยังล่องลอยไปเหมือนกับว่าไม่เกี่ยวข้อง หรือบ้างก็คิดว่าเกี่ยวแต่ไม่ทราบว่าตนเองกำลังล่องลอย ไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ บังคับทิศทางแม้แต่น้อย เหมือนมดที่วิ่งพล่านบนท่อนไม้ที่ลอยอยู่กลางกระแสเชี่ยวกราก มดดีใจที่ตนเองบัคับทิศทางการวิ่งของตนเองได้ หารู้ไม่ว่ากำลังวิ่งอยู่บน "กระแส"
บทความนี้ยังอยู่บน Interconnectedness หรือเรื่องของความเชื่อมโยงเหมือนเดิม แต่นำมาวางผึ่งในชุมชนแห่งปัญญาแห่งนี้ ได้ช่วยๆกันประพรม แต้มเติม
คำถามก็คือ "ถ้าฝ่า 3 ด่านมนุษย์ท่อนไม้ได้ เราจะกลายเป็นอะไร?"
^_____^
แปลกจังเลยค่ะ อ่านรอบแรกเข้าใจแล้วนา แต่พออ่านอีกรอบทำไมถึงได้งง
คงต้องขอความกรุณาอาจารย์ ขอช่วยอธิบายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิดได้มั้ยคะ
คืนไม่เข้าใจว่า ฝ่า 3 ด่านอรหันต์ไปทำไมน่ะค่ะ
แหะๆๆ ^^''
ลึกซึ้งมากค่ะ อาจารย์อ่านรอบเดียวไม่แตก...แฝงไปด้วปรัชญา....หนูขอไปตั้งหลักอ่านก่อนนะคะ...จะเข้ามาอีกครั้ง....ยินดีที่ได้เห็นการบันทึกของอาจารย์ค่ะ...ว่าแต่วันหลับขอขยายความ "สมุดบันทึกคันฉ่องนกไฟ" หน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ลึกซึ้งและครอบคลุมลักษณะของคน ได้ถูกใจจังค่ะ
อ่านไป อ่านไปก็เกิดความอยากจะรู้ว่า อาจารย์คิด"ลึก"แบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ก่อนที่จะเรียนแพทย์หรือเปล่า สมัยที่เลือกเรียนแพทย์ เลือกเองหรือว่าตามกระแสคนเก่งมาคะ
ปกติเวลาอ่านความคิดคน ก็จะทำให้อยากรู้ที่มาที่ไป ตัวเองมีลูกชาย 3 คนที่อยากให้เขา"คิด"เป็นด้วยตัวเอง และมองดูแนวทางของโมเดลหลายๆคนแล้วอยากนำมาส่งเสริมลูกแบบธรรมชาติน่ะค่ะ (บอกเหตุผลเพื่อให้ทราบว่า ทำไมจึงอยากรู้น่ะค่ะ)
ผมชอบอ่านและฟังสกลจริงๆ ยังกะ reader's digest ช่วยอ่าน ช่วยย่อยมาให้เสร็จ
ผมว่าเราเองกลับไปกลับมาระหว่าง 3 ด่าน บางที่ฝ่าไปได้ แล้วกลับเข้ามาอีก แต่นั่นก็ยังเป็น เรา นะครับ
ก็ คน ไง
สวัสดีครับทุกท่าน
ผมขอติดคุณเมตตาไว้ก่อนเรื่อง "ที่มา" ของชื่อ blog นะครับ ไม่ใช่เพราะอะไร แต่หลังจากที่เคยพยายามอธิบายที่มาของความคิด ของการกระทำอะไรของเราหลายๆอย่าง ปรากฏว่า ที่มา มันลึกซึ้งซับซ้อนกว่าที่เราคิดไว้ตอนต้นเยอะ เลยยิ่งรู้สึกขอบคุณคุณเมตตาที่ "สะท้อน" (เหมือนกระจก, คันฉ่อง) ให้คิดต่อเรื่องนี้ครับ
แหมคุณโอ๋อย่าบอกว่าผมลึกซึ้งอะไรเลยครับ ผมคิดว่า "ลึกซึ้ง" เป็น relative term เท่านั้น คือมีอะไรบางอย่างบางเรื่องอยู่ใน list ที่เราคิดว่าสำคัญแต่ยังไม่มีเวลาไตร่ตรองใคร่ครวญ พอดีมีคนคิดต่อเรื่องนั้นของเราพอดี ก็เลยมีความรู้สึกดีๆ ผมเคยตั้งใจพิจารณาใคร่ครวญเรื่องหรือ idea คนอื่น เอาทั้งหมดเลยตั้งแต่ที่เราเองไม่เคยสนใจ จนถึงบางเรื่องที่เราเคยสนใจอยู่บ้าง ปรากฏว่าถ้าเรา "ตั้งใจ" สนใจได้ในเรื่องไหน เราจะเกิดความรู้สึกตื่นเต้นในความ "ลึก" ของเรื่องนั้นๆที่มีคนได้ explore ให้เราฟัง ยิ่งเป็นการ explore มาโดยคนละวิธี คนละทาง คนละกรอบ ยิ่งรู้สึกมหัศจรรย์ ประกอบกับถ้าเป็นเรื่องที่เรา "โดน" ด้วย ยิ่งมันใหญ่ แต่เรื่องของเรื่องความรู้สึกทั้งหมดนั้นเป็นเพราะ "ตัวเราเอง ที่พร้อม ที่อยาก ที่ตื่นเต้น" จะรับ
คำถามของคุณโอ๋เช่นกันเรื่องผมคิดเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไร
มัน ....ยาก... ที่จะตอบจริงๆ
แต่ก็ดูเหมือน .... สำคัญ.... ที่เราน่าจะหาคำตอบ
ขอจดเป็น to-do list (ซึ่งตอนนี้เข้าใจว่าสะสมจนต้องขอยืมหางงูมาต่อหางหมูแล้ว เพราะที่ไม่พอ)
พี่เต็มครับ, ถ้าเหมือน Reader's Digest เดี๋ยวผมจะส่งบิลค่าสมาชิกไปให้นะครับ คนกันเองลดครึ่งราคาเท่านั้น!!
ชอบบันทึกที่อาจารย์เขียนมากค่ะ
ดิฉันเชื่อค่ะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งผู้คนในโลกนี้สัมพันธ์กันหมดค่ะ It's a small world.
คุณ K-jira ครับ
ยังติดหนี้ไม่ได้ตอบคำถามอยู่ เอาซะหน่อยนะครับ
ประเด็นที่ผมตั้งใจ การที่ใครจะฝ่าด่านมนุษย์ไม้นั้น น่าจะเกิดขึ้นโดย internal drive มากกว่าครับ อย่างที่พี่เต็ม (คุณหมอเต็มศักดิ) บอกมา เราจะมีการฝ่าด่านทั้งสามแต่ก็กลับลงมาใหม่ หนึ่ง หรือสองด่าน หรือรวดสามด่านได้เสมอๆ เพราะจิตใจเป็นเหมือนปุยเมฆ ยากที่จะ contain หรือควบคุมไว้ได้ตลอดเวลา (จนกว่าเราจะตรัสรู้นะครับ)
อืม... จะฝ่าด่านแล้วได้อะไร อันนี้อาจจะพอคุยต่ออีกหน่อย
อย่างแรกคือเราจะ "ตัดสิน" อะไรช้าลงครับ ในยุคปัจจุบัน ยุคแห่งอาหารจานด่วน ชีวิตเร่งด่วน เราก็พลอยด่วนไปทุกอย่าง แต่ที่ผมคิดว่ามีปัญหา (และอยากจะ address) มากที่สุดก็คือการ "ด่วนตัดสิน" ไม่ว่าจะเป็นตัดสินเรื่องราว หรือตัดสินคน พูดรวมๆก็คือการ "ตัดสินคุณค่าทุกอย่าง"
เรากำลังส่งเสริมการมี non-judgemental attitude ครับ โดยเฉพาะสำหรับแพทย์แล้วสำคัญมาก เพราะเราตัดสินอะไรไปมักจะพ่วง intervention หรือ action ไปด้วยเสมอ สำหรับอาชีพแพทย์ (หรือจริงๆผมคิดว่าทุกอาชีพก็ว่าได้) ผลกระทบของการตัดสินและการกระทำมันมีต่อชีวิตคน หน่วงไว้ก่อนจะมีโอกาสทำอะไรได้ถูกต้องมากขึ้น และประโยชน์อื่นๆอีกเยอะมากครับสำหรับอาชีพแพทย์
อาจารย์ สกลคะ พี่อ่านแล้วเนี่ยคิดว่าพี่ยังเป็นมนุษย์ท่อนไม้(ท่อนหนา)อยุ่เลยนะคะ กำลังพยายามฝ่าด่านมาเรื่อยๆ ต้องฝึกฝนมาก แต่ดีคะ หากมีการฝึกอย่างต่อเนื่อง ถ้าผ่านด่านได้ คิดว่าความเข้าใจคนอื่นมากขึ้น การกระทำของเราที่มีต่อผู้คนรอบข้างก้เปลี่ยนไปคะ น่าจะมีความละเอียดอ่อนและปราณีตขึ้นคะ
ติดใจแล้วนะคะ ต้องเข้ามาอ่านทุกวันคะ( มาช้ายังดีกว่าไม่มาคะ)
โห แม่ต้อยเริ่มจาก original article นี่เลยนะครับ ยินดีครับ ยินดี
หนูเป็นประเภทสามค่ะ