ครม.ตั้ง "ศานิต ร่างน้อย" เป็นอธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่ โยก "วิสุทธิ์" คุมสรรพสามิตแทน พร้อมเด้ง "สถิตย์" พ้นกรมศุลฯ ดัน "ชวลิต เศรษฐเมธีกุล" เสียบ หม่อมอุ๋ยขอเก็บปลัดฯ ศุภรัตน์ไว้ใช้งาน มั่นใจโยกย้ายรอบนี้เก็บภาษีได้ตามเป้า "ศานิต" เร่งฟื้นภาพลักษณ์สรรพากร ลั่นคดีภาษีชินวัตรต้องใช้หลักกฎหมายและประโยชน์ส่วนรวม
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 ธ.ค. นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม. มีมติให้นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพสามิต ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร แล้วให้ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิตแทน เป็นไปตามที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้เสนอขออนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการคลังในระดับ 10 จำนวน 6 ตำแหน่ง
ส่วนที่เหลือประกอบด้วย โอนนางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ไปดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมธนารักษ์ โอนนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ อธิบดีกรมศุลกากร ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง โอนนายชวลิต เศรษฐเมธีกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร โอนนาย ช.นันท์ เพ็ชญไพศิษฏ์ ที่ปรึกษากรมสรรพกากร ด้านประสิทธิภาพ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวถึงการปรับย้ายข้าราชการในกระทรวงการคลังครั้งใหญ่ว่า เหตุผลที่แต่งตั้ง นายศานิต เพราะเสียงส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า นายศานิต มีความเหมาะสมและสามารถประสานงานกับข้าราชการในกรมสรรพากรได้ ส่วนที่ยังไม่ปรับย้ายนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังนั้น เพราะขอเอาไว้ใช้งานก่อน "การโยกย้ายดังกล่าวเป็นการปรับเพื่อความเหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกระทรวงการคลัง ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีศุลกากรที่มีการตั้งเป้าจัดเก็บไว้ค่อนข้างสูงในปีงบประมาณนี้ เนื่องจากเห็นว่าทุกตำแหน่งที่ปรับเปลี่ยนได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาทำงาน"
นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง กล่าวว่า การแต่งตั้งหัวหน้าส่วนราชการ กระทรวงการคลังในครั้งนี้ ได้คำนึงจากการปรับตามโครงสร้างการปฏิบัติงานของส่วนราชการ ที่จำเป็นจะต้องพิจารณาทั้งในปีนี้และปีหน้า ดังนั้นไม่ว่าข้าราชการที่ถูกโยกย้ายจะมีอายุราชการเหลืออยู่อีกเพียง 8-9 เดือน แต่เพื่อความเหมาะสมและส่งผลดีในการทำงานก็จำเป็นต้องแต่งตั้งเพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดีที่สุดต่อไป
สำหรับนายศานิต เป็นลูกหม้อกระทรวงการคลัง เติบโตมาจากกรมสรรพสามิต ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักแผนภาษีกรมสรรพากร รองอธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมบัญชีกลางและรองปลัดกระทรวงฯ มีคุณสมบัติโดดเด่นด้านความซื่อสัตย์สุจริต อย่างไรก็ตามนายศานิตเหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียว
นายศานิตกล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนอันดับต้น ๆ ก็คือการทำความเข้าใจและปลอบขวัญเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่กำลังขวัญเสียจากกรณี 5 ผู้บริหารโดนไล่ออก โดยวานนี้มีกระแสตอบรับจากเจ้าหน้าที่และผู้บริหารกรมสรรพากรเป็นอย่างดี บางคนส่งสาสน์ให้ความร่วมมือในการทำงาน เมื่อประกอบกับประสบการณ์การทำงานของตนที่กรมสรรพากร คาดว่าไม่มีปัญหา นอกจากนี้จำเป็นต้องกู้ภาพลักษณ์เพื่อให้สังคมให้ความร่วมมือและมีความเชื่อมั่นต่อกรมสรรพากร
ส่วนเรื่องคดีภาษีของครอบครัวชินวัตร นายศานิตกล่าวว่า ไม่ต้องการแทรกแซงทั้งคดีที่ชี้มูลไปแล้ว และยังไม่ชี้มูลความผิด ตนมองว่าเป็นเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อน ต้องใช้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับกรมสรรพากรช่วงก่อนหน้า ถือเป็นประวัติศาสตร์ ดังนั้นเรื่องคดีจึงต้องเป็นไปตามกระบวนการที่ดำเนินการมาแล้ว ดีที่สุด โดยยืนอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ยึดกฎหมายเป็นหลักเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ "จริง ๆ แล้วผมไม่อยากย้าย เพราะยังมีงานที่กรมสรรพสามิต ประกอบกับเหลืออายุราชการไม่มากนัก แต่เมื่อมีคำสั่งให้ย้าย ก็ต้องทำตามและยืนยันว่าจะทำหน้าที่ใหม่ที่กรมสรรพากรให้ดีที่สุด" นายศานิตกล่าวพร้อมแสดงความมั่นใจ ในการจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ภาวะเศรษฐกิจเป็นตัวแปรสำคัญ
ผู้จัดการออนไลน์ ไทยรัฐ คม ชัด ลึก โพสต์ทูเดย์ : 4 ม.ค. 50ไม่มีความเห็น